สมัครสินเชื่อ Promise ยังไงให้ อนุมัติไว ได้เงินทันใจ
สินเชื่อเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมในการจัดการปัญหาทางการเงิน สินเชื่อ Promise เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเพราะอนุมัติไวและได้เงินทันใจ ในบทความนี้เราจะอธิบายขั้นตอนการสมัครสินเชื่อ Promise ให้คุณเข้าใจและสามารถทำตามได้ง่าย ๆ
สินเชื่อ Promise คืออะไร?
สินเชื่อ Promise เป็นสินเชื่อส่วนบุคคลที่ให้บริการโดยบริษัท Promise (Thailand) Co., Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม SMBC Consumer Finance ที่มีชื่อเสียงและน่าเชื่อถือจากประเทศญี่ปุ่น สินเชื่อ Promise เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเงินกู้ในยามฉุกเฉินหรือเพื่อการใช้จ่ายต่าง ๆ โดยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกันหรือหลักทรัพย์
คุณสมบัติของผู้สมัครสินเชื่อ Promise
ก่อนที่จะไปถึงขั้นตอนการสมัครสินเชื่อ Promise เรามาดูคุณสมบัติที่ผู้สมัครต้องมีดังนี้:
- อายุ: ผู้สมัครต้องมีอายุระหว่าง 20-64 ปี
- รายได้: มีรายได้ประจำขั้นต่ำ 6,000 บาทต่อเดือน
- สถานะการทำงาน: เป็นพนักงานประจำที่มีอายุงานไม่ต่ำกว่า 1 เดือน หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระที่มีรายได้สม่ำเสมอ
- สถานะทางการเงิน: ไม่เป็นผู้มีประวัติการผิดนัดชำระหนี้ในระบบเครดิตบูโร
เอกสารที่ต้องเตรียมในการสมัครสินเชื่อ Promise
ในการสมัครสินเชื่อ Promise คุณต้องเตรียมเอกสารดังนี้:
- บัตรประชาชน: สำเนาบัตรประชาชนที่ยังไม่หมดอายุ
- สลิปเงินเดือน: สำเนาสลิปเงินเดือนล่าสุด (1 เดือน)
- สมุดบัญชีธนาคาร: สำเนาหน้าบัญชีธนาคารที่ใช้รับเงินเดือน
- เอกสารเพิ่มเติม (ถ้ามี): เช่น สัญญาจ้างงาน หรือหลักฐานการทำงานอื่น ๆ
ขั้นตอนการสมัครสินเชื่อ Promise
1. การสมัครออนไลน์
การสมัครออนไลน์เป็นวิธีที่สะดวกและรวดเร็ว คุณสามารถทำได้ตามขั้นตอนดังนี้:
- เข้าสู่เว็บไซต์ Promise: ไปที่เว็บไซต์ของ Promise (Thailand) Co., Ltd.
- กรอกแบบฟอร์มออนไลน์: คลิกที่ปุ่ม “สมัครเลย” และกรอกข้อมูลส่วนตัวตามที่ระบุในแบบฟอร์ม
- อัปโหลดเอกสาร: อัปโหลดสำเนาเอกสารที่ต้องใช้ในการสมัคร เช่น บัตรประชาชน สลิปเงินเดือน และสมุดบัญชีธนาคาร
- ยืนยันการสมัคร: ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องและกดยืนยันการสมัคร
หลังจากที่สมัครเสร็จเรียบร้อยแล้ว ระบบจะส่งข้อมูลการสมัครไปยังเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบและพิจารณาการอนุมัติ
2. การสมัครผ่านสาขา
หากคุณสะดวกที่จะไปสมัครที่สาขา สามารถทำตามขั้นตอนดังนี้:
- เตรียมเอกสาร: เตรียมเอกสารทั้งหมดตามที่ได้ระบุไว้ข้างต้น
- ไปที่สาขา Promise: ค้นหาสาขา Promise ใกล้บ้านคุณและเดินทางไปยังสาขานั้น
- กรอกแบบฟอร์มสมัคร: รับแบบฟอร์มการสมัครจากเจ้าหน้าที่และกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน
- ส่งเอกสาร: ส่งเอกสารที่เตรียมมาให้เจ้าหน้าที่พร้อมกับแบบฟอร์มการสมัคร
- รอการตรวจสอบและอนุมัติ: เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเอกสารและข้อมูลของคุณเพื่อพิจารณาการอนุมัติ
เทคนิคในการเพิ่มโอกาสอนุมัติสินเชื่อ Promise
- เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน: การเตรียมเอกสารที่ครบถ้วนและถูกต้องจะช่วยให้การตรวจสอบและอนุมัติเกิดขึ้นได้รวดเร็วขึ้น
- ปรับปรุงประวัติการเงิน: หากคุณมีประวัติการผิดนัดชำระหนี้ ควรพยายามเคลียร์หนี้เก่าหรือปรับปรุงประวัติการเงินให้ดีขึ้นก่อนการสมัคร
- เพิ่มรายได้: หากเป็นไปได้ ควรพยายามเพิ่มรายได้ให้สูงขึ้น เพราะรายได้ที่สูงจะช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อ
- ตรวจสอบเครดิตบูโร: ควรตรวจสอบประวัติเครดิตบูโรของตัวเองว่ามีประวัติการเงินที่ดีหรือไม่ เพื่อป้องกันปัญหาการถูกปฏิเสธการอนุมัติ
ข้อดีและข้อเสียของสินเชื่อ Promise
ข้อดี
- อนุมัติไว: สินเชื่อ Promise มีการอนุมัติที่รวดเร็ว ช่วยให้คุณได้รับเงินทันใจ
- ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน: ไม่ต้องหาผู้ค้ำประกันหรือหลักทรัพย์มาค้ำประกันการกู้ยืม
- วงเงินสูง: สามารถกู้เงินได้ในวงเงินที่สูงตามความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้
- บริการลูกค้าดี: มีบริการลูกค้าที่คอยให้คำปรึกษาและช่วยเหลือในทุกขั้นตอน
ข้อเสีย
- ดอกเบี้ยสูง: ดอกเบี้ยของสินเชื่อ Promise อาจจะสูงกว่าเมื่อเทียบกับสินเชื่อจากธนาคาร
- ระยะเวลาชำระหนี้สั้น: อาจมีระยะเวลาการชำระหนี้ที่สั้นกว่า ทำให้ยอดผ่อนต่อเดือนสูง
การสมัครสินเชื่อ Promise เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเงินด่วนและต้องการความสะดวกในการสมัคร โดยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกันหรือหลักทรัพย์ การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนและตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องจะช่วยให้การสมัครและการอนุมัติเป็นไปอย่างรวดเร็ว หากคุณสนใจสินเชื่อ Promise อย่าลืมศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและเตรียมตัวให้พร้อมในการสมัครสินเชื่อนี้
รีวิวการสมัครสินเชื่อ รถแลกเงิน TTB
ในเช้าวันที่ร้อนระอุของเดือนเมษายน การตัดสินใจทำอะไรบางอย่างกับรถยนต์เก่าที่จอดอยู่ในโรงรถมาหลายเดือนแล้วเกิดขึ้น หลังจากที่พยายามหาทางออกเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเงินของครอบครัวมาระยะหนึ่ง การขายรถยนต์เป็นสิ่งที่คิดถึง แต่ก็มีความลังเลใจ เพราะรถยนต์คันนี้มีความทรงจำหลายอย่างที่ผูกพันกับครอบครัว
เริ่มต้นค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อรถแลกเงินจากหลายธนาคาร และหนึ่งในตัวเลือกที่โดดเด่นคือธนาคารทหารไทยธนชาต หรือ TTB จากการอ่านรีวิวและสอบถามเพื่อน ๆ หลายคนที่เคยใช้บริการ ตัดสินใจว่าต้องลองสมัครสินเชื่อนี้ดู
ขั้นตอนการสมัครสินเชื่อรถแลกเงิน TTB
เริ่มต้นด้วยการเข้าไปที่เว็บไซต์ของ TTB ซึ่งมีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับสินเชื่อรถแลกเงิน ตั้งแต่เงื่อนไขการสมัคร วงเงินที่สามารถขอได้ ไปจนถึงอัตราดอกเบี้ย การสมัครผ่านออนไลน์ทำให้รู้สึกสะดวกมาก เพราะไม่ต้องเสียเวลาไปถึงธนาคาร
- กรอกแบบฟอร์มออนไลน์ กรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ เช่น ยี่ห้อ รุ่น และปีที่ผลิต กรอกข้อมูลเสร็จแล้วก็ส่งแบบฟอร์ม รอการติดต่อกลับจากเจ้าหน้าที่ธนาคาร
- การตรวจสอบเบื้องต้น ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา เจ้าหน้าที่จาก TTB โทรกลับมาเพื่อตรวจสอบข้อมูลและยืนยันการนัดหมายเพื่อดูรถยนต์ รู้สึกประทับใจในความรวดเร็วและความเป็นมืออาชีพของเจ้าหน้าที่
- การประเมินมูลค่ารถยนต์ วันถัดมา เจ้าหน้าที่ธนาคารมาดูรถยนต์ที่บ้าน ซึ่งเป็นการบริการที่สะดวกมาก พวกเขาตรวจสอบสภาพรถยนต์และทำการประเมินมูลค่า หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง เจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งผลการประเมิน พร้อมวงเงินสินเชื่อที่สามารถขอได้
- การเตรียมเอกสาร หลังจากที่ตกลงในวงเงินสินเชื่อ ต้องเตรียมเอกสารต่าง ๆ ซึ่งได้แก่ บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน เล่มทะเบียนรถ และเอกสารแสดงรายได้ การเตรียมเอกสารเหล่านี้ไม่ยุ่งยากนัก เพราะเป็นเอกสารที่มีอยู่แล้วในบ้าน
- การส่งเอกสารและรอการอนุมัติ ส่งเอกสารทั้งหมดไปที่ธนาคารผ่านช่องทางออนไลน์ แล้วรอการตรวจสอบและอนุมัติ จากประสบการณ์ของการอนุมัติใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน ซึ่งเร็วกว่าที่คาดไว้มาก
- การรับเงิน เมื่อสินเชื่อได้รับการอนุมัติ ธนาคารจะโอนเงินเข้าบัญชีทันที รู้สึกดีใจมากเพราะสามารถใช้เงินนี้ในการจัดการกับสถานการณ์ทางการเงินของครอบครัวได้ทันที
ประสบการณ์หลังการสมัครสินเชื่อ
หลังจากได้รับเงินสินเชื่อ ใช้เงินส่วนหนึ่งในการปรับปรุงบ้านและจ่ายค่าเรียนของลูก ๆ ทำให้สถานการณ์ทางการเงินของครอบครัวดีขึ้นมาก นอกจากนี้ การผ่อนชำระสินเชื่อก็ไม่เป็นภาระหนัก เพราะ TTB มีระยะเวลาผ่อนชำระที่ยืดหยุ่น ทำให้สามารถเลือกแผนการผ่อนชำระที่เหมาะสมกับความสามารถทางการเงินของเรา
พบว่าอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อรถแลกเงิน TTB ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับธนาคารอื่น ๆ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจเลือกใช้บริการจากที่นี่ นอกจากนี้ การบริการของเจ้าหน้าที่ธนาคารก็เป็นอีกหนึ่งข้อดีที่อยากชื่นชม พวกเขาเป็นมิตรและพร้อมให้คำแนะนำทุกขั้นตอน
ข้อควรระวังในการขอสินเชื่อรถแลกเงิน
แม้ว่าประสบการณ์กับการสมัครสินเชื่อรถแลกเงิน TTB จะเป็นไปอย่างราบรื่น แต่ก็อยากจะแบ่งปันข้อควรระวังสำหรับผู้ที่สนใจสมัครสินเชื่อเช่นกัน
- การตรวจสอบรายละเอียดสินเชื่อ ควรอ่านและทำความเข้าใจรายละเอียดของสินเชื่ออย่างละเอียด โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด
- การวางแผนการชำระหนี้ ก่อนที่จะสมัครสินเชื่อ ควรประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของตนเองอย่างถี่ถ้วน เพื่อป้องกันปัญหาทางการเงินในอนาคต การเลือกวงเงินและระยะเวลาผ่อนชำระที่เหมาะสมจะช่วยลดภาระหนี้สิน
- การตรวจสอบเครดิตบูโร ควรตรวจสอบข้อมูลเครดิตบูโรของตนเองก่อนการสมัคร เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีข้อมูลที่ผิดพลาดหรือมีหนี้สินค้างชำระ ซึ่งอาจมีผลต่อการอนุมัติสินเชื่อ
- การใช้สินเชื่ออย่างระมัดระวัง ควรใช้สินเชื่อในจำนวนที่เพียงพอต่อความจำเป็นเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการสร้างภาระหนี้สินในระยะยาว
การสมัครสินเชื่อรถแลกเงิน TTB เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเงินทุนด่วน โดยไม่ต้องขายรถยนต์ การสมัครไม่ยุ่งยากและรวดเร็ว อัตราดอกเบี้ยที่แข่งขันได้ และการบริการที่เป็นมืออาชีพ ทำให้ผมมีประสบการณ์ที่ดีในการใช้บริการจากธนาคารนี้
หากคุณกำลังมองหาสินเชื่อที่ให้วงเงินสูงและการผ่อนชำระที่ยืดหยุ่น สินเชื่อรถแลกเงิน TTB อาจเป็นตัวเลือกที่คุณควรพิจารณา ผมหวังว่ารีวิวนี้จะช่วยให้คุณมีข้อมูลเพียงพอในการตัดสินใจและทำให้การสมัครสินเชื่อเป็นไปอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จ
รีไฟแนนซ์รถยนต์ TTB ใช้เอกสารอะไรบ้าง
การสมัครรีไฟแนนซ์รถยนต์กับ ttb (ธนาคารทหารไทยธนชาต) เป็นวิธีที่ดีในการจัดการหนี้สินของคุณ โดยเฉพาะถ้าคุณต้องการลดดอกเบี้ย ลดค่างวด หรือรับเงินสดกลับมาเพื่อใช้จ่ายอื่นๆ บทความนี้จะพาคุณไปดูว่าการสมัครรีไฟแนนซ์รถยนต์กับ ttb นั้นต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง และกระบวนการทำงานเป็นอย่างไร
ทำไมต้องสมัครรีไฟแนนซ์รถยนต์?
การสมัครรีไฟแนนซ์รถยนต์คือการที่คุณยื่นขอสินเชื่อใหม่จากธนาคารเพื่อนำไปชำระหนี้สินเชื่อรถยนต์เดิม การทำเช่นนี้มีข้อดีหลายประการ เช่น:
- ลดดอกเบี้ย: ดอกเบี้ยสินเชื่อใหม่อาจต่ำกว่าสินเชื่อเดิม ทำให้คุณประหยัดเงินได้มากขึ้น
- ลดค่างวด: หากคุณมีปัญหาในการชำระค่างวด การขยายระยะเวลาการผ่อนชำระจะช่วยลดภาระในแต่ละเดือน
- รับเงินสดกลับ: ในบางกรณี คุณอาจได้รับเงินสดกลับมาจากการรีไฟแนนซ์ เพื่อนำไปใช้ในเรื่องที่ต้องการ
เอกสารที่ต้องใช้ในการสมัครรีไฟแนนซ์รถยนต์ ttb
การสมัครรีไฟแนนซ์รถยนต์กับ ttb จำเป็นต้องเตรียมเอกสารหลายประเภท เพื่อยืนยันตัวตนและข้อมูลการเงินของคุณ รายละเอียดเอกสารที่ต้องใช้มีดังนี้:
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้ยื่นขอสินเชื่อ ควรเป็นบัตรที่ยังไม่หมดอายุ
- หากเป็นบัตรที่ออกใหม่ ควรมีเอกสารเพิ่มเติมเพื่อยืนยันตัวตน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้ยื่นขอสินเชื่อ
- สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนสมรส/หย่า (ถ้ามี)
- หากผู้ยื่นขอมีสถานภาพสมรส ควรเตรียมสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนสมรสหรือหย่า
- สำเนาสลิปเงินเดือน หรือเอกสารแสดงรายได้
- สลิปเงินเดือนล่าสุด 3 เดือน หรือเอกสารแสดงรายได้อื่นๆ เช่น หนังสือรับรองการทำงาน หรือสเตทเมนท์บัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน
- สำเนาหนังสือรับรองการทำงาน
- สำหรับผู้ที่เป็นพนักงาน ควรมีหนังสือรับรองการทำงานจากนายจ้าง
- สำเนาบัญชีธนาคาร
- สำเนาบัญชีธนาคารที่แสดงรายได้เข้าออกในบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน
- สำเนาทะเบียนรถยนต์
- สำเนาทะเบียนรถยนต์ที่ต้องการรีไฟแนนซ์
- สำเนาประกันภัยรถยนต์
- สำเนากรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ที่ยังไม่หมดอายุ
ขั้นตอนการสมัครรีไฟแนนซ์รถยนต์กับ ttb
การสมัครรีไฟแนนซ์รถยนต์กับ ttb มีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก สามารถทำได้ตามลำดับดังนี้:
- เตรียมเอกสาร
- เตรียมเอกสารที่กล่าวมาให้ครบถ้วน
- ยื่นขอสินเชื่อ
- นำเอกสารทั้งหมดไปยื่นขอสินเชื่อที่สาขาของ ttb หรือติดต่อผ่านช่องทางออนไลน์ที่ธนาคารมีให้บริการ
- ประเมินค่าและพิจารณาสินเชื่อ
- ธนาคารจะทำการประเมินค่ารถยนต์และพิจารณาคุณสมบัติของผู้ยื่นขอสินเชื่อ
- อนุมัติสินเชื่อและเซ็นสัญญา
- หากผ่านการพิจารณา ธนาคารจะอนุมัติสินเชื่อ และคุณต้องไปเซ็นสัญญาที่สาขาธนาคาร
- ชำระหนี้สินเชื่อเดิม
- ธนาคารจะชำระหนี้สินเชื่อรถยนต์เดิมให้คุณ
- เริ่มผ่อนชำระสินเชื่อใหม่
- คุณจะเริ่มผ่อนชำระสินเชื่อรถยนต์ใหม่ตามเงื่อนไขที่ตกลงไว้
การสมัครรีไฟแนนซ์รถยนต์มีข้อดีหลายประการ แต่ควรพิจารณาถึงข้อเสียด้วย เช่น การขยายระยะเวลาการผ่อนชำระอาจทำให้คุณต้องชำระดอกเบี้ยมากขึ้นในระยะยาว ดังนั้นควรศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆ ให้ดีก่อนตัดสินใจ การสมัครรีไฟแนนซ์รถยนต์กับ ttb เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการจัดการหนี้สินหรือรับเงินสดกลับมาใช้ เอกสารที่ต้องเตรียมมีหลายประเภท แต่หากคุณเตรียมพร้อมและทำตามขั้นตอนที่ถูกต้อง การรีไฟแนนซ์จะเป็นกระบวนการที่ง่ายและรวดเร็ว หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณมีความเข้าใจในการสมัครรีไฟแนนซ์รถยนต์กับ ttb มากขึ้น และสามารถเตรียมตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สินเชื่อรถแลกเงินจากธนาคาร TTB สมัครสะดวก รวดเร็ว และง่ายดาย
ปัจจุบันที่การเงินมีความสำคัญ การเลือกสินเชื่อที่เหมาะสมสามารถทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณกำลังมองหาวิธีเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน การสมัครสินเชื่อรถแลกเงินจากธนาคาร TTB อาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังค้นหา วันนี้เราจะมาแนะนำขั้นตอนการสมัครสินเชื่อรถแลกเงินจากธนาคาร TTB เพื่อให้คุณได้เข้าใจและเตรียมตัวได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน
สินเชื่อรถแลกเงินจากธนาคาร TTB คืออะไร?
สินเชื่อรถแลกเงินจากธนาคาร TTB เป็นผลิตภัณฑ์การเงินที่ช่วยให้คุณสามารถเปลี่ยนรถยนต์ที่มีอยู่ให้เป็นเงินสดได้ โดยไม่ต้องขายรถ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการใช้เงินด่วนหรือต้องการปรับปรุงสภาพคล่องทางการเงินโดยไม่ต้องเสียรถที่ใช้งานอยู่
คุณสมบัติและเงื่อนไขของผู้สมัคร
ก่อนที่จะสมัครสินเชื่อรถแลกเงินจากธนาคาร TTB คุณควรตรวจสอบว่าคุณมีคุณสมบัติและตรงตามเงื่อนไขที่กำหนดหรือไม่ ดังนี้:
- อายุของผู้สมัคร: ต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป
- รายได้ขั้นต่ำ: ผู้สมัครต้องมีรายได้ขั้นต่ำตามที่ธนาคารกำหนด
- รถยนต์ที่นำมาใช้ค้ำประกัน: รถยนต์ต้องมีอายุไม่เกิน 15 ปี และเป็นรถที่ไม่มีการติดจำนำหรือค้ำประกันอยู่กับสถาบันการเงินอื่น
- เอกสารประกอบการสมัคร: เอกสารแสดงตัวตน เอกสารแสดงรายได้ และเอกสารเกี่ยวกับรถยนต์ เช่น เล่มทะเบียนรถ เป็นต้น
ขั้นตอนการสมัครสินเชื่อรถแลกเงิน
การสมัครสินเชื่อรถแลกเงินจากธนาคาร TTB มีขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้:
1. ตรวจสอบคุณสมบัติและเตรียมเอกสาร
ก่อนเริ่มการสมัคร คุณควรตรวจสอบคุณสมบัติของตนเองและเตรียมเอกสารต่าง ๆ ที่จำเป็นให้ครบถ้วน เอกสารที่ต้องเตรียมได้แก่:
- บัตรประชาชน
- ทะเบียนบ้าน
- สลิปเงินเดือนหรือหลักฐานแสดงรายได้
- เล่มทะเบียนรถยนต์
2. ติดต่อธนาคาร TTB
คุณสามารถติดต่อธนาคาร TTB ได้หลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการไปที่สาขาใกล้บ้าน การโทรติดต่อศูนย์บริการลูกค้า หรือการสมัครออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของธนาคาร
3. กรอกแบบฟอร์มการสมัคร
เมื่อคุณติดต่อธนาคารเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะแนะนำให้คุณกรอกแบบฟอร์มการสมัคร ซึ่งคุณต้องกรอกข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลทางการเงิน และรายละเอียดเกี่ยวกับรถยนต์ให้ครบถ้วนและถูกต้อง
4. ส่งเอกสารและรอการตรวจสอบ
หลังจากกรอกแบบฟอร์มเสร็จสิ้น คุณต้องส่งเอกสารประกอบการสมัครตามที่ธนาคารกำหนด จากนั้นธนาคารจะทำการตรวจสอบข้อมูลและเอกสารของคุณ ซึ่งขั้นตอนนี้อาจใช้เวลาไม่กี่วัน
5. การอนุมัติสินเชื่อและการรับเงิน
เมื่อธนาคารตรวจสอบและอนุมัติสินเชื่อเรียบร้อยแล้ว คุณจะได้รับการแจ้งผลการอนุมัติ และธนาคารจะดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีของคุณตามจำนวนที่ได้รับอนุมัติ
สมัครสินเชื่อรถแลกเงิน TTB Drive
ข้อดีของสินเชื่อรถแลกเงินจากธนาคาร TTB
การเลือกสินเชื่อรถแลกเงินจากธนาคาร TTB มีข้อดีหลายประการ เช่น:
- อัตราดอกเบี้ยที่แข่งขันได้: ธนาคาร TTB มีการเสนออัตราดอกเบี้ยที่น่าสนใจและแข่งขันได้
- การผ่อนชำระที่ยืดหยุ่น: คุณสามารถเลือกช่วงเวลาการผ่อนชำระที่เหมาะสมกับความสามารถทางการเงินของคุณ
- กระบวนการที่รวดเร็วและง่ายดาย: การสมัครและอนุมัติสินเชื่อใช้เวลาไม่นาน ทำให้คุณได้รับเงินอย่างรวดเร็ว
ข้อควรระวังในการสมัครสินเชื่อรถแลกเงิน
แม้ว่าสินเชื่อรถแลกเงินจะเป็นทางเลือกที่ดีในการเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน แต่คุณควรพิจารณาข้อควรระวังเหล่านี้:
- การประเมินมูลค่ารถยนต์: ธนาคารจะประเมินมูลค่ารถยนต์ของคุณ และจำนวนเงินที่คุณจะได้รับอาจไม่ตรงกับความคาดหวังของคุณ
- การค้ำประกันรถยนต์: รถยนต์ของคุณจะต้องถูกใช้เป็นหลักประกัน หากคุณไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด ธนาคารมีสิทธิ์ยึดรถยนต์ของคุณ
เคล็ดลับในการเลือกสินเชื่อรถแลกเงิน
เพื่อให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากการสมัครสินเชื่อรถแลกเงินจากธนาคาร TTB นี่คือเคล็ดลับที่คุณควรพิจารณา:
- ศึกษาและเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย: ควรศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขการผ่อนชำระจากหลายๆ แหล่ง เพื่อให้คุณได้รับข้อเสนอที่ดีที่สุด
- ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของธนาคาร: เลือกธนาคารที่มีความน่าเชื่อถือและมีประวัติการให้บริการที่ดี
- เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน: การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนและถูกต้องจะช่วยให้กระบวนการสมัครเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว
- วางแผนการชำระหนี้: ควรวางแผนการชำระหนี้ให้ดีเพื่อป้องกันปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเครดิตและทรัพย์สินของคุณ
การสมัครสินเชื่อรถแลกเงินจากธนาคาร TTB เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน โดยไม่ต้องขายรถยนต์ของตนเอง ด้วยกระบวนการที่ง่ายและรวดเร็ว คุณสามารถได้รับเงินที่ต้องการได้ในเวลาสั้น ๆ แต่อย่าลืมพิจารณาข้อควรระวังและเคล็ดลับที่เราได้แนะนำ เพื่อให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้สินเชื่อรถแลกเงินจากธนาคาร TTB
หากคุณสนใจสมัครสินเชื่อรถแลกเงินจากธนาคาร TTB อย่ารอช้า ติดต่อธนาคาร TTB วันนี้เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมและเริ่มกระบวนการสมัครได้ทันที
การสมัครสินเชื่อรถแลกเงินไม่ยากอย่างที่คิด เพียงแค่คุณมีความรู้และเตรียมตัวให้พร้อม คุณจะสามารถเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินได้อย่างง่ายดายและปลอดภัย หวังว่าข้อมูลที่เราได้เสนอในวันนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างถูกต้องและมั่นใจ
หากคุณมีคำถามเพิ่มเติมหรือสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินเชื่อรถแลกเงินจากธนาคาร TTB คุณสามารถเข้าชมเว็บไซต์ของธนาคาร TTB หรือติดต่อศูนย์บริการลูกค้าของธนาคารได้ตลอดเวลา
อย่ารอช้า! สินเชื่อรถแลกเงินจากธนาคาร TTB คือทางเลือกที่คุณไม่ควรพลาดเพื่อความมั่นคงทางการเงินในอนาคตของคุณ
บัตรเครดิต จ่ายช้า ได้กี่วัน พร้อมเคล็ดลับใช้บัตรไม่ให้เป็นหนี้
ความจริงแล้ว การใช้บัตรเครดิตไม่นับว่าเป็นการขอสินเชื่อซะทีเดียว ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการที่เราเอาเงินในอนาคตมาใช้ก่อน แล้วค่อยจ่ายคืนให้ธนาคารทีหลังก็ตาม แต่ถ้าเราจ่ายเงินแบบเต็มยอดเมื่อใบแจ้งยอดบัตรเครดิตมาถึง หรือถึงกำหนดเวลาจ่ายเรียบร้อยแล้ว ธนาคารก็จะไม่คิดดอกเบี้ย และไม่นับว่าเป็นหนี้สิน สำหรับคนที่อาจจะมีปัญหาทางการเงิน หรือเป็นคนขี้ลืม คำถามที่น่าสนใจก็คือบัตรเครดิต จ่ายช้า ได้กี่วัน ในบทความนี้เรามีคำตอบ
วันจ่าย ของบัตรเครดิต คืออะไร
วันจ่าย หรือ Payment Due Date คือวันสุดท้ายที่ธนาคารกำหนดให้ผู้ถือบัตรเครดิตชำระค่าใช้จ่ายในรอบบิลนั้นๆ โดยปกติแล้ว วันจ่ายช้าจะอยู่ที่ประมาณ 20-25 วันหลังจากวันปิดบัญชีรายการใช้จ่ายในแต่ละเดือน ซึ่งระยะเวลานี้เองที่ทำให้เราสามารถใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตได้ก่อนโดยไม่ต้องจ่ายเงินทันที นับเป็นสิทธิประโยชน์หลักของบัตรเครดิต
ตัวอย่าง หากวันปิดบัญชีรายการใช้จ่ายของบัตรเครดิตเราอยู่ที่วันที่ 15 ของทุกเดือน และธนาคารกำหนดวันจ่ายช้าไว้ที่ 25 วันหลังจากวันปิดบัญชี เราก็จะมีระยะเวลาถึง 40 วันก่อนต้องจ่ายเงินสำหรับค่าใช้จ่ายในรอบนั้น ซึ่งสามารถนำเงินไปใช้ประโยชน์อื่นได้ในระหว่างนั้น
บัตรเครดิต จ่ายช้า ได้กี่วัน
หากเราชำระเงินคืนช้ากว่าวันที่กำหนดไปประมาณ 2-3 วัน ก็ไม่มีอะไรน่ากังวล เพราะธนาคารจะไม่คิดดอกเบี้ย หรือปรับค่าล่าช้า เท่ากับว่าเรายังไม่เป็นหนี้ ไม่มีการคิดดอกเบี้ย เมื่อชำระเงิน ก็สามารถชำระได้ตามใบแจ้งยอดเลย ยิ่งถ้าเรามีประวัติการชำระเงินดีมาโดยตลอดอยู่แล้ว บางทีเจ้าหน้าที่อาจมีการให้ความช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษได้ด้วย
แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เราชำระเงินคืนช้าเกิน 30 วันขึ้นไป มันก็จะขึ้นประวัติสถานะคืนเงินล่าช้าตามมา ถ้าเราคืนเงินล่าช้าเกินกว่า 90 วัน มันก็จะกลายเป็นหนี้ NPL หรือหนี้เสียนั่นเอง ตรงจุดนี้จะกลายเป็นความด่างพร้อยในประวัติการชำระหนี้ของเรา เวลาจะขอกู้เงินในอนาคต โอกาสที่ธนาคารจะอนุมัติเงินก็จะน้อยลงกว่าเดิม
เรามีประวัติการชำระเงินคืนล่าช้าตั้งแต่ 1 ครั้งขึ้นไป โดยส่วนใหญ่ธนาคารก็จะคิดดอกเบี้ย และมีค่าปรับด้วย ดังนั้น ถ้าเพื่อนๆ ได้เงินมาเรียบร้อยแล้ว เราขอแนะนำว่าให้รีบเอาไปจ่ายค่าบัตรเครดิตก่อนเลย เพราะยิ่งทิ้งไว้นาน ทั้งดอกเบี้ย ค่าปรับ รับรองว่าจะพุ่งขึ้นสูงไปเรื่อยๆ ตามเวลาที่เราทิ้งเอาไว้ รู้ตัวอีกทีอาจกลายเป็นหนี้ก้อนใหญ่ก็ได้เหมือนกัน
เคล็ดลับการจ่ายบัตรเครดิต ไม่ให้เป็นหนี้
- จัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย และวางแผนให้มีเงินพอสำหรับจ่ายค่าใช้จ่ายของบัตรก่อนวันจ่ายช้า
- อย่าใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายโดยคิดว่ายังไม่ถึงวันจ่าย เพราะจะทำให้เกิดปัญหายากจนวันหน้า
- หากมีหนี้ค้างชำระหลายรายการ ให้จัดลำดับความจำเป็นในการใช้จ่าย และจ่ายหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงก่อน
- ใช้วันจ่ายช้าหมุนเวียนกับรายได้ของเรา อาทิ หากได้รับเงินเดือนวันที่ 25 ก็ให้จ่ายบัตรเครดิตของเดือนที่แล้วพร้อมกับได้รับเงินเดือน
- หลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระบัตรเครดิตอย่างเด็ดขาด เพราะจะทำให้เสียค่าปรับ ดอกเบี้ยสูง และส่งผลกระทบต่อเครดิตบูโร ซึ่งจะกระทบต่อการสมัครสินเชื่อหรือบัตรเครดิตใบอื่นในอนาคต
- ใช้ช่วงวันจ่ายช้าในการเก็บเงินก้อนจากการรวมค่าใช้จ่ายหลายๆ รายการ แล้วค่อยจ่ายรวมทีเดียว เพื่อสะดวกต่อการจัดการเงิน
- สำรองเงินไว้ล่วงหน้าเพื่อจ่ายค่าใช้จ่ายในเดือนที่มีรายจ่ายสูงกว่าปกติ เช่น มีการเดินทางท่องเที่ยว หรือมีค่าใช้จ่ายพิเศษ
- อย่างพึ่งพาวันจ่ายช้ามากเกินไป เพราะอาจทำให้เข้าสู่วังวนหนี้สินได้ง่ายหากควบคุมการใช้จ่ายไม่ดีพอ
- สำรวจและเปรียบเทียบวันจ่ายช้าของบัตรเครดิตแต่ละใบ เพื่อให้สอดคล้องกับรอบรายรับของเรามากที่สุด
คงได้คำตอบแล้วว่า บัตรเครดิต จ่ายช้า ได้กี่วัน สรุปคือจ่ายช้านิดหน่อยได้ โดยให้แจ้งพนักงานติดตามหนี้ไปตามตรง แต่ถ้าค้างติดต่อกันหลายงวด อาจติดเครดิตบูโรได้ แนะนำให้ผู้ใช้บัตรเครดิตวางแผนการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตโดยอาศัยวันจ่ายช้าอย่างเหมาะสม จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน ทำให้เราได้รับประโยชน์สูงสุดจากบัตร แต่ต้องใช้อย่างระมัดระวัง และรับผิดชอบ เพื่อไม่ให้กลายเป็นหนี้สินล้นพ้นตัว
เปรียบเทียบบัตรเครดิต กรุงศรี นาว แพลทินัม
การเลือกบัตรเครดิตที่เหมาะสมกับการใช้งานของเราเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะบัตรเครดิตแต่ละประเภทมีสิทธิประโยชน์และข้อดีที่แตกต่างกันออกไป ในบทความนี้เราจะมาเปรียบเทียบบัตรเครดิต กรุงศรี นาว แพลทินัม กับบัตรเครดิตอื่น ๆ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ทำความรู้จักกับบัตรเครดิต กรุงศรี นาว แพลทินัม
บัตรเครดิต กรุงศรี นาว แพลทินัม (Krungsri Now Platinum Credit Card) เป็นบัตรเครดิตที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบการช้อปปิ้งออนไลน์และการใช้ชีวิตแบบโมเดิร์น มีสิทธิประโยชน์ที่น่าสนใจมากมาย เช่น การสะสมคะแนน การได้รับเงินคืน (Cashback) และประกันภัยต่าง ๆ
สิทธิประโยชน์ของบัตรเครดิต กรุงศรี นาว แพลทินัม
- สะสมคะแนน: ทุกการใช้จ่ายผ่านบัตรสามารถสะสมคะแนน Krungsri Point เพื่อแลกรับของรางวัลหรือสิทธิพิเศษต่าง ๆ
- เงินคืน (Cashback): ได้รับเงินคืนสูงสุด 1% สำหรับการใช้จ่ายทั่วไป และ 3% สำหรับการใช้จ่ายที่ร้านค้าที่ร่วมรายการ
- ประกันภัยการเดินทาง: ครอบคลุมถึงการประกันภัยอุบัติเหตุและการสูญเสียกระเป๋าเดินทาง
- สิทธิพิเศษจากร้านค้า: รับส่วนลดและข้อเสนอพิเศษจากร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศ
สมัคร บัตรเครดิต กรุงศรี นาว แพลทินัม
เปรียบเทียบกับบัตรเครดิต KBank Platinum
บัตรเครดิต KBank Platinum ของธนาคารกสิกรไทยเป็นอีกหนึ่งบัตรเครดิตที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน มาดูกันว่ามีสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง
- สะสมคะแนน: ทุกการใช้จ่ายผ่านบัตรสามารถสะสมคะแนน KBank Reward Points เพื่อแลกรับของรางวัลหรือสิทธิพิเศษต่าง ๆ
- เงินคืน (Cashback): ได้รับเงินคืนสูงสุด 2% สำหรับการใช้จ่ายทั่วไป
- ประกันภัยการเดินทาง: ครอบคลุมถึงการประกันภัยอุบัติเหตุและการสูญเสียกระเป๋าเดินทาง
- สิทธิพิเศษจากร้านค้า: รับส่วนลดและข้อเสนอพิเศษจากร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศ
เปรียบเทียบกับบัตรเครดิต SCB M Live
บัตรเครดิต SCB M Live จากธนาคารไทยพาณิชย์เป็นบัตรเครดิตที่มีจุดเด่นในเรื่องของสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับการช้อปปิ้งและการใช้ชีวิตแบบไลฟ์สไตล์
- สะสมคะแนน: ทุกการใช้จ่ายผ่านบัตรสามารถสะสมคะแนน SCB Rewards เพื่อแลกรับของรางวัลหรือสิทธิพิเศษต่าง ๆ
- เงินคืน (Cashback): ได้รับเงินคืนสูงสุด 5% สำหรับการใช้จ่ายที่ห้างสรรพสินค้าที่ร่วมรายการ
- ประกันภัยการเดินทาง: ครอบคลุมถึงการประกันภัยอุบัติเหตุและการสูญเสียกระเป๋าเดินทาง
- สิทธิพิเศษจากร้านค้า: รับส่วนลดและข้อเสนอพิเศษจากร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศ
ข้อดีของบัตรเครดิต กรุงศรี นาว แพลทินัม
- เงินคืนที่สูง: ได้รับเงินคืนสูงสุดถึง 3% สำหรับการใช้จ่ายที่ร้านค้าที่ร่วมรายการ
- สะสมคะแนนได้ง่าย: ทุกการใช้จ่ายผ่านบัตรสามารถสะสมคะแนน Krungsri Point ได้อย่างรวดเร็ว
- ประกันภัยการเดินทางที่ครอบคลุม: ครอบคลุมการประกันภัยอุบัติเหตุและการสูญเสียกระเป๋าเดินทาง
- สิทธิพิเศษจากร้านค้าทั่วประเทศ: รับส่วนลดและข้อเสนอพิเศษจากร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศ
ข้อเสียของบัตรเครดิต กรุงศรี นาว แพลทินัม
- ค่าธรรมเนียมรายปี: อาจมีค่าธรรมเนียมรายปีที่สูงกว่าบัตรเครดิตบางประเภท
- ข้อจำกัดในการรับเงินคืน: การได้รับเงินคืนสูงสุด 3% จะจำกัดเฉพาะร้านค้าที่ร่วมรายการเท่านั้น
สรุปการเปรียบเทียบบัตรเครดิต
จากการเปรียบเทียบบัตรเครดิต กรุงศรี นาว แพลทินัม กับบัตรเครดิตอื่น ๆ อย่าง KBank Platinum และ SCB M Live จะเห็นได้ว่าบัตรเครดิต กรุงศรี นาว แพลทินัม มีจุดเด่นในเรื่องของเงินคืนและการสะสมคะแนนที่ง่ายดาย แต่หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการช้อปปิ้งในห้างสรรพสินค้า บัตรเครดิต SCB M Live อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะมีเงินคืนสูงสุดถึง 5% สำหรับการใช้จ่ายในห้างสรรพสินค้าที่ร่วมรายการ
ในทางกลับกัน บัตรเครดิต KBank Platinum จะเหมาะกับผู้ที่ต้องการสะสมคะแนนและได้รับเงินคืนจากการใช้จ่ายทั่วไป โดยมีอัตราการคืนเงินสูงสุดถึง 2%
อย่างไรก็ตาม การเลือกบัตรเครดิตที่ดีที่สุดสำหรับคุณขึ้นอยู่กับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของคุณเอง หากคุณชื่นชอบการใช้จ่ายออนไลน์และต้องการได้รับเงินคืนและสะสมคะแนนอย่างรวดเร็ว บัตรเครดิต กรุงศรี นาว แพลทินัม อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
วิธีสมัครบัตรเครดิต กรุงศรี นาว แพลทินัม
การสมัครบัตรเครดิต กรุงศรี นาว แพลทินัม ง่ายมาก สามารถทำได้ทั้งทางออนไลน์และที่สาขาธนาคาร กรุงศรีอยุธยา โดยมีขั้นตอนดังนี้:
- เตรียมเอกสาร: สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สลิปเงินเดือนล่าสุด หรือหนังสือรับรองเงินเดือน
- กรอกแบบฟอร์มการสมัคร: สามารถกรอกแบบฟอร์มการสมัครได้ที่เว็บไซต์ของธนาคาร กรุงศรีอยุธยา
- ส่งเอกสาร: ส่งเอกสารการสมัครผ่านช่องทางที่ธนาคารกำหนด
- รอการอนุมัติ: หลังจากส่งเอกสารครบถ้วน ธนาคารจะทำการตรวจสอบและอนุมัติการสมัครภายใน 7-14 วันทำการ
เคล็ดลับในการใช้บัตรเครดิต กรุงศรี นาว แพลทินัม ให้คุ้มค่า
- ใช้จ่ายในร้านค้าที่ร่วมรายการ: เพื่อให้ได้รับเงินคืนสูงสุดถึง 3% ควรใช้จ่ายในร้านค้าที่ร่วมรายการ
- สะสมคะแนนให้ครบ: ทุกการใช้จ่ายสามารถสะสมคะแนน Krungsri Point ได้ อย่าลืมใช้สิทธิในการแลกรับของรางวัลหรือสิทธิพิเศษต่าง ๆ
- ตรวจสอบโปรโมชั่นพิเศษ: ติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นพิเศษจากธนาคารเพื่อไม่พลาดข้อเสนอที่น่าสนใจ
การเลือกบัตรเครดิตที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณจะช่วยให้คุณได้รับสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่ามากที่สุด หวังว่าการเปรียบเทียบบัตรเครดิต กรุงศรี นาว แพลทินัม กับบัตรเครดิตอื่น ๆ ในบทความนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
สมัครสินเชื่อรถแลกเงิน TTB ผ่านออนไลน์ รู้ผลใน 1 วัน
ในปัจจุบัน สินเชื่อรถแลกเงินกลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกทางการเงินที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย โดยเฉพาะกับผู้ที่ต้องการเงินทุนในการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันหรือทำธุรกิจ การสมัครสินเชื่อรถแลกเงิน TTB (ธนาคารทหารไทยธนชาต) ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมาก เพราะมีเงื่อนไขที่ผ่อนคลาย และขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก
ทำไมต้องเลือกสินเชื่อรถแลกเงิน TTB?
TTB หรือธนาคารทหารไทยธนชาต เป็นธนาคารที่มีความเชี่ยวชาญในการให้บริการทางการเงินที่หลากหลาย สินเชื่อรถแลกเงินของ TTB มีข้อดีหลายประการที่ทำให้เป็นที่นิยมของผู้บริโภค ได้แก่:
- อัตราดอกเบี้ยที่คุ้มค่า: TTB มีอัตราดอกเบี้ยที่แข่งขันได้ ทำให้ผู้สมัครได้รับประโยชน์สูงสุดในการขอสินเชื่อ
- ขั้นตอนการสมัครที่ง่ายและรวดเร็ว: ไม่ต้องใช้เอกสารมากมาย เพียงแค่มีบัตรประชาชนและเล่มทะเบียนรถ ก็สามารถสมัครได้
- วงเงินสูง: สามารถขอสินเชื่อได้สูงสุดถึง 100% ของมูลค่ารถยนต์
- ระยะเวลาผ่อนชำระที่ยืดหยุ่น: มีระยะเวลาผ่อนชำระตั้งแต่ 12 เดือนถึง 84 เดือน ให้ผู้กู้สามารถเลือกแผนการผ่อนชำระที่เหมาะสมกับความสามารถทางการเงินของตนเอง
- ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน: สำหรับผู้ที่มีประวัติการเงินดี ไม่จำเป็นต้องมีผู้ค้ำประกัน ซึ่งช่วยลดความยุ่งยากในกระบวนการสมัคร
ขั้นตอนการสมัครสินเชื่อรถแลกเงิน TTB
การสมัครสินเชื่อรถแลกเงินกับ TTB ไม่ยุ่งยาก ดังนี้:
- ตรวจสอบคุณสมบัติ: ผู้สมัครต้องมีอายุตั้งแต่ 20-65 ปี มีรถยนต์ที่เป็นของตนเองและไม่มีภาระหนี้สินค้างชำระ
- เตรียมเอกสาร:
- บัตรประชาชน
- ทะเบียนบ้าน
- เล่มทะเบียนรถ
- เอกสารแสดงรายได้ เช่น สลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองเงินเดือน
- กรอกแบบฟอร์มการสมัคร: สามารถกรอกแบบฟอร์มการสมัครได้ที่สาขาของ TTB หรือสมัครผ่านช่องทางออนไลน์ที่เว็บไซต์ของธนาคาร
- ส่งเอกสาร: ส่งเอกสารการสมัครทั้งหมดให้กับเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อตรวจสอบ
- รอผลการอนุมัติ: หลังจากส่งเอกสารครบถ้วนแล้ว ธนาคารจะใช้เวลาตรวจสอบและอนุมัติสินเชื่อภายในระยะเวลาไม่กี่วัน
- รับเงิน: เมื่อสินเชื่อได้รับการอนุมัติ ผู้กู้จะได้รับเงินโอนเข้าบัญชีตามที่ระบุไว้ในใบสมัคร
สมัครสินเชื่อ รถแลกเงิน TTB อนุมัติไวรู้ผลทันที
เคล็ดลับในการขอสินเชื่อรถแลกเงินให้ได้รับการอนุมัติ
เพื่อให้การสมัครสินเชื่อรถแลกเงิน TTB ผ่านไปได้อย่างราบรื่น ควรพิจารณาเคล็ดลับต่อไปนี้:
- รักษาประวัติการเงินที่ดี: การมีประวัติการเงินที่ดีจะช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อ โดยเฉพาะการชำระหนี้ที่ตรงเวลา
- ตรวจสอบเครดิตบูโร: ควรตรวจสอบข้อมูลเครดิตบูโรของตนเองก่อนการสมัคร เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีข้อมูลที่ผิดพลาดหรือมีหนี้สินค้างชำระ
- เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน: การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนและถูกต้องจะช่วยให้การสมัครเป็นไปอย่างรวดเร็วและไม่เกิดความล่าช้า
- เลือกวงเงินและระยะเวลาที่เหมาะสม: การเลือกวงเงินและระยะเวลาผ่อนชำระที่เหมาะสมกับความสามารถทางการเงินของตนเอง จะช่วยลดภาระหนี้สินและทำให้สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด
- ติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อขอคำแนะนำ: หากมีข้อสงสัยหรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อขอคำปรึกษาได้
ข้อควรระวังในการขอสินเชื่อรถแลกเงิน
การขอสินเชื่อรถแลกเงินเป็นการตัดสินใจทางการเงินที่สำคัญ ดังนั้นควรพิจารณาข้อควรระวังต่อไปนี้:
- ตรวจสอบอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม: ควรตรวจสอบรายละเอียดอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ อย่างรอบคอบ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด
- พิจารณาความสามารถในการชำระหนี้: ควรพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ของตนเองอย่างถี่ถ้วน เพื่อป้องกันปัญหาทางการเงินในอนาคต
- ศึกษาข้อมูลและเงื่อนไขของสินเชื่อ: ควรศึกษาข้อมูลและเงื่อนไขของสินเชื่ออย่างละเอียด เพื่อให้เข้าใจถึงข้อกำหนดและเงื่อนไขต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
- ไม่ใช้สินเชื่อเกินความจำเป็น: ควรใช้สินเชื่อในจำนวนที่เพียงพอต่อความจำเป็นเท่านั้น เพื่อลดภาระหนี้สินในระยะยาว
ประสบการณ์จากผู้ที่เคยใช้บริการสินเชื่อรถแลกเงิน TTB
หลายคนที่เคยใช้บริการสินเชื่อรถแลกเงิน TTB มีประสบการณ์ที่ดีและพึงพอใจกับการบริการของธนาคาร หนึ่งในนั้นคือ คุณสมชาย อายุ 35 ปี ซึ่งทำงานเป็นพนักงานบริษัทเอกชน กล่าวว่า “การสมัครสินเชื่อรถแลกเงินกับ TTB เป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดของผม เพราะขั้นตอนการสมัครไม่ยุ่งยากและได้รับการอนุมัติเร็วมาก ผมสามารถนำเงินไปใช้ในการปรับปรุงบ้านและใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ตามที่ต้องการ”
อีกหนึ่งตัวอย่างคือ คุณสุภาพร อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัว กล่าวว่า “สินเชื่อรถแลกเงิน TTB ช่วยให้ผมมีเงินทุนหมุนเวียนในการทำธุรกิจโดยไม่ต้องพึ่งพาผู้ค้ำประกัน ทำให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่น”
สินเชื่อรถแลกเงิน TTB เป็นทางเลือกทางการเงินที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเงินทุนในการใช้จ่ายหรือทำธุรกิจ ด้วยเงื่อนไขที่ผ่อนคลายและขั้นตอนการสมัครที่ไม่ยุ่งยาก หากคุณมีรถยนต์และต้องการเงินทุน สินเชื่อรถแลกเงิน TTB อาจเป็นคำตอบที่เหมาะสมสำหรับคุณ
สมัครบัตรเครดิต ใบแรก ทำยังไง ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง
ใครที่กำลังมองหา บัตรเครดิตใบแรก ไม่ว่าจะเด็กจบใหม่ที่เพิ่งเริ่มวัยทำงาน หรือวัยทำงานอยู่แล้ว อยาก สมัครบัตรเครดิต ใบแรก สำหรับใครที่กำลังคิดหนักว่าบัตรเครดิตก็มีมากมายให้เลือก แล้วจะเลือกสมัครบัตรเครดิตแบบไหนดี ให้เหมาะกับเราที่สุด วันนี้จะพาทุกคนไปเรียนรู้วิธีเลือกสมัครบัตรเครดิตใบแรกให้ตอบโจทย์ พร้อมเอกสารสำคัญที่ต้องเตรียมให้พร้อม
บัตรเครดิต ดียังไง?
เพื่อให้คนที่กำลังตัดสินใจสมัครบัตรเครดิตอยู่ตอนนี้ คงอยากทราบถึงประโยชน์จากการใช้บัตรเครดิต ในชีวิตประจำวัน ว่าตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายของเรายังไง มาดูกันเลย
- วางแผนการเงินง่ายขึ้น เชื่อว่าในวัยเริ่มต้นทำงานทุกคนมีเป้าหมาย หรือต้องการซื้อของที่มีราคา แพงที่ตัวเองอยากได้ เพื่อใช้ในการทำงาน เช่น โน๊ตบุ๊คเครื่องใหม่ ดังนั้น การจะใช้เงินก้อนใหญ่ซื้อ แต่ใช้บัตรเครดิตเป็นทางเลือกที่มีข้อเสนอที่น่าสนใจ เช่น ผ่อน 0% นาน สูงสุด 10 เดือนของบัตร เครดิต เป็นตัวช่วยให้เราไม่ต้องใช้เงินก้อนใหญ่ แต่สามารถผ่อนคืนภายหลังได้ เป็นต้น
- ใช้จ่ายประหยัด และคุ้มค่า บัตรเครดิตมีสิทธิประโยชน์จากการใช้จ่ายผ่านบัตรมากมาย เช่น รับคะแนนสะสม รับเครดิตเงินคืน รับส่วนลด แลกของรางวัล รับสิทธิพิเศษ และโปรโมชั่นต่าง ๆ มากมาย นั่นหมายความว่า เราจะซื้อสินค้า หรือบริการต่าง ๆ ในราคาที่ถูกกว่าเงินสด จะช่วยให้ เราสามารถประหยัดเงินได้มากขึ้นอีกนั่นเอง
- เดินทางต่างประเทศ สะดวก และง่ายขึ้น สำหรับใครที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยเป็น ประจำ จะทำให้การเดินทางต่างประเทศใช้จ่ายได้สะดวก ง่าย และรวดเร็ว และที่สำคัญไม่ต้อง ให้เราต้องพกเงินสดติดตัวไปต่างประเทศให้ยุ่งยาก และยังเพิ่มความปลอดภัยในต่างแดนอีกด้วย ไม่ต้องกังวลในเรื่องแลกสกุลเงินในต่างประเทศ สามารถใช้บัตรเครดิตรูดใช้จ่ายได้ง่าย สะดวก กรณีหากบัตรสูญหาย ก็แจ้งอายัดบัตรเครดิตได้ทันทีอีกด้วย
สมัครบัตรเครดิต ใช้เอกสารอะไรบ้าง?
การเตรียมเอกสารการสมัครบัตรเครดิตเป็นไปตามเงื่อนไขที่แต่ละสถาบันการเงินได้กำหนดไว้ ดังต่อไปนี้
พนักงานประจำ
- สำเนาบัตรประชาชน
- หนังสือรับรองเงินเดือน
- สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 3 – 6 เดือน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
เจ้าของธุรกิจ
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
- สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน
- สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนการค้า
- บัญชีเดินธนาคารที่ใช้ในธุรกิจ ย้อนหลัง 6 เดือน
- สำนาทะเบียนบ้าน
อาชีพอิสระ
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
- สำเนาบัญชีธนาคารผู้สมัครย้อนหลัง 6 เดือน
- หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- เอกสารอื่น ๆ ตามที่สถาบันการเงินกำหนด
คุณสมบัติของผู้สมัครบัตรเครดิตใบแรก
สำหรับคุณสมบัติของผู้สมัครบัตรเครดิตใบแรก ต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้
- อายุระหว่าง 20 – 70 ปี
- มีเงินเดือน 15,000 บาทขึ้นไป
- ทำงานตั้งแต่ 4 – 6 เดือนขึ้นไป (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถาบันการเงินกำหนด)
สมัครบัตรเครดิตใบแรก เลือกที่ไหนดี?
บัตรเครดิต ยูโอบี พรีเมียร์
ค้นพบสิทธิประโยชน์สุดเอ็กซ์คลูซีฟกับบัตรเครดิตยูโอบี พรีเมียร์ ที่ออกแบบมาเพื่อคุณ ด้วยบริการที่ปรับให้ เหมาะไลฟ์สไตล์ของคุณ พร้อมรับคะแนนสะสมยูโอบี รีวอร์ดได้เร็วกว่าเมื่อคุณใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ในทุก ๆ วัน ปลดล็อกสิทธิพิเศษ และรับสิทธิประโยชน์เหนือระดับทุกครั้งที่คุณใช้จ่าย
คุณสมบัติผู้สมัคร
- อายุผู้สมัคร 20 – 60 ปี
รายได้
- รายได้ต่อเดือนคนไทย : 30,000 บาทขึ้นไป
- รายได้ต่อเดือนต่างชาติ : 50,000 บาทขึ้นไป
อายุงาน
- พนักงานประจำ : 4 เดือน (ต้องผ่านการทดลองงาน)
- เจ้าของกิจการ 3 ปี
บัตรเครดิตยูโอบี วัน
รับเงินคืนได้ทุกวัน จากทุกการใช้จ่ายผ่านบัตร บัตรเครดิตยูโอบี วัน ยิ่งใช้ยิ่งได้คืน รับเงินคืนทุกการใช้ จ่ายได้ทุกวัน บัตรของเราเป็นเพื่อนร่วมทางสำหรับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ทำให้คุณได้รับเงินคืน จากทุกการใช้จ่าย และยังเป็นตัวช่วยที่ทำให้คุณใช้จ่ายได้อย่างคุ้มค่า
คุณสมบัติผู้สมัคร
- อายุผู้สมัคร 20 – 60 ปี
รายได้
- รายได้ต่อเดือนคนไทย: 15,000 บาทขึ้นไป
- รายได้ต่อเดือนต่างชาติ: 50,000 บาทขึ้นไป
อายุงาน
- พนักงานประจำ: 4 เดือน (ต้องผ่านการทดลองงาน)
- เจ้าของกิจการ 3 ปี
KTC VISA PLATINUM
คล่องตัวทุกไลฟ์สไตล์ มั่นใจทุกครั้งที่ใช้จ่ายผ่านบัตร ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี ผ่อน 0.74% ดอกเบี้ยพิเศษ 8 ล้านบาท ประกันการเดินทาง คุณสมบัติผู้สมัคร
- อายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- รายได้ 15,000 บาทขึ้นไป / เดือน
- รายได้ 50,000 บาทขึ้นไป / เดือน (สำหรับชาวต่างชาติ)
- อายุงานในสถานที่ทำงานปัจจุบัน 4 เดือนขึ้นไป
บัตรเครดิต กรุงศรี นาว แพลทินัม
บัตรเหนือ Norm ของคนยุค NOW บัตรเครดิตสมัครง่าย คืนไว คืนเยอะทุกครั้งที่ใช้ในโลกดิจิทัล รับเครดิต เงินคืน 5% เมื่อช้อป ออนไลน์ทุกเว็บไซต์ ทุกแอปพลิเคชัน รับพอยต์ 2X เมื่อใช้จ่าย ด้วยบัตรเครดิตที่ร้าน อาหารทั่วโลก ไม่มีค่าธรรมเนียม แรกเข้า และรายปี
คุณสมบัติของผู้สมัคร
- อายุ 20 – 65 ปีบริบูรณ์
- มีเบอร์โทรศัพท์มือถือ และที่ทำงานที่สามารถติดต่อได้
- รายได้ประจำ 15,000 บาทต่อเดือน
บัตรเครดิต ทีทีบี โซ สมาร์ท
บัตรเครดิตสาย cashback รับเงินคืน 1% ทุกการใช้จ่าย ทุกการใช้จ่าย รับเงินคืน 1% เข้าบัญชี ทีทีบี โน ฟิกซ์ ฟรี ประกันอุบัติเหตุ จากการเดินทาง วงเงินคุ้มครอง 6 ล้านบาท ผ่อน 0% นาน 3 เดือน ทุกรายการ ขั้นต่ำ 1,000 บาท/เซลล์สลิป ฟรี ค่าธรรมเนียมแรกเข้า และรายปี
คุณสมบัติของผู้สมัคร
พนักงานบริษัท
- มีฐานเงินเดือนตั้งแต่ 15,000 บาท ขึ้นไป รับเงินเดือนผ่านการโอนเข้าบัญชี
- อายุระหว่าง 20 – 70 ปี
- ทำงานที่ปัจจุบันเกิน 4 เดือนขึ้นไป
ธุรกิจส่วนตัว
- รายได้ต่อเดือน 15,000 บาทขึ้นไป
- อายุระหว่าง 20 – 70 ปี
- ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย 2 ปีขึ้นไป (นับจากวันที่จดทะเบียนกิจการ)
เอ็กซ์ยู บัตรเครดิต ดิจิทัล
สมัครบัตรเครดิตง่าย ด้วยช่องทางดิจิทัลผ่านโมบายแอป UCHOOSE เชื่อมต่อชีวิตให้สุด ทุกไลฟ์สไตล์ (Connect Your Lifestyle) อยู่ที่ไหนก็สมัครได้ สมัครง่ายทุกวันผ่านมือถือ เช็กผลการสมัครได้บนแอป
คุณสมบัติผู้สมัคร
- อายุระหว่าง 20 – 55 ปี
- รายได้ประจำตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป
- มีโทรศัพท์ที่ติดต่อได้
หากใครได้อ่านบทความนี้ การสมัครบัตรเครดิตใบแรก ไม่ใช่เรื่องยาก และไม่ต้องคอยกังวลอีกต่อไปแล้ว เมื่อได้รู้ถึงข้อดีจากการได้รับประโยชน์ในการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต และวิธีการเตรียมความ พร้อมก่อนสมัครบัตรเครดิตใบแรก ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง เพื่อให้ได้รับการอนุมัติบัตรเครดิตได้ง่าย และรวดเร็วขึ้น
แนะนำ บัตรกดเงินสด สมัครง่าย ดอกเบี้ยต่ำ คุ้มสุด
เพราะชีวิตมีเรื่องผูกพันกับทางการเงินค่อนข้างเยอะ ยิ่งในปัจจุบันที่ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันแพงแสนแพงมีแต่ของขึ้นราคา ตั้งแต่แก๊ส ไข่ไก่ ข้าวของเครื่องใช้แทบจะทุกสินค้าอุปโภคบริโภคทำให้หลายครัวเรือนหมุนเงินไม่ทัน แถมสภาพคล่องทางการเงินก็ไม่ดีจำเป็นต้องหาช่องทางหยิบยืม แต่จะไปกู้เงินนอกระบบก็อาจจะไม่เวิร์คเท่าไหร่ วันนี้เราจึงอยากแนะนำช่องทางถูกกฎหมายอย่าง บัตรกดเงินสด สมัครง่าย ซึ่งจะมีเจ้าไหนบ้างน่าสนใจ เงื่อนไขการสมัครเป็นอย่างไร ไปดูรายละเอียดทั้งหมดพร้อมกัน
บัตรกดเงินสด สมัครง่าย คุ้มสุด แถมถูกกฎหมายไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยโหดอย่างหนี้นอกระบบซึ่งจะมีธนาคาร หรือสถาบันการเงินไหนบ้างมาเริ่มกันเลย
UOB Cash Plus
สมัครบัตรกดเงินสด ที่สมัครครั้งเดียวสามารถใช้วงเงินได้ตลอดชีพ และยังให้คุณมีเงินสดสำรองพร้อมใช้ตลอด 24 ชั่วโมงที่สมัครง่าย ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน
จุดเด่น
- ดอกเบี้ยเบา ๆ เพียง 70 สตางค์/วัน ที่ยกเว้นค่าธรรมเนียมกดเงินสด
- ให้ผ่อนสินค้า 0% นานสูงสุดถึง 36 เดือน (ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการ)
- เปลี่ยนวงเงินบนบัตรเป็นวงเงินพร้อมใช้ที่ให้ผ่อนชำระนานสูงสุด 48 เดือน
- ให้วงเงินสินเชื่อสูงสุด 1,000,000 บาท
คุณสมบัติ
- พนักงานประจำจะต้องเป็นบุคคลธรรมดาสัญชาติไทย มีอายุตั้งแต่ 20 – 60 ปี โดยมีรายได้ต่อเดือน 15,000 บาท ขึ้นไปและมีอายุงาน 4 เดือน (ต้องผ่านการทดลองงาน)
- เจ้าของกิจการจะต้องเป็นบุคคลธรรมดาสัญชาติไทย อายุ 20 – 60 ปีที่มีรายได้ต่อเดือน 20,000 บาท ขึ้นไปและมีอายุงาน 3 ปีขึ้นไปในกิจการเดียวกัน
เอกสารที่ต้องจัดเตรียม
- สำเนาหน้าบัตรประชาชน หรือบัตรข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ (พนักงานประจำ)
- สลิปเงินเดือน เดือนล่าสุด (ตัวจริงหรือสำเนา) หรือหนังสือรับรองรายได้ (ตัวจริง) (พนักงานประจำ)
- สำเนาบัญชีธนาคาร (บัญชีเงินเดือน) ย้อนหลัง 6 เดือน (กรณีใช้หนังสือรับรองรายได้) (พนักงานประจำและเจ้าของกิจการ)
- สำเนาทะเบียนบ้าน (กรณีใช้สำเนาบัตรข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ) (พนักงานประจำ)
- สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท/ทะเบียนการค้า (คัดสำเนาไม่เกิน 3 เดือน) (เจ้าของธุรกิจ)
- สำเนารายชื่อผู้ถือหุ้นปัจจุบัน (คัดสำเนาไม่เกิน 3 เดือน)(เจ้าของธุรกิจ)
- สำเนาหน้าบัญชีสำหรับโอนเงิน (กรณีต้องการโอนเงินเข้าบัญชีอื่น) (พนักงานประจำและเจ้าของกิจการ)
ttb flash
บัตรกดเงินสดที่ไม่ว่าจะเบิกเยอะ กดเยอะแค่ไหนก็ผ่อนชิลล์ ชิลล์ คืนความสุขให้สนุกการใช้จ่ายแบบเพลิน ๆ
จุดเด่น
- เบิกเงินสดดอกเบี้ยถูกในอัตราดอกเบี้ย 4.99% ต่อปีนานสูงสุด 4 เดือน
- ให้โอนยอดบัตรอื่นมาอยู่ทีทีบีที่รับอัตราดอกเบี้ยต่ำที่เริ่มต้นแค่ 13% ต่อปี
- ให้คุณเบิกถอนเงินสดผ่านแอปทัช และ ATM ได้ง่ายตลอด 24 ชม.
- เลือกผ่อนชิลล์ ๆ ได้ง่าย ๆ ทั้งแบบผ่อนแบบเท่ากันทุกเดือน หรือจะผ่อนขั้นต่ำแค่ 3%
- ให้คุณใช้บัตรกดเงินสดผ่อนสินค้า 0% นานสูงสุดถึง 60 เดือน
- ไม่มีต้องเสียค่าธรรมเนียมเบิกเงินสดทั้งแรกเข้าและรายปี
คุณสมบัติ
- พนักงานประจำอายุตั้งแต่ 20 – 60 ปีขึ้นไป โดยต้องมีรายได้เฉลี่ยรวม 10,000 บาทต่อเดือนขึ้นไปและต้องทำงานที่ปัจจุบันเกิน 4 เดือน
- เจ้าของธุรกิจ หรือธุรกิจส่วนตัวอายุตั้งแต่ 20 – 60 ปีขึ้นไป โดยต้องมีรายได้เฉลี่ยรวม 15,000 บาทต่อเดือนขึ้นไปและดำเนินธุรกิจมาไม่น้อยกว่า 2 ปี
เอกสารที่ต้องจัดเตรียม
- สำเนาบัตรประชาชน (พนักงานประจำ & เจ้าของธุรกิจ)
- สลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือน (พนักงานประจำ)
- สำเนาบัญชีส่วนตัวย้อนหลัง 1 เดือน (พนักงานประจำ)
- สำเนาหน้าแรกของสมุดบัญชีธนาคาร (พนักงานประจำ & เจ้าของธุรกิจ)
- สำเนาทะเบียนบ้าน หรือใบขับขี่ หรือหนังสือเดินทาง (พนักงานประจำ & เจ้าของธุรกิจ)
- หนังสือรับรองบริษัท หรือบัญชีผู้ถือหุ้น (เจ้าของธุรกิจ)
- สำเนาบัญชีส่วนตัวย้อนหลัง 6 เดือน (เจ้าของธุรกิจ)
KKP CASH CARD
บัตรกดเงินสดจากธนาคารเกียรตินาคินที่ให้เงินพร้อมใช้เติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมรับอัตราดอกเบี้ยแบบพิเศษแค่ 0.89% ต่อเดือนพร้อมสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย
จุดเด่น
- รับอัตราดอกเบี้ยแบบพิเศษแค่ 0.89% ต่อเดือน
- ชำระคืนขั้นต่ำเพียง 3% ของเงินต้นรวมดอกเบี้ยหรือไม่น้อยกว่า 300 บาท
- ฟรีค่าธรรมเนียมเบิกถอนเงินสดและฟรีค่าธรรมเนียมรายปี
- ให้วงเงินอนุมัติสูงสุด 250,000 บาทและวงเงินเบิกถอนสูงสุด 100,000 บาท/วัน
- สมัครง่าย เงินเดือน 10,000 บาทก็สมัครได้
คุณสมบัติ
- บุคคลธรรมดาสัญชาติไทย
- อายุตั้งแต่ 20 – 60 ปี
- มีรายได้ประจำรวมต่อเดือนตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป
– รายได้รวมต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน จะต้องมีอายุงานตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป
– รายได้รวมตั้งแต่ 15,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป จะต้องมีอายุงานตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป
- มีหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้สะดวก
เอกสารที่ต้องจัดเตรียม
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน 1 ฉบับ
- สลิปเงินเดือน หรือ หนังสือรับรองรายได้ (สำหรับผู้มีรายได้ประจำ)
- สำเนาบัญชีเงินฝากแสดงรายได้ย้อนหลัง 6 เดือน นับจากปัจจุบัน
Kashjoy Easy Card
บัตรกดเงินสดที่ให้การใช้ชีวิตเป็นเรื่องง่ายที่สามารถสมัคร ๆ ผ่าน Jaymart ทั่วประเทศซึ่งมาพร้อมสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ถือบัตรอีกเพียบ
จุดเด่น
- การคิดอัตราดอกเบี้ยที่ไม่เกิน 25% ต่อปี (คิดอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก)
- ให้วงเงินอนุมัติสูงสุดถึง 5 เท่าของรายได้ สูงสุด 1,000,000 บาท
- ฟรีค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปีตลอดชีพ
- บริการโทรสั่งเงินสดโอนเข้าบัญชี
- รับสิทธิพิเศษประจำเดือนสำหรับสมาชิก เช่น รับชมภาพยนตร์ในเครือ SF ฟรี! หรือรับเครื่องดื่ม Casa Lapin ฟรี!
คุณสมบัติ
- บุคคลธรรมดาสัญชาติไทย
- มีอายุตั้งแต่ 20-60 ปี
- ต้องมีรายได้ประจำตั้งแต่ 7,000 บาทขึ้นไปและมีอายุงาน 4 เดือน ขึ้นไป
- ต้องรับเงินเดือนโอนผ่านธนาคาร
- มีเบอร์พื้นฐานที่ทำงานที่สามารถติดต่อได้
เอกสารที่ต้องจัดเตรียม
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
- สลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองเงินเดือนฉบับจริงหรือสำเนา (ล่าสุดไม่เกิน 2 เดือน)
- รายการเดินบัญชีธนาคารย้อนหลัง 3 เดือนล่าสุด
- กรณีไม่มีสลิปหรือหนังสือรับรองเงินเดือนให้ใช้รายการเดินบัญชีเงินเดือนย้อนหลัง 6 เดือนล่าสุดติดต่อกัน
- สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารที่ต้องการให้โอนเงินสินเชื่อ (ยกเว้น ออมสิน,ธ.ก.ส,ธ.อ.ส)
A Money
บัตรกดเงินสดขึ้นชื่อว่าเป็นบัดดี้เรื่องเงินที่สมัครง่าย อนุมัติไว ไม่ต้องใช้คนค้ำประกัน พร้อมรับสิทธิประโยชน์แบบจุก ๆ ด้วยดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก มีน้อยจ่ายน้อย แบ่งเบาภาระ รักษาประวัติ มีมากจ่ายมาก ลดภาระ หนี้หมดไว
จุดเด่น
- สมัครง่าย คิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก
- ให้วงเงินอนุมัติสูงสุด 100,000 บาท
- อนุมัติปุ๊บ โอนเข้าบัญชีทันที
- ไม่ต้องมีสลิปเงินเดือนก็สมัครได้
- ให้ชำระคืนขั้นต่ำเพียง 3% ของยอดคงค้าง หรือ ไม่ต่ำกว่า 100 บาท
คุณสมบัติ
- บุคคลธรรมดามีสัญชาติไทย
- อายุตั้งแต่ 20 – 60 ปีขึ้นไป
- ต้องมีรายได้ประจำตั้งแต่ 5,000 บาท ขึ้นไป
- มีหมายเลขโทรศัพท์ที่บ้าน หรือที่ทำงานที่สามารถติดต่อได้สะดวก
- มีที่อยู่และที่ทำงานอยู่ในเขตพื้นที่ให้บริการ
เอกสารที่ต้องจัดเตรียม
- บัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรข้าราชการตัวจริง
- มีเอกสารแสดงที่มารายได้ เช่น สลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือนตัวจริง หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50ทวิ) หรือบัญชีธนาคารที่แสดงเงินเดือนย้อนหลัง 6 เดือนล่าสุดติดต่อกัน
ทั้งหมดนี้คือ บัตรกดเงินสด สมัครง่าย ที่เรารวบรวมมาให้ชมกัน ซึ่งเป็นสินเชื่อเงินสดพร้อมใช้ในยามฉุกเฉินที่อยากแนะนำเพราะเหมาะทั้งบุคคลที่มีรายได้ประจำ หรือเจ้าของธุรกิจซึ่งจะช่วยเข้ามาเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินของคุณแบบถูกกฎหมาย และมีหลายเจ้าที่พร้อมให้บริการ โดยส่วนใหญ่จะกำหนดคุณสมบัติรายได้ขั้นต่ำของผู้ที่สมัครที่ 15,000 บาทขึ้นไป และเอกสารทั่วไปซึ่งส่วนใหญ่ไม่ต้องใช้ผู้ค้ำประกัน ให้วงเงินสูงสุด 5 เท่าของรายได้ซึ่งค่อนข้างอนุมัติง่ายพอสมควร
สมัครบัตรเครดิต ยังไง ให้ผ่านสบาย ๆ สำหรับมือใหม่
เชื่อว่ามีหลายคน คงอยากรู้คำตอบว่า สมัครบัตรเครดิตไปแล้ว แต่ทำไม ยังไม่ผ่านการอนุมัติ หรือมือใหม่ ที่อยากสมัครบัตรเคริตให้ผ่าน วันนี้ เราจะมาเผยเคล็ดลับ สมัครบัตรเครดิต ยังไง ให้ผ่านสบาย ๆ สำหรับมือใหม่ ต้องรู้อะไรบ้าง มาเริ่มกันเลย
เคล็ดลับสมัครบัตรเครดิตให้ผ่าน ต้องทำอย่างไร
การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนสมัครบัตรเครดิตนั้น ก็ยังถือเป็นหลักสำคัญอันดับต้นอยู่เช่นเดิมอย่างแน่นอน วันนี้มาเช็กกันดูว่า มีคุณสมบัติข้อไหนบ้างที่เราต้องปรับปรุงเป็นการด่วน มาดูกัน
- ตรวจสอบเงื่อนไข
การสมัครบัตรเครดิต แต่ละธนาคารจะกำหนดเงื่อนไขการสมัครไว้อย่างชัดเจน ในเรื่องคุณสมบัติต่าง ๆ ของผู้สมัครบัตรเครดิต เช่น อายุผู้สมัคร อายุงาน ฐานเงินเดือนขั้นต่ำ เพราะเงื่อนไขเหล่านี้จะส่งต่อการพิจารณาของทางธนาคาร ที่จะดูว่าผู้สมัครนั้นมีความความสามารถในการจ่ายหรือไม่ เช่น หากเป็นพนักงานประจำมีเงินเดือนที่แน่นอน โอกาสที่จะได้รับ อนุมัติก็มากขึ้น เป็นต้น
- ดูประวัติเครดิตบูโร
ปัจจุบันมีบริการในการเช็กเครดิตบูโรได้ง่ายด้วยตัวเอง เพื่อให้เราได้ทราบถึงประวัติทางการเงินว่ามีหนี้ค้างอะไรบ้าง หรือมีประวัติทางการเงินเป็นอย่างไร จ่ายหนี้หมด จ่ายตรงเวลา หรืออาจมีหนี้เหลือ ค้างมีจำนวนไม่มากเท่าไหร่ การไม่มีประวัติติดเครดิตบูโรยิ่งดีมาก โดยสามารถเช็กประวัติทางการเงินของตัวเอง เพื่อให้ทราบถึงประวัติการเงินที่ผ่านมา จะช่วยประเมินความพร้อมในการสมัครบัตรเครดิตว่าได้ หรือไม่ เบื้องต้น
- เตรียมเอกสารสมัครให้ครบถ้วน
ข้อนี้สำคัญห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะเรื่องเอกสารการสมัครบัตรเครดิตนั้นต้องครบถ้วนสมบูรณ์ ควรตรวจสอบว่าธนาคารเจ้าของบัตรเครดิต ต้องการเอกสารอะไรบ้าง เช่น สำเนาบัตรประชาชน หนังสือรับรอง รายได้ สลิปเงินเดือน Statement และเอกสารอื่น ๆ ที่ธนาคารกำหนด โดยควรเตรียมเอกสารการ สมัครบัตร เครดิต ให้ครบถ้วน และถูกต้อง ข้อนี้จะเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติเร็วขึ้น และขอแนะนำเพิ่มเติมว่าควรรอบคอบในการกรอกข้อมูลการสมัครให้ครบถ้วน ชัดเจนด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะ เบอร์โทร อีเมล เพราะหากที่อยู่ผิด เจ้าหน้าที่ก็จะติดต่อไม่ได้ อาจทำให้ขั้นตอนการพิจารณาบัตรเครดิตล่าช้าออกไป หรืออาจถูกปฏิเสธการสมัครบัตรเครดิตได้
ทำไม สมัครบัตรเครดิตไม่ผ่าน
มีหลายคนยังไมทราบว่า ทำไม สมัครบัตรเครดิต ไม่ผ่าน สักที วันนี้เราจะมาเปิดเหตุผลสำคัญว่ามีอะไรบ้าง ทำไมสมัครบัตรเครดิตไม่ผ่านการอนุมัติจากธนาคาร เราจะพาไปเช็กเหตุผลต่าง ๆ ว่ามี อะไรบ้าง
- มีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์กำหนด
การมีรายได้ประจำตามเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด ถือเป็นคุณสมบัติหลักในการขอสินเชื่อทุกประเภทเลยก็ว่าได้ โดยทั่วไปส่วนใหญ่ควรมีรายได้ประจำต่อเดือน 15,000 บาทต่อเดือน หรือ 180,000 บาทต่อปี และควรมีแหล่งที่มาของรายได้ที่แน่นอน รับเงินผ่านช่องทางใด เช่น การรับเงินเดือนโดยผ่านช่องทาง การโอนเข้าบัญชีทุก ๆ เดือน ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงแหล่งที่มาได้อย่างชัดเจน
- ประกอบอาชีพที่มีรายได้ไม่แน่นอน
อาชีพของผู้สมัครจะแสดงให้เห็นถึงความมั่นคงของรายได้ เช่น ประกอบอาชีพอิสระ เป็นฟรีแลนซ์ อาชีพกลุ่มนี้มักมีรายได้ที่ไม่แน่นอน ซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงในเรื่องการชำระหนี้ในระยะยาว เพราะมีรายได้ในแต่ละวันที่มีรายรับอาจมากบ้าง หรือน้อยบ้างนั่นเอง
- มีประวัติการชำระหนี้ที่ไม่ดี
ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ธนาคารใช้ในการพิจารณาการอนุมัติสินเชื่อให้ผ่านหรือไม่ เพราะหากผู้ขอสินเชื่อมีประวัติการค้างชำระหนี้ในเครดิตบูโร หรือผิดนัดชำระหนี้กับสถาบันการเงินมาก่อน ก็อาจถูกปฎิเสธการขอสินเชื่อได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
สมัครบัตรเครดิต ไม่ผ่าน หรือเคย ยกเลิกบัตรเครดิต ต้องทำอย่างไร
หากเป็น 2 กรณีนี้ คือ เคยสมัครแล้วแต่ถูกปฏิเสธ หรือมีบัตรแล้วแต่เพิ่งยกเลิกไป เมื่อจะสมัครบัตรเครดิต อีกครั้ง ควรทำตามนี้
- สมัครบัตรเครดิตไปแล้ว แต่ไม่ผ่าน ต้องรออีก 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ทำการสมัครบัตรครั้งแรก
- สมัครบัตรเครดิต และอนุมัติเรียบร้อยแล้ว แต่ยกเลิก กรณีนี้ต้องรอถึง 6-12 เดือน
ไม่เคยมีประวัติ ทำบัตรเครดิต หรือขอสินเชื่อมาก่อน มีผลอย่างไรบ้าง
การที่ไม่เคยมีประวัติทำบัตรเครดิต หรือขอสินเขื่อมาก่อน ธนาคารอาจมองว่าการไม่มีประวัติ ข้อมูลทางการเงิน ย่อมไม่สามารถตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้สมัคร หรือผู้ขอสินเชื่อได้ ซึ่งยากต่อการ ติดตามหนี้ในอนาคต อาจถูกปฎิเสธการอนุมัติได้เช่นกัน
สำหรับการเตรียมตัวให้พร้อมก่อน สมัครบัตรเครดิต ก็ยังถือเป็นเคล็ดลับสำคัญสำหรับใครที่อยากมีบัตรเครดิตดี ๆ ติดตัวไว้สักใบ โดยเฉพาะมือใหม่ เราจึงขอแนะนำให้ทำการศึกษาข้อมูล และทำความเข้าใจในเงื่อนไขต่าง ๆ ของแต่ละธนาคารให้ดี เพื่อให้สามารถประเมินความพร้อม และสร้างโอกาสในการได้รับอนุมัติบัตรเครดิตได้ง่ายขึ้นนั่นเอง