วิธีการสมัครบัตร American Express 2025
บัตร American Express เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนไทยที่ต้องการความสะดวกสบายด้านการใช้จ่ายและสิทธิประโยชน์พิเศษต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนลด โปรโมชั่นพิเศษ หรือสิทธิพิเศษในการเดินทางต่างประเทศ สำหรับคนที่สนใจสมัครบัตร American Express ควรทราบขั้นตอนและเงื่อนไขที่จำเป็น เพื่อให้การสมัครดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและรวดเร็วที่สุด
เงื่อนไขสำคัญในการสมัครบัตร American Express
ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนการสมัคร เรามาทำความเข้าใจเงื่อนไขเบื้องต้นที่จำเป็นสำหรับการสมัครบัตร American Express ก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าคุณมีคุณสมบัติที่เหมาะสม
คุณสมบัติของผู้สมัคร
- ต้องมีอายุ 20 ปีขึ้นไป
- มีสัญชาติไทย หรือเป็นชาวต่างชาติที่มีใบอนุญาตทำงานถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทย
- มีรายได้ขั้นต่ำตามเงื่อนไขของแต่ละประเภทบัตรที่กำหนด โดยส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณ 50,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป
- มีที่อยู่อาศัยและที่ทำงานชัดเจนในประเทศไทย
เอกสารที่จำเป็นในการสมัคร
ในการสมัครบัตร American Express ผู้สมัครต้องเตรียมเอกสารสำคัญดังต่อไปนี้
- สำเนาบัตรประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทางและใบอนุญาตทำงาน (สำหรับชาวต่างชาติ)
- สำเนาทะเบียนบ้าน หรือสำเนาใบแจ้งค่าสาธารณูปโภค เช่น ค่าไฟฟ้า หรือค่าน้ำประปา เพื่อยืนยันที่อยู่
- สลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองรายได้ย้อนหลังไม่เกิน 2 เดือน
- สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 3-6 เดือนล่าสุด
ขั้นตอนการสมัครบัตร American Express
เมื่อเตรียมเอกสารและมั่นใจว่ามีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขแล้ว สามารถเข้าสู่ขั้นตอนการสมัครบัตร American Express ตามลำดับต่อไปนี้
1. เลือกประเภทบัตร American Express
American Express มีบัตรให้เลือกหลากหลายประเภท เช่น บัตรเครดิตแพลทินัม บัตรเครดิตโกลด์ หรือบัตรเครดิตสำหรับนักเดินทางโดยเฉพาะ เลือกบัตรที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตและไลฟ์สไตล์ของคุณมากที่สุด
2. กรอกแบบฟอร์มการสมัคร
หลังจากเลือกประเภทบัตรที่ต้องการแล้ว ผู้สมัครสามารถกรอกแบบฟอร์มสมัครผ่านช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์ของ American Express หรือไปยังเคาน์เตอร์ธนาคารที่เป็นพันธมิตรของ American Express เพื่อรับแบบฟอร์มและกรอกข้อมูลด้วยตนเอง
3. ยื่นเอกสารประกอบการสมัคร
เตรียมเอกสารทั้งหมดที่ระบุไว้ข้างต้น และนำส่งเอกสารพร้อมแบบฟอร์มสมัครที่กรอกข้อมูลครบถ้วน ไปยังศูนย์บริการของ American Express หรือส่งผ่านช่องทางที่ธนาคารพันธมิตรที่รับสมัคร
4. การตรวจสอบและอนุมัติ
หลังจากยื่นเอกสารแล้ว ทาง American Express จะดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติและความถูกต้องของเอกสาร ใช้เวลาประมาณ 5-14 วันทำการ โดยเจ้าหน้าที่อาจโทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมในบางกรณี
5. รับบัตรและเปิดใช้งาน
เมื่อผ่านการอนุมัติเรียบร้อยแล้ว American Express จะจัดส่งบัตรไปยังที่อยู่ที่แจ้งไว้ในแบบฟอร์มสมัคร ผู้สมัครจะต้องเปิดใช้งานบัตรผ่านช่องทางออนไลน์หรือโทรศัพท์เพื่อให้สามารถเริ่มต้นใช้งานได้ทันที
สมัครบัตร American Express Platinum
ข้อควรระวังในการสมัครบัตร American Express
ในการสมัครบัตรเครดิตทุกชนิด รวมถึงบัตร American Express คุณควรทราบข้อควรระวังดังนี้
- ควรตรวจสอบข้อมูลที่กรอกลงไปในแบบฟอร์มสมัครอย่างละเอียด เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดและลดโอกาสในการถูกปฏิเสธ
- ไม่ควรสมัครหลายบัตรในเวลาเดียวกัน เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อเครดิตและการอนุมัติ
- ศึกษาข้อกำหนดและเงื่อนไขของบัตรอย่างละเอียดเพื่อทราบค่าธรรมเนียมต่างๆ และสิทธิประโยชน์ที่ได้รับ
ทำไมควรเลือกสมัครบัตร American Express?
บัตร American Express มีจุดเด่นที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นบริการที่ดีเยี่ยม สิทธิพิเศษในการเข้าถึงห้องรับรองที่สนามบิน โปรโมชั่นพิเศษจากร้านอาหารและโรงแรมทั่วโลก และระบบสะสมคะแนนที่สามารถนำไปแลกของรางวัลที่น่าสนใจ เหมาะสำหรับผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ทันสมัยและชอบเดินทางหรือช้อปปิ้งออนไลน์เป็นประจำ
ด้วยการเตรียมตัวที่ดี ทำความเข้าใจเงื่อนไขอย่างละเอียด และดำเนินการตามขั้นตอนที่แนะนำไว้ จะทำให้คุณสามารถเป็นเจ้าของบัตร American Express ได้อย่างง่ายดายและได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้งานบัตรนี้
รัฐบาลแจงจ่ายเงิน ดิจิทัล 10000 เฟส 4 เป็นเฟสๆ
ต่างคนต่างรอสำหรับมาตรการแจกเงินดิจิทัลเฟส 4 จากทางรัฐบาล ซึ่งคนกลุ่มนี้ที่มีอายุตั้งแต่ 21-59 ปี กำลังรออย่างใจจดใจจ่อ ว่าจะได้รับเงินวันไหน ทางกระทรวงการคลังได้ออกมาแจ้งแล้ว ว่าจะได้รับเงินแน่นอน และ ย้ำด้วยว่ามีเงินงบประมาณเพียงพอ สำหรับการจ่ายเงินดิจิทัลครั้งนี้ สำหรับคนที่ลงทะเบียนทางรัฐ รอรัฐจ่ายเป็นเฟสๆ
คนลงทะเบียนทางรัฐ ที่ผ่านเกณฑ์คัดกรองที่มีคุณสมบัติเงินหมื่นเฟส 4 รอรัฐบาลจ่ายเป็นเฟสๆไป ตามความเหมาะสม สำหรับเงื่อนไขที่รัฐบาลไทยกำหนดออกมานั้น ก็เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2568 โครงการเติมเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ทางด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ออกมายืนยันว่ากลุ่มอายุ 21 ปี ที่เคยลงทะเบียนในแอปทางรัฐ จะได้รับเงินหมื่นเฟส 4 แน่นอน สำหรับกลุ่ม 16-20 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่น, นักเรียน และ นักศึกษา ที่เคยลงทะเบียนทางรัฐเรียบร้อยไปก่อนหน้านี้ จะมีการแบ่งจ่ายเป็นกลุ่มๆ ไปความเหมาะสมตามที่รัฐบาลได้กำหนดออกมาก่อนหน้านี้
แจกเงินดิจิทัล สำหรับคนไม่มีมือถือ ลงทะเบียนได้ที่ไหน
เงินดิจิทัล 10,000 บาทคนไม่มีมือถือ ลงทะเบียนได้ที่ไหน ทางรัฐบาลเตรียมเปิดให้คนไม่มีสมาร์ตโฟนลงทะเบียนผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 4 แห่ง ตามรายละเอียดด้านล่าง
- ธนาคารอาคารสงเคราะห์
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธ.ก.ส.
- ธนาคารออมสิน
- ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
- องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น อปท.
- ไปรษณีย์ไทย
บริการ American Express Travel เอกสิทธิ์เหนือระดับ
สายเที่ยวต้องไม่พลาด ที่จะเป็นเจ้าของบัตร American Express หรือ บัตร AMEX ซึ่งเป็นบัตรเดียวในประเทศไทยที่คุณจะได้รับเอกสิทธิ์เหนือระดับ สำหรับการท่องเที่ยวต่างประเทศ ในรูปแบบพรีเมี่ยมขั้นสุด ที่บัตรเครดิตอื่นๆในประเทศไทยไม่สามารถทำได้ ยกตัวอย่างการบริการของบัตร American Express ที่ใช้ชื่อว่า American Express Travel ที่สามารถมอบบริการจองเที่ยวบิน, โรงแรม, แพ็กเกจท่องเที่ยว รวมไปถึงการเช่ารถทั่วโลก เฉพาะลูกค้าที่ถือ บัตร AMEX เท่านั้น ที่จะสามารถใช้สิทธิประโยชน์นี้ได้
American Express Travel คืออะไร?
American Express Travel เป็นบริการด้านการท่องเที่ยวของบริษัทบัตรเครดิต American Express (Amex) ซึ่งให้บริการจองเที่ยวบิน โรงแรม แพ็กเกจท่องเที่ยว เรือสำราญ รวมไปถึงบริการเช่ารถทั่วโลก โดยลูกค้าที่ถือบัตร American Express สามารถใช้งานแพลตฟอร์มนี้เพื่อรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม เช่น:
บริการหลักของ American Express Travel
- จองตั๋วเครื่องบิน: ค้นหาและจองตั๋วเครื่องบิน พร้อมรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจากสายการบินพันธมิตร เช่น ส่วนลด หรืออัปเกรดที่นั่ง
- จองโรงแรม: มีโรงแรมพันธมิตรทั่วโลก โดยเฉพาะโรงแรมระดับพรีเมียม ผ่านโปรแกรม เช่น The Hotel Collection และ Fine Hotels + Resorts (FHR) พร้อมสิทธิพิเศษ เช่น อัปเกรดห้องพัก อาหารเช้าฟรี เช็คอินก่อนเวลา เช็คเอาต์ช้ากว่าปกติ และเครดิตโรงแรม
- แพ็กเกจท่องเที่ยว: บริการจัดแพ็กเกจเที่ยวบินและที่พักในราคาพิเศษ
- เรือสำราญ: จองเรือสำราญ พร้อมรับสิทธิประโยชน์พิเศษบนเรือ เช่น เครดิตบนเรือ
- บริการเช่ารถ: จองรถเช่าจากบริษัทชั้นนำ
- ที่ปรึกษาการเดินทาง (Travel Consultant): มีที่ปรึกษาท่องเที่ยวคอยช่วยวางแผนทริป ให้คำแนะนำ และดูแลลูกค้าตลอดการเดินทาง
ข้อดีและสิทธิประโยชน์พิเศษ
- สะสมคะแนนสะสม Membership Rewards เพิ่มเติมเมื่อจองผ่าน American Express Travel
- ใช้คะแนนสะสมเพื่อจองบริการเดินทางต่างๆ
- สิทธิพิเศษด้านความสะดวกสบาย เช่น บริการห้องรับรองในสนามบิน (Lounge Access)
- สิทธิประโยชน์ด้านการปกป้องการเดินทาง เช่น ประกันการเดินทาง (ขึ้นอยู่กับประเภทบัตร)
- โปรโมชั่นและดีลพิเศษสำหรับผู้ถือบัตร American Express โดยเฉพาะ
บริการนี้เหมาะสำหรับผู้ถือบัตร Amex ที่ชื่นชอบความสะดวกสบาย และต้องการได้รับประสบการณพิเศษในการเดินทางระดับพรีเมียม
สมัครบัตร American Express Platinum
เทคนิคพิเศษ สะสมคะแนนบัตร AMEX คุ้มๆในปี 2025
ในยุคที่บัตรเครดิตไม่ได้มีไว้แค่เพื่อความสะดวกในการใช้จ่าย แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคอัญในการสะสมคะแนนเพื่อแลกรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ อีกด้วย โดยเฉพาะบัตรเครดิต American Express หรือ AMEX ที่ขึ้นชื่อเรื่องระบบคะแนนที่ให้สิทธิประโยชน์เหนือระดับ วันนี้เราจะมาเปิดเทคนิคการสะสมคะแนน American Express ที่จะช่วยให้คุณสะสมคะแนนได้เร็วและคุ้มค่ายิ่งกว่าเดิมในปี 2025
เปิด 5 เทคนิคในการสะสมคะแนนบัตร American Express ในปี 2025
เทคนิคที่ 1: เลือกบัตร AMEX ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์
สิ่งสำคัญที่สุดในการสะสมคะแนน AMEX คือการเลือกบัตรให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของคุณเอง เพราะแต่ละบัตรของ AMEX นั้นมีระบบคะแนนและโบนัสที่แตกต่างกันออกไป
บัตร American Express Platinum
เหมาะกับผู้ที่ชอบเดินทางเป็นประจำ เพราะให้คะแนนสะสมสูงพิเศษเมื่อใช้จ่ายด้านการเดินทาง โรงแรม และสายการบิน รวมถึงยังให้สิทธิในการเข้าห้องรับรองสนามบิน (Airport Lounge) อีกด้วย
บัตร American Express Gold
เหมาะกับสายช้อปปิ้งและร้านอาหาร เพราะมอบคะแนนสะสมพิเศษสำหรับการใช้จ่ายในหมวดดังกล่าว ทำให้คุณสามารถสะสมคะแนนได้รวดเร็ว
เคล็ดลับ: วิเคราะห์ไลฟ์สไตล์ของคุณก่อนสมัครบัตร AMEX เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าในการสะสมคะแนนอย่างสูงสุด
เทคนิคที่ 2: ใช้โปรโมชั่นและโบนัสคะแนนให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ในปี 2025 American Express มีโปรโมชั่นพิเศษที่มอบโบนัสคะแนนเพิ่มเติมในหลายช่วงเทศกาลหรือกิจกรรมพิเศษ ซึ่งนี่คือโอกาสทองของคุณในการสะสมคะแนนอย่างรวดเร็ว
โปรโมชั่นตามช่วงเวลา
บัตร AMEX มักมีช่วงโปรโมชัน เช่น การใช้จ่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่ หรือช่วงช้อปปิ้งออนไลน์ขนาดใหญ่ ซึ่งจะมอบคะแนนสะสมพิเศษหลายเท่าตัว
โปรโมชั่นร้านค้าพันธมิตร
การใช้จ่ายกับร้านค้าที่เป็นพันธมิตรของ American Express เช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารชื่อดัง หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ มักจะให้คะแนนสะสมเพิ่มเติม ซึ่งช่วยให้คุณสามารถสะสมคะแนนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
เทคนิคที่ 3: วางแผนการใช้จ่ายอย่างมีระบบ
การวางแผนการใช้จ่ายอย่างรอบคอบ จะช่วยให้คุณสามารถสะสมคะแนน AMEX ได้คุ้มค่ามากขึ้น
ใช้บัตร AMEX สำหรับค่าใช้จ่ายประจำ
นำค่าใช้จ่ายประจำวันหรือค่าใช้จ่ายรายเดือน เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ และอินเทอร์เน็ต มาชำระผ่านบัตร American Express เพื่อสะสมคะแนนอย่างต่อเนื่อง
ใช้ AMEX จ่ายค่าใช้จ่ายรายใหญ่
เมื่อมีค่าใช้จ่ายใหญ่ เช่น การจองโรงแรม จองตั๋วเครื่องบิน หรือการซื้อสินค้าไอทีราคาแพง ควรเลือกใช้บัตร AMEX เพื่อรับคะแนนสะสมสูงสุดจากการใช้จ่ายดังกล่าว
เทคนิคที่ 4: ใช้คะแนนสะสม AMEX อย่างชาญฉลาด
สะสมคะแนนได้เยอะแล้ว การแลกคะแนนอย่างชาญฉลาดก็สำคัญไม่แพ้กัน
แลกคะแนนเป็นไมล์สะสม
การแลกคะแนน AMEX เป็นไมล์สะสมของสายการบินชั้นนำถือเป็นวิธีที่คุ้มที่สุดสำหรับผู้ที่เดินทางบ่อย โดยเฉพาะการเดินทางในชั้นธุรกิจหรือชั้นหนึ่ง
แลกคะแนนเป็น Voucher หรือ Gift Card
หากคุณชอบช้อปปิ้งหรือใช้บริการร้านอาหาร สามารถแลกคะแนน AMEX เป็น Voucher หรือ Gift Card ซึ่งช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายได้ทันที
เทคนิคที่ 5: รักษาเครดิตดีเพื่อรับสิทธิประโยชน์ต่อเนื่อง
การรักษาเครดิตที่ดี นอกจากจะช่วยให้คุณได้รับวงเงินสูงขึ้น ยังช่วยให้คุณได้รับโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์พิเศษเพิ่มเติมจาก AMEX
จ่ายชำระตรงเวลา
การชำระยอดค้างชำระตรงเวลาทุกครั้ง ไม่เพียงแต่ช่วยรักษาเครดิตของคุณ แต่ยังอาจได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษ เช่น คะแนนสะสมเพิ่มเติมในฐานะลูกค้าชั้นดี
สมัครบัตร American Express Platinum
ติดตามโปรแกรมพิเศษจาก AMEX
American Express มีโปรแกรมพิเศษสำหรับสมาชิกที่มีประวัติการใช้จ่ายดี ซึ่งจะมอบคะแนนสะสมโบนัสเพิ่มเติมเป็นการตอบแทนสมาชิกที่มีความภักดี
การสะสมคะแนน American Express ปี 2025
การสะสมคะแนนบัตร American Express ในปี 2025 นั้นไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณรู้จักเลือกบัตรที่เหมาะกับตัวเอง ใช้โปรโมชั่นให้คุ้มค่า และวางแผนการใช้จ่ายอย่างเป็นระบบ อย่าลืมแลกคะแนนที่ได้มาอย่างชาญฉลาดเพื่อรับสิทธิประโยชน์สูงสุด ด้วยเทคนิคทั้งหมดนี้ จะช่วยให้คุณใช้บัตร AMEX ได้คุ้มค่า และรับผลตอบแทนที่มากกว่าเดิมอย่างแน่นอน
5 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับบัตร AMEX ที่คุณควรรู้
บัตร American Express หรือที่นิยมเรียกสั้นๆ ว่าบัตร AMEX เป็นหนึ่งในบัตรเครดิตระดับพรีเมียมที่ได้รับความนิยมอย่างสูงทั่วโลก แต่ในประเทศไทยกลับยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับบัตรชนิดนี้หลายอย่าง ซึ่งอาจทำให้ผู้ที่สนใจเสียโอกาสในการได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่คุ้มค่าและโดดเด่นจากบัตร AMEX ดังนั้นวันนี้เราจะพามาไขความเข้าใจผิดยอดฮิตทั้ง 5 ข้อที่ควรรู้
สมัครบัตร American Express Platinum
1. บัตร American Express ใช้ได้ในต่างประเทศเท่านั้น
หนึ่งในความเข้าใจผิดที่คนไทยจำนวนมากยังเชื่อกันคือ บัตร AMEX ใช้ได้เฉพาะในต่างประเทศ หรือร้านค้าต่างประเทศเท่านั้น ซึ่งไม่จริงเลย ปัจจุบันร้านค้าและห้างสรรพสินค้าชั้นนำในประเทศไทยหลายแห่ง รองรับการใช้บัตร American Express รวมถึงโรงแรม ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มากขึ้นอย่างต่อเนคื่องทุกปี
คำแนะนำ: ก่อนใช้งานสามารถสังเกตเครื่องหมาย American Express หรือสอบถามร้านค้าโดยตรงก่อนชำระเงินเพื่อความมั่นใจ
2. บัตร American Express มีค่าธรรมเนียมสูงเกินไป
อีกหนึ่งความเข้าใจผิดที่พบบ่อย คือ หลายคนเชื่อว่าบัตร AMEX มีค่าธรรมเนียมรายปีแพงเกินความจำเป็น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ค่าธรรมเนียมรายปีที่จ่ายนั้นมักแลกมาด้วยสิทธิประโยชน์พิเศษที่คุ้มค่ากว่า ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดในการช้อปปิ้ง สะสมคะแนนแลกของรางวัล หรือแม้กระทั่งสิทธิพิเศษในการเดินทาง เช่น สิทธิการเข้าเลานจ์ที่สนามบิน เป็นต้น
คำแนะนำ: ควรเปรียบเทียบสิทธิประโยชน์ที่ได้รับกับค่าธรรมเนียมรายปี เพื่อให้มั่นใจว่าบัตรที่เลือกใช้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ
3. บัตร American Express สมัครยาก อนุมัติช้า
ผู้สมัครบัตรเครดิตหลายคนมักกังวลว่าการสมัครบัตร AMEX จะยุ่งยาก หรือมีขั้นตอนที่ซับซ้อน ซึ่งไม่ใช่เรื่องจริง เนื่องจากกระบวนการสมัครบัตร American Express ในปัจจุบันสามารถทำออนไลน์ได้ง่ายและสะดวกรวดเร็วกว่าเดิมมาก เพียงมีเอกสารครบและคุณสมบัติตรงตามที่กำหนด การอนุมัติบัตรก็สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว
คำแนะนำ: เตรียมเอกสารที่จำเป็นให้พร้อม เช่น สลิปเงินเดือน หรือรายการเดินบัญชีธนาคารย้อนหลัง เพื่อเพิ่มโอกาสในการอนุมัติบัตรได้เร็วขึ้น
4. บัตร American Express ใช้สะสมคะแนนยาก ไม่คุ้ม
หลายคนเข้าใจผิดว่าการสะสมคะแนนจากบัตร American Express นั้นยากและไม่คุ้มค่า แต่ในความจริงแล้ว ระบบสะสมคะแนนของ AMEX ถือเป็นหนึ่งในระบบสะสมคะแนนที่ดีที่สุดในโลก และในประเทศไทยคะแนนสะสมที่ได้ยังสามารถแลกเป็นของรางวัล ตั๋วเครื่องบิน หรือส่วนลดร้านอาหารชื่อดังมากมายได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว
คำแนะนำ: ตรวจสอบเงื่อนไขการสะสมคะแนนของแต่ละบัตร AMEX ก่อนสมัคร เพื่อเลือกบัตรที่เหมาะสมกับการใช้จ่ายของคุณ
5. บัตร American Express ไม่ปลอดภัย
หลายคนมักจะเข้าใจผิดว่าบัตรเครดิตจากต่างประเทศอย่าง AMEX มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในการใช้งาน แต่ความจริงคือ American Express มีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือนธุรกรรมผ่าน SMS หรือแอปพลิเคชั่น รวมถึงการดูแลข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าอย่างเคร่งครัด ทำให้มั่นใจได้ว่าทุกการใช้จ่ายของคุณปลอดภัยแน่นอน
สมัครบัตร American Express Platinum
คำแนะนำ: ลงทะเบียนการแจ้งเตือนการใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่นของ American Express เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกในการติดตามการใช้จ่าย
บัตร American Express เป็นบัตรเครดิตที่มาพร้อมกับสิทธิประโยชน์ที่หลากหลาย ซึ่งมักถูกมองข้ามหรือเข้าใจผิดไปโดยคนไทยหลายคน หากคุณมีไลฟ์สไตล์ที่ชื่นชอบการเดินทาง ช้อปปิ้ง และต้องการสิทธิประโยชน์พิเศษต่างๆ ที่คุ้มค่า การเปิดใจให้บัตร American Express อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
หากยังลังเล ควรศึกษาข้อมูลบัตรแต่ละประเภทอย่างละเอียดเพื่อให้คุณได้รับสิทธิประโยชน์ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์มากที่สุด และที่สำคัญ อย่าลืมอ่านเงื่อนไขและรายละเอียดต่างๆ อย่างครบถ้วน เพื่อให้การใช้งานบัตร AMEX เป็นไปอย่างคุ้มค่าและตอบโจทย์ชีวิตคุณมากที่สุด
เปิดตัวคุณสมบัติใหม่ ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568
เตรียมตัวลงทะเบียน สำหรับคนที่ได้รับสิทธิลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่จะเปิดให้ลงทะเบียนสำหรับปี 2568 สามารถใช้จ่ายอะไรได้บ้าน ได้รับเงินช่วยเหลือจำนวน 1,545 บาท สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ด้านล่าง
เปิดเผยความคืบหน้าลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน 2568 สำหรับกลุ่มที่มีรายได้น้อย และ กลุ่มเปราะบาง สามารถลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่เนื่องจากตอนนี้จะครบ 2 ปี จากการลงทะเบียนรอบล่าสุดที่เกิดขึ้นในปี 2565 ทางด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ออกมาเปิดเผยว่าตอนนี้ ยังไม่สามารถกำหนดวันที่จะใช้ใช้การลงทะเบียนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 ได้ จากเดิมคิดว่าจะเปิดให้ลงทะเบียนภายในเดือนมีนาคม 2568 นี้ แต่ติดตรงที่การพิจารณาหลักเกณฑ์ในการใช้ชีวิต วัดความยากจน รวมไปถึงปัจจุบันมีการกำหนดเกณฑ์รายได้ทั้งปีไม่เกิน 100,000 บาท หรือไม่เกินวันละ 274 บาท ทางด้านกระทรวงการคลังแจ้งว่ากำลังพิจารณาว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเกณฑ์นี้หรือไม่ เพื่อให้การช่วยเหลือมีความเหมาะสม และ ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
ใครได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 บ้าง
- กลุ่มเดิม คือกลุ่มที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน ปัจจุบันมีจำนวนทั้งหมด 14.5 ล้านคน ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ ทางกระทรวงการคลังจะนำรายชื่อไปคัดกรองโดยอัตโนมัติ
- กลุ่มใหม่ คือกลุ่มคนที่ไม่เคยได้รับสิทธิมาก่อนเลย คาดว่าจะมีตัวเลขมากถึง 10 ล้านคน จากประชาชนที่เพิ่งอายุครบ 18 ปี คาดว่าจะมีการเปิดให้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่นทางรัฐ สำหรับผู้ที่ไม่เคยได้รับสิทธิมาก่อน และเข้าเกณฑ์คุณสมบัติ รวมถึงกลุ่มตกหล่นในปี 2565 แล้วยังไม่มีการยนยันตัวตน
คุณสมบัติลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568
- ลงทะเบียนรายบุคคล และ ทำการตรวจสอบคุณสมบัติ เป็นรายบุคคลและครอบครัว
- ต้องเป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทย
- อายุครบ 18 ปี บริบูรณ์ขึ้นไป
- มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี
- ครอบครัวมีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปีเช่นเดียวกัน
- ไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือ ที่ดินที่เกินเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด
- ไม่มีบัตรเครดิต
- ไม่มีวงเงินกู้ซื้อบ้านตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป
- วงเงินกู้ซื้อรถตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป
- ต้องไม่เป็นพระภิกษุ สามเณร ผู้ต้องขัง หรือ บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ ข้าราชการ พนักงานราชการ ผู้รับบำเหน็จ ผู้รับบำนาญ ข้าราชการ การเมือง รวมไปถึง สส. และ สว.
สำหรับเงินช่วยเหลือ 1,545 บาท แบ่งออกเป็นอะไรบ้าง สามารถดูรายละเอียดได้ด้านล่าง
- มาตรการช่วยค่าน้ำประปา 100 บาท ต่อครัวเรือนต่อเดือน
- มาตรการช่วยค่าไฟฟ้า 315 บาท ต่อครัวเรือนต่อเดือน
- ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 80 บาท ต่อคนต่อ 3 เดือน
- ค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาท ต่อคนต่อเดือน
- ค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 300 บาท ต่อคนต่อเดือน
ขั้นตอนการต่อใบขับขี่ออนไลน์ ปีล่าสุด ทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน
ปัจจุบันการต่อใบขับขี่ออนไลน์เป็นทางเลือกที่สะดวกและรวดเร็ว โดยกรมการขนส่งทางบกได้พัฒนาระบบการอบรมออนไลน์ขึ้นมาเพื่อให้ประชาชนสามารถจัดการได้เองง่ายๆ จากที่บ้าน ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับยุคดิจิทัล
ข้อดีของการต่อใบขับขี่ออนไลน์
- ประหยัดเวลา ไม่ต้องเดินทางไปยังสำนักงานขนส่ง
- สามารถทำได้ทุกที่ ทุกเวลา เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต
- ระบบเข้าใจง่าย ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก
คุณสมบัติผู้มีสิทธิ์ต่อใบขับขี่ออนไลน์
ก่อนเริ่มดำเนินการอบรมออนไลน์ ควรตรวจสอบว่าคุณมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด ดังนี้:
- เป็นผู้ที่ต้องการต่ออายุใบขับขี่รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์
- ใบขับขี่เดิมต้องยังไม่หมดอายุเกิน 1 ปี
- ไม่มีประวัติใบขับขี่ถูกระงับหรือเพิกถอน
ขั้นตอนการอบรมใบขับขี่ออนไลน์
1. เตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็น
- คอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน
- อินเทอร์เน็ตที่เสถียร
- บัตรประชาชนตัวจริง
2. เข้าสู่ระบบอบรมออนไลน์
- เข้าเว็บไซต์ กรมการขนส่งทางบก e-Learning
- ลงทะเบียนหรือเข้าสู่ระบบให้เรียบร้อย
3. เข้ารับการอบรม
- เลือกหลักสูตรอบรมต่ออายุใบขับขี่
- เริ่มการอบรมตามที่ระบบแนะนำ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
4. ทำแบบทดสอบ
- หลังจากการอบรม จะต้องทำแบบทดสอบความรู้
- ต้องผ่านแบบทดสอบด้วยคะแนนอย่างน้อย 80%
5. บันทึกผลและนำไปต่อใบขับขี่
- บันทึกผลการอบรมออนไลน์ โดยการแคปหน้าจอหรือดาวน์โหลดเอกสาร
- นำหลักฐานผลการอบรมไปติดต่อสำนักงานขนส่ง เพื่อถ่ายรูปและรับใบขับขี่ใหม่
ข้อควรรู้ในการอบรมออนไลน์
- การอบรมออนไลน์มีอายุ 90 วัน หลังจากวันที่ผ่านการทดสอบ
- หากสอบไม่ผ่าน สามารถทำการสอบใหม่ได้ทันที
- แนะนำให้จัดเตรียมเอกสารและอุปกรณ์ให้พร้อมก่อนเริ่มดำเนินการ
การต่อใบขับขี่ออนไลน์นั้นเป็นวิธีที่ช่วยลดขั้นตอน ลดเวลา และเหมาะกับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ อย่าลืมเช็กคุณสมบัติและเตรียมเอกสารให้ครบเพื่อให้การต่อใบขับขี่เป็นเรื่องง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้เอง
ซื้อของออนไลน์ด้วยบัตรเครดิต ต้องระวังอะไรบ้าง
ปัจจุบันการสั่งซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์เป็นอะไรที่สะดวกสบายมากๆ คนไทยหลายคนเลือกที่จะสั่งซื้อของผ่านทางออนไลน์ด้วยบัตรเครดิต หรือ บัตรเดบิตที่มีอยู่ในมือ โดยไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยในการใช้บัตรเครดิต หรือ บัตรเดบิตดังกล่าว วันนี้เรามาเช็คกันถึงความปลอดภัย และ ข้อควรระวังที่ต้องหมั่นตรวจสอบหากคุณเป็นคนที่ชอบทำธุรกรรมผ่านทางออนไลน์ด้วยบัตรเครดิต ต้องอ่านข้อควรระวังเหล่านี้ไว้ให้ดีเลย
8 ข้อที่ต้องเช็ค เมื่อใช้บัตรเครดิตสั่งซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์
1. เลือกเว็บไซต์ที่มีระบบความปลอดภัย
ก่อนใช้บัตรเครดิตซื้อสินค้าออนไลน์ทุกครั้ง ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ที่เข้าใช้งานมีการเข้ารหัสข้อมูล SSL หรือมีสัญลักษณ์รูปกุญแจที่ URL เพื่อป้องกันข้อมูลส่วนตัวรั่วไหล
2. หลีกเลี่ยง Wi-Fi สาธารณะในการชำระเงิน
ควรหลีกเลี่ยงการกรอกข้อมูลบัตรเครดิตผ่าน Wi-Fi สาธารณะ เนื่องจากอาจถูกดักจับข้อมูลได้ง่าย ให้ใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตส่วนตัวแทน
3. ตรวจสอบรายละเอียดร้านค้าก่อนชำระเงิน
ควรอ่านรีวิวร้านค้า และเช็กข้อมูลการติดต่อ เช่น เบอร์โทรศัพท์ อีเมล หรือที่ตั้งจริงของร้านค้า เพื่อยืนยันความน่าเชื่อถือของผู้ขาย
4. อย่าบันทึกข้อมูลบัตรเครดิตไว้บนเว็บไซต์
หลีกเลี่ยงการให้ระบบบันทึกข้อมูลบัตรเครดิตบนเว็บไซต์ที่ใช้งานบ่อย เพื่อป้องกันการถูกแฮกข้อมูลจากผู้ไม่หวังดี
5. ใช้บัตรเครดิตเสมือนจริง (Virtual Card)
บัตรเครดิตเสมือนจริงช่วยให้คุณจำกัดวงเงินและลดความเสี่ยงในการถูกนำข้อมูลไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะสามารถกำหนดวงเงินใช้จ่ายได้ชัดเจน
6. เปิดใช้งานระบบแจ้งเตือนการใช้งานบัตร
การตั้งค่าระบบแจ้งเตือนทุกครั้งที่มีการใช้งานบัตรเครดิต จะช่วยให้ทราบได้ทันทีเมื่อเกิดการใช้งานที่ผิดปกติ และสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
7. ระมัดระวัง Phishing และลิงก์แปลกปลอม
หลีกเลี่ยงการคลิกลิงก์หรือเปิดอีเมลที่ไม่รู้จัก ที่อาจแอบอ้างว่ามาจากสถาบันการเงินหรือเว็บไซต์ยอดนิยม เพื่อหลอกเอาข้อมูลบัตรเครดิต
8. หมั่นตรวจสอบรายการใช้จ่ายอย่างสม่ำเสมอ
การเช็กใบแจ้งยอดค่าใช้จ่ายบัตรเครดิตทุกเดือน หรือการดูรายการใช้จ่ายออนไลน์เป็นประจำ ช่วยให้สามารถตรวจจับธุรกรรมแปลกปลอมได้ทันเวลา และป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
อัพเดทวันหยุดยาว วันสงกรานต์ 2568 ได้ที่นี่
เปิดปฎิทินวันสงกรานต์ 2568 ในเดือนเมษายน 2568 พร้อมกับวันหยุดยาวในช่วงวันสงกรานต์ปีนี้ เพื่อที่จะสามารถวางแผนท่องเที่ยว ไปต่างจังหวัด หรือ ต่างประเทศกัน มาพร้อมกับคำแนะนำสำหรับใครที่อยากจะลายาวๆ มีวันลาหยุดแนะนำในช่วงวันสงกรานต์ด้วยจะได้ไปเที่ยวให้ฉ่ำเต็มปอดกันไปเลย
วันสงกรานต์ 2568 ตรงกับวันที่เท่าไหร่
สำหรับวันสงกรานต์ 2568 นั้นจะตรงกับวันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน 2568 ทำให้วันสงกรานต์ของประเทศไทยเรานั้นจะเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน ไปจนถึงวันที่ 16 เมษายน 2568 นั่นเอง
วันสงกรานต์ 2568 มีวันไหนวันไหนบ้าง?
สำหรับวันสงกรานต์ประจำปี 2568 นั่นที่แจ้งไปก่อนหน้าก็คือจะหยุดตั้งแต่วันที่ 13 ถึง วันที่ 16 เมษายน 2568 วันที่ 13 เป็นวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันหยุดอยู่แล้ว สำหรับวันอื่นๆจะเป็นวันหยุดราชการ ซึ่งจะมี 3 วันด้วยกันตามรายละเอียดด้านล่าง
- วันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน 2568 (วันผู้สูงอายุ)
- วันจันทร์ที่ 14 เมษายน 2568 (วันครอบครัว)
- วันอังคารที่ 15 เมษายน 2568 (วันเถลิงศก)
- วันพุธที่ 16 เมษายน 2568 (วันชดเชยวันสงกรานต์)
แนะนำใครอยากหยุดยาว ให้ลาเพิ่มในเดือนเมษายน 2568
สำหรับใครที่อยากจะหยุดยาวๆในเดือนเมษายน 2568 ช่วงวันสงกรานต์นั้น แนะนำให้ลาหยุดเพิ่มในวันที่ 17 และ 18 เมษายน 2568 หากลาหยุดวันดังกล่าว เท่ากับคุณจะได้หยุดแบบยาวมาก ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน ไปจนถึงวันที่ 20 เมษายน 2568 เท่ากับว่าจะได้หยุดยาวถึง 9 วันเลยทีเดียว
หยุดยาว 9 วันในเดือนเมษายน 2568 ทำยังไง
- วันอาทิตย์ที่ 13 เมษายน 2568 (วันผู้สูงอายุ)
- วันจันทร์ที่ 14 เมษายน 2568 (วันครอบครัว)
- วันอังคารที่ 15 เมษายน 2568 (วันเถลิงศก)
- วันพุธที่ 16 เมษายน 2568 (วันชดเชยวันสงกรานต์)
- วันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน 2568 (ลาหยุด)
- วันศุกร์ที่ 18 เมษายน 2568 (ลาหยุด)
- วันเสาร์ที่ 20 เมษายน 2568 (วันหยุด)
- วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2568 (วันหยุด)
9 ข้อดีของการใช้บัตรเครดิตที่หลายคนอาจไม่เคยรู้
ทำยังไงให้บัตรเครดิตเป็นเครื่องมือทางการเงินที่คุ้มค่า?
บัตรเครดิตไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องมือในการใช้จ่าย แต่ยังเป็นตัวช่วยทางการเงินที่มีประโยชน์มากมาย หากใช้อย่างถูกต้อง คุณสามารถได้รับสิทธิประโยชน์ที่ช่วยประหยัดเงินและเพิ่มความสะดวกสบายให้กับชีวิตได้ มาดูกันว่าข้อดีของการใช้บัตรเครดิตมีอะไรบ้าง
1. สะดวกและปลอดภัยในการใช้จ่าย
ไม่ต้องพกเงินสด
บัตรเครดิตช่วยให้คุณไม่ต้องพกเงินสดติดตัวมาก ลดความเสี่ยงจากการสูญหายหรือถูกขโมย นอกจากนี้ การใช้บัตรเครดิตยังสามารถช่วยให้คุณทำธุรกรรมออนไลน์ได้ง่ายขึ้น
ระบบป้องกันการฉ้อโกง
ผู้ให้บริการบัตรเครดิตส่วนใหญ่มักมีระบบตรวจสอบการใช้จ่ายที่ผิดปกติ และมีมาตรการคุ้มครองผู้ถือบัตรจากการถูกโจรกรรมข้อมูล
2. ได้รับเครดิตเงินคืน (Cashback)
บัตรเครดิตบางประเภทมีโปรแกรม Cashback ที่ให้เงินคืนเมื่อใช้จ่ายในหมวดหมู่ที่กำหนด เช่น ร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน หรือซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งช่วยให้คุณประหยัดเงินจากการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
3. สะสมคะแนนแลกของรางวัล
ทุกครั้งที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต คุณสามารถสะสมคะแนนและนำไปแลกเป็นของรางวัล เช่น ตั๋วเครื่องบิน ส่วนลดช้อปปิ้ง หรือบริการพิเศษจากโรงแรมและร้านอาหาร
4. ผ่อนชำระสินค้า 0%
ซื้อของแพงได้ง่ายขึ้น
บางบัตรเครดิตมีโปรโมชั่นให้คุณสามารถ ผ่อน 0% ได้ในระยะเวลาที่กำหนด เช่น 3 เดือน 6 เดือน หรือ 12 เดือน ซึ่งช่วยให้คุณสามารถซื้อสินค้าราคาแพงได้โดยไม่ต้องจ่ายเต็มจำนวนทันที
5. ส่วนลดและโปรโมชั่นพิเศษ
บัตรเครดิตมักมาพร้อมกับสิทธิพิเศษ เช่น ส่วนลดร้านอาหาร โรงแรม หรือร้านค้าออนไลน์ที่ร่วมรายการ ซึ่งช่วยให้คุณสามารถประหยัดเงินได้มากขึ้นเมื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
6. ใช้จ่ายได้ทั่วโลก
เดินทางต่างประเทศสะดวกขึ้น
หากคุณเดินทางไปต่างประเทศ บัตรเครดิตช่วยให้การใช้จ่ายง่ายขึ้น ไม่ต้องแลกเงินสดให้ยุ่งยาก อีกทั้งยังมีอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีในบางกรณี
ระบบป้องกันการใช้จ่ายข้ามประเทศ
บางบัตรเครดิตมีระบบแจ้งเตือนเมื่อมีการใช้จ่ายในต่างประเทศ และสามารถระงับการใช้บัตรได้หากพบว่ามีธุรกรรมที่ผิดปกติ
7. ความยืดหยุ่นในการชำระเงิน
เลือกจ่ายเต็มจำนวนหรือขั้นต่ำได้
หากคุณไม่สามารถจ่ายเต็มจำนวนได้ในรอบบิลปัจจุบัน คุณสามารถเลือกจ่ายขั้นต่ำได้ อย่างไรก็ตาม ควรชำระเต็มจำนวนเพื่อหลีกเลี่ยงดอกเบี้ยสะสมที่อาจเพิ่มขึ้น
8. สิทธิพิเศษด้านการเดินทาง
บัตรเครดิตบางประเภทมอบสิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่เดินทางบ่อย เช่น ประกันการเดินทาง ห้องรับรองสนามบิน (Lounge Access) หรือแต้มสะสมไมล์ (Air Miles) ซึ่งช่วยให้คุณเดินทางได้คุ้มค่ามากขึ้น
9. เพิ่มความคล่องตัวทางการเงิน
หากคุณต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน เช่น ค่ารักษาพยาบาลหรือค่าซ่อมรถยนต์ บัตรเครดิตสามารถช่วยให้คุณมีเงินสำรองในการชำระค่าใช้จ่ายเหล่านั้นได้โดยไม่ต้องใช้เงินสดทันที
วิธีใช้บัตรเครดิตอย่างชาญฉลาด
แม้ว่าบัตรเครดิตจะมีข้อดีมากมาย แต่หากใช้อย่างไม่ระมัดระวัง อาจทำให้เกิดหนี้สินสะสมได้ ดังนั้นควรใช้บัตรเครดิตอย่างมีวินัย โดย
- ใช้จ่ายเท่าที่สามารถชำระคืนได้เต็มจำนวนในแต่ละรอบบิล
- หลีกเลี่ยงการใช้บัตรเครดิตเพื่อกดเงินสด เนื่องจากมีค่าธรรมเนียมสูง
- เลือกบัตรที่มีสิทธิประโยชน์ตรงกับไลฟ์สไตล์ของคุณ เช่น สะสมไมล์ รับเงินคืน หรือผ่อนสินค้า 0%
- ตรวจสอบรายละเอียดโปรโมชั่นและค่าธรรมเนียมบัตรก่อนสมัครใช้บริการ
บัตรเครดิตไม่ใช่แค่เครื่องมือในการใช้จ่าย แต่ยังเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยให้คุณได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสะสมคะแนน รับเครดิตเงินคืน ผ่อนสินค้า 0% หรือส่วนลดพิเศษ อย่างไรก็ตาม การใช้บัตรเครดิตอย่างมีวินัยเป็นสิ่งสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางการเงินที่อาจเกิดขึ้น หากบริหารจัดการได้ดี บัตรเครดิตจะเป็นตัวช่วยที่มีประโยชน์อย่างมากในการใช้จ่ายและบริหารเงินของคุณ