สมัครบัตรเครดิต UOB Grab รับสิทธิพิเศษสุดคุ้มทุกการเดินทาง
รู้จักบัตรเครดิต UOB Grab คืออะไร?
บัตรเครดิต UOB Grab คือบัตรที่ออกแบบมาเพื่อไลฟ์สไตล์ยุคใหม่โดยเฉพาะ สำหรับผู้ใช้งาน Grab เป็นประจำ ไม่ว่าจะเรียกรถ สั่งอาหาร หรือส่งพัสดุ บัตรนี้เป็นผลลัพธ์ของความร่วมมือระหว่าง ธนาคารยูโอบี (UOB) และ แอปพลิเคชัน Grab ที่มอบสิทธิประโยชน์มากมายเมื่อใช้บริการในเครือ Grab
จุดเด่นของบัตรเครดิต UOB Grab
- รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15% เมื่อใช้จ่ายผ่าน Grab
- สะสม GrabRewards Points ได้ไวขึ้น
- แลกคะแนนเป็นส่วนลดค่าโดยสารหรือค่าอาหารได้โดยตรง
- รับสิทธิ Priority Booking และส่วนลด GrabUnlimited (ในบางช่วง)
- รับคะแนนสะสม UOB Rewards 10 เท่า
- รับคะแนนสะสมยูโอบร รีวอร์ด 3 เท่า ทุกการใช้จ่าย 25 บาท ในหมวดร้านอาหาร, ร้านค้าออนไลน์, แฟชั่น, ห้างสรรพสินค้า, โรงพยาบาล และ ศูนย์การรักษา
- รับคะแนนสะสมยูโอบี รีวอร์ด 20 เท่า ทุกการใช้จ่าย 25 บาท บนบริการ Grab ในเดือนเกิด
โปรโมชั่นสุดคุ้ม 3 ต่อ สำหรับคนสมัครบัตรเครดิต UOB Grab
- ต่อที่ 1 รับเครดิตเงินคืนมูลค่า 1,500 บาท
- ต่อที่ 2 รับส่วนลด Grab มูลค่า 2,400 บาท
- ต่อที่ 3 ฟรีอัปเกรดสู่สมาชิก GrabUnlimited นาน 1 ปี
สิทธิประโยชน์เด่นที่ผู้ใช้ Grab ห้ามพลาด
บัตรเครดิต UOB Grab อัดแน่นด้วยสิทธิพิเศษที่สอดรับกับพฤติกรรมการใช้ชีวิตในเมือง โดยเฉพาะคนที่ต้องใช้บริการ Grab เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็น:
1. รับเครดิตเงินคืน (Cashback) สูงสุด 15%
เมื่อใช้บัตรเครดิต UOB Grab ชำระค่า GrabCar, GrabFood หรือ GrabMart ผ่านแอป Grab จะได้รับเครดิตเงินคืนทุกเดือน โดยจำกัดตามยอดใช้จ่ายขั้นต่ำ เช่น 500 บาทขึ้นไปต่อรอบบิล
2. สะสม GrabRewards เร็วกว่า
ทุก 25 บาทที่ใช้จ่ายผ่าน Grab ด้วยบัตรนี้จะได้คะแนน GrabRewards เพิ่มขึ้น ทำให้แลกของรางวัลต่าง ๆ หรือส่วนลดได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องสะสมคะแนนนาน
3. สิทธิการใช้งาน GrabUnlimited
สมาชิกบางระดับของบัตรอาจได้รับสิทธิ์สมัคร GrabUnlimited ฟรีในช่วงระยะเวลาที่กำหนด ช่วยประหยัดค่าส่งอาหารและของอีกต่อหนึ่ง
วิธีสมัครบัตรเครดิต UOB Grab
หากคุณสนใจสมัครบัตรเครดิต UOB Grab ขั้นตอนก็ไม่ยุ่งยาก สามารถทำได้ทั้งทางออนไลน์และสาขาของธนาคาร UOB
1. คุณสมบัติผู้สมัคร
- อายุ 20 ปีขึ้นไป
- รายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาทต่อเดือน (สำหรับพนักงานประจำ)
- มีเอกสารแสดงรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน หรือ Statement 3-6 เดือนล่าสุด
2. เอกสารที่ใช้ประกอบการสมัคร
- สำเนาบัตรประชาชน
- สลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือน
- สำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 3-6 เดือน
3. ช่องทางการสมัคร
สามารถสมัครได้ทาง:
- เว็บไซต์ธนาคาร UOB Thailand
- แอป UOB TMRW
- ที่สาขาของ UOB ทั่วประเทศ
- ผ่านแคมเปญร่วมกับ Grab ในแอป
ข้อควรรู้ก่อนสมัคร
แม้บัตร UOB Grab จะดูเหมาะสำหรับผู้ใช้ Grab อย่างมาก แต่ก็มีรายละเอียดปลีกย่อยที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจสมัคร เช่น:
1. เงื่อนไขรับเครดิตเงินคืน
เครดิตเงินคืนมีเพดานสูงสุดต่อเดือน และบางเดือนอาจต้องใช้รหัสโปรโมชันเพิ่มเติม
2. อัตราดอกเบี้ย
ดอกเบี้ยของบัตรอยู่ในช่วง 16–18% ต่อปี หากมีการชำระล่าช้าหรือผ่อนชำระเป็นงวด ควรตรวจสอบรายละเอียดจากธนาคารก่อนใช้จริง
3. ค่าธรรมเนียมรายปี
ค่าธรรมเนียมรายปีอาจได้รับการยกเว้นหากใช้จ่ายถึงขั้นต่ำที่ธนาคารกำหนดในแต่ละปี
ใครบ้างที่เหมาะกับบัตรนี้?
บัตรเครดิต UOB Grab เหมาะกับผู้ที่:
- ใช้ GrabCar หรือ GrabFood เป็นประจำ
- ต้องการสะสม GrabRewards อย่างรวดเร็ว
- มองหาบัตรเครดิตที่ให้ผลตอบแทนคืนสูงจากการใช้จ่ายไลฟ์สไตล์
บัตรเครดิต UOB Grab คุ้มไหม?
ถ้าคุณเป็นคนเมืองที่ใช้บริการ Grab แทบทุกวัน บัตรเครดิต UOB Grab ถือเป็นเครื่องมือที่ตอบโจทย์ทั้งเรื่องการประหยัดและการสะสมสิทธิพิเศษ โดยเฉพาะถ้าคุณสามารถใช้จ่ายผ่าน Grab เป็นประจำและไม่ลืมจ่ายเต็มจำนวนทุกเดือน เพื่อหลีกเลี่ยงดอกเบี้ย
ไทยลุ้นหนัก ภาษีสหรัฐจะปรับลดกว่า 36% หรือไม่
หลังจากที่สหรัฐอเมริกาได้ออกจดหมายเตือนแจ้งจะเก็บภาษี 36% โดยจะเริ่มวันที่ 1 สิงหาคม 2568 จากการประกาศดังกล่าว ได้สร้างผลกระทบเป็นวงกว้างกับเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจไทย ที่มีการคาดการณ์ออกมาว่าจะกระทบและเสียหายในหลากหลายมิติ
เปิดเผยข้อมูลจากทางด้านรองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าจดหมายที่สหรัฐส่งออกมานั้นตามเวลาสหรัฐในวันที่ 7 กรกฎาคม 2568 ตรงกับวันที่ 8 กรกฎาคม 2568 สวนทางกับข้อเสนอใหม่ที่ไทยส่งไปเพิ่ม โดยไทยได้เสนอลดภาษีส่วนใหญ่ให้สินค้าสหรัฐ 90% ของรายการนำเข้า ส่วนอีก 10% ต้องสงวนไว้ เพื่อดูแลผู้ประกอบการในประเทศไทย ภาษีส่วนใหญ่จะดูจากที่ไทยทำเขตเสรีทางการค้า FTA กับประเทศต่างๆ โดยมีอัตราภาษีที่ 0% อย่างไรก็ตามไม่ใช่ว่าจะเป็น 0% ทั้งหมด โดยจะดูผลกระทบกับคู่ค้าอื่นด้วย
เดดไลน์สำหรับการเจรจา
จากการที่สหรัฐอเมริกาส่งจดหมายออกมา เนื่องจากใกล้กับเดดไลน์วันที่ 9 กรกฎาคม 2568 แต่สหรัฐยังเจรจากับประเทศต่างๆไม่หมด สหรัฐเลยได้มีการส่งจดหมายต่างๆ และ เลื่อนการจัดเก็บภาษีเป็นวันที่ 1 สิงหาคม 2568 สำหรับแนวทางต่างๆ ของประเทศไทย เมื่อคืนวันที่ 7 กรกฎาคม 2568 ได้มีการมอบหมายเจ้าหน้าที่ไทยประจำสหรัฐ ติดตามความคืบหน้าข้อเสนอใหม่ที่ไทยได้ส่งไป ตอนนี้อยู่ในมือสำนักผู้แทนการค้าสหรัฐเรียบร้อยแล้ว
เตรียมแผนการล้วงหน้าเอาไว้รึยัง?
มีคำถามออกมา ว่าถ้าสหรัฐสุดท้ายแล้วจัดเก็บภาษีในวันที่ 1 สิงหาคม 2568 ได้ข้อสรุปว่าจะจัดเก็บภาษาี 36% หรือ ต่ำกว่า 36% ทางรัฐบาลได้ออกมาแจ้งว่ามีแผนสำรองเอาไว้แล้ว ปัจจุบันการค้าบนโลกมีการปรับปรุงตลอดเวลา ในส่วนของการเยียวยาผู้ประกอบการ ก็มีเตรียมเอาไว้อยู่แล้ว สำหรับงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลืออยู่ 40,000 ล้านบาท จะนำมาใช้รองรับผลกระทบด้วยหรือไม่นั้น ทางรองนายกระบุว่า ต้องพิจารณาความจำเป็นก่อน
ทางรัฐบาลได้ออกมายืนยันว่า มีความมั่นใจว่าข้อเสนอที่ยื่นไปล่าสุดนั้นได้อธิบายและสามารถวัดผลได้ ดูแล้วสามารถปฎิบัติได้ ทางด้านปลัดกระทรวงการคลัง ได้เปิดเผยว่า ข้อเสนอที่ 2 แตกต่างจากข้อเสนอแรก โดยเฉพาะเรื่องจำนวนรายการสินค้าที่ลดภาษีให้เป็น 0% ซึ่งมีจำนวนหลายพันรายการ แต่ยังไม่มี feedback กลับมา แต่เชื่อว่าจะมีผลในทิศทางบวก การแถลงการณ์จากสหรัฐแจ้งมาอย่างชัดเจนว่า ถ้ายังไม่หาข้อยุติภายใน 1 สิงหาคม 2568 ไทยจะต้องถูกเรียกเก็บภาษีในอัตรา 36% ซึ่งระหว่างนี้ยังสามารถเจรจากันได้ เชื่อว่าอัตราภาษีสดท้ายที่ไทยจะได้รับไม่น่าถึง 36% เมื่อพิจารณาข้อเสนอของเราถือว่าดีมาก ซึ่งภาษีน่าจะต่ำกว่าเดิมแน่นอน
คาดการณ์มูลค่าส่งออกเสียหาย 9 แสนล้านบาท
ด้านประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ออกแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการตัดสินใจของสหรัฐเบื้องต้น ที่ทำให้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยโดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่มีสหรัฐเป็นคู่ค้าหลัก ยกตัวอย่างเช่น อาหารแปรรูป, สินค้าเกษตร, ยานยนต์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, สิ่งทอ, อัญมณี, เหล็ก และ อลูมิเนียม คาดว่ามูค่าความเสียหายต่อการส่งออกทไยอาจจะอยู่ที่ 9 แสนล้านบาท
เตรียมเพิ่มสิทธิประกันสังคมทำฟัน แยกผ่าฟันคุด สูงสุด 2,500 บาท
เปิดเผยข้อมูลจากคณะกรรมการการแพทย์ สำนักงานประกันสังคม มีมติเห็นชอบแยกค่าผ่าฟันคุดออกจากสิทธิทันตกรรม จ่ายให้สูงสุด 2,500 บาท พร้อมเพิ่มสิทธิค่ารักษาทันตกรรมจากเดิม 900 บาท ตามจ่ายจริง ซึ่งรอชงเข้าบอร์ด สปส. ให้อนุมตัิอีกครั้ง
คณะกรรมการการแพทย์ สำนักงานประกันสังคม บอร์ดแพทย์ สปส. ประชุมพิจารณาสิทธิการรักษาทันตกรรมมีมติเห็นชอบหลักๆตามรายละเอียดด้านล่าง
- แยกค่าผ่าฟันคุด ออกจากสิทธิทำฟัน 900 บาท
- ผ่าฟันคุดแบบง่ายจ่ายตามอัตรากรมบัญชีกลาง 1,500 บาท
- ผ่าฟันคุดแบบยากจ่าย 2,500 บาท
ปรับเพิ่มค่ารักษาทันตกรรมจากเดิม 900 บาท จ่ายตามจริง
- ครอบคลุมการอุดฟัน, ขูดหินปูน และ ถอนฟัน
- เงื่อนไขต้องรักษาที่โรงพยาบาลรัฐ หากใช้บริการเอกชนยังคงจ่ายไม่เกิน 900 บาท
เพิ่มสิทธิค่าตรวจสุขภาพช่องปาก
- หน่วยบริการต้องจัดทำข้อมูลสุขภาพช่องปากผู้ประกันตน เพื่อลดการเบิกซ้ำซ้อน
มาตรการดังกล่าวจะทำการเสนอให้กับคณะกรรมการประกันสังคมพิจารณาอีกครั้ง คาดว่าจะมีการประกาศใช้ได้ภายในเดือนสิงหาคม 2568 นี้
ลาออกจากงานเปลี่ยนสิทธิประกันสังคมเป็นบัตรทองยังไง?
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. ได้เปิดขั้นตอนสำหรับคนที่ลาออกจากงานเปลี่ยนสิทธิประกันสังคมเป็นบัตรทอง สามารถทำได้ง่ายๆด้วยตัวเอง สำหรับใครที่ลาออกจากงาน หรือว่างงานไม่ต้องกังวลสิทธิขาด สามารถเปลี่ยนสิทธิประกันสังคมเป็นบัตรทองได้ง่ายๆ หลังสิทธิประกันสังคมหมด 6 เดือนหลังจากลาออก สามารถลงทะเบียนบัตรทองได้ด้วยตัวเองตามรายละเอียดด้านล่าง
เปิดช่องทางการเปลี่ยนสิทธิประกันสังคม 2 ช่องทาง
- ช่องทางที่ 1 เปลี่ยนผ่านแอป สปสช. ผ่าน Android และ iOS เลือกเมนูเปลี่ยนหน่อยบริการด้วยตัวเอง
- ช่องทางที่ 2 Line OA สปสช. ผ่าน @nhso เลือกเมนูเปลี่ยนหน่วยบริการด้วยตัวเอง
ลงทะเบียนด้วยตัวเอง
สามารถลงทะเบียนได้ด้วยตัวเองผ่านพื้นที่ต่างๆ เช่น พื้นที่กรุงเทพมหานคร และ พื้นที่ต่างจังหวัด
พื้นที่กรุงเทพมหานคร
- ศูนย์บริการหลักประกันสุขภาพ สปสช. ชั้น 2 อาคาร B ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ วันและเวลาราชการ
- โทรสายด่วน สปสช. 1330 ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการให้
พื้นที่ต่างจังหวัด
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล รพ.สต. / โรงพยาบาลรัฐใกล้บ้าน ในวันและเวลาราชการ
หากต้องการเปลี่ยนหน่วยบริการ สามารถเปลี่ยนหน่วยบริการประจำได้เอง 4 ครั้งต่อ 1 ปี โดยอย่าลืมเช็กสิทธิของตัวเองเพื่อรับการคุ้มครองด้านสุขภาพได้อย่างต่อเนื่อง
ผักผลไม้ออร์แกนิก ส่งออกเจอกำแพงภาษี จะเดินต่อยังไง?
เปิดรายละเอียด การขึ้นภาษีนำเข้าของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาที่ประกาศเอาไว้ สำหรับประเทศไทยตอนนี้ที่ตกลงแล้วมีตัวเลขการเก็บภาษีออกมาจะอยู่ที่ 36% ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 แม้ยังมีความหวังในการเจรจาต่อรองก่อนเดดไลน์ประกาศจริง แต่ดูเหมือนว่าจะริบหรี่เข้าไปทุกที หากการขึ้นภาษีดังกล่าวจากสหรัฐอเมริกาเกิดขึ้นจริงๆ สิ่งที่น่าห่วงและกระทบกับสินค้าของไทยสุดๆ นั่นก็คือสินค้าไทยที่ส่งออกไปอเมริกา โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ประเทศไทยส่งข้าวไปอเมริกาเป็นอันดับต้นๆของโลก รวมไปถึงผลไม้ออร์แกนิก สินค้าเหล่านี้เป็นสินค้าที่ต้องการของตลาดโลก
ถึงแม้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร และ สหรกรณ์คนล่าสุดได้ออกมาปกป้องและรับปากว่าจะทำให้เกิดผลกระทบสำหรับเกษตรกรไทยน้อยที่สุด แต่ที่สุดแล้วกลไกตลาดที่สหรัฐอเมริกาเป็นผู้กำหนด ย่อมมีผลกระทบทั้งในระยะสั้น และ ระยะยาว และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเกษตรกรไทยเริ่มปรับตัวด้วยการนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมมาใช้ทางการเกษตรมากขึ้น แต่ไม่ได้ปรับตัวทั้งระบบการเกษตรไทย ในส่วนสินค้าเกษตรฝากชีวิตไว้กับการส่งออก โดยเฉพาะพืชผัก ผลไม้ออร์แกนิก ที่ตลาดโลกต้องการ ซึ่งน่าเป็นห่วงอย่างมาก หากการขึ้นภาษีของสหรัฐเกิดขึ้นจริงในวันที่ 1 สิงหาคม 2568 และไม่ได้รับการพิจาณาลดพิเศษดังกล่าวลง ฟาร์มเกษตรขนาดกลางและใหญ่ในเมืองไทย จะปรับเปลี่ยนมาเป็นเกษตรธรรมชาติ เพื่อการบริโภคในประเทศ ทั้งหมดไม่ได้ขึ้นอยู่กับผู้บริโภคอย่างเดียว ซึ่งยังมีปัจจัยอื่นๆด้วย ไม่ว่าจะเป็นกลไกของตลาด และ นโยบายรัฐ
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ตั้งเป้าปี 69 ฟื้นรายได้ท่องเที่ยว
เปิดเผยข้อมูลจากทางผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับรายได้รวมการท่องเที่ยวที่มีการตั้งเป้าเอาไว้ในปี 2568 อยู่ที่ 3 ล้านล้านบาท ถ้าคิดเป็นตัวเลขจะเติบโตไม่น้อยกว่า 7% และ เมื่อเทียบกับฐานรายได้รวมในปี 2568 ซึ่งมีแนวโน้มปิดที่ 2.87 ล้านล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายที่เคยวางเอาไว้ที่ 3 ล้านล้านบาท หลังได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจากบางประเทศเช่น จีน เป็นต้น
มีการคาดการณ์ออกมาว่ารายได้จากตลาดต่างประเทศ ในปีนี้จะอยู่ที่ 1.77 ล้านล้านบาท จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไม่ว่าน้อยกว่า 35.5 ล้านคนเท่าปีที่แล้ว ในส่วนรายได้จากตลาดในประเทศรคาดว่าจะทำรายได้จากการท่องเที่ยวได้ 1.1 ล้านล้านบาทจากการคาดการณ์นักท่องเที่ยวคนไทยที่เคยตั้งเป้าไว้ราวๆ 205 ล้านคนต่อครั้งสถานการณ์การท่องเที่ยวในไทยตอนนี้ มีความผันผวนสูงมาก ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้มีการส่งเสริมการตลาดมาโดยตลอดยาวนานกว่า 65 ปีจำเป็นต้องเร่งเพิ่มตัวเลขสำหรับภาคการท่องเที่ยว ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยขึ้นกับการท่องเที่ยว ต้องเน้นในเรื่องของการเติมโตด้านรายได้มากกว่าจำนวน หรือ Value over Volume ด้วยการเจาะกลุ่มเป้าหมายคุณภาพด้วยความรวดเร็วและแม่นยำ สำหรับเป้าหมายในเชิงจำนวนนักท่องเที่ยว ต้องรอประชุมแผนเสร็จ ถึงจะสรุปอย่างเป็นทางการเพื่อเสนอทิศทางการส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยวในปี 2569
โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง หลังจากเปิดระบบใหม่ มีการลงทะเบียนสำหรับประชาชนที่ต้องการเข้าร่วมใช้สิทธิเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมาทาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคาดว่าจะมีประชาชนใช้สิทธิถึง 250,000 สิทธิภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม 2568 นี้ และน่าจะมีการใช้สิทธิทั้งหมด 500,000 สิทธิภายในเดือนสิงหาคม 2568 จากการตรวจสอบข้อมูลล่าสุดวันที่ 14 กรกฎาคม 2568 พบว่ามีประชาชนเข้ามาลงทะเบียนโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งแล้วจำนวน 1,725,238 ราย จำนวนสิทธิที่ใช้ไปแล้ว 119,213 สิทธิ และมียอดสิทธิคงเหลือ 380,787 สิทธิ สำหรับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ล่าสุดมีจำนวนที่ได้รับอนุมัติแล้ว 5,748 ราย
- โรงแรมที่พัก 3,233 ราย
- ร้านอาหาร 2,172 ราย
- แหล่งท่องเที่ยว 86 ราย
- สปาและบริการเชิงสุขภาพ 101 ราย
- ร้านค้าโอท็อป 106 ราย
- บริการเช่าเรือเช่า 50 ราย
ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวกีฬา ได้แจ้งว่ากระทรวงการท่องเที่ยวจะประเมินสถานการณ์โลก การเติมโตทางเทคโนโลยี และ การแข่งขันจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่ใช้ภาคการท่องเที่ยวเป็นเครื่องยนต์ทางเศษฐกิจ ได้มีการฝากความหวังไว้กับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยให้ทำการส่งเสริมการตลาดในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 และ ปี 2569
บัตรเครดิตใบไหนดี ได้สิทธิ์พิเศษ จองรถในห้างชั้นนำ
เคยไหมที่เวลาเราเดินทางไปห้างสรรพสินค้า แล้วต้องใช้เวลานานในการหาที่จอดรถ สำหรับห้างชั้นนำ บางคนโชคร้ายอาจจะต้องใช้เวลาในการหาที่จอดรถครึ่งชั่วโมง หหรือบางคนโชคร้ายหนักๆขับรถแล้วหาที่จอดไม่ได้เป็นชั่วโมงก็มี ปัญหาเหล่านี้จะเบาขึ้นถ้าหากว่าคุณ สมัครบัตรเครดิตที่มอบสิทธิพิเศษในการจองรถบนห้องชั้นนำได้ ทำให้คนไม่ต้องมานั่งเสียเวลาหาที่เจอรถเลย ซึ่งคนไทยหลายคนอาจไม่รู้ว่า “บัตรเครดิต” ที่คุณใช้อยู่ทุกวัน มีสิทธิพิเศษมากกว่าการรูดซื้อสินค้า เพราะบางใบยังสามารถใช้ จอดรถในห้างสรรพสินค้าชั้นนำได้ฟรีหรือในราคาพิเศษ อีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้างยอดนิยมอย่าง Siam Paragon, Central World, ICONSIAM หรือ The EmQuartier ที่ค่าจอดรถอาจสูงถึงหลักร้อยต่อครั้ง การมีบัตรเครดิตที่รองรับสิทธินี้จึงถือเป็นไอเทมลับของนักช้อปยุคใหม่
สิทธิประโยชน์ที่ควรรู้: จอดรถฟรี ไม่ใช่แค่เรื่องเล็ก
1. ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
ห้างดังหลายแห่งมีค่าจอดรถเฉลี่ย 20–40 บาทต่อชั่วโมง หากคุณใช้บริการห้าง 2–3 ครั้งต่อสัปดาห์ ค่าใช้จ่ายรายเดือนอาจสูงถึง 1,000 บาท การใช้บัตรเครดิตที่รองรับการจอดฟรี จึงช่วยลดภาระตรงนี้ได้ทันที
2. ได้จอดในโซนพิเศษ
บัตรเครดิตระดับพรีเมียมบางประเภท เช่น Visa Signature, Mastercard World หรือบัตร UnionPay ระดับแพลทินัม มักมีบริการ Priority Parking หรือสิทธิในการจอดใกล้ทางเข้า ทำให้ประหยัดเวลาและปลอดภัยยิ่งขึ้น
3. ไม่มีขั้นต่ำในการใช้จ่าย
ในหลายกรณี ผู้ถือบัตรไม่จำเป็นต้องใช้จ่ายในห้างก่อนถึงจะจอดฟรี โดยเพียงแสดงบัตรเครดิตก็สามารถใช้สิทธิได้เลย (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของธนาคารและห้าง)
บัตรเครดิตแนะนำสำหรับจอดรถห้างชั้นนำ
มาดูกันว่าบัตรไหนให้สิทธิประโยชน์เรื่องจอดรถในห้างดัง และมีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง
1. บัตรเครดิต KBank The Passion
- จอดรถฟรีที่ Siam Paragon, Siam Center, EmQuartier, Emporium และ ICONSIAM
- ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
- สามารถจอดใน Priority Zone ได้เมื่อมี Spending ตามเงื่อนไข
2. บัตรเครดิต SCB M Luxe
- จอดฟรีที่ห้างในเครือ The Mall Group ทุกแห่ง
- ได้สิทธิจอดโซนพิเศษ (VIP Zone)
- รับส่วนลดเพิ่มในห้างพร้อมเครดิตเงินคืน
3. บัตรเครดิต UOB Preferred Platinum
- สิทธิพิเศษจอดฟรีที่ Central ทุกสาขา
- แสดงบัตร ณ จุดแลกบัตรจอด เพื่อรับสิทธิ
- ไม่มีขั้นต่ำการใช้จ่ายต่อเดือน
4. บัตรเครดิต Krungsri Visa Signature
- จอดฟรีที่ห้าง The EmQuartier, Emporium, Siam Paragon
- พร้อมบริการ Valet Parking (ตามเงื่อนไขของบัตร)
ข้อควรระวังในการใช้สิทธิจอดรถ
1. ตรวจสอบเงื่อนไขก่อนใช้ทุกครั้ง
สิทธิการจอดรถของแต่ละบัตรอาจมีเงื่อนไข เช่น ต้องใช้จ่ายตามยอดที่กำหนดภายในห้าง หรือจำกัดจำนวนครั้งต่อเดือน
2. บางสิทธิเป็นแบบแลกคะแนน
บัตรบางประเภท เช่น บัตรเครดิต Citi อาจให้สิทธิแลกคะแนนสะสมเพื่อจอดฟรี แทนที่จะให้จอดฟรีทันที ต้องวางแผนก่อนใช้งาน
3. เปลี่ยนแปลงตามนโยบายธนาคาร
สิทธิพิเศษเหล่านี้มักมีการปรับเปลี่ยนทุกปี จึงควรติดตามประกาศจากธนาคารหรืออัปเดตในแอปพลิเคชันธนาคารเป็นประจำ
เลือกบัตรให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์
หากคุณเป็นคนที่ขับรถไปห้างเป็นประจำ หรือทำงานใกล้ห้าง การเลือก บัตรเครดิตที่ให้จอดรถฟรีหรือในโซนพิเศษ ถือเป็นสิ่งที่คุ้มค่ามาก เพราะช่วยประหยัดได้จริงในระยะยาว
สิ่งสำคัญคือเลือกบัตรที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ เช่น ถ้าคุณเน้นช้อปในห้าง The Mall ควรเลือก SCB M Luxe แต่ถ้าเน้น Central หรือ Paragon ควรเลือกบัตร KBank หรือ Krungsri ที่มีสิทธิเฉพาะจุด
บัตรเครดิตที่ให้สิทธิพิเศษเรื่องจอดรถในห้าง ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องเล็ก ๆ อีกต่อไป โดยเฉพาะสำหรับคนเมืองที่ต้องเผชิญกับค่าจอดรถสูงและหาพื้นที่จอดลำบาก การใช้บัตรเครดิตให้เหมาะสมจึงช่วยเพิ่มความสะดวก ประหยัด และได้สิทธิพิเศษเพิ่มเติมอีกมากมาย ก่อนตัดสินใจเลือกบัตรเครดิต อย่าลืมตรวจสอบเงื่อนไขและสิทธิการจอดรถของแต่ละบัตร เพื่อให้ได้ความคุ้มค่าที่สุดสำหรับไลฟ์สไตล์ของคุณ
บัตรเครดิตที่ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี 2025 อัปเดตล่าสุด
ในปี 2025 หลายธนาคารและสถาบันการเงินเริ่มออกผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตที่ตอบโจทย์มากขึ้นสำหรับคนรุ่นใหม่ หนึ่งในคุณสมบัติที่ได้รับความนิยมสูงคือ “ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี” ซึ่งถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่เริ่มต้นใช้บัตรเครดิต หรือผู้ที่ต้องการบัตรสำรองโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายรายปีแบบเปล่าประโยชน์
ข้อดีของบัตรเครดิตที่ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี
เหมาะกับผู้เริ่มต้นใช้บัตรเครดิต
หลายคนที่เพิ่งเริ่มมีรายได้หรือยังไม่เคยใช้บัตรเครดิตมาก่อน มักกังวลกับค่าธรรมเนียมแฝง บัตรประเภทนี้จึงเหมาะอย่างยิ่ง เพราะช่วยให้คุณเรียนรู้การบริหารหนี้โดยไม่มีภาระค่าใช้จ่ายประจำปี
คุ้มค่าสำหรับคนที่ใช้บัตรไม่บ่อย
บางคนใช้บัตรเครดิตเพียงไม่กี่ครั้งต่อปี เช่น ซื้อตั๋วเครื่องบินหรือจองโรงแรม บัตรที่ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีจึงเป็นทางเลือกที่ประหยัดโดยไม่ต้องจ่ายเงินโดยใช่เหตุ
ข้อควรระวังในการเลือกบัตรแบบไม่มีค่าธรรมเนียม
โปรโมชั่นจำกัดเวลา
บางบัตรอาจระบุว่าไม่มีค่าธรรมเนียมเฉพาะปีแรก หากไม่อ่านเงื่อนไขให้ดี อาจต้องเริ่มจ่ายตั้งแต่ปีถัดไป ดังนั้นควรตรวจสอบให้ชัดเจนว่าเป็น “ฟรีตลอดชีพ” หรือ “ฟรีเฉพาะปีแรก”
สิทธิประโยชน์อาจน้อยกว่าบัตรระดับพรีเมียม
บัตรไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีมักเป็นบัตรพื้นฐาน สิทธิประโยชน์ เช่น คะแนนสะสม หรือบริการพิเศษ อาจน้อยกว่าบัตรประเภทที่เก็บค่าธรรมเนียม
ตัวอย่างบัตรเครดิตไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีที่น่าสนใจในปี 2025
1. KTC Cash Back Forever
บัตรเครดิตของ KTC รุ่นนี้ให้สิทธิ์ผู้ถือบัตรได้รับเครดิตเงินคืน 0.5% ทุกยอดการใช้จ่าย พร้อมโปรโมชั่นพิเศษในหมวดอาหารและท่องเที่ยว ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีตลอดชีพ โดยไม่ต้องมีเงื่อนไขยอดใช้ขั้นต่ำ
2. Citi Simplicity+
แม้ Citi จะเป็นธนาคารต่างชาติ แต่บัตรนี้ถูกออกแบบมาเพื่อคนที่ต้องการใช้งานเรียบง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าธรรมเนียม หรือค่าปรับล่าช้า ไม่เก็บค่าธรรมเนียมรายปี และมีระบบผ่อน 0% กับร้านค้าชั้นนำ
3. UOB Lady’s Card (เฉพาะผู้หญิง)
บัตรนี้นอกจากไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีตลอดชีพ ยังมาพร้อมกับโปรโมชั่นคืนเงินและคะแนนพิเศษในหมวดร้านอาหาร ความงาม และแฟชั่น โดยออกแบบมาเพื่อไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงยุคใหม่
4. Krungsri Smart Value
บัตรเครดิตที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น ใช้งานง่าย ผ่อน 0% กับร้านค้าชั้นนำ ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีตลอดชีพหากสมัครผ่านช่องทางออนไลน์ และมียอดใช้จ่ายตามเกณฑ์ขั้นต่ำ
วิธีเลือกบัตรเครดิตไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีให้เหมาะกับตัวเอง
ดูจากพฤติกรรมการใช้เงินของคุณ
ถ้าคุณใช้บัตรเพียงเพื่อจ่ายรายเดือนทั่วไป ควรมองหาบัตรที่ให้เครดิตเงินคืน หรือคะแนนสะสมสำหรับหมวดที่คุณใช้บ่อย เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ต หรือค่าเดินทาง
เปรียบเทียบโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์
อย่าดูเพียงแค่เรื่อง “ฟรีรายปี” เท่านั้น เพราะบัตรบางใบอาจมีสิทธิประโยชน์เสริมที่คุ้มค่ากว่า เช่น ประกันการเดินทางหรือส่วนลดร้านอาหาร
บัตรเครดิตแบบไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี ควรมีไว้ไหม?
หากคุณกำลังมองหาวิธีเริ่มต้นใช้งานบัตรเครดิตแบบไม่เสี่ยง และต้องการควบคุมค่าใช้จ่าย บัตรที่ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีคือคำตอบที่ดี แต่ควรพิจารณาเงื่อนไขให้ครบถ้วน และเลือกบัตรที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันมากที่สุด
เงินเดือนข้าราชการ ประจำเดือน กรกฎาคม 2568
ตรวจสอบวันจ่ายเงินเดือนข้าราชการ ลูกจ้างประจำรอบแรก ข้าราชการบำนาญรวมถึงเงินเดือนทหารกองเกิน ประจำเดือนกรกฎาคม 2568 สำหรับเดือนไหนที่มีวันหยุดยาว เรียกว่าเงินในกระเป๋าจะหมดไวกว่าปกติแต่สำหรับข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ที่แสดงความประสงค์รับเงินเดือน 2 รอบนั้น ทางกรมบัญชีกลางได้แจ้งว่า จะจ่ายเงินเดือนข้าราชการ, ค่าจ้าง, ลูกจ้างประจำ เดือนกรกฎาคม 2568 เงินเข้าบัญชี 2 รอบ
- รอบแรก วันที่ 16 กรกฎาคม 2568
- รอบสอง วันที่ 25 กรกฎาคม 2568
สำหรับข้าราชการและลูกจ้างประจำที่ไม่แสดงความประสงค์รับเงินเดือน 2 รอบจะได้รับเงินเดือนยในรอบที่ 2 ของเดือนนั้นๆ ขณะที่การจ่ายเงินบำนาญรายเดือนกรกฎาคม 2568 นั้นทางกรมบัญชีกลางกำหนดจ่ายเงินบำนาญรายเดือนของผู้รับบำนาญในวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 ซึ่งจะมีเพียงการจ่ายเงินรอบเดียวเท่านั้น ในเรื่องของการจ่ายเงินเดือนของทหารกอ
โครงการทุนเสมอภาค แจกทุนการศึกษานักเรียน 8 แสนคน
เปิดรายละเอียดโครงการทุนเสมอภาค รอบแรกรัฐบาลสนับสนุนแจกทุนการศึกษาให้กับนักเรียนยากจน รวมทั้งสิ้น 8 แสนคน เปิดระบบบันทึกข้อมูลนักเรียนกลุ่มใหม่ตั้งแต่วันนี้ถึง 21 กรกฎาคม 2568 ลดภาระครัวเรือน และ ป้องกันการหลุดจากระบบการศึกษา
กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา หรือ กสศ. ได้เดินหน้าทำนโยบายลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา อย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการเตรียมจัดสรรเงินอุดหนุนนักเรียนยากจนพิเศษ หรือที่เรียกว่า ทุนเสมอภาค ให้กับนักเรียนยากจนพิเศษกลุ่มที่ได้รับทุนต่อเนื่องรอบที่ 1 ประจำภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568 ระหว่างวันที่ 21-24 กรกฎาคม 2568 โดยกลุ่มเป้าหมายจะครอบคลุมนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 1 ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 3 ในสถานศึกษากว่า 30,000 แห่งทั่วประเทศ ครอบคลุม 6 สังกัดตามรายละเอียดด้านล่าง
- สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
- กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.)
- กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (บช.ตชด.)
- สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)
- สำนักงานคณะกรรมการการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.)
- สำนักการศึกษากรุงเทพมหานคร (กทม.)
มีนักเรียนที่ได้รับทุนประมาณ 800,000 คนคิดเป็นงบประมาณรวมทั้งหมด 1,536 ล้านบาท เป็นเงินที่รัฐบาลจัดสรรผ่าน กสศ.ในแต่ละปี เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายจำเป็นพื้นฐาน เช่น ค่าอาหาร, อุปกรณ์การเรียน, เครื่องแบบ และ ค่าเดินทางไปโรงเรียน
แจกทุนการศึกษา นักเรียนยากจนพิเศษ
นักเรียนจะได้รับการสนับสนุน ต่อเนื่อง 3 ปีเต็ม ด้วยวงเงิน 1,000-7,200 บาทต่อปี ขึ้นอยู่กับระดับการศึกษาและระดับความยากจนของครัวเรือน โดยนักเรียนผู้รับทุนต้องรักษาอัตราการเรียนไม่ให้น้อยกว่าร้อยละ 85 และมีพัฒนาการที่สมวัยตามเกณฑ์มาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข โครงการทุนเสมอภาคมีส่วนสำคัญในการป้องกันไม่ให้นักเรียนยากจนพิเศษหลุดออกจากระบบการศึกษาภาคบังคับ โดยเฉพาะในช่วงรอยต่อของชั้น อนุบาล 3 ถึง ประถมศึกษาปีที่ 6 และ มัธยมศึกษาปีที่ 3 ล่าสุด มีนักเรียนยากจนพิเศษจำนวน 1.34 ล้านคนได้รับเงินอุดหนุน และ พบว่าอัตราการคงอยู่ในระบบการศึกษาอยู่ที่ 97.88%