เปิดรายละเอียดและข้อกำหนด ยื่นภาษีออนไลน์ 2567
เข้าสู่ปีใหม่ในปี 2568 ซึ่งในช่วงต้นปีคนไทยส่วนใหญ่ที่ทำงานกินเงินเดือนก็จะเริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับ การยื่นภาษีกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากปัจจุบัน เราไม่จำเป็นต้องเดินทางไปยื่นภาษีที่สำนักงานกรมสรรพากรแล้ว เราสามารถทำการขอยื่นภาษีผ่านช่องทางออนไลน์ได้แล้ว สะดวกสบายและรวดเร็วมากๆ การยื่นภาษีออนไลน์ในปี 2567 นั้นหลายคนยังมีคำถาม และยังไม่ค่อยทราบข้อมูลกันมากนัก ว่าสามารถยื่นได้ถึงเมื่อไหร่ และ ผู้ยื่นจะต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง สำหรับแนวทางสำหรับคนที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการยื่นภาษีอยู่ สามารถดูรายละเอียดข้อมูลได้ด้านล่าง
ยื่นภาษีออนไลน์คืออะไร
คำถามยอดฮิต สำหรับคำถามที่ว่า “ยื่นภาษีออนไลน์คืนอะไร” มนุษย์เงินเดือนหลายๆคนยังคงมีคำถามในหัวอยู่ว่า เราจำเป็นต้องยื่นภาษีรึเปล่า แล้วสามารถยื่นภาษีผ่านทางออนไลน์ได้หรือไม่ การยื่นภาษีออนไลน์ เป็นการส่งแบบการแสดงรายได้ และ รายการภาษี หรือ ภ.ง.ด. 90 หรือ ภ.ง.ด. 91 ผ่านทางเว็บไซต์ของกรมสรรพากร การยื่นภาษีออนไลน์ เป็นดการช่วยลดขั้นตอน และ ความยุ่งยากในการยื่นภาษี สำหรับผู้ที่มีรายได้ทุกคน สามารถทำการยื่นแบบภาษีผ่านทางออนไลน์จากที่บ้านได้ง่ายโดยที่ไม่ต้องไปยื่นที่สำนักงานสรรพากร
ยื่นภาษีออนไลน์ 2567 สามารถยื่นได้ถึงเมื่อไหร่?
การยื่นภาษีออนไลน์ 2567 ทางกรมสรรพากร เปิดให้ผู้ที่มีรายได้ สามารถยื่นแบบแสดงรายได้ และ การลดหย่อนภาษีได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2568 และในส่วนของช่องทางออนไลน์ สามารถส่งแบบได้ถึงสัปดหา์แรกของเดือนเมษายน 2568 ไปจนถึงวันที่ 8 เมษายน 2568
เอกสารที่ต้องใช้ สำหรับการยื่นภาษีออนไลน์
- รวบรวมเอกสารที่เกี่ยวกับรายได้ และ การลดหย่อนภาษีเช่น หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่ จ่าย หรือ 50 ทวิ
- เอกสารรายได้จากแหล่งอื่น
- เอกสารลดหย่อยภาษี เช่น เบี้ยประกันชีวิต, กองทุนรวมเพื่อการออม หรือ SSF ค่าลดหย่อนบุตร
เว็บไซต์ยื่นภาษีออนไลน์ กรมสรรพากร
- เข้าไปที่เว็บไซต์ www.rd.go.th และทำการเลือกเมนู ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ บุคคลธรรมดา หรือ E-Filing
การลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ
- หากผู้เสียภาษียังไม่เคยมีบัญชีกับทางกรมสรรพากร สามารถลงทะเบียนได้ง่ายๆ โดยใช้บัตรประจำตัวประชาชน
ภาษีที่สามารถยื่นได้แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
- ภ.ง.ด. 90 สำหรับผู้ที่มีรายได้หลายประเภท ยกตัวอย่างเช่น ค่าจ้าง, ค่าธรรมเนียม และ รายได้จากการขายทรัพย์สิน
- ภ.ง.ด. 91 สำหรับผู้ที่มีรายได้จากเงินเดือนอย่างเดียว
กรอกข้อมูลรายได้ และ ค่าลดหย่อนภาษี
- หลังจากเลือกแบบภาษีแล้ว ทำให้การกรอกข้อมูลตามเอกสารที่เตรียมเอาไว้ ยกตัวอย่างเช่น รายได้ประจำปี และ ข้อมูลค่าลดหย่อนภาษี
ตรวจสอบความถูกต้อง และ คำนวณภาษี
- ระบบจะทำการตรวจสอบข้อมูล และคำนวณภาษีที่ต้องชำระ
- ผู้เสียภาษี สามารถทำการชำระภาษีผ่าน Mobile Banking
- การขอคืนภาษี ให้ทำการระบุบัญชีธนาคารเพื่อขอรับเงินคืน
หนังสือรับรองการหัก ณ ที่ จ่าย หรือ 50 ทวิ
- หนังสือรับรองนี้ สำหรับพนักงาน ประจำ หรือ ลูกจ้าง
รายการสำหรับการลดหย่อนภาษี
- เบี้ยประกันชีวิต หรือ เบี้ยประกันสุขภาพ
- กองทุน SSF หรือ RMF
- ค่าเลี้ยงดูบิดา มารดา
- ดอกเบี้ย เงินกู้ยืม เพื่อที่อยู่อาศัย
ระยะเวลาในการขอคืนภาษี
หากมีการหักภาษีเกิน ทางระบบ จะทำการคืนเงินให้ผ่านบัญชีที่กรอกภายในระยะเวลา 30 วันหลังจากยื่นแบบ ถ้าหากผู้เสียภาษีมีข้อสงสัย สามารถติดต่อไปยัง Call Center หรือที่เบอร์ 1161 สำนักงานสรรพากร
เปิดรายละเอียดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มกราคม 2568
เดือนมกราคมถือว่าเป็นอีกหนึ่งเดือนที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญเกี่ยวกับมาตรการ ที่ถูกปล่อยออกมาเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนคนไทย และ หนึ่งในมาตรการที่หลายๆคนรอคอยอยู่นั่นก็คือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งตอนนี้มีคนไทยที่มีสิทธิ์และถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีคำถามออกมาว่าเดือนมกราคม 2568 สามารถรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อใช้จ่ายได้กี่บาท?
ล่าสุดทางกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลังได้ออกมาเปิดเผย ถึงการโอนเงินให้กับผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถใช้จ่ายซื้อของ และ ได้รับส่วนลดสำหรับการซื้อก๊าซหุงตุ้ม พร้อมค่าเดินทางขนส่งสาธารณะ ใครที่ได้รับสิทธิบ้าง สามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ด้านล่าง
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจนในเดือนมกราคม 2568 ทางรัฐบาลได้โอนให้กับผู้ที่ถือบัตรแล้ว เพื่อนำไปซื้อสินค้า และ เพื่อรับส่วนลดสำหรับซื้อก๊าซหุงตั้มพร้อมกับค่าเดินทาง รถขนส่งสาธารณะ เช่น บขส., รถไฟ ขสมก., รถไฟฟ้า
วันที่ 1 มกราคม 2568 บัตรสวัสดิการแห่งรัฐโอนแล้ว ใช้จ่ายอะไรได้บ้างเช็คเลย
- รับวงเงินซื้สินค้า 300 บาท ต่อคนต่อเดือน
- รับวงเงินส่วนลดซื้อก๊าซหุงคุ้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน
- วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบ สาธารณะ 750 บาท ต่อคนต่อเดือน
วันที่ 20 มกราคม 2568 ใครได้รับเงินบ้าง
วันที่ 20 มกราคม 2568 กรมบัญชีกลางจะทำการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผู้ถือบัตรทำการผูกกับพร้อมเพย์ ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ของผู้ที่มีสิทธิ หรือ บัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ที่มีสิทธิ หรือ ผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่สามารถกดนำมาเป็นเงินได้ได้นั้น มีวงเงิน 2 รูปแบบด้วยกันได้แต่ เบี้ยผู้พิการเพิ่มเติม และ เงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย
- ผู้พิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
- มีบัตรประจำตัวคนพิการ
- ได้รับสิทธิสวัสดิการรอบใหม่
- ต้องทำการยืนยันตัวตนกับธนาคารกรุงไทย, ธนาคารออมสิน หรือ ธนาคารเพื่อการเกษตร และ สหกรณ์การเกษตรก่อน ถึงจะได้รับสิทธิ
เปิดช่องทางการติดต่อเพื่อสอบถามรายละเอียดบัตรคนจน 2568
- ติดต่อได้ที่ Call Center ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 02-109-2345
- ติดต่อได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง 02-270-6400 ในวันและเวลาราชการ
ครม. อนุมัติ Easy E-Receipt 2.0 ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 5 หมื่นบาท
หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้มีการประชุม ครม. เกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยได้มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังได้เสนอมาเกี่ยวกับมาตรการต่างๆ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม้ 2568 และหนึ่งในมาตรการที่ถูกนำมาเป็นของขวัญปีใหม่นั่นก็คือมาตรการลดหย่อนภาษี หรือ Easy E-Receipt 2.0 เป็นมาตรการที่ออกมาเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของประชาชน หรือที่เรียกกันว่า Easy E-Receipt 2.0 นั่นเอง
ประชาชนที่อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องชำระภาษี เพื่อนำไปจับจ่ายใช้สอยนั่น ทางร้านค้าที่ออกใบกำกับภาษี หรือ ใบรับในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ E-Tax Invoice & E-Receipt ด้วยวงเงิน 50,000 บาท เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2568 ไปจนถึง กุมภาพันธ์ 2568 โดยประชาชนที่ต้องการลดหย่อนภาษีสามารถนำใบกำกับภาษีไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปีภาษี 2568
หลักเกณฑ์และเงื่อนไข มาตรการ Easy E-Receipt
- สำหรับใช้จ่ายสินค้าทั่วไป โดยกำหนดเงินลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30,000 บาท
- สำหรับการใช้จ่ายร้านวิสาหกิจ ชุมชน SME และ ร้านค้า OTOP ลดหย่อนภาษีได้ตั้งแต่ 20,000 บาทไปจนถึง 50,000 บาท
ทางด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับโครงการ Easy E-Receipt ในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ร้านค้าที่เข้ามาอยู่ในระบบภาษีเพิ่มขึ้น 20% ทั้งนี้วิสาหกิจชุมชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถทำการลงทะเบียนเข้าระบบภาษีมูลค่าเพิ่มได้ โดยระยะเวลาในการลงทะเบียนจะเปิดให้เพียง 1 สัปดาห์ ทางกระทรวงการคลังได้ออกมาตรการดังกล่าว ว่าจะทำให้ช่วยกระตุ้นเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 70,000 ล้านบาท และทำให้รัฐสูญเสียการจัดเก็บรายได้ประมาณ 10,000 ล้านบาท
เปิดรายละเอียดค่าสินค้า หรือ บริการ ที่สามารถหักลดหย่อนภาษีได้ไม่รวมถึง
- ค่าซื้อสุรา, เบียร์ และ ไวน์
- ค่ายาสูบ
- ค่าซื้อรถยนต์, รถจัรกรยานยนต์ หรือ เรือ
- ค่าน้ำมันและก๊าซ, ค่าบริการประจุไฟฟ้า สำหรับเติมยานพาหนะ
- ค่าสาธารณูปโภค, ค่าน้ำประปา, ค่าไฟฟ้า, ค่าบริการสัญญาญโทรศัพท์, ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต, ค่าบริการสำหรับบริการที่มีข้อตกลงในระยะยาว ที่เริ่มต้นก่อนวันที่ 15 มกราคม 2568 หรือ สินค้าหลังวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 แม้ว่าจะจ่ายค่าบริการระหว่างวันที่ 15 มกราคม 2568 ไปจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ก็ตาม
- ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย โดยหลักเกณฑ์ วิธีการ และ เงื่อนไขๆ เป็นไปตามที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด
ของขวัญจับฉลากขึ้นต้นด้วย ง งู ปี 2568
ช่วงเวลาแห่งความสุขใกล้จะมาถึงเข้าไปทุกที ตอนนี้บริษัทหลายๆบริษัท ให้พนักงานหยุดยา่วกันแล้ว แต่ก็มีอีกหลายๆบริษัทที่กำลังจัดงานปีใหม่แจกโบนัส แจกของขวัญให้กับพนักงาน ไฮไลท์สำคัญๆของบริษัท และ ครอบครัวของทุกๆปีก็หนีไม่พ้น การจับฉลากในช่วงปีใหม่ของทุกนั่นเอง ส่วนใหญ่แล้วจะช่วงปลายเดือนธันวาคม ไปจนถึงเดือนมกราคมปีใหม่ แต่บางบริษัทที่มีเชื้อสายจีน ก็จะจัดรวบด้วยในช่วงตรุษจีนเลย
ใครที่กำลังมองหาของขวัญเพื่อจับฉลากในช่วงปีใหม่อยู่แล้วหละก็ เทรนด์การจับของขวัญปีใหม่ในปีนี้ก็หนีไม่พ้น ของขวัญจับฉลากที่ขึ้นต้นด้วย ง งู นั่นเองเหตุผลที่ของขวัญต้องขึ้นต้นด้วย ง งู ก็เพราะว่าปี 2568 เป็นปีงูนั่นเอง ทำให้ปีนี้มีเทรนด์การหาของขวัญที่ต้องขึ้นต้นด้วย ง งู สำหรับใครที่กำลังหาไอเดียของขวัญ จับฉลากที่ขึ้นต้นด้วย ง งูอยู่แล้วหละก็ วันนี้ทาง CreditCardTH มีของขวัญที่ขึ้นต้นด้วย ง งู ในราคาสบายๆกระเป๋า มาแนะนำให้คุณไปเลือกซื้อมาจับฉลากกันได้ ในราคาเบาๆ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถดูได้ด้านล่าง
ของขวัญจับฉลากขึ้นต้นด้วย ง งู 2568
- งู: หาของขวัญอะไรก็ได้ที่เป็น งู ยกตัวอย่างเช่น งูปลอม, ตุ๊กตางู, เครื่องประดับที่มีงู, เคสมือถือลายงู, เสื้อผ้าลายงู, หรือผลิตภัณฑ์ที่มีแบรนด์ หรือ รูป งู เช่น แป้งตรางู, BVLGARI เครื่องประดับงู, กาแฟโบราณ ตรางูเห่า, ปูนซีเมนต์ตรางูเห่า, ถังปูนใส่น้ำ ตรางู ฯลฯ
- เงิน: เงิน หรือ สิ่งที่ทุกคนในสังคมยอมรับกันโดยทั่วไป ในการใช้เป็นสื่อกลาง สำหรับการแลกเปลี่ยนและยังเป็นเครื่องใช้ชีวัดมูลค่าของสินค้า หรือ บริการ ความไปถึงใช้เพื่อการชำระหนี้ สำหรับ เงิน เป็นของขวัญอีกหนึ่งอย่างที่ใช้ อักษร ง งู ขึ้นต้น และ สามารถนำมาจับฉลากได้
- เงาะกระป๋อง: สำหรับใครที่หาของขวัญตัวอักษร ที่ขึ้นต้นด้วย ง งูไม่ทัน แนะนำเข้า 7-11 หาซื้อเงาะกระป๋องมาจับฉลากได้เลย เป็นของขวัญที่หาได้ง่ายที่สุด เพราะว่ามีขายในร้านสะดวกซื้อแทบจะทุกที่ทั่วประเทศไทย
- งา: วัตถุดิบที่ใช้เพื่อปรุงอาหาร ชื่อภาษาอังกฤษคือ Sesame สามารถซื้องา เพื่อนำมาจับฉลากได้ หรือจะหาซื้อขนม ที่มีส่วนผสมของงามาจับฉลากได้เช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น ขนมงาขาว, ขนมงาทอด, ขนมคอเป็ด, ขนมงาอ่อน, ขนมงาดำ ฯลฯ
- เงือก: สำหรับบ้านไหนที่มีเด็กๆ การหาตุ๊กตาเงือก หรือ ตุ๊กตา Ariel นำมาจับฉลากถือว่าเป็นความคิดที่ดีมากๆ เนื่องจากเป็นเจ้าหญิงจาก Disney แล้วยังเป็นตัวเลือกที่เด็กๆชอบอีกด้วยสำหรับ Ariel เป็นเจ้าหญิงเงือกที่อยู่ในจักรวาลดิสนีย์ หาซื้อได้ไม่ยากมากนัก
ของขวัญที่ขึ้นต้นด้วย ง งู ด้านบนเป็นแค่ไอเดีย เบื้องต้น สำหรับใครที่มีไอเดียที่แปลกใหม่ๆกว่าด้านบน สามารถแชร์มาให้ฟังกันได้ สำหรับปีใหม่ 2568 เป็นปีงู ซึ่งหลายๆบ้าน หรือ หลายๆบริษัท อาจจะนำข้อกำหนดในการจับฉลาก ยกตัวอย่างเช่น “หาของขวัญ ที่ขึ้นต้นด้วย ง งู” มาจับฉลากด้วยงบตามที่กำหนด เพื่อความสนุก และ ความบันเทิง แถมยังแฝงไปด้วยความน่าตื่นเต้นก็ได้นะ
อัพเดทบัตรเครดิต UOB 2568 เลือกแบบไหนดี
เลือกสมัครบัตรเครดิต UOB ในปี 2568 หลายคนอาจจะมีคำถามว่าเลือกสมัครบัตรใบไหนดี ก่อนอื่นเลยต้องมีเช็คการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของคุณก่อนเป็นอันดับแรกเลยว่า การใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของคุณหนักไปทางไหน ไม่ว่าจะเป็นการสมัครบัตรเครดิตเพื่อนำไปใช้ซื้อสินค้า หรือ บริการ หรือจะเป็นการใช้จ่ายเพื่อสะสมไมล์ เพื่อนำไปแลกตั๋วเครื่องบินเป็นต้น
คนไทยหลายๆคนที่กำลังวางแผนจะสมัครบัตรเครดิตอยู่ในปี 2568 เลยมีคำถามว่า การเลือกสมัครบัตรเครดิต UOB ในปี 2568 ควรจะเลือกสมัครบัตรใบไหนดี แล้วบัตรใบไหนที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ วันนี้เราไปอัพเดทด้านล่างกันว่าบัตร UOB มีประเภทไหนบ้าง ที่เหมาะกับคุณสำหรับการสมัครบัตรล่าสุด
ทำไมถึงเลือกสมัครบัตรเครดิต UOB?
ก่อนจะไปลงรายละเอียดประเภทบัตรเครดิต UOB ว่ามีกี่ประเภทให้เราสมัคร ให้คุณลองไปเช็คตัวเองก่อนว่าทำไมคุณถึงเลือกสมัครบัตรเครดิตกับทางธนาคาร UOB ซึ่งสาเหตุที่คนไทยส่วนใหญ่เลือกสมัครบัตรเครดิต UOB ก็เพราะการบริการ และ จุดประสงค์ในการใช้จ่ายบัตรเครดิตเครดิต ไม่ว่าจะเป็นการรูดซื้นสินค้า หรือ บริการ หรือ ผ่อนสินค้า ผู้ที่ถือบัตร UOB จะได้รับสิทธิ์พิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเครดิตเงินคืน หรือ ที่เราเรียกว่า Cash Back ซึ่งบัตรเครดิต UOB เป็นบัตรเครดิตประเภทเดียวที่มอบ Cash Back ให้กับผู้ถือบัตรสูงถึง 15% นอกจากมีบัตร Cash Back ให้เราใช้จ่ายเพื่อได้รับเงินคืนแล้วยังมีบัตรที่ใช้จ่ายเพื่อสะสมไมล์ด้วยนะอย่างบัตร UOB Privimiles หากใช้จ่ายผ่านบัตรใบนี้แล้ว จะได้รับคะแนนสะสมเพื่อนำไปแลกตั๋วเครื่องบินเป็นต้น
4 บัตร UOB น่าสมัคร 2568
อัพเดทบัตร UOB น่าสมัคร 2568 มีแบบไหนบ้าง แล้วบัตรเครดิต UOB แบบไหนที่เหมาะกับคุณ
UOB Premier
- บัตรเครดิต UOB Premier เป็นบัตรที่จะทำให้การช้อปปิ้งของคุณเหนือระดับขึ้นไปอีก ด้วยสิทธิพิเศษต่างๆ ที่สามารถเติมเต็มกับทุกไลฟ์สไตล์การใช้จ่าย
- จุดเด่นบัตร UOB Premier
- สามารถแลกรับเครดิตเงินคืนได้สูงสุด 15% และ ทุกๆการใช้จ่ายที่ Supermarket ที่ร่วมรายการจะได้รับเครดิตเงินคืน 5%
- ได้รับคะแนน UOB Reward Plus 4 เท่าเมื่อใช้จ่ายที่ห้างสรรพสินค้าที่เข้าร่วมรายการ
- รับคะแนนสะสม UOB Reward Plus 2 เท่าเมื่อใช้จ่ายในสกุลเงินต่างประเทศ
- คุ้มสุดๆ รับเครื่องดื่มฟรีที่ร้านค้า และ ร้านอาหารชั้นนำ ที่เข้าร่วมรายการ ทุกเดือน (แนะนำให้ไปต่อคิวรับเครื่องดื่มฟรี ทุกวันที่ 1 ของเดือน เพราะว่าหากไปต่อวันที่ 2 ของเดือนสิทธิ์อาจจะหมด)
- พิเศษ สามารถเข้ารับบริการห้องรับรองพิเศษ ที่สถานบินสุวรรณภูมิ และ สนามบินกว่า 1,300 แห่งทั่วโลก
- บริการเลขาส่วนตัว และ หากมีเหตุฉุกเฉินสามารถติดต่อเพื่อขอรับความช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนได้ฟรี
- สามารถเลือกผ่อน 0% ได้นานสูงสุด 3 เดือน
บัตร UOB Premier ไม่แนะนำให้ใครสมัคร?
บัตร UOB Primer ไม่แนะนำให้เด็กจบใหม่สมัครเนื่องจากว่าบัตร UOB Primer จะต้องมีเงินเดือนขั้นต่ำ 30,000 บาทถึงจะสมัครได้ และถึงแม้จะฟรีค่าธรรมเนียมรายปี แต่ปีถัดไปต้องจ่ายค่าธรรมเนียมอยู่ดี
UOB Privimiles
- บัตรเครดิต UOB Privimiles เป็นบัตรเครดิตที่เหนือกว่าทุกระดับสำหรับผู้ที่รักในการเดินทางท่องเที่ยว เนื่องจากบัตรเครดิตใบนี้ สามารถใช้จ่ายเพื่อสะสมไมล์ แล้วนำไมล์ไปแลกตั๋วเครื่องบินได้ฟรีๆอีกด้วย
- ทุกๆการใช้จ่าย 15 บาท รับคะแนนสะสม 1 คะแนน
- ทุกๆ 1.2 คะแนน จะเท่ากับ 1 ไมล์ ซึ่งผู้ถือบัตรสามารถคะแนนไปแลกเปลี่ยนเป็นตั๋วเครื่องบินการสายการบินชั้นนำ
- ทุกๆ 1 คะแนน จะเท่ากับ 1 คะแนนของ Big Point AirAsia
- แลกคะแนนคุ้มๆ เปลี่ยนเที่ยวบิน, แพ็คเกจทัวร์, โรงแรม, รถเช่า หรือ แลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15%
- เพิ่มความอุ่นใจให้กับคุณผ่านประกันการเดินทางโดยคุ้มครองสูงสุด 20 ล้านบาท
- มีบริการห้องรับรองพิเศษ Royal Silk Lounge ที่สถานบินสุวรรณภูมิสามารถใช้ได้สูงสุด 2 ครั้งต่อปี
บัตร UOB Privimiles ไม่เหมาะกับใคร?
บัตร UOB Privimile ไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบเดินทาง แถมข้อกำหนดของการสมัครบัตรค่อนข้างสูง โดยจะต้องมีเงินเดือนขั้นต่ำ 70,000 บาท
UOB Preferred
- บัตรเครดิตที่ตอบทุกโจทย์ของสายช้อปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้า รับเครดิตเงินคืนได้สูงสุดถึง 2,000 บาท สำหรับผู้สมัครใหม่ และ รับเครดิตเงินคืน สูงสุด 15%
- รับคะแนนสะสม The 1 เพิ่ม 2 คะแนน เมื่อมีการใช้จ่ายทุกๆ 25 บาท ในทุกยอดการใช้จ่ายผ่านบัตร
- รับคะแนนสะสม UOB Reward Plus ได้ทุกๆยอดการใช้จ่ายผ่านบัตร
- ได้ฟรี ประกันการเดินทาง และ บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน และ บริการเลขาส่วนตัวได้ 24 ชั่วโมง
บัตร UOB Preferred เหมาะสำหรับบัตรที่ชอปช้อปปิ้งสินค้าหรือบริการผ่านห้างสรรพสินค้า
UOB Yolo Platinum
- บัตรเครดิต UOB Yolo เป็นบัตรที่จะช่วยให้คุณประหยัดมากขึ้นหากคุณซื้อสินค้าจากร้านค้าชั้นนำ
- รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15% เมื่อใช้จ่ายบริการที่ร่วมรายการ เช่นค่าบริการการเดินทางผ่าน รถไฟฟ้า BTS, รถไฟใต้ดิน MRT, 7-11, Boots, Watson, Matsumoto, Burger King, Shopee, Grab
- รับเครดิตเงินคืน 1% ทุกๆยอดการใช้จ่าย
- รับเพิ่มอีกต่อเมื่อซื้อบัตรชมภาพยนต์ SF แบบ 1 ฟรี 1
- ให้คุณสามารถแบ่งชำระได้ 0% นานสูงสุด 3 เดือน
บัตร UOB Yolo Platinum เหมาะกับเด็กจบใหม่ที่มีเงินเดือนขั้นต่ำ 15,000 บาท หรือ เด็กจบใหม่ที่ไม่ชอบพกเงินสดติดตัว และ ชอบใช้จ่ายผ่านบัตรดิต บัตรเครดิต UOB Yolo Platinum สามารถใช้จ่ายได้ทุกรายการ
เงินดิจิทัล 10,000 บาท ตรวจสอบรายชื่อผ่านเว็บไซต์ได้แล้ววันนี้
เว็บไซต์ govwelfare.cgd.go.th เป็นเว็บไซต์ที่ประชาชนสามารถเข้าไปเช็ครายชื่อผู้ที่ได้รับเงินโอนการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท จากทางรัฐบาล ทางกรมบัญชีกลางได้ออกมาแจ้งให้ตรวจสอบรายชื่อ รับเงินดิจิทัลเฟส 2 และ 3 ในวันตรุษจีน 2568 ตามรายละเอียดขึ้นตอนด้านล่าง
เงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่กำลังจะถูกแจกในปี 2568 โดยทางกระทรวงการคลัง ได้ออกมาแจ้งผ่านกรมบัญชีกลางว่าพร้อมแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทเฟส 2 สำหรับผู้สูงอายุ โดยทางนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้ออกมาประกาศเกี่ยวกับแผนการดำเนินงานของทางรัฐบาลรอบ 3 เดือน ภายใตัชื่อ 2568 โอกาสไทย ทำได้จริง และ การมอบนโยบาบการบริหารราชการแผ่นดิน
ทางนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาเปิดเผยถึงความคืบหน้า เกี่ยวกับโครงการตระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2567 การแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ได้ออกมาระบุว่า กำลังดำเนินโครงการ 10,000 บาท เพื่อฟื้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 โดยเงินสดจะถึงมือผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ประมาณ 4 ล้านคน ไม่เกินตรุษจีน 2568 นี้ โดยวันตรุษจีน 2568 จะตรงกับวันที่ 29 มกราคม 2568 จากการประเมินจะใช้วงเงินประมาณ 40,000 ล้านบาท สำหรับโครงการนี้
ทางกรมบัญชีได้ออกมาแจ้งการเปิดระบบ govwelfare.cgd.go.th เพื่อให้ผู้ที่ได้รับสิทธิโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2567 ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และ คนพิการไปก่อนหน้านี้ เพราะฉะนั้นการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทเฟส 2 สำหรับผู้สูงอายุ สามารถเข้าไปตรวจสอบเว็บไซต์ govwelfare.cgd.go.th ได้ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม 2568 ทางกระทรวงการคลัง ได้มีการเตรียมเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรี ให้มีการพิจารณาภายในสัปดาห์หน้า หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง กรมบัญชีกลาง จะทำการจ่ายเงินเป็นเงินสด
เปิดเงื่อนไข ผู้ที่ได้รับสิทธิแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 2 สำหรับผู้สูงอายุ ตามรายละเอียดด้านล่าง
- กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป แต่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเฟสแรก
- จำนวนทั้งหมด 4 ล้านคน
- แจกเป็นเงินสดจำนวน 10,000 บาท
- ใช้งบประมาณทั้งหมด 40,000 ล้านบาท
- เป็นผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนร่วมโครงการผ่อนแอปพลิเคชั่นทางรัฐบาล ในช่วงที่เปิดให้ลงทะเบียนแล้ว
- ผ่านการตรวจสอบสิทธิ์ และผ่านกระบวนการ KYC แล้ว
ขั้นตอนในการเช็คเงินดิจิทัล 10,000 เฟส 2 และ เฟส 3
- เข้าไปที่เว็บไซต์ govwelfare.cgd.go.th
- กรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก
- คลิกที่ปุ่มตรวจสอบ
แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 โอนเงินจ่ายผ่านแอปทางรัฐ
โครงการแจกเงินดิจิทัล เฟส 3 จะเป็นการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตผ่านโครงการเติมเงินในกระเป๋า 10,000 ซึ่งเฟส 3 ทางกรมบัญชีกลาง จะไม่แจกเป็นเงินสดผ่านทางพร้อมเพย์ที่ผูกบัตรประชาชน แต่จะเป็นการจ่ายผ่านดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) เพราะเราต้องใช้เอไอเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือเพื่อเชื่อมรัฐบาลกับประชาชน
โครงการ Easy E-Receipt กระตุ้นการบริโภคเริ่ม มกราคม 2568
รอลุ้นสำหรับใครที่กำลังมองหาแนวทางลดหย่อนภาษีอยู่ตอนนี้ บอกเลยว่าต้องติดตามข่าวสารเกี่ยวกับ Easy E-Receipt ที่จะถูกชงเข้า ครม. ในสัปดาห์หน้านี้ เป็นโครงการที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน และ ยังนำไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 50,000 บาท
จากการเปิดเผยข้อมูลของรองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แจ้งว่ากระทรวงการคลังได้มีการเตรียมเสนอมาตรการลดหย่อนภาษี เพื่อเป็นการกระตุ้นการบริโภคในประเทศไหยของเราผ่าน Easy E-Receipt โดยโครงการจะใช้รายละเอียดและหลักเกณฑ์เดิม สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 50,000 บาท สำหรับปีภาษี 2568 โดยจะทำการเริ่มต้นโครงการนี้ในปีมกราคม 2568
โครงการ Easy E-Receipt
สำหรับประชาชน ที่อยู่ในเกณฑ์ต้องเสียภาษี ไปจับจ่ายใช้สอยด้วยวงเงิน 50,000 บาทกับทางร้านค้าที่สามารถออกใบกำกับภาษี หรือ ใบรับแบบอิเล็กทรอนิกส์, ระบบ E-Tax Invoice & E-Receipt โดยสามารถนำใบกำกับภาษีดังกล่าวไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา นอกจากนี้โครงการ Easy E-Receipt ยังเป็นแรงจูงใจให้ร้านค้าในระบบภาษี เข้าสู่ระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Tax Invoice ของกรมสรรพากรอีกด้วย เมื่อไหร่ก็ตามที่มีการใช้จ่าย ระบบจะทำการเก็บข้อมูลส่งกลับไปยังกรมสรรพากรทันที ไม่ต้องมาเก็บเอกสารใบเสร็จใบกำกับภาษีเอง
เปิดเงื่อนไข Easy E-Receipt
- ใช้ลดหย่อนภาษี 5 หมื่นบาท ตั้งแต่เดือนมกราคม 2568
- ซื้อสินค้าจากทานร้านค้าที่อยู่ในระบบภาษี ที่สามารถออกใบกำกับภาษีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น
- นำใบกำกับภาษีจากการซื้อสินค้า หรือ บริการที่มีมูลค่าไม่เกิน 50,000 บาท มาลดหย่อยภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้
หมายเหตุ จะต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ e-Tax Invoice และ E-Receipt ของกรมสรรพากร เว้นแต่การซื้อสินค้า หรือ บริการต่อไปนี้จะจ่ายให้ผู้ที่ไม่ใช้ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้แก่
- ค่าบริการหนังสือ, หนังสือพิมพ์, นิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอรเน็ต
- ค่าหนังสือ, หนังสือพิมพ์, นิยสาร
- ค่าสินค้า หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้รับการลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชมุชน โดยกรณีซื้อสินค้าหรือบริการดังกล่าวจากผู้ที่ไม่ใช้ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ต้องได้รับใบรับในรูปแบบใบรับอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ E-Tax Invoice และ E-Receipt ของกรมสรรพากร
ค่าสินค้า หรือ ค่าบริการที่ไม่สามารถหักลดหย่อนภาษีได้
- ค่าเบียร์, ไวน์ และ สุรา
- ค่ายาสูบ
- ค่ารถยนต์, รถจักรยานยนต์ และ เรือ
- ค่าน้ำมัน และ ก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ
- ค่าสาธารณปโภค, ค่าน้ำประปา, ค่าไฟฟ้า, ค่าบริการสัญญาญโทรศัพท์, ค่าบริการสัญญาญอินเทอร์เน็ต, ค่าบริการสำหรับบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการระยะยาวเริ่มต้นก่อนที่ 1 มกราคม 2568 หรือ สินค้าหลังวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 แม้จะจ่ายค่าบริการระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2568 ไปจนถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568
- ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย โดยหลักเกณฑ์ รวมไปถึงเงื่อนไข อื่นๆจะเป็นไปตามที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด
ในส่วนของผู้ประกอบการนิติบุคคล ไม่จำกันรายได้ สามารถทำการจัดเก็บใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบบริการ E-Tax Invoice & e-Receipt โดยสามารถศึกษารายละเอียดและทำการลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ https://etax.rd.go.th/etax_staticpage/app/#/index/main#top สำหรับผู้ประกอบการนิติบุคคล และ บุคคลธรรมดาที่เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และ มีรายได้ไม่เกิน 30 ล้านบาทต่อปี สามารถทำการจัดทำใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ผ่านบริการ e-Tax Invoice ผ่านทาง Email
เปิดรายละเอียดยอดช่วยเหลือเกษตรกรไร่ละ 1,000
รายละเอียดโครงการช่วยเหลือเกษตรกร ให้ได้รับเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท ซึ่งทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ได้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับการโอนเงินในโครงการช่วยเหลือ และ สนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวในปี 2567/68 ไร่ละ 1,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 10 ไร่ ซึ่งตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมาทางรัฐบาลได้มีนโยบายรัฐบาล เพื่อช่วยเหลือแลบรรเทาความเดือนร้อน และ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้การผลิตข้าวมีความคุ้มค่า และ เพิ่มกำไรให้กับชาวเกษตรกร ที่ได้รับประโยชน์จำนวน 4.61 ล้านครัวเรือน รวมวงเงิน 37,414 ล้านบาท
ธ.ก.ส. โอนเงิน 3 วัน 16-18 ธันวาคม 2567
ทางธนาคารเพื่อการเกษตร และ สหกรณ์การเกษตร ได้ ออกมาแจ้งว่าระหว่างวันที่ 16-18 ธันวาคม 2567 ทางธนาคารได้มีการดำเนินการโอนเงินให้กับพี่น้องเกษตรกร ตามข้อมูลรายชื่อจากกรมส่งเสริมการเกษตร ในพื้นที่ภาพเหนือ, ภาคกลาง, ภาคตะวันออก และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทั้งหมดแล้ว 47 จังหวัดจำนวน 2.63 ล้านราย เป็นจำนวนเงิน 20,792 ล้านบาท
วันพฤหัสที่ 19 ธันวาคม 2567
ทางธนาคารจะทำการโอนเงินให้กับเกษตรกรในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างจำนวน 8 จังหวัด คิดเป็น 1.40 ล้านครัวเรือน รวมวงเงิน 11,822 ล้านบาท
วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม 2567
ทางธนาคารจะทำการโอนเงินช่วยเหลือให้กับพี่น้องเกษตรกร ในพื้นที่ภาคตะวันตก และ ภาคใต้ จำนวน 22 จังหวัด รวม 1.56 แสนครัวเรือน คิดเป็นวงเงิน 1,303 ล้านบาท
ตรวจสอบเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 ได้ผ่านช่องทางไหน?
พี่น้องเกษตรกร สามารถตรวจสอบผลการโอนเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 ได้ผ่านทางแอปพลิเคชั่น BAAC Mobile ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ ข้อความแจ้งเตือนเงินเข้าผ่านบัญชี BAAC Connect ผ่านทาง Line BAAC Family นอกจากนี้ยังสามารถติดตามการให้บริการสินเชื่อด่วนคนดี อสม. กุ่งแสน และ อสส. เพื่อช่วยสนับสนุนเงินทุนให้กับลูกค้ารายเดิมที่กู้เงินภายใต้โครงการสินเชื่อเงินด้วนคนดี ที่ชำระเงินตรงงวดครบ 4 เดือน สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายหมุนเวียนและเสริมสภาพคล่องในการลงทุนประกอบอาชีพ โดยวงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 50,000 บาท ผ่อนชำระ 600 บาท ต่อเดือน 1-3 งวด โดยจ่ายสินเชื่อให้กับสมาชิก อสม. และ อสส. ไปแล้วกว่า 254,000 ราย
ในส่วนของการตรวจสอบสิทธิ์พี่น้องเกษตรกร สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ผ่านทางเว็บไซต์ efarmer.doae.go.th/checkFarmer
แนะนำสมัครบัตรเครดิต ใช้สำหรับผ่อนสินค้า 0% ไม่ต้องจ่ายดอก
ใครที่กำลังจะหาซื้อสินค้าแต่สินที่กำลังเลือกซื้อนั้นมีราคาค่อนข้างสูง ทำให้เราต้องผ่อนจ่าย การเลือกสมัครบัตรเครดิตแล้วนำมาใช้ผ่อนจ่ายแบบ 0% ถือว่าตอบโจทย์ สำหรับการซื้อสินค้าในยุคปัจจุบันมากๆ เมื่อจากว่าเราไม่จำเป็นจะต้องจ่ายเงินก้อนออกไป สามารถผ่อนจ่ายแบบ 0% กับทางธนาคารที่ออกบัตรเครดิตให้กับเราได้นั่นเอง
ในปัจจุบันการจับจ่ายใช้สอยของคนไทยปรับเปลี่ยนไปอย่างมาก ถ้าเป็นสมัยก่อนก็จะเลือกใช้เงินสดในการจับจ่ายใช้สอย แต่ถ้าเป็นสมัยนี้ การซื้อสินค้า หรือ บริการต่างๆจะเป็นการสแกนจ่ายผ่านแอปพลิเคชั่นของธนาคารเกือบจะ 100% เลยทีเดียว ทำให้คนไม่ถือเงินสด กลายเป็นสังคมแคชเลส โซไซตี้ (Cashless Society) หรือ สังคมไร้เงินสดนั่นเอง
การเลือกซื้อสินค้าในปัจจุบันก็ปรับเปลี่ยนไปเช่นเดียวกันเนื่องจากการจ่ายเงินที่เปลี่ยนไป คนไทยเลือกที่จะผ่อนจ่ายมากกว่าการใช้เงินสดซื้อสินค้า และ บริการเหตุผลหลักๆเลยก็คือการผ่อนจ่ายทำให้เราไม่เสียเงินก้อน แถมก่อนเลือกผ่อนจ่ายกับทางบัตรเครดิตต่างๆ ยังสิทธิประโยชน์พิเศษที่ดีมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการได้รับเงินคืนหรือ Cash Back เข้าบัตรเครดิต ทำให้เราจ่ายเงินซื้อสินค้า หรือ บริการในราคาที่ถูกลงไปอีกนั่นเอง
บัตรเครดิตที่อยากจะแนะนำให้สมัครเพื่อใช้ผ่อนสินค้า 0%
สำหรับบัตรเครดิตในปัจจุบันมีให้เลือกสมัคร จากหลากหลายธนาคารชั้นนำ แต่วันนี้จะมาแนะนำบัตรเครดิตจากทางธนาคาร UOB ซึ่งเป็นบัตรเครดิตที่ได้รับความนิยมจากประชาชนคนไทยเป็นจำนวนมาก หากเลือกที่จะผ่อนชำระสินค้าหรือบริการ เนื่องจากบัตรเครดิต UOB มีโปรโมชั่นผ่อนสินค้า 0% และมีโปรโมชั่นคุ้ม แบบไม่ต้องเสียดอกเบี้ยสักนิดเดียว
การมีบัตรเครดิต UOB อยู่ในมือทำให้คุณสามารถเลือกผ่อนสินค้าแบบ 0% ได้ง่ายๆ แถมยิ่งเป็นยุคนี้ คงไม่มีคนไทยคนไหนอยากจะเสียเงินก้อนในการซื้อสินค้าที่มีราคาสูงๆ แม้แต่คนที่มีฐานะปัจจุบันก็เลือกใช้บัตรเครดิตในการซื้อสินค้ากันทั้งนั้น คงไม่มีใครอยากจะใช้เงินก้อนในการจับจ่ายใช้สอยอย่างแน่นอน
โปรโมชั่นบัตรเครดิต UOB ผ่อนชำระ 0%
อีกหนึ่งโปรโมชั่นของผู้ถือบัตรเครดิต UOB ที่ทำให้คนไทยส่วนใหญ่เลือกสมัครบัตรเครดิต UOB เผื่อผ่อนชำระสินค้า ก็คือโปรโมชั่นนี้เลย เป็นโปรโมชั่น ที่ให้คุณสามารถเลือกซื้อสินค้ากับทางร้านค้าที่ร่วมรายการ โดยไม่ต้องใช้เงินก้อน สามารถผ่อนชำระด้วยอัตราดอกเบี้ย 0% ผ่านบัตรเครดิต UOB และสามารถแบ่งชำระได้นานสูงสุด 10 เดือน สำหรับผู้ที่ถือบัตรเครดิต UOB Cash Plus สามารดูสิทธิประโยชน์พิเศษเพิ่มเติมได้ด้านล่าง
- กดเงินสด ฟรีค่าธรรมเนียม
- ผ่อนสินค้า 0% ได้นานสูงสุด 36 เดือน
- รับเงินก้อน ด้วยอัตราดอกเบี้ยสุดพิเศษ แบ่งชำระได้นานสูงสุด 48 เดือน
มาตรการใหม่โครง ช่วยลูกหนี้กับโครงการ คุณสู้ เราช่วย
เปิดมาตรการใหม่ล่าสุดจากทางรัฐบาลที่ได้ร่วมมือกับทางกระทรวงการคลัง ได้ออกมาเปิดเผยถึงความร่วมมือระหว่างกระทรวงการคลัง กับทางธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เพื่อที่จะมุ่งลดภาระทางการเงินกให้กับลูกหนี้ ที่กำลังประสบปัญหาในการชำระหนี้ทำให้สามารถช่วยประคองตัว เพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงิน และ สินทรัพย์สำคัญ ผ่านแนวทางการปรับโครงการสร้างหนี้ เพื่อเป็นการช่วยลดภาระการผ่อนชำระต่องวด
ตอนนี้มีผู้ที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการ คุณสู้ เราช่วย เข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจจะทำให้การเข้าใช้งาน สำหรับสาวด่วน ธปท. 1213 ล่าสุด รวมไปถึงการลงทะเบียนผ่านทางเว็บไซต์ด้วย แต่ประชาชน สามารถเข้าร่วมผ่านการลงทะเบียนโครงการได้ตลอด 24 ชั่วโมง
5 ขั้นตอนการลงทะเบียนโครกงาร คุณสู้ เราช่วย
- เข้าไปที่เว็บไซต์ bot.or.th/khunsoo และทำการตรวจสอบคุณสมบัติ รวมไปถึงเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ
- สมัครใช้งานด้วยระบบอีเมล หรือThaiID โดยทำการสแกน QR บนแอปพลิเคชั่น ThaiID เพื่อยืนยันตัวตน
- ทำการกรอกข้อมูลการลงทะเบียน โดยใส่ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ และ นามสกุล, หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน, หมายเลขโทรศัพท์ และ อีเมล
- ส่งคำขอแก้หนี้ โดยให้ทำการเลือก ผู้ให้บริการที่ต้องการเข้าร่วม และ ผลิตภัณฑ์ที่ต้องการเข้าร่วมหากมีผู้ให้บริการ หรือ ผลิตภัณฑ์ที่ต้องการเข้าร่วมมากกว่า 1 แห่ง หรือ มากกว่า 1 ประเภท สามารถทำการกดเพิ่มเติมได้
- ยืนกันการลงทะเบียน ให้ทำการกรอกข้อมูลให้ครบ โดยให้ลูกหนี้เก็บหมายเลขคำร้องเอาไว้ ระบบจะทำการแสดงหมายเลขคำร้องให้เก็บไว้เพื่อติดตามสถานะ
โครงการ คุณสู้ เราช่วย โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อให้ลูกหนี้ สามารถจัดการภาระหนี้ได้อย่างยั่งยืน และเพื่อเป็นโอกาสในการฟื้นฟูคุณภาพชีวิต และ เศรษฐกิจของประชาชนคนไทยทั่วประเทศ โดยผู้ที่สนใจ สามารถทำการลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 28 ภุมภาพันธ์ 2568
ผู้ที่ประสงค์ในการลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมโครงการ จะต้องมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขที่กำหนด และจะได้รับสิทธิ์เท่ากันทุกคน โดยสถาบันการเงินจะเริ่มทำการติดต่อกลับตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2568 เป็นต้นไป ผู้ที่สนใจเข้ารวมโครงการ และ ทำการลงทะเบียน สามารถทำการตรวจสอบสถานะคำร้องผ่านทางเว็บไซต์ www.bot.or.th/khunsoo
มาตรการช่วยเหลือ คุณสู้ เราช่วย แบ่งออกเป็น 2 มาตรการด้วยกัน
- มาตรการที่ 1 “จ่ายตรง คงทรัพย์” เป็นการปรับโครงสร้างหนี้แบบลดค่างวด ลดภาระดอกเบี้ย และ เน้นตัดชำระต้นเงิน
- มาตรการที่ 2 “จ่าย ปิด จบ” การลดภาระหนี้ให้กับลูกหนี้ NPL ที่มียอดหนี้ไม่สูง
กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่เข้ารวมโครงการ
- ธนาคารกสิกรไทย จำกัด มหาชน)
- ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารไอซีบีซี (ไทย) จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาขน)
- ธนาคารแลนด์แอนด์เฮาส์ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารอิเดียนโวเวอร์ซีส์
- ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน)
- ธนาคารแห่งประเทศจีน (ไทย) จำกัด (มหาชน)