บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คนเก่ารับต่อ คนใหม่รอลงทะเบียน 2568
อัปเดตความเคลื่อนไหวบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 เงินเข้าใครบ้าง สำหรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรายเก่าที่เคยได้รับสิทธิอยู่แล้ว และ รายใหม่ ที่กำลังรอวันที่เปิดลงมทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่ มีการปรับเกณฑ์ใหม่ด้วย สำหรับคนที่ได้รับสิทธิ์รายเก่า รับ 1,545 บาท และ กลุ่มเปราะบางเงินเข้าทุกเดือน
รัฐบาลเตรียวตัวประกาศรายละเอียดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ เร็วๆนี้ หลังจากที่คณะรัฐมนตรี ได้มีการประกาศถึงรายละเอียดการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ไฟขียว มีการสรุปคุณสมบัติผู้ที่ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว ถึงแม้ว่ากระบวนการการจัดจ้างผู้พัฒนาระบบลงทะเบียนจะมีการยืดเยื้อออกไปบ้างทางรัฐมนตรีช่วยแจ้งว่าไม่ต้องกังวล
บัตรคนจนรายเก่า รับเงินต่อได้ถึงเดือนไหน
- ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรายเก่า ยังคงได้รับสิทธิ
- ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรายเดิมยังคงได้รับสิทธิช่วยเหลือจากรัฐบาลต่อเนื่อง
- รัฐบาลยืนยันว่ามีงบประมาณเพียงพอสำหรับการจ่ายเงินช่วยเหลือจนถึงเดือนตุลาคม 2568 นี้
ใครที่กำลังรอคอยการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ให้เตรียมตัวให้พร้อม คาดการณ์ว่าจะมีการออกเกณฑ์ใหม่เร็วๆนี้ พร้อมกับครอบคลุมผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเพิ่มมากขึ้นแน่นอน
รัฐบาลจ่ายเงินรวม 1,545 บาท ให้วงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อใช้จ่ายอะไรบ้าง
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับผู้ที่ถือบัตรรายเก่าจะได้รับเงินช่วยเหลือรวม 1,545 บาท ต่อเดือน โดยไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สามารถสะสมในเดือนถัดไปได้ แบ่งออกเป็นรายการจ่ายเงินตามรายละเอียดด้านล่าง
- วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 300 บาท ต่อคนต่อเดือน
- วงเงินค่าเดินทางผา่นระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาท ต่อคนต่อเดือน
- วงเงินส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 80 บาท ต่อคนต่อ 3 เดือนคิดเป็นเดือนละประมาณ 26.67 บาท
- มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา 100 บาทต่อครัวเรือน ต่อเดือน
- มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า 315 บาท ต่อครัวเรือนต่อเดือน
10 ล้านคน เตรียมตัวลงทะเบียน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่
สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมาก่อน คาดการณ์ว่า จะมีผู้ลงทะเบียนใหม่ทั่วประเทศ มากถึง 10 ล้านคน ที่เตรียมตัวลงทะเบียนรับสิทธิในปี 2568 นี้
กลุ่มไหนมีสิทธิสามารถลงทะเบียนรอบใหม่ได้บ้าง?
- ผู้ที่ไม่เคยได้รับสิทธิมาก่อน รวมถึงประชาชนที่เพิ่มมีอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์
- กลุ่มตกหล่นจากปี 2565 แม้จะลงทะเบียนไว้เมื่อ 2 ปี ก่อน แต่ยังมีผู้ที่ยังไม่ได้ทำการยืนยันตัวตนอีกประมาณ 8 แสนคน ซึ่งกลุ่มนี้มีโอกาสได้รับสิทธิรอบใหม่ด้วย
เปรียบเทียบบัตรเครดิตสำหรับนักศึกษาจบใหม่ 2025
ในปี 2025 นักศึกษาจบใหม่หลายคนเริ่มมองหาบัตรเครดิตใบแรกที่เหมาะกับตัวเอง เพื่อใช้ในการบริหารจัดการเงินและสร้างประวัติการเงินที่ดีตั้งแต่เริ่มต้นการทำงาน อย่างไรก็ตาม ด้วยบัตรเครดิตที่มีอยู่มากมายในตลาด การเลือกบัตรที่ตอบโจทย์ที่สุดจึงเป็นสิ่งสำคอัญมาก บทความนี้จึงขอเปรียบเทียบบัตรเครดิตที่เหมาะสำหรับนักศึกษาจบใหม่ในปี 2025 เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
1. KTC Proud Platinum Mastercard
บัตรกดเงินสด KTC Proud เหมาะสำหรับนักศึกษาจบใหม่เพราะมีเงื่อนไขการสมัครง่าย รายได้ขั้นต่ำเพียง 15,000 บาทต่อเดือน ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี และมีโปรแกรมผ่อนสินค้า 0% ที่หลากหลาย
จุดเด่น
- สมัครง่าย ใช้รายได้เริ่มต้นต่ำ
- ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี
- สะสมคะแนนได้รวดเร็วและแลกง่าย
2. SCB UP2ME Card
บัตรเครดิต SCB UP2ME ออกแบบมาเพื่อกลุ่มวัยรุ่นและวัยเริ่มทำงานโดยเฉพาะ ให้สิทธิประโยชน์ที่สามารถเลือกปรับแต่งได้ตามไลฟ์สไตล์ เช่น สะสมคะแนนสูงสุด 3 เท่าในหมวดที่เลือก เช่น ช้อปปิ้งออนไลน์ ร้านอาหาร หรือเดินทาง
จุดเด่น
- ปรับแต่งสิทธิประโยชน์ได้ตามไลฟ์สไตล์
- คะแนนสะสมแลกของรางวัลหรือส่วนลดง่าย
- โปรโมชั่นผ่อนสินค้า 0% สูงสุด 24 เดือน
3. UOB World
บัตรเครดิต UOB World เน้นไปที่การสะสมคะแนนและสิทธิประโยชน์ด้านการเดินทางและการช้อปปิ้ง เป็นบัตรที่เหมาะสำหรับนักศึกษาจบใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ทันสมัย ใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์เป็นประจำ
จุดเด่น
- สะสมคะแนนเร็วมาก เหมาะสำหรับสายช้อปปิ้ง
- คะแนนแลกไมล์บินหรือส่วนลดช้อปปิ้งออนไลน์
- รับสิทธิพิเศษที่ร้านอาหารและคาเฟ่ชั้นนำ
4. Krungsri First Choice Visa Platinum
บัตร Krungsri First Choice เป็นที่นิยมในหมู่นักศึกษาจบใหม่เนื่องจากมีเงื่อนไขการสมัครที่ไม่ยุ่งยากและอนุมัติไวมาก พร้อมทั้งมีโปรโมชั่นผ่อนสินค้า 0% และเครดิตเงินคืนที่น่าสนใจ
จุดเด่น
- อนุมัติเร็ว สมัครง่าย
- ผ่อนสินค้า 0% กับร้านค้าหลายแห่ง
- โปรโมชั่นเครดิตเงินคืนเมื่อชำระเงินตรงเวลา
5. UOB YOLO Card
UOB YOLO เป็นบัตรที่ออกแบบมาสำหรับวัยรุ่นและวัยเริ่มต้นทำงานที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ทันสมัย มีสิทธิประโยชน์เด่นชัดในหมวดร้านอาหาร บันเทิง และช้อปปิ้งออนไลน์
จุดเด่น
- เงินคืนสูงถึง 10% ในร้านอาหารและคาเฟ่
- โปรโมชั่นพิเศษตลอดทั้งปี
- ใช้จ่ายในต่างประเทศไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
บัตรไหนเหมาะกับนักศึกษาจบใหม่ที่สุด?
การเลือกบัตรเครดิตที่เหมาะกับนักศึกษาจบใหม่นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยสำคัญ ได้แก่:
- รายได้ขั้นต่ำ: บัตร KTC Proud และ Krungsri First Choice เหมาะสำหรับผู้มีรายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาทต่อเดือน
- ไลฟ์สไตล์การใช้จ่าย: หากคุณชื่นชอบการช้อปปิ้งออนไลน์ SCB UP2ME จะตอบโจทย์มากที่สุด
- เน้นการผ่อนสินค้า: KTC Proud และ Krungsri First Choice เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะมีโปรโมชั่นผ่อน 0% จำนวนมาก
- เน้นการกินและเที่ยว: UOB YOLO จะตอบโจทย์ได้ดีที่สุด
หากคุณเพิ่งเริ่มต้นชีวิตวัยทำงาน การเลือกบัตรเครดิตใบแรกเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะการมีบัตรเครดิตที่เหมาะสมจะช่วยสร้างวินัยทางการเงินที่ดี และยังช่วยเพิ่มความสะดวกในการจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวัน
ก่อนสมัครบัตรเครดิตควรศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขต่าง ๆ อย่างถี่ถ้วน เลือกบัตรที่ตรงกับไลฟ์สไตล์และความสามารถในการชำระเงินของคุณให้มากที่สุด เพื่อให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จากบัตรเครดิตได้อย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพที่สุดตั้งแต่เริ่มต้นเข้าสู่วัยทำงานในปี 2025
คลังแจง เงินดิจิดัลเฟส 3 แจกไม่ทันสงกรานต์นี้
ประกาศจากกระทรวงการคลัง แจ้งว่า เงินดิจิทัลเฟส 3 ได้เข้าบบรรจุในวาระเพื่อพิจารณาของคณะรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งผลสรุปจากความเห็นของหน่วงงานรัฐ แจ้งว่าแจกไม่ทันในช่วงสงกรานต์นี้
เปิดเผยข้อมูลจากทางด้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้แจ้งว่าทางกระทรวงการคลัง ได้เสนอรายละเอียด โครงการกระตุ้นเศรฐกิจแจกเงินเหมื่นเฟส 3 ซึ่งการแจกเงินหมื่นที่ผ่านมาสำหรับดิจิทัลวอลเล็ต ให้กับคนไทย ที่มีอายุตั้งแต่ 16 ถึง 20 ปี ซึ่งมีจำนวนประมาณ 2.7 ล้านคน ใช้งบประมาณไปทั้งหมด 27,000 ล้านบาท คาดว่าจะมีการบรรจุวาระเข้าประชุมคณะรัฐมนตรีเร็วๆนี้
เงินดิจิทัล 10,000 เฟส 3 โอนทันก่อนสงกรานต์ 2568 หรือไม่?
หากถามถึงช่วงเวลาในการแจกเงินหมื่น ดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 ซึ่งสามารถจ่ายก่อนวันสงกรานต์ 2568 หรือ ไม่ ทางด้านกระทรวงการคลัง แจ้งแล้วว่าอาจจะไม่ทันก่อนสงกรานต์ 2568 แต่ขอให้รอก่อนเพราะว่าปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี ส่วนการจัดทำระบบเพื่อรองรับการจ่ายเงินดิจิทัล ได้รับการรายงานว่าได้เร่งดำเนินการอยู่ ซึ่งเรื่องพัฒนาระบบนั้นใกล้เสร็จแล้ว
โครงการดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 เป็นโครงการที่ออกมาเพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพให้กับผู้ที่อยู่ในวัยเรียน ทำให้มีโอกาสเข้าถึงการใช้จ่ายที่จำเป็นเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีมากขึ้น และยังเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ในปัจจุบัน ส่งเสริมให้ประชาชนและชุมชน สำหรับกลุ่มเป้าหมาย กำหนดว่าต้องเป็นผู้ที่ลงทะเบียนผ่านแอปทางรัฐ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 และจะต้องเป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 16-20 ปีบริบูรณ์ ณ วันที่ 15 กันยายน 2567
ดีลเด็ดจากบัตรเครดิต UOB World ที่คุณห้ามพลาด
สำหรับผู้ถือบัตรเครดิตระดับพรีเมียมอย่าง UOB World นอกจากจะได้สิทธิพิเศษเรื่องคะแนนสะสมเร็ว หรือการเข้าห้องรับรองสนามบินแล้ว ยังมีดีลพิเศษมากมายที่ครอบคลุมทั้ง ร้านอาหาร, โรงแรมหรู, และ สายการบินชั้นนำ เพื่อให้ทุกการใช้จ่ายของคุณคุ้มค่ากว่าที่เคย
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับดีลเด็ดที่คุณไม่ควรพลาด พร้อมเคล็ดลับในการใช้สิทธิ์แบบมือโปร เพื่อให้ทุกมื้ออาหาร ทริปท่องเที่ยว และการจองโรงแรมหรู กลายเป็นประสบการณ์ระดับเวิลด์คลาส
ดีลร้านอาหาร: กินหรูในราคาสุดคุ้ม
ส่วนลดร้านอาหารระดับมิชลินและ Fine Dining
ถือบัตร UOB World แล้วต้องใช้ให้คุ้มกับ ส่วนลดร้านอาหารระดับพรีเมียม ที่ร่วมรายการ โดยเฉพาะร้านอาหารที่ได้รับการแนะนำใน The MICHELIN Guide Thailand
ตัวอย่างร้านอาหารที่ร่วมรายการ:
-
Saneh Jaan (1 ดาวมิชลิน) – ลดสูงสุด 15%
-
Blue by Alain Ducasse – รับไวน์ฟรี 1 แก้ว หรือของหวานฟรี เมื่อจองผ่านช่องทางที่ร่วมรายการ
-
R-Haan – สิทธิพิเศษเฉพาะการจองล่วงหน้าผ่าน UOB Concierge
โปรโมชั่นบัตรเครดิต UOB World X The Dining Club
UOB ร่วมมือกับ The Dining Club โดยมอบสิทธิ์:
-
ลดทันที 10-20% จากร้านอาหารที่ร่วมรายการกว่า 100 แห่ง
-
ใช้คะแนนแลกรับดีลมื้อค่ำสำหรับ 2 ท่านฟรี
ส่วนลดร้านอาหารในโรงแรม
โรงแรมระดับ 5 ดาวหลายแห่งมอบส่วนลดเฉพาะผู้ถือบัตร UOB World เช่น:
-
The Okura Prestige Bangkok – ส่วนลด 15% ห้องอาหาร Yamazato และ Elements
-
Bangkok Marriott Marquis Queen’s Park – ส่วนลด 10% ที่ Goji Kitchen + Bar
ดีลโรงแรม: พักผ่อนแบบ First Class ในราคาที่จับต้องได้
ส่วนลดโรงแรมชั้นนำในประเทศ
สำหรับผู้ถือบัตร UOB World คุณสามารถเข้าพักโรงแรมหรูในราคาพิเศษ พร้อมสิทธิพิเศษอื่น ๆ ที่เหนือกว่าใคร
โรงแรมที่ร่วมรายการ เช่น:
-
InterContinental Hua Hin Resort – ลดค่าห้องพักสูงสุด 20% พร้อมอาหารเช้าฟรี
-
Anantara Chiang Mai Resort – อัพเกรดห้องฟรี เมื่อจอง 2 คืนขึ้นไป
-
Kimpton Maa-Lai Bangkok – ฟรี Afternoon Tea สำหรับ 2 ท่าน เมื่อเข้าพัก Deluxe Room ขึ้นไป
ใช้คะแนนแลกเข้าพักโรงแรม
-
ใช้คะแนนสะสม UOB Rewards Plus แลกที่พักกับโรงแรมในเครือ Marriott, Accor, IHG
-
มีดีลพิเศษผ่านแอปพลิเคชัน UOB Travel / เว็บไซต์พันธมิตรที่ร่วมรายการ
จองโรงแรมผ่าน UOB Travel Concierge
บริการ Concierge ของ UOB World สามารถช่วยคุณจองห้องพัก พร้อมสิทธิพิเศษ เช่น:
-
Check-in ล่วงหน้า / Check-out ล่าช้า
-
สิทธิ์ Early Bird หรือ Last-Minute Deal ที่เฉพาะผู้ถือบัตรเท่านั้นถึงจะได้
ดีลสายการบิน: เดินทางอย่างเหนือระดับ พร้อมสิทธิพิเศษเฉพาะผู้ถือบัตร
ส่วนลดตั๋วเครื่องบินสายการบินชั้นนำ
บัตร UOB World ร่วมกับสายการบินหลายแห่ง มอบส่วนลดและดีลพิเศษ เช่น:
-
Singapore Airlines – ลด 10% เมื่อจองผ่านลิงก์พิเศษ
-
Thai Airways – รับฟรีน้ำหนักสัมภาระเพิ่ม
-
Emirates – รับส่วนลด Business Class 5-15% เมื่อจองผ่าน UOB Link
บริการ Fast Track & ลีมูซีน
-
รับบริการ Fast Track ผ่าน ตม. สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อเดินทางชั้น Business กับสายการบินที่ร่วมรายการ
-
ฟรีบริการลีมูซีนไป-กลับสนามบินสูงสุด 2 ครั้ง/ปี เมื่อมียอดใช้จ่ายครบตามเกณฑ์ที่กำหนด
Lounge Access สนามบินทั่วโลก
ถือบัตร UOB World แล้วเดินทางแบบไม่ต้องรอคิวนาน
-
เข้าใช้ห้องรับรองสนามบิน Royal Orchid Lounge และ Lounge Partner ในเครือ DragonPass
-
ฟรี 2 ครั้ง/ปี พร้อม Guest อีก 1 คน (บางสนามบิน)
วิธีใช้ดีลให้คุ้มที่สุด
เคล็ดลับการใช้สิทธิ์แบบมือโปร
-
จองล่วงหน้าเสมอ: สิทธิพิเศษหลายอย่างต้องสำรองล่วงหน้า เช่น ร้านอาหารมิชลิน หรือห้องพักโรงแรมที่มีจำนวนจำกัด
-
ตรวจสอบเงื่อนไขดีลทุกครั้ง: เช่น วันเวลาที่ใช้ได้, ยอดขั้นต่ำที่ต้องรูด
-
ใช้ UOB Concierge: ถ้าคุณไม่สะดวกจองเอง บริการนี้ช่วยจองและแนะนำดีลที่ตรงไลฟ์สไตล์คุณได้
-
ติดตามโปรอัปเดต: ทางเว็บไซต์ UOB และแอป UOB TMRW มักอัปเดตโปรใหม่ ๆ ทุกเดือน
ดีล UOB World คุ้มไหม?
หากคุณเป็นคนที่ชอบทานอาหารดี ๆ พักโรงแรมหรู หรือเดินทางต่างประเทศบ่อย บัตร UOB World ถือว่าคุ้มค่าอย่างยิ่ง ดีลต่าง ๆ ที่ให้มาไม่ใช่แค่ “สิทธิ์ที่มี” แต่เป็นสิทธิ์ที่ใช้แล้วเห็นความแตกต่าง ทั้งในเรื่องของความสะดวก ความพิเศษ และความคุ้มค่า
>> สมัครบัตรเครดิต UOB อัพเดทล่าสุดที่นี่ <<
แม้บางดีลจะมีเงื่อนไข เช่น ต้องจองล่วงหน้า หรือจำกัดจำนวนครั้งต่อปี แต่หากวางแผนให้ดี จะสามารถใช้ทุกสิทธิ์ได้อย่างเต็มที่ และเปลี่ยนทุกการใช้จ่ายของคุณให้มีมูลค่ากลับคืนแบบจัดเต็ม
แจ้งเตือนภัยมิจฉาชีพ สร้างสลิปโอนเงินปลอมได้
เตือนภัยมิจฉาชีพ ในการหลอกว่าโอนเงินแล้ว เพียงแค่ใช้เครื่องมือ AI ที่สามารถสร้างภาพขึ้นมาได้ เพียงแค่ใช้คำสั่งไม่เยอะ ก็สามารถสร้างสลิปโอนเงินปลอมได้ที่เหมือนจริงสุดๆ แนะนำคนที่ทำธุรกิจ ที่ต้องมีการโอนสลิปเพื่อยืนยันการโอนเงิน หรือ ร้านค้าที่ขายของแล้วลูกค้าส่งสลิปโอนเงินมาให้ แนะนำให้เช็คยอดเงินเข้าบัญชีก่อนทุกครั้ง อย่าหลงเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ ในการหลอกว่าโอนเงินแล้วผ่านสลิปโอนเงินปลอม
แจ้งเตือนให้ระวัง เนื่องจากปัจจุบันมิจฉาชีพเก่งมากขึ้น สามารถใช้เครื่องมือ AI หรือ Chat GPT ในการสร้างสลิปโอนเงินปลอมได้ สำหรับประชาชนที่ทำมาหากิน หรือ คนที่ทำธุรกิจ แนะนำให้ร้านค้าให้ดูเงินโอนเข้าบัญชีให้ดี อย่าดูแค่สลิปการโอนเงินอย่างเดียว
จากการตรวจสอบการอัพเดทใหม่ล่าสุดของทาง Chat GPT สามารถปลอมสลิปการโอนเงินของธนาคารแต่ละแห่งได้อย่างแนบเนียน ไม่ว่าจะเป็นตัวอักษร ชื่อ ที่เป็นภาษาอังกฤษ เพียงแค่ออกคำสั่งให้กับ Chat GPT ก็สามารถ Generate รูปภาพได้เหมือนเกือบ 100% ทำให้เกิดช่องทางในการหลอกหลวงของมิจฉาชีพ
ตัวอย่างการโกงของมิจฉาชีพผ่าน Chat GPT
- ให้ AI เปลี่ยนตัวเลขสลิปการโอนเงิน
- ตัวอย่างสลิปโอนเงิน 20,000 เปลี่ยนเป็น 500,000 ตัว Chat GPT สามารถทำได้ และทำได้แนบเนียน จนเราไม่สามารถแยกได้
สำหรับใครที่ทำการค้า หรือ ทำธุรกิจที่ต้องมีการยืนยันการโอนเงิน อยากจะให้ตรวจสอบเงินที่ถูกโอนเข้าบัญชีด้วย ไม่ใช่แค่ตรวจสอบแค่ตัวสลิปที่ลูกค้าส่งมาให้ดู เนื่องจากมันมีความเสี่ยง ที่ตัวสลิปจะถูกปลอมแปลงนั่นเอง
คุ้มไหมหากสมัครบัตรเครดิต KTC ตอนนี้
บัตรเครดิตเป็นตัวช่วยสำคัญในการใช้ชีวิตยุคใหม่ โดยเฉพาะบัตรเครดิต KTC ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในหมู่ผู้บริโภคไทย ด้วยจุดเด่นเรื่องโปรโมชั่นหลากหลาย คะแนนสะสมที่น่าสนใจ และสิทธิพิเศษที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ วันนี้เราจึงนำเสนอรีวิวแบบละเอียดเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจว่าบัตรเครดิต KTC นั้นเหมาะกับคุณหรือไม่ และมีจุดเด่นตรงไหนที่คุณควรรู้ก่อนสมัคร
- สมัครง่าย อนุมัติเร็ว การสมัครบัตรเครดิต KTC นั้นง่ายและสะดวกมาก เพียงกรอกข้อมูลผ่านช่องทางออนไลน์บนเว็บไซต์หรือผ่านแอปพลิเคชัน KTC Mobile ใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที และสามารถทราบผลอนุมัติได้ภายใน 1-3 วันทำการ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการใช้บัตรเครดิตอย่างรวดเร็วและไม่ยุ่งยาก
- โปรโมชั่นหลากหลาย KTC มีโปรโมชั่นที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม สายการบิน และบริการต่างๆ โดยโปรโมชั่นของ KTC มักจะอัปเดตอย่างต่อเนลื่อง ทำให้ผู้ถือบัตรสามารถใช้สิทธิประโยชน์ได้ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นสำหรับการซื้อสินค้าออนไลน์ และ Cashback คืนเงินสูงสุดถึง 10% ในบางช่วงเวลาที่ร่วมรายการ
- สะสมคะแนนง่าย แลกของรางวัลง่ายยิ่งกว่า ทุกการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต KTC จะได้รับคะแนนสะสมทันที ซึ่งจุดเด่นของบัตร KTC คือคะแนนไม่มีวันหมดอายุ และสามารถสะสมได้เรื่อยๆ จนกว่าจะแลกของรางวัลหรือส่วนลดที่ต้องการ โดยการแลกของรางวัลทำได้ง่ายผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน ไม่ว่าจะเป็นตั๋วเครื่องบิน โรงแรม ส่วนลดร้านอาหาร หรือแลกคะแนนเป็นเครดิตเงินคืนในบัญชี
- ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีตลอดชีพ จุดแข็งของบัตรเครดิต KTC อีกอย่างหนึ่งที่ผู้ใช้หลายคนชื่นชอบคือ ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีตลอดชีพ เพียงแค่มีการใช้งานบัตรอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและทำให้ผู้ถือบัตรสามารถใช้จ่ายได้อย่างสบายใจมากขึ้น
- ความปลอดภัยและการบริการลูกค้าที่ดีเยี่ยม KTC ให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยของลูกค้าเป็นอันดับแรก ด้วยระบบการแจ้งเตือนผ่าน SMS หรือแอปพลิเคชันทันทีที่มีการทำธุรกรรมผิดปกติ นอกจากนี้ ฝ่ายบริการลูกค้าของ KTC ยังพร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง หากพบปัญหาหรือมีข้อสงสัย สามารถโทรสอบถามได้ทันที ทำให้ผู้ถือบัตรรู้สึกมั่นใจและสบายใจในการใช้บัตรทุกครั้ง
- ดอกเบี้ยและเงื่อนไขผ่อนชำระที่คุ้มค่า อีกหนึ่งข้อดีที่น่าสนใจของบัตรเครดิต KTC คือ อัตราดอกเบี้ยที่แข่งขันได้ และเงื่อนไขผ่อนชำระที่ยืดหยุ่นสูง โดย KTC มีบริการแบ่งชำระสินค้า 0% ที่ร่วมรายการมากมาย สูงสุดถึง 10 เดือน หรือแม้แต่การเลือกผ่อนชำระยอดค่าใช้จ่ายที่ไม่ร่วมโปรโมชั่น ก็ยังสามารถเลือกแบ่งชำระแบบรายเดือนได้ด้วยดอกเบี้ยพิเศษ
- ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ด้วยบัตรหลากหลายรูปแบบ KTC มีบัตรเครดิตหลากหลายประเภทที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นนักเดินทางที่ต้องการสิทธิพิเศษในการสะสมไมล์ หรือสายช้อปปิ้งที่ต้องการส่วนลดสุดคุ้ม รวมถึงผู้ที่ชื่นชอบร้านอาหารชั้นนำก็สามารถเลือกบัตรเครดิตที่ตรงกับการใช้งานได้อย่างเหมาะสม
บัตรเครดิต KTC เป็นบัตรที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะในด้านความสะดวกในการสมัคร สิทธิประโยชน์ต่างๆ โปรโมชั่นที่ดึงดูดใจ รวมไปถึงบริการที่รวดเร็วและมีคุณภาพ หากคุณกำลังมองหาบัตรเครดิตที่คุ้มค่า ใช้งานง่าย และไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี KTC คือตัวเลือกที่น่าสนใจและเหมาะสมอย่างยิ่งกับผู้ใช้งานทุกกลุ่ม
บัตรเครดิต KTC รายได้รวมเริ่มต้น 15,000 บาท สมัครเลย
อย่างไรก็ตาม ก่อนการตัดสินใจสมัคร ควรศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเงื่อนไขการใช้งาน รวมถึงเปรียบเทียบจุดเด่นของแต่ละบัตรอย่างละเอียด เพื่อให้คุณเลือกบัตรที่ดีที่สุดและคุ้มค่าที่สุดในการใช้งานจริง
สมัครบัตร UOB World ดีไหม ได้รับสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง?
สำหรับสายใช้จ่ายที่ต้องการบัตรเครดิตที่ให้มากกว่าแค่ “รูดจ่าย” บัตรเครดิต UOB World ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าจับตามอง ด้วยสิทธิประโยชน์ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ระดับพรีเมียม ทั้งเรื่องการเดินทาง ความบันเทิง การสะสมคะแนน และบริการเสริมระดับ World-Class
ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกรีวิวบัตร UOB World ว่าดีไหม เหมาะกับใคร และคุ้มค่าหรือไม่ พร้อมแจกแจงข้อดี-ข้อสังเกตในมุมมองของผู้ใช้งานจริง เพื่อช่วยคุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
บัตร UOB World คืออะไร?
บัตร UOB World เป็นบัตรเครดิตระดับพรีเมียมจากธนาคารยูโอบี ที่มาพร้อมกับสิทธิประโยชน์ครบครัน ครอบคลุมทั้งการเดินทาง การใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และสิทธิ์พิเศษสำหรับผู้ถือบัตรโดยเฉพาะ
บัตรนี้ถูกออกแบบมาสำหรับกลุ่มคนที่มีรายได้สูงและต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกระดับ VIP ไม่ว่าจะเป็น Lounge สนามบิน, บริการรถลีมูซีน, คะแนนสะสมเร็ว, หรือการแลกไมล์เดินทาง
>> สมัครบัตรเครดิต UOB อัพเดทล่าสุดที่นี่ <<
คุณสมบัติทั่วไปของบัตร UOB World
รายได้ขั้นต่ำและเงื่อนไขการสมัคร
-
รายได้ขั้นต่ำ: 70,000 บาทต่อเดือน
-
อายุ: 20 ปีขึ้นไป
-
เอกสาร: สลิปเงินเดือน, สำเนาบัตรประชาชน, Statement ย้อนหลัง 6 เดือน
ค่าธรรมเนียมรายปี
-
ค่าธรรมเนียม: 4,000 บาท/ปี
-
ฟรีค่าธรรมเนียมปีถัดไป หากใช้จ่ายตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด
สิทธิประโยชน์เด่นของบัตร UOB World
คะแนนสะสม UOB Rewards Plus
สะสมเร็ว ใช้ง่าย
-
ทุกการใช้จ่าย 15 บาท = 1 คะแนน
-
ใช้คะแนนแลกของรางวัล, บัตรกำนัล, และไมล์สายการบิน
-
ไม่หมดอายุ (กรณีที่ยังคงสถานะการเป็นสมาชิกบัตร)
แลกไมล์เดินทาง
-
สามารถแลกเป็นไมล์จากสายการบินชั้นนำ เช่น KrisFlyer, Asia Miles
-
อัตราการแลกอยู่ที่ 2.5 คะแนน = 1 ไมล์
สิทธิพิเศษด้านการเดินทาง
ห้องรับรองพิเศษสนามบิน (Lounge Access)
-
ใช้บริการห้องรับรอง Royal Orchid Lounge ที่สนามบินสุวรรณภูมิ และ Lounge Partner อื่น ๆ
-
ฟรีสูงสุด 2 ครั้ง/ปี
บริการรถลีมูซีนไป-กลับสนามบิน
-
ฟรี 2 ครั้ง/ปี เมื่อมียอดใช้จ่ายตามเกณฑ์ที่กำหนด
-
ต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วันทำการ
ประกันเดินทางฟรีทั่วโลก
-
คุ้มครองอุบัติเหตุสูงสุด 10 ล้านบาท
-
ครอบคลุมกรณีเที่ยวบินล่าช้า/กระเป๋าเดินทางสูญหาย
Dining & Lifestyle สิทธิประโยชน์สำหรับสายหรู
ส่วนลดร้านอาหารระดับมิชลิน
-
รับส่วนลดสูงสุด 15-20% จากร้านอาหารพันธมิตรในเครือ The MICHELIN Guide
-
ต้องสำรองที่นั่งล่วงหน้าและแสดงบัตรก่อนชำระเงิน
สิทธิ์จองร้านอาหารล่วงหน้า
-
Concierge Service จัดจองร้านอาหารพิเศษในประเทศและต่างประเทศ
จุดเด่นที่ทำให้บัตร UOB World น่าสนใจ
จุดเด่น | รายละเอียด |
คะแนนสะสมเร็ว | ใช้จ่ายเพียง 15 บาท ก็ได้ 1 คะแนน สะสมไวกว่า |
แลกไมล์ได้จริง | สายเดินทางต้องรัก อัตราแลกไมล์ดี ใช้สะดวก |
Lounge Access ฟรี | ปีละ 2 ครั้ง เหมาะกับคนที่เดินทางต่างประเทศ |
บริการ Concierge | อำนวยความสะดวกทั้งด้านท่องเที่ยว และไลฟ์สไตล์ |
ดีลร้านอาหารพรีเมียม | ลดราคาหรือสิทธิ์พิเศษจากร้านดัง |
ข้อสังเกตที่ควรพิจารณา
ค่าธรรมเนียมรายปีที่ค่อนข้างสูง
-
แม้จะสามารถยกเว้นได้ แต่ต้องมีการใช้จ่ายตามเงื่อนไข
-
หากไม่ใช่ผู้ที่เดินทางหรือใช้จ่ายในหมวดพิเศษ อาจรู้สึกไม่คุ้ม
สิทธิ์ Lounge และลีมูซีนมีจำนวนจำกัด
-
ฟรีแค่ 2 ครั้ง/ปี อาจไม่เพียงพอสำหรับคนที่เดินทางบ่อย
UOB World เหมาะกับใคร?
บัตร UOB World เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มี ไลฟ์สไตล์พรีเมียม และต้องการบัตรเครดิตที่มีมากกว่าการใช้จ่าย เช่น:
-
นักธุรกิจที่เดินทางต่างประเทศบ่อย
-
คนที่ชื่นชอบร้านอาหารระดับสูง
-
ผู้ที่ชอบแลกคะแนนเป็นไมล์สะสม
-
ผู้ที่ต้องการความสะดวกและบริการเสริมจาก Concierge
วิธีสมัครบัตร UOB World
ช่องทางการสมัคร
-
สมัครออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ UOB Thailand
-
สมัครที่สาขาธนาคาร UOB ทุกสาขา
เอกสารที่ใช้ในการสมัคร
-
สำเนาบัตรประชาชน
-
สลิปเงินเดือน/หนังสือรับรองรายได้
-
Statement ย้อนหลัง 6 เดือน
เปิด 10 บัตร Cash Back ที่ให้เงินคืนมากสุด
ในยุคที่ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับการจับจ่ายใช้สอยอย่างคุ้มค่ามากขึ้น บัตรเครดิตประเภท Cash Back หรือบัตรที่ให้เครดิตเงินคืนกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะทุกการใช้จ่ายสามารถเปลี่ยนกลับมาเป็นเงินคืนที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้จริง ในปี 2025 นี้ มีบัตรเครดิต Cash Back ที่น่าสนใจหลายใบที่ให้ผลตอบแทนสูง บทความนี้จะมาแนะนำ 10 บัตรเครดิตที่ให้เงินคืนสูงสุด และคุ้มค่าที่สุดแห่งปี
1. UOB TMRW
บัตรเครดิต UOB TMRW เป็นบัตรที่ยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่อง เพราะให้เครดิตเงินคืนสูงสุดถึง 11% สำหรับการใช้จ่ายในหมวดร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต และสถานีน้ำมัน
จุดเด่น
- เงินคืนสูงสุด 11%
- รับเงินคืน 1% ทุกการใช้จ่ายทั่วไป
- ไม่มีจำกัดยอดคืนสูงสุดต่อเดือน
2. KTC Cash Back Visa Platinum
บัตรเครดิต KTC Cash Back Visa Platinum โดดเด่นเรื่องความง่ายและชัดเจน ให้เครดิตเงินคืนแบบไม่จำกัดหมวด สูงสุดถึง 5% และไม่มีการจำกัดยอดสูงสุด
จุดเด่น
- เงินคืน 5% ทุกการใช้จ่าย
- ไม่จำกัดยอดเงินคืน
- แลกคะแนนเป็นเครดิตเงินคืนเพิ่มเติมได้
3. SCB Beyond Platinum
SCB Beyond Platinum เป็นบัตรที่เหมาะสำหรับคนที่เน้นช้อปปิ้งออนไลน์และใช้จ่ายในต่างประเทศ โดยให้เงินคืนสูงสุดถึง 8% สำหรับการช้อปออนไลน์และในต่างประเทศ
จุดเด่น
- เงินคืน 8% ช้อปออนไลน์และต่างประเทศ
- เงินคืน 3% สำหรับการใช้จ่ายในประเทศทั่วไป
- ฟรีค่าธรรมเนียมการใช้จ่ายในต่างประเทศ
4. UOB YOLO Platinum
UOB YOLO Platinum เป็นบัตรที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่ใช้ชีวิตในเมือง โดยเฉพาะการรับประทานอาหารและความบันเทิงต่างๆ โดยให้เงินคืนสูงสุดถึง 10%
จุดเด่น
- เงินคืน 10% ร้านอาหาร คาเฟ่ และความบันเทิง
- เงินคืน 1% ทุกการใช้จ่ายทั่วไป
- โปรโมชันพิเศษทุกเดือน
5. Krungsri JCB Platinum
บัตร Krungsri JCB Platinum เป็นบัตรเครดิตที่ให้เครดิตเงินคืนสูงถึง 6% ในร้านอาหารทั่วโลก และยังเหมาะกับผู้ที่ชอบเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะ
จุดเด่น
- เงินคืน 6% สำหรับร้านอาหารทั่วโลก
- สิทธิพิเศษมากมายเมื่อเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น
- เงินคืน 2% สำหรับการใช้จ่ายทั่วไปในประเทศ
6. TMB Absolute Cashback
TMB Absolute Cashback ให้เงินคืนสูงถึง 10% สำหรับการช้อปปิ้งออนไลน์ โดยไม่จำกัดเว็บไซต์ ช่วยให้การช้อปออนไลน์ของคุณคุ้มค่ามากที่สุด
จุดเด่น
- เงินคืน 10% ช้อปปิ้งออนไลน์ทุกเว็บไซต์
- เงินคืน 1.5% การใช้จ่ายทั่วไป
- ไม่มีขั้นต่ำในการใช้จ่าย
7. AEON Cashback Visa Platinum
AEON Cashback Visa Platinum ให้เครดิตเงินคืนสูงสุด 5% สำหรับการซื้อสินค้าในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และยังสามารถใช้ผ่อนสินค้า 0% ได้หลายรายการ
จุดเด่น
- เงินคืน 5% เมื่อซื้อสินค้าในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ
- ผ่อนสินค้า 0% สูงสุด 12 เดือน
- เงินคืน 1% ทุกยอดการใช้จ่ายทั่วไป
8. Bangkok Bank Titanium Cashback
บัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ Titanium Cashback ให้เงินคืนสูงสุด 5% สำหรับสถานีบริการน้ำมัน และซูเปอร์มาร์เก็ตที่ร่วมรายการทั่วประเทศ
จุดเด่น
- เงินคืน 5% สถานีบริการน้ำมันและซูเปอร์มาร์เก็ต
- ไม่มีขั้นต่ำในการใช้จ่ายเพื่อรับเงินคืน
- เงินคืน 1% ทุกยอดการใช้จ่าย
9. Krungthai Delight Cashback
Krungthai Delight Cashback โดดเด่นสำหรับผู้ที่ใช้จ่ายผ่านร้านสะดวกซื้อ และร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด โดยให้เงินคืนสูงสุดถึง 7%
จุดเด่น
- เงินคืน 7% ร้านสะดวกซื้อและร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด
- เงินคืน 2% สำหรับยอดใช้จ่ายทั่วไป
- ไม่มีจำกัดยอดเงินคืนสูงสุดต่อเดือน
10. Thanachart MAX Cashback
Thanachart MAX Cashback เป็นบัตรที่เน้นการคืนเงินจากการเดินทางโดยเฉพาะ ให้เงินคืนสูงสุดถึง 8% สำหรับค่าตั๋วเครื่องบินและโรงแรม
จุดเด่น
- เงินคืน 8% ค่าตั๋วเครื่องบินและโรงแรม
- เงินคืน 2% ทุกการใช้จ่ายทั่วไป
- ฟรีประกันการเดินทางและสิทธิพิเศษที่สนามบิน
การเลือกบัตรเครดิต Cash Back ในปี 2025
การเลือกบัตรเครดิต Cash Back ควรพิจารณาจากไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายของคุณเป็นหลัก โดยเฉพาะการเลือกบัตรที่ให้เครดิตเงินคืนสูงสุดในหมวดที่คุณใช้บ่อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร การช้อปปิ้งออนไลน์ หรือการเดินทาง โดยทั้ง 10 บัตรเครดิตที่นำเสนอไปนี้ เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในปี 2025 เพื่อช่วยให้คุณได้รับความคุ้มค่าและประหยัดค่าใช้จ่ายในทุกการใช้จ่ายได้อย่างแท้จริง
เคล็ด (ลับ) สมัครบัตรเครดิต 2025 ยังไงให้ผ่านฉลุย
การสมัครบัตรเครดิตในปี 2025 ยังคงเป็นที่นิยมอย่างต่อเนเนื่อง เพราะนอกจากจะช่วยให้คุณจัดการการเงินได้ง่ายขึ้นแล้ว ยังมาพร้อมกับสิทธิพิเศษที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Cashback, คะแนนสะสม หรือแม้แต่โปรผ่อนสินค้าแบบ 0% แต่หลายคนอาจกังวลเกี่ยวกับการอนุมัติบัตรเครดิตว่าจะผ่านง่ายหรือไม่ ในบทความนี้เรามีเทคนิคสำคัญและลิสต์เอกสารครบชุด ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณสมัครบัตรเครดิตผ่านได้ง่ายขึ้นในปี 2025
ทำความเข้าใจเกณฑ์การอนุมัติบัตรเครดิตปี 2025
ก่อนจะไปดูเทคนิคสำคัญ คุณควรรู้เกณฑ์เบื้องต้นที่สถาบันการเงินใช้ในการอนุมัติบัตรเครดิต:
- อายุขั้นต่ำ 20 ปีบริบูรณ์
- รายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาทขึ้นไป (อาจสูงกว่านี้ในบางบัตร)
- ประวัติเครดิตบูโรที่สะอาด ไม่มีประวัติผิดนัดชำระ
5 เทคนิคสมัครบัตรเครดิตให้ผ่านง่ายในปี 2025
1. ตรวจสอบเครดิตบูโรให้แน่ใจ
ประวัติทางการเงินหรือเครดิตบูโรคือสิ่งแรกที่ธนาคารจะตรวจสอบ หากคุณมีประวัติผิดนัดชำระหนี้อยู่ แนะนำให้เคลียร์ยอดค้างชำระและรออีกอย่างน้อย 3-6 เดือน ก่อนสมัครบัตรเครดิตใหม่ เพราะจะเพิ่มโอกาสให้ผ่านได้ง่ายขึ้น
2. เลือกสมัครบัตรเครดิตให้เหมาะกับฐานเงินเดือน
แต่ละบัตรเครดิตมีข้อกำหนดด้านรายได้ขั้นต่ำที่แตกต่างกัน ถ้าคุณมีรายได้ประมาณ 15,000-20,000 บาทต่อเดือน ควรเลือกบัตรที่เหมาะกับฐานรายได้นี้ เพื่อเพิ่มโอกาสอนุมัติที่ง่ายกว่า
3. เตรียมเอกสารให้ครบถ้วนและชัดเจน
เอกสารที่ครบถ้วนชัดเจนจะช่วยให้การอนุมัติเป็นไปอย่างรวดเร็วและง่ายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะการยื่นเอกสารไม่ครบหรือไม่ชัดเจนอาจทำให้ขั้นตอนยืดยาวและเกิดปัญหาในการพิจารณาได้
4. ใช้บัญชีเงินเดือนหลักในการสมัคร
หากคุณมีบัญชีที่เงินเดือนโอนเข้าประจำ แนะนำให้ใช้บัญชีนั้นสมัคร เพราะธนาคารจะเห็นข้อมูลรายได้ที่ชัดเจนและต่อเนื่อง เป็นการเพิ่มความมั่นใจให้ธนาคารในการอนุมัติบัตรเครดิตของคุณ
5. ลดหนี้สินที่มีอยู่ก่อนสมัคร
หากมีสินเชื่อส่วนบุคคลหรือผ่อนสินค้าอยู่หลายรายการ ควรปิดหนี้หรือผ่อนให้เหลือน้อยที่สุดก่อนสมัคร เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและแสดงให้ธนาคารเห็นว่าคุณสามารถบริหารจัดการการเงินได้ดี
เอกสารสำคัญที่ต้องเตรียมในการสมัครบัตรเครดิต 2025
การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนถูกต้อง เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้การอนุมัติเป็นไปได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น โดยเอกสารที่จำเป็นมีดังนี้
เอกสารส่วนตัว
- สำเนาบัตรประชาชน (เซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง)
- สำเนาทะเบียนบ้าน (กรณีที่อยู่อาศัยไม่ตรงกับบัตรประชาชน)
เอกสารแสดงรายได้ (สำหรับพนักงานประจำ)
- สลิปเงินเดือนเดือนล่าสุด หรือหนังสือรับรองเงินเดือน อายุไม่เกิน 2 เดือน
- รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 3-6 เดือนล่าสุด (Statement)
เอกสารแสดงรายได้ (สำหรับอาชีพอิสระ)
- รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6-12 เดือนล่าสุด
- เอกสารแสดงการประกอบอาชีพ เช่น ใบจดทะเบียนการค้า, เอกสารแสดงการเสียภาษี
เอกสารเพิ่มเติม (ถ้ามี)
- สำเนาหน้าบัตรเครดิตใบอื่น (กรณีมีบัตรเครดิตอยู่แล้ว)
- หลักฐานการลงทุน เช่น กองทุน หุ้น (ช่วยเพิ่มโอกาสอนุมัติ)
ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยงในการสมัครบัตรเครดิต 2025
- สมัครหลายบัตรพร้อมกันในระยะเวลาอันสั้น เพราะอาจถูกปฏิเสธทั้งหมดได้
- ระบุข้อมูลไม่ตรงความจริง โดยเฉพาะรายได้ เพราะธนาคารตรวจสอบอย่างละเอียด
- เอกสารไม่ครบหรือไม่ถูกต้อง จะทำให้เสียเวลาในการดำเนินการและอาจถูกปฏิเสธได้
เทคนิคสำคัญ สมัครบัตรเครดิตปี 2025 ให้ผ่านง่าย
การสมัครบัตรเครดิตในปี 2025 จะผ่านง่ายหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการเตรียมตัวอย่างถูกต้องและชัดเจน คุณควรเริ่มต้นจากการตรวจสอบเครดิตบูโรของตนเองให้สะอาด เลือกบัตรที่เหมาะสมกับรายได้ พร้อมทั้งเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน
สุดท้ายนี้ หลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่อาจส่งผลให้การสมัครถูกปฏิเสธ เช่น สมัครหลายบัตรพร้อมกัน หรือระบุข้อมูลที่ไม่ตรงความจริง เพียงทำตามขั้นตอนที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ คุณก็จะสามารถสมัครบัตรเครดิตในปี 2025 ได้อย่างมั่นใจ และมีโอกาสอนุมัติผ่านง่ายขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน
เปิดรายละเอียดลงทะเบียน เราเที่ยวด้วยกัน 2568
สายเที่ยวที่กำลังรอแคมเปญเด็ดจากทางรัฐบาลอยู่ตอนนี้กับแคมเปญที่มีชื่อว่า เราเที่ยวด้วยกัน 2568 รัฐบาลจ่ายครึ่งนึง ไม่ว่าจะเป็นค่าที่พัก ค่าเครื่องบิน และ ร้านอาหาร สามารถลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ ใช้คูปองดิจิทัล ออกช่วยกัน 50% สามารถจองสิทธิวันไหน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ด้านล่างเลย
ตามติดๆกับความคืบหน้าล่าสุดเกียวกับแคมเปญเราเที่ยวด้วยกัน จากทางรัฐบาล 2568 รัฐบาลจ่ายให้ครึ่งนึง สำหรับ ค่าอาหาร ค่าที่พัก และ ค่าเครื่องบิน สามารถลงทะเบียนใช้คูปองดิจิทัลเพื่อจ่ายยอดดังกล่างเพียง 50% ซึ่งมีประกาศสำหรับวันลงทะเบียนออกมาแล้ว ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนที่สนใจลงทะเบียนมในช่วงเดือน พฤษภาคม 2568 ไปจนถึงเดือนกันยายน 2568 เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษกิจในช่วงขาลง สำหรับการท่องเที่ยว หรือที่เรียกกันว่า Low Season เป็นโครงการเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศไทย
ความคืบหน้า สำหรับการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งล่าสุดทางด้านรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยรัฐบาลได้เตรียมออกโครงการส่งเสริมการเดินทางเที่ยวข้ามภาค เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ไม่ใช่โครงการเดียวกับโครงการเราเที่ยวด้วยกัน แต่เป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ทางรัฐบาล จะช่วยออกค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการท่องเที่ยวส่วนนึง
รายละเอียดจ่ายคนละครึ่ง สำหรับค่าใช้จ่าย รัฐจ่าย 50% อีก 50% ประชาชนจ่าย
- ค่าอาหาร รัฐบาลช่วย 50% ประชาชนจ่าย 50%
- โรงแรมที่พัก รัฐบาลช่วย 50% ประชาชนจ่าย 50%
เปิดรูปแบบการใช้คูปองดิจิทัล สำหรับโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวในไทย 2568
- ทางรัฐบาลจะมีคูปองให้ใช้สำหรับส่วนลดค่าโรงแรม และ ค่าอาหาร กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ
- สำหรับตั๋วเครื่องบิน กำลังพิจารณาอยู่ว่าจะมีการสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน เพื่อส่งเสริมการเดินทางข้ามภูมิภาคด้วยหรือไม่
ช่วงเวลาโครงการเราเที่ยวด้วยกัน 2568
ตั้งเป้าสำหรับโครงการเราเที่ยวด้วยกันจะเปิดในช่วง Low Season ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2568 ไปจนถึงเดือน กันยายน 2568 สำหรับความคืบหน้า จะมีแผนออกมาเสนอมาตรการนี้ให้กับคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ ในเดือนมีนาคม 2568