เด็กจบใหม่ ตกงานสาเหตุจาก AI แย่งงานหมด
ปัจจุบันเทคโนโลยี AI เติมโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นข้อดีของหลายๆบริษัทที่สามารถลดต้นทุนของคนได้ ผ่านการใช้ AI มาทดแทน แต่มันก็ไม่ได้มีแต่ข้อดีอย่างเดียว เนื่องจาก AI ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องกำลังจะมาแย่งงานเด็กจบใหม่ ทำให้อัตราการว่างงานเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันเด็กจบใหม่แค่คิดว่า ผ่านการฝึกงาน และมีคอนเนคชั่นจากรุ่นพี่ ก็สามารถหางานได้ไม่ยากแต่ความเป็นจริงแล้ว มันไม่ใช่แบบนั้นเสมอไป เนื่องจากเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดอย่าง สหรัฐอเมริกา ที่มีเด็กเพิ่งจบใหม่ และมีคุณสมบัติโดดเด่นหลายๆอย่าง ยังคงหางานได้ยากไม่ได้ต่างจากเด็กจบใหม่ในประเทศไทยเลย
ข้อมูลจากสำนักข่าว Bloomberg ได้รายงานว่า การหางานเต็มเวลา มันยากมากขึ้น แม้แต่เด็กในวัย 21 ปีที่เพิ่งจบการศึกษาจากมหาวิยาลัยชื่อดังในเดือนพฤษภาคม 2025 แถมยังมีรายชื่อบุคคลอ้างอิงที่ช่วยการันตี และมีเครือข่ายครอบครัว และศิษย์เก่า ที่พร้อมให้คำแนะนำ รวมถึงผ่านประสบการณ์การฝึกภาคฤดูร้อน สำหรับสถิติในการตอบรับ หลังจากสมัครงานกับบริษัทตอนนี้มีเปอร์เซนต์ที่น่าตกใจอย่างมาก สามารถดูตัวเลขได้ด้านล่าง
- 4% ได้รับการติดต่อเพื่อนัดสัมภาษณ์
- 33% ได้รับการปฎิเสทแบบอัตโนมัติ
- ส่วนเปอร์เซนต์ที่เหลือ ไม่มีการตอบรับใดๆ
ตอนนี้ในทุกๆเจเนอเรชั่นที่เป็นเด็กจบใหม่จะต้องเจอกับการตลาดแรงงานในช่วงที่ท้าทายมาก เนื่องจากหางานประจำได้ยากสุดๆ ยอย่างในปี 2008 ที่ต้องเจอกับวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ สหรัฐเจอเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งเป็นมาแล้วถึง 3 ครั้งตั้งแต่ปี 2000 ในยุคนี้ไม่มีเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจอย่างเดียว เนื่องจากตอนนี้มันมีสัญญาญการจ้างงาน ที่เลขร้ายและแย่กว่าครั้งไหนๆ สาเหตุหลักมาจาก ปัญญาประดิษฐ์ หรือที่เราเรียกว่า AI ที่ได้แทนตำแหน่งงานระดับเริ่มต้นบางส่วน อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน รวมถึงนโยบายการค้าสหรัฐที่ กลับหัวแบบ 180 องศาเลยทีเดียว กลายเป็นเป็นผู้นำต่อต้านการค้าแบบเสรี ถึงขั้นทำให้ภาคธรุกิจลดการจ้างงานลง อย่างเห็นได้ชัด
เศรษฐกิจสหรัฐโดยรวมแล้วจะดูแข็งแรง ตามตัวชี้วัดหลายด้าน แต่ความเป็นจริงแล้วเมื่อหันมาดูอัตราว่างาน แทบจะไม่เปลี่ยนแปลงในเดือนพฤษภาค แถมจำนวนผู้ว่างงาน กลับเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน นับได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุด นับตั้งแต่ปี 2009 ตามข้อมูลของรัฐบาล และโดยเฉพาะกลุ่มคนหนุ่มสาว ที่กำลังรับรู้ถึงผลกระทบที่รุนแรงนี้ อัตราการว่างงาน ของเด็กจบการศึกษาระดับ ปริญญาตรีที่มีอายุช่วง 22-27 ปี พุ่งสูงขึ้นถึง 5.8% เมื่อต้นฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา ซึ่งตัวเลขนี้ถือว่าสูงสุดในรอบ 4 ปีเลยทีเดียว
AI เริ่มแย่งงานระดับเริ่มต้น ทำให้เด็กจบใหม่เลือกงานไม่ได้
จากสถานการณ์ หางานยาก จนน่ากังวล ในปัจจุบันมีจุดเชื่อมโยงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้จากการเติบโตของปัญญาประดิษฐ์ จากการสำรวจตัวเลขล่าสุดของผู้บริหารบน LinkedIn มากกว่า 60% ยอมรับว่า AI กำลังเข้ามาแย่งงานในระดับเริ่มต้น โดยเฉพาะงานที่ซ้ำซาก และจำเจ ไม่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์สูง
บริษัทขนส่งจำกัด ประกาศหยุดให้บริการรถโดยสารระหว่างประเทศ เริ่มตั้งแต่วันนี้
ตรวจสอบก่อนเดินทาง ตอนนี้ทางบริษัทขนส่ง หรือ บขส. ประกาศหยุดให้บริการเดินรถ โดยสารระหว่างประเทศ 2 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพฯ เสียมราฐ เส้นทางที่ 12 และ กรุงเทพฯ – พนมเปญ เส้นทางที่ 13 เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป
ในส่วนของสาเหตุการหยุดให้บริการครั้งนี้ เนื่องจากมีคำสั่งห้ามรถโดยสารข้ามจุดผ่านแดนระหว่างประเทศไทย และ กัมภูชาเป็นการชั่วคราว ทาง บขส. ขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น และ จะมีการประกาศให้ทราบหากมีความคืบหน้าเกี่ยวกับการกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง
สำหรับรายละเอียดของทั้ง 2 เส้นทางที่หยุดให้บริการ
เส้นทางกรุงเทพ – เสียมราฐ
- ระยะทาง 419 กิโลเมตร ค่าโดยสาร 750 บาท
- มีรถโดยสารวันละ 2 เที่ยว ไป-กลับ
- ขาไปออกจากกรุงเทพฯ 9.00 น.
- ขากลับออกจากเสียมราฐ 9.00 น.
เส้นทางกรุงเทพ – พนมเปญ
- ระยะทาง 719 กิโลเมตร ค่าโดยสาร 900 บาท
- มีรถโดยสารวันละ 2 เที่ยว ไป-กลับ
- ขาไปออกจากกรุงเทพฯ เวลา 08.00 น.
- ขากลับออกจากพนมเปญเวลา 08.00 น.
ประชาชนมีความจำเป็นต้องเดินทาง สามารถติดตามประกาศเพิ่มเติมจาก บขส. ได้หลากหลายช่องทาง เช่น
- facebook.com/BorKorSor99
- Line: บขส.99 (@TCL99)
- โทร 02-936-3660 ในวันและเวลาราชการ
ลงทะเบียนเที่ยวไทย คนละครึ่ง 2568 กดรับสิทธิ์ได้เมื่อไหร่?
รายละเอียด เที่ยวไทยคนละครึ่งในปี 2568 มีข้อมูลออกมาแล้ว สำหรับโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศไทยครั้งนี้ ใช้ชื่อว่า เที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568 เที่ยวเมืองหลัก เที่ยวเมือรอง สามารถเลือกได้หมด รัฐบาลจ่ายค่าที่พักให้ 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน ใช้ได้สูงสุด 5 สิทธิต่อคน
โครงการล่าสุดจากทางรัฐบาล ออกมาเพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศไทย ซึ่งใช้ชื่อว่า เที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568 คนไทยเตรียมตัวเก็บกระเป๋าเที่ยวได้เลย สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติม ซื้อใช้เวลาอ่านประมาณ 5 นาทีเท่านั้น สำหรับบทความนี้ เพื่อเป็นการไม่ให้พลาดโอกาส ต้องเช็คก่อนเลยว่าเราสามารถกดรับสิทธิได้วันไหนบ้าง สำหรับการลงทะเบียนเที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568 ให้คนไทยได้เที่ยวเมืองหลัก และ เมืองรอง สามารถเลือกได้หมดเลย ทางรัฐบาลจ่ายออกค่าที่พัก 3,000 บาท ต่อคืน ใช้ได้สูงุสด 5 สิทธิ ต่อคน รัฐจ่ายสมทบให้อีก 50% สามารถเช็คเงื่อนไข โครงการดังกล่าวเพิ่มเติมได้ด้านล่าง
เปิดเผยข้อมูลจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว และ กีฬา เปิดเผยความคืบหน้าโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568 โดยคาดว่าจะมีการนำเสนอให้พิจารณาของคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 10 มิถุนายน 2568 ถ้าหากคณะรัฐมนตรี ให้ความเห็นชอบ ก็จะเปิดให้ผู้ประกอบการ ท่องเที่ยวต่างๆ และ ประชาชน ที่สนใจสามารถเข้าไปลงทะเบียน เพื่อเริ่มใช้สิทธิ์ได้ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งข่าวดีสำหรับผู้ที่วางแผนจะเที่ยวในประเทศไทย ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568
โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568
โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง เป็นโครงการที่ถูกเสนอขอในงบกลาง แต่ด้วยกรอบงบประมาณ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 1.5 แสนล้านบาท ทำให้สำนักงบประมาณแนะนำให้นำโครงการเข้าร่วมในกรอบ
จากการตรวจสอบข้อมูลล่าสุดสำหรับจำนวนสิทธิที่กำหนดไว้จะอยู่ที่ 5 แสนสิทธิ ซึ่งลดลงจากเดิมที่ถูกตั้งเอาไว้ที่จำนวน 1 ล้านสิทธิ เนื่องจากงบประมาณ 1,780 ล้านบาท ได้ถูกเกลี่ยให้ใช้กับการกระตุ้นตลาดต่างประเทศ เช่น เที่ยวบินประจำ (Regular Flight) และ เที่ยวบินเช่าแบบเหมาลำ (Charter Flight)
จากข้อมูลดังกล่าวทำให้มีการปรับลดจำนวนสิทธิลง แต่ถึงแม้ว่าจำนวนสิทธิจะลดลง โครงการนี้ก็ยังคงเป็นโอกาสที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางของคนไทยเยอะมากๆ
เที่ยวเมืองหลัก กับ เที่ยวเมืองรอง รัฐจ่ายสมทบ แตกต่างกันยังไง?
- เที่ยวเมืองหลัก รัฐจ่ายสมทบ 40% ประชาชนจ่ายเอง 60%
- เที่ยวเมืองรอง หรือ เมืองน่าเที่ยว รัฐจ่ายสมทบ 50% ประชาชนจ่ายเอง 50%
เที่ยววันธรรมดา กับ เที่ยววันหยุด
- เที่ยววันธรรมดาตั้งแต่วันจันทร์ ถึง วันศุกร์ รัฐจ่ายสมทบ 50% ประชาชนจ่ายเอง 50%
- เที่ยววันเสาร์-วันอาทิตย์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์ รัฐจ่ายเงินสมทบ 40% ประชาชนจ่ายเอง 60%
รับสิทธิสูงสุด 5 คืน มาพร้อมกับคูปองดิจิทัล
สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนและได้รับสิทธิ จะได้รับคูปองดิจิทัล สำหรับใช้จ่ายในร้านอาหาร, ร้านขายของที่ระลึก, ร้าน OTOP และ แหล่งท่องเที่ยว เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน และ กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น
ซื้อของที่โลตัสใช้จ่ายด้วย บัตรเครดิตอะไรได้บ้าง
ในยุคที่การจับจ่ายใช้สอยผ่านบัตรเครดิตได้รับความนิยมสูงมากขึ้นเรื่อยๆ ร้านค้าปลีกชั้นนำอย่างโลตัส (Lotus) ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ผู้บริโภคมักจะใช้บริการผ่านบัตรเครดิต เพราะความสะดวก รวดเร็ว และยังได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากการชำระผ่านบัตรเครดิตอีกด้วย สำหรับปี 2568 โลตัสยังคงรองรับบัตรเครดิตหลากหลายประเภท เรามาดูกันว่ามีบัตรเครดิตอะไรบ้างที่โลตัสรับ และแต่ละประเภทมีจุดเด่นอะไรที่น่าสนใจ
บัตรเครดิต Visa
บัตรเครดิต Visa ยังคงเป็นที่นิยมอันดับต้นๆ ที่โลตัสรับชำระในปี 2568 เนื่องจากเป็นระบบที่มีเครือข่ายกว้างขวางทั่วโลก จุดเด่นสำคัญของบัตรเครดิต Visa ที่ทำให้ผู้ใช้สะดวกในการช้อปปิ้งที่โลตัส คือ
- การรองรับอย่างแพร่หลายทั้งร้านค้าออนไลน์และออฟไลน์
- สิทธิประโยชน์และโปรโมชั่นจากร้านค้าและแบรนด์ต่างๆ ที่ร่วมรายการ
- มีระบบรักษาความปลอดภัยสูงผ่านการยืนยันตัวตนแบบหลายขั้นตอน
บัตรเครดิต MasterCard
อีกหนึ่งบัตรเครดิตที่โลตัสให้การยอมรับอย่างกว้างขวางคือ MasterCard ซึ่งมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ด้วยจุดเด่นในเรื่อง
- การสะสมแต้มและ Cashback สูงสุดตามยอดใช้จ่าย
- โปรโมชั่นพิเศษเฉพาะจาก MasterCard เช่น ส่วนลดเพิ่มเติมเมื่อซื้อสินค้าที่โลตัสในช่วงโปรโมชั่น
- ระบบชำระเงินที่รวดเร็วและปลอดภัยสูงด้วยมาตรฐานระดับสากล
บัตรเครดิต JCB
บัตรเครดิต JCB เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่โลตัสรองรับในปี 2568 ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากโดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่เดินทางไปประเทศญี่ปุ่นเป็นประจำ จุดเด่นของ JCB ได้แก่
- สิทธิพิเศษด้านการเดินทาง เช่น ส่วนลดค่าบัตรโดยสารหรือโรงแรม
- โปรโมชั่นพิเศษที่ร้านอาหารและช้อปปิ้งภายในโลตัสที่เข้าร่วมรายการ
- บริการลูกค้าระดับพรีเมียมที่ตอบสนองรวดเร็ว
บัตรเครดิต UnionPay
ในปี 2568 โลตัสยังรองรับบัตรเครดิต UnionPay ซึ่งได้รับความนิยมสูงจากนักท่องเที่ยวและผู้ใช้งานชาวจีน โดยมีจุดเด่นที่น่าสนใจดังนี้
- ค่าธรรมเนียมในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินที่ต่ำ
- ส่วนลดและโปรโมชั่นพิเศษในช่วงเทศกาลสำคัญของจีน เช่น ตรุษจีน
- สามารถใช้งานได้ทั่วโลกโดยเฉพาะในประเทศจีนที่นิยมมาก
บัตรเครดิต American Express (AMEX)
แม้จะมีจุดจำกัดในเรื่องค่าธรรมเนียมที่สูง แต่ในปี 2568 โลตัสยังคงให้บริการสำหรับผู้ถือบัตร American Express ด้วยเหตุผลสำคัญคือสิทธิประโยชน์ที่มากมาย เช่น
- สิทธิในการเข้าใช้ห้องรับรองพิเศษที่สนามบินทั่วโลก
- ประกันการเดินทางและความคุ้มครองพิเศษเมื่อใช้จ่ายผ่านบัตร
- โปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะผู้ถือบัตร AMEX ที่ร่วมกับโลตัส
บัตรเครดิตร้านค้าร่วมโลตัส (Co-Branded Cards)
โลตัสมีความร่วมมือกับธนาคารต่างๆ ในการออกบัตรเครดิตร่วมแบรนด์ (Co-Branded Cards) โดยมีข้อดีที่ผู้ใช้งานจะได้รับสิทธิประโยชน์โดยตรงเมื่อช้อปปิ้งที่โลตัส เช่น
- การสะสมคะแนนพิเศษเพิ่มขึ้นเมื่อซื้อสินค้าที่โลตัส
- ส่วนลดเฉพาะสินค้าที่เข้าร่วมรายการ
- โปรโมชั่นส่งเสริมการขายที่ออกแบบมาเพื่อผู้ถือบัตรร่วมโลตัสโดยเฉพาะ
ข้อควรระวังในการใช้บัตรเครดิตที่โลตัส
แม้ว่าการใช้บัตรเครดิตจะมีข้อดีมากมาย แต่ผู้บริโภคควรมีความระมัดระวังในประเด็นต่างๆ ดังนี้
- ตรวจสอบวงเงินในบัตรก่อนการใช้งานทุกครั้งเพื่อป้องกันการถูกปฏิเสธชำระเงิน
- เช็คโปรโมชั่นและเงื่อนไขต่างๆ ให้ละเอียดเพื่อไม่พลาดสิทธิประโยชน์ที่คุณสามารถรับได้
- ควบคุมการใช้จ่ายอย่างมีวินัยและอย่าใช้จ่ายเกินความจำเป็น เพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นหนี้สะสม
การเลือกใช้บัตรเครดิตที่โลตัสในปี 2568
การที่โลตัสรับบัตรเครดิตหลากหลายประเภทช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการช้อปปิ้งและบริหารจัดการการเงินของผู้บริโภค โดยแต่ละบัตรเครดิตต่างก็มีจุดเด่นและสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันไป ดังนั้นการเลือกใช้บัตรเครดิตควรพิจารณาถึงไลฟ์สไตล์ของตัวเอง เช่น ความถี่ในการใช้จ่ายประเภทต่างๆ หรือการเดินทางเป็นประจำ เพื่อที่จะสามารถเลือกบัตรเครดิตที่ตอบโจทย์ชีวิตประจำวันของคุณได้อย่างดีที่สุด
ในปี 2568 การใช้บัตรเครดิตที่โลตัสยังคงเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับคนยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวก ปลอดภัย และได้รับผลตอบแทนจากการใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า การที่คุณเลือกบัตรเครดิตที่เหมาะสมจะช่วยให้การใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเป็นเรื่องง่าย สบายใจ และสามารถได้รับสิทธิพิเศษที่ตรงกับความต้องการมากที่สุดอีกด้วย
ทำบัตรประชาชนปี 2025 ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง?
บัตรประชาชนถือเป็นเอกสารสำคัญที่คนไทยทุกคนต้องมีติดตัว เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนในการทำธุรกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสมัครงาน เปิดบัญชีธนาคาร ไปจนถึงการรับบริการจากหน่วยงานราชการ ดังนั้น การเตรียมเอกสารให้พร้อมก่อนทำบัตรประชาชนจึงสำคัญมาก มาดูกันว่าในปี 2025 ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง
เอกสารสำคัญที่ต้องใช้ในการทำบัตรประชาชน
1. กรณีขอทำบัตรประชาชนครั้งแรก
หากคุณมีอายุครบ 7 ปีบริบูรณ์ ซึ่งเป็นวัยที่กฎหมายกำหนดให้เริ่มทำบัตรประชาชนครั้งแรก จำเป็นต้องเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้:
- สำเนาสูติบัตรตัวจริง หรือสำเนาเอกสารรับรองการเกิดจากทะเบียนราษฎร
- เอกสารแสดงความสัมพันธ์กับผู้ปกครอง เช่น สำเนาทะเบียนบ้านที่มีชื่อเด็กและผู้ปกครองปรากฏ
- ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลตามกฎหมาย ต้องนำบัตรประชาชนของตนเองมาด้วย
2. กรณีบัตรประชาชนหมดอายุ หรือสูญหาย
สำหรับกรณีบัตรประชาชนหมดอายุ หรือสูญหาย เอกสารที่ต้องเตรียมมีดังนี้:
- บัตรประชาชนใบเก่า (กรณีหมดอายุ)
- สำเนาทะเบียนบ้านตัวจริง หรือสำเนาทะเบียนบ้านพร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง
- ใบแจ้งความจากสถานีตำรวจ (กรณีบัตรสูญหาย)
ข้อควรรู้ก่อนการทำบัตรประชาชน
นอกจากการเตรียมเอกสารที่ถูกต้องครบถ้วนแล้ว ยังมีข้อควรรู้อื่นๆ ที่ช่วยให้การทำบัตรประชาชนง่ายขึ้น
เวลาที่เหมาะสมในการทำบัตรประชาชน
ควรไปที่สำนักงานเขต หรือที่ว่าการอำเภอในช่วงเช้า เนื่องจากช่วงเวลานี้จะมีผู้ใช้บริการน้อยกว่าช่วงบ่ายหรือช่วงเย็น ทำให้ประหยัดเวลาในการรอคิว
การแต่งกายในการทำบัตรประชาชน
ควรแต่งกายสุภาพเรียบร้อย ไม่ควรใส่เสื้อแขนกุด หรือเสื้อที่เผยให้เห็นส่วนของร่างกายมากเกินไป เพราะเจ้าหน้าที่จะถ่ายรูปทันทีที่ทำบัตรเสร็จ
ขั้นตอนการทำบัตรประชาชน
การทำบัตรประชาชนมีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้:
- เตรียมเอกสารที่จำเป็นให้ครบถ้วน
- รับบัตรคิวที่สำนักงานเขตหรืออำเภอ
- รอเรียกคิวเพื่อยื่นเอกสารและตรวจสอบความถูกต้อง
- เจ้าหน้าที่จะบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล ถ่ายภาพ และเก็บลายนิ้วมือ
- รอรับบัตรประชาชนใบใหม่ (โดยปกติจะได้รับทันที)
ค่าใช้จ่ายในการทำบัตรประชาชน
- กรณีทำบัตรประชาชนครั้งแรกหรือบัตรหมดอายุ: ไม่มีค่าใช้จ่าย
- กรณีบัตรหายหรือชำรุด: มีค่าใช้จ่ายประมาณ 100 บาท
การทำบัตรประชาชนออนไลน์
ในปี 2025 หลายสำนักงานได้เพิ่มระบบการนัดหมายออนไลน์เพื่อความสะดวกสบายมากขึ้น โดยประชาชนสามารถจองคิวล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ของกรมการปกครองหรือแอปพลิเคชันที่กำหนดได้
คำถามที่พบบ่อยในการทำบัตรประชาชน
1. บัตรประชาชนหมดอายุนานแล้วทำใหม่ได้หรือไม่?
- สามารถทำใหม่ได้ แต่ต้องนำบัตรเก่าและเอกสารทะเบียนบ้านมาด้วย
2. หากลืมนำเอกสารสำคัญมาจะทำบัตรได้ไหม?
- จะไม่สามารถทำได้ เพราะเจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบเอกสารที่ถูกต้องเท่านั้น
3. หากชื่อในบัตรประชาชนสะกดผิดต้องทำอย่างไร?
- ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ให้แก้ไขทันที โดยเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น สูติบัตร หรือใบเปลี่ยนชื่อ
การเตรียมเอกสารให้พร้อมก่อนทำบัตรประชาชนในปี 2025 เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การดำเนินการราบรื่นและรวดเร็วมากขึ้น โดยเฉพาะการเตรียมเอกสารที่ถูกต้องครบถ้วน การนัดหมายล่วงหน้า และการแต่งกายที่เหมาะสม ก็จะช่วยประหยัดเวลาในการทำบัตรประชาชนได้เป็นอย่างดี
อัพเดทบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มิถุนายน 2568 เงินเข้าวันไหนบ้าง
เปิดเผยข้อมูลจากกรมบัญชีกลาง เกี่ยวกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 ในเดือนมิถุนายน ว่าจะมีการจ่ายเงินเข้าบัญชีผู้ที่ได้รับสิทธิวันไหนบ้าง และจ่ายเป็นค่าอะไรบ้าง ทางด้านรองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ได้ฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ได้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับโครงการลงทะเบีนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 ผู้ที่ได้รับสิทธิ สามารถใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบ Smart Card ในเดือนมกราคม 2568 สำหรับสิทธิต่างๆสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ด้านล่าง
1. มิถุนายน 2568 (วงเงินสิทธิ์ไม่สามารถถอนออกมาเป็นเงินสดได้)
- วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน
- วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาท ต่อคนต่อ 3 เดือน (เมษายน – มิถุนายน 2568)
- วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน ประกอบด้วย บขส. รถไฟ, ขสมก, รถไฟฟ้า และ รถโดยสารเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ
2. วันที่ 20 มิถุนายน 2568
- เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาท ต่อเดือน
- สำหรับผู้ที่มีสิทธิที่เป็นคนพิการ มีบัตรประจำตัวคนพิการ และ ได้รับเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน เงินช่วยเหลือจะถูกโอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลักของผู้ได้รับสิทธิ หรือ บัญชีเงินฝากธนาคาร ของผู้ที่มีสิทธิ
สำหรับประชาชนท่านไหนที่มีข้อสงสัย สามารถติดต่อสอบถามได้ด้วยตัวเองที่เบอร์ 02-109-2345 ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิแห่งรัฐ หรือติดต่อที่ Call Center กรมบัญชีกลาง ที่เบอร์ 02-270-6400 ในเวลาราชการ
รายละเอียดเงินเดือน 10,000 บาท รับเงินทดแทนว่างงาน เดือนละ 5,000 บาท
สำนักงานประกันสังคม หรือ สปส. ได้แจ้งเกี่ยวกับเงื่อนไข ผู้ประกันตนเงินเดือน 10,000 บาท รับเงินสดทดแทนเงินว่างงาน เดือนละ 5,000 บาทในกรณี ถูกเลิกจ้างรวมถึงการจ่ายในกรณีลาออก
เงินชดเชยเลือกจ้าง เงินว่างงาน คืออะไร?
เงินชดเชยเลิกจ้าง เงินว่างงาน ประกันสังคม 2568 สำนักงานประกันสังคม หรือ สปส. sso.go.th เปิดเงื่อนไขผู้ประกันตน เงินเดือน 10,000 บาทรับเงินทดแทนเดือนละ 5,000 บาท กรณีถูกเลิกจ้าง รมถึงการจ่ายในกรณีลาออก ซึ่งสามารถรายงานตัวออนไลน์ได้ที่ e-service.doe.go.th
อัตราการจ่ายเงินชดเชย เงินว่างงาน ประกันสังคม 2568
กรณีลาออก
- ได้รับเงินทดแทนระหว่างการว่างงานปีละไม่เกิน 90 วัน
- ได้รับในอัตราร้อยละ 30 ของค่าจ้าง โดยคำนวณจากฐานเงินสมทบขั้นต่ำเดือนละ 1,650 บาท และ ฐานเงินสมทบสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท
- ตัวอย่างเช่น ผู้ประกันตนมีเงินเดือนเฉลี่ย 10,000 บาท จะได้รับเงินทดแทนเดือนละ 3,000 บาท
กรณีถูกเลิกจ้าง
- ได้รับเงินทดแทนระหว่างการว่างงานปีละไม่เกิน 180 วัน
- ได้รับในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ย โดยคำนวณจากฐานเงินสมทบขั้นต่ำเดือนละ 1,650 บาท และ ฐานเงินสมทบสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท
- ตัวอย่างเช่น ผู้ประกันตนมีเงินเดือนเฉลี่ย 10,000 บาท จะได้รับเงินทดแทนเดือนละ 5,000 บาท
หากผู้ประกันตนมีเหตุที่ทำให้ว่างงานเกิน 1 ครั้งภายใน 1 ปี ปฎิทินจะมีสิทธิได้รับเงินทดแทนที่แตกต่างกันออกไป
- หากว่างงานเพราะลาออก จะได้รับสิทธิเงินทดแทนทุกครั้ง รวมกันไม่เกิน 90 วัน
- หากว่างงานเพราะถูกเลิกจ้าง จะได้รับสิทธิเงินทดแทนทุกครั้ง รวมกันไม่เกิน 180 วัน
ฝนกลับมาแล้ว กรมอุตุแจ้งเตือน บ่ายวันนี้ถึงค่ำมีฝนตก
กรมอุตุฯออกมาแจ้งเตือนเกี่ยวกับ การพยากรณ์อากาศวันนี้ วันที่ 9 มิถุนายน 2568 เตือนฝนตกหนักทั่วไทย โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้, ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ส่วน กรุงเทพฯ มีฝนตกช่วงบ่ายถึงค่ำ
เตือนอากาศวันนี้ ฝนตกหนักทั่วไททย โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้, ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ ส่วนกรุงเทพฯ มีฝนตกในช่วงบ่ายถึงค่ำ พยากรณ์อากาศจากกรมอุตุฯ แจ้งว่าประเทศไทย จะมีฝนค้าคะนอง และ มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยจะมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ บริเวณภาคตะวันออก และ ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจจะทำให้พื้นที่ต่ำบางแห่งเกิดน้ำท่วมขังแบบฉับพลัน และ น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
ในภาคเกษตรกรควรเตรีมการป้องกันและระวังความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อผลผลิตทางการเกษตรเนื่องจากร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และภาคใต้มีกำลังค่อนข้างแรง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน มีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง มากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทบมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่ฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามัน และ อ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และ หลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามัน ควรงดออกจากฝั่ง
พยากรณ์อากาศ สำหรับประเทศไทย โดยกรุมอุตุฯ 06.00 วันนี้ถึง 06.00 วันพรุ่งนี้
- กรุงเทพและปริมณฑล มีฝนตกร้อยละ 60% ของพื้นที่ ส่วนมากฝนจะตกช่วงบ่ายถึงค่ำ
- ภาคเหนือมีฝนตกร้อยละ 70% ของพื้นที่ และ มีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ วังหวัดแม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่, เชียงราย, น่าน, อุตรดิตถ์, ตาก, กำแพงเพชร, พิจิตร, พิษณุโลก และ เพชรบูรณ์
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนตกร้อยละ 60% ของพื้นที่ และ มีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเลย, หนองคาย, บึงกาฬ, หนองบัวลำภู, อุดรธานี, สกลนคร, นครพนม, ชัยภูมิ และ ขอนแก่น
- ภาคกลาง มีฝนตกร้อยละ 60% ของพื้นที่ และ มีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครสวรรค์, อุทัยธานี, ลพบุรี, สระบุรี และ กาญจนบุรี
- ภาคตะวันออก มีฝนตกร้อยละ 60% ของพื้นที่ และ มีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก, ปราจีนบุรี, ระยอง, จันทบุรี และ ตราด
- ภาคใต้ มีฝนตกร้อยละ 60% ของพื้นที่ และ มีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จังหวัดชุมพร, สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, พัทลุง และ สงขลา
- ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกร้อยละ 80% ของพื้นที่ และ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง, พังงา, ภูเก็ต, กระบี่, ตรัง และ สตูล
ปรับราคาน้ำมันประจำวันที่ 9 มิถุนายน 2568
เช้าวันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน 2568 เวลา 08:46 น. กรุงเทพธุรกิจได้อัปเดต “ราคาน้ำมันวันนี้” จาก 4 ผู้ให้บริการสถานีบริการน้ำมันหลักของไทย ได้แก่ ปตท. (โออาร์), บางจาก, Shell และ PT ด้วยข้อมูลล่าสุดที่ช่วยให้คุณเห็นภาพรวมราคาน้ำมันทุกชนิด ทั้งเบนซิน แก๊สโซฮอล์ และดีเซล เพื่อวางแผนการใช้งานเชื้อเพลิงได้อย่างคุ้มค่า
ทำไมราคาน้ำมันถึงเปลี่ยนทุกวัน?
ทุกวันจันทร์ เวลา 08:00 น. บริษัทผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่จะพิจารณาข้อมูลราคาน้ำมันดิบระดับโลก ต้นทุนขนส่ง และภาษี ก่อนปรับราคาขายปลีก การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยก็ส่งผลต่อราคาขายปลีกรายลิตร สถานีบริการจึงปรับอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ราคามีความสมดุลในแต่ละวัน
เปรียบเทียบราคาน้ำมันแต่ละค่าย – วันที่ 9 มิ.ย. 2568
ด้านล่างคือ “ตารางสรุปรายละเอียดราคาน้ำมันวันนี้” แยกตามค่ายชัดเจน และจัดเรียงตามประเภทน้ำมัน
ปตท. (โออาร์)
-
ดีเซล: 31.94 บ./ลิตร
-
แก๊สโซฮอล์ E85: 28.69 บ./ลิตร
-
แก๊สโซฮอล์ E20: 30.34 บ./ลิตร
-
แก๊สโซฮอล์ 91: 32.18 บ./ลิตร
-
แก๊สโซฮอล์ 95: 32.55 บ./ลิตร
-
เบนซิน (แก๊สโซฮอล์ไม่ผสม): 40.84 บ./ลิตร
-
ซูเปอร์พาวเวอร์ ดีเซล: 43.94 บ./ลิตร
-
ซูเปอร์พาวเวอร์ แก๊สโซฮอล์ 95: 41.14 บ./ลิตร
บางจาก
-
ไฮพรีเมียม ดีเซล S: 46.14 บ./ลิตร
-
ไฮดีเซล S: 31.94 บ./ลิตร
-
ไฮพรีเมียม 97 E95++: 48.84 บ./ลิตร
-
E85 S EVO: 28.69 บ./ลิตร
-
E20 S EVO: 30.34 บ./ลิตร
-
91 S EVO: 32.18 บ./ลิตร
-
95 S EVO: 32.55 บ./ลิตร
Shell
-
Shell FuelSave E20: 30.84 บ./ลิตร
-
Shell FuelSave 91: 32.68 บ./ลิตร
-
Shell FuelSave 95: 33.05 บ./ลิตร
-
Shell V-Power Gasohol 95: 49.84 บ./ลิตร
-
Shell FuelSave Diesel: 31.94 บ./ลิตร
-
Shell V‑Power Diesel: 49.84 บ./ลิตร
สรุปภาพรวมราคา
-
ราคา ดีเซล ทั้ง 4 ค่ายเคลื่อนไหวอยู่ที่ 31.94 บ./ลิตร
-
E85 (แก๊สโซฮอล์ผสม 85%) ราคาใกล้เคียงกันทั้ง ปตท. – บางจาก – E20/91/95 E หรือไฮดีเซล
-
เบนซิน/แก๊สโซฮอล์ 95 มีความแตกต่างเล็กน้อย เช่น ปตท. 32.55 บ./ลิตร, PT 32.55 บ./ลิตร, Shell 33.05 บ./ลิตร
-
ซูเปอร์สูตรพิเศษ เช่น V‑Power หรือ ไฮพรีเมียม มีราคาสูงกว่าเกิน 40 บ./ลิตร
เคล็ดลับเลือกน้ำมันอย่างคุ้มค่า
-
หากรถคุณรองรับ E20/E85 ให้เลือกเติม เพราะราคาต่ำกว่าเบนซินถึง ~10 บาท/ลิตร
-
หากใช้ ดีเซล ดูราคาไม่ว่าจะเป็น ปตท. หรือ PT ก็เท่ากัน แต่บางจากมีตัวเลือก ไฮพรีเมียม S
-
สำหรับผู้ใช้ เบนซิน 95 และคนที่อยากสัมผัสประสิทธิภาพจากน้ำมันสูตรพรีเมียม ลองพิจารณาราคาของแต่ละค่าย
วิธีใช้งานราคาน้ำมันให้เกิดประโยชน์สูงสุด
-
ตรวจสอบราคาทุกเช้า โดยเฉพาะช่วงต้นสัปดาห์ เพื่อวางแผนเติมก่อนราคาขึ้น
-
ใช้ แอปเช็กราคา เช่น PTT Blue หรือ Shell App เพื่อเปรียบเทียบราคา ณ เวลาเติม
-
ติดตามสถานีใกล้บ้าน เพราะบางครั้งแต่ละบริษัทมีโปรโมชั่นเติมน้ำมันจ่ายด้วยช่องทางเฉพาะ
-
วางแผนเส้นทางให้ดี เลี่ยงสถานีราคาแพงเมื่อไม่จำเป็น
ทำไมข้อมูลนี้จึงสำคัญ?
-
สำหรับผู้ใช้รถยนต์ทั่วไป: ช่วยประหยัดค่าน้ำมันได้ทุกครั้ง เพิ่มเงินเหลือไว้ใช้จ่ายส่วนอื่น
-
สำหรับผู้ประกอบการหรือผู้ขับขี่เป็นประจำ: ความแตกต่าง 0.50–1 บาทต่อลิตร อาจสะสมเพิ่มค่าใช้จ่ายได้หลายร้อยบาทต่อเดือน
-
โดยภาพรวมเศรษฐกิจ: ราคาพลังงานเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลต่อต้นทุนสินค้า แปรผันไปตามราคาน้ำมันดิบและภาษี จึงควรติดตามเพื่อประเมินค่าใช้จ่ายล่วงหน้า
เช็กราคา + วางแผนการเติม + ใช้สิทธิประโยชน์
เป็นสูตรง่าย ๆ ที่ช่วยให้คุณควบคุมรายจ่ายค่าน้ำมันได้อย่างชาญฉลาด หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และช่วยให้การใช้เชื้อเพลิงของคุณคล่องตัวและประหยัดขึ้นในทุกเช้า
ประกันสังคมเตรียมปรับสูตรใหม่ในปี 2569
ปี 2568 ประกันสังคมเตรียมปรับสูตรคำนวญบำนาญใหม่ บางกลุ่มได้รับเงินบำนาญเพิ่มขึ้น ในขณะที่บางกลุ่มอาจจะได้รับน้อยลง การปรับสูตรใหม่ของเงินบำนาญครั้งนี้ จะส่งผลกระทบโดยตรงกับผู้ประกันตนทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ใกล้เกษียณ หรือเพิ่มจะเริ่มทำงาน สำหรับสูตรใหม่จะพิจารณาปัจจัยหลายด้านมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น
- ระยะเวลาการส่งเงินสมทบ
- ฐานเงินเดือนเฉลี่ยช่วงท้ายของการทำงาน
การปรับครั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มของประชากรสูงวัย และภาระงบประมาณของทุนประกันสังคม การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ อาจจะทำให้บางกลุ่มได้รับเงินบำนาญที่เพิ่มมากขึ้น
รายละเอียดการคำนวณบำนาญสูตรใหม่
- ระยะเวลาการส่งเงินสมท จำนวนปีที่ส่ง การส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม หรือ กองทุนบำนาญต่างๆ เป็นระยะเวลานาน ส่งผลโดยตรงต่อสิทธิประโยชน์ที่ผู้ส่งเงินจะได้รับในอนาคต โดยเฉพาะในส่วนของเงินบำนาญชราภาพ ซึ่งเป็นผลตอบแทนระยะยาว เมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ หากส่งเงินสมทบเป็นระยะเวลานาน สิทธิประโยชน์ หรือ อัตราบำนาญที่ได้รับนั้นก็จะสูงขึ้นไปอีก เพราะอัตราการคำนวณบำนาญจะพิจารณาจากจำนวนปีที่มีการส่งเงินสมทบ ควบคู่กับฐานค่าจ้างเฉลี่ย
- ฐานเงินเดือนเฉลี่ยช่วงท้าย 5 ปีสุดท้ายก่อนการเกษียณ จากสูตรเดิมจะใช้ฐานเฉลี่ยเฉพาะช่วงท้ายและอาจจะเปลี่ยนมาเป็นฐานตลอดอายุการทำงาน สำหรับสูตรใหม่ อาจจะให้ความสำคัญกับช่วง 3-5 ปี สุดท้ายมากขึ้น หมายความว่า หากช่วงก่อนเกษียณฐานเงินเดือนสูง จะได้รับเงินบำนาญที่มากขึ้นตามไปด้วย
- สัดส่วนการจ่ายเงินบำนาญต่อฐานเงินเดือนเฉลี่ย อาจจะมีการปรับลดจากเดิมอยู่ราวๆ 20%-30% ของเงินเดือนเฉลี่ย มาเป็นอัตราที่ผันแปรตามช่วงเวลาการส่งเงินสมทบ และสถานะของกองทุนในช่วงนั้น
- ส่งเสริมให้ผู้ประกันตนทำงานนานขึ้น
สูตรใหม่ใครได้รับประโยชน์บ้าง?
ผู้ที่มีระยะเวลาส่งเงินสมทบนานเกิน 25 ปี คนกลุ่มนี้จะได้รับประโยชน์เต็มๆ จากการให้คะแนนสะสมและค่าตอบแทนบำนาญที่สูงขจึ้น สำหรับผู้ที่มีเงินเดือนสูง ช่วงปลายอายุงาน หากวางแผนเลื่อนตำแหน่ง หรือมีการปรับเงินเดือนในช่วง 5 ปี สุดท้ายก่อนเกษียณ จะช่วยเพิ่มฐานเงินเดือนเฉลี่ยทำให้ได้รับเงินบำนาญที่สูงขึ้น นอกจากนี้ คนที่ได้รับผลประโยชน์กลุ่มสุดท้าย ก็คือคนที่เริ่มวางแผนทางการเงิน เช่นวางแผนออกจากงานช้าลง หรือ ส่งเงินสมทบ ม.39 เพิ่มเติมในช่วงปลดเกษียณ
ใครอาจจะเสียประโยชน์บ้าง?
คนที่เสียประโยชน์ อาจจะเป็นกลุ่มคนที่ส่งเงินสมทบระยะสั้น หรือเว้นช่วงบ่อย ซึ่งคนกลุ่มนี้ อาจจะไม่ได้รับสิทธิ์อัตราบำนาญสูง เพราะว่าไม่มีระยะเวลาสะสมที่เพียงพอ นอกจากนี้ กลุ่มคนที่มีเงินเดือนคงที่ตลอดช่วงทำงาน หากไม่ได้รับการขยับฐานเงินเดือนในช่วงท้าย อาจจะไม่ได้รับประโยชน์จากสูตรใหม่นี้ กลุ่มสุดท้ายที่อาจเสียผลประโยชน์ ก้คือแรงงานนอกระบบ หรือผู้ที่เปลี่ยนงานบ่อย อาจจะทำให้เกิดการขาดตอนการส่งเงินสมทบ ทำให้สิทธิประโยชน์ลดลง
แนวทางการเตรียมตัวสำหรับการปรับสูตรบำนาญใหม่ปี 2569
- ตรวจสอบสถานะการส่งเงินสมทบในระบบประกันสังคม
- วางแผนเกษียณล่วงหน้า
- ขยับฐานเงินเดือนในช่วงท้ายของอายุงาน ถ้าทำได้
- วางแผนการเงินเสริม เช่น กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ