แพ็กเกจเยียวยา ผลกระทบภาษีทรัมป์จากรัฐบาล

หลังจากที่ประเทศไทยได้มีการเจรจาภาษีกับสหรัฐอเมริกา ทำให้ได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่าประเทศไทย จะถูกเก็บภาษีตอบโต้ หรือ Reciprocal Tariff ที่อัตรา 19% ลดลงจากเดิมที่จะต้องจ่ายในอัตรา 36% โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม 2568 โดยมีเงื่อนไขสำคัญในการเปิดตลาดนำเข้าสินค้าจากสหรัฐอเมริกาในอัตรา 0% นับหมื่นรายการ รวมถึงมีการเปิดตลาดให้นำเข้าสินค้าเกษตร รวมถึงการเพิ่มโควต้าในการนำเข้าสินค้าเกษตรบางรายการที่มีความอ่อนไหวกับสหรัฐอเมริกา ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการหารือในรายละเอียดเพิ่มเติม ก่อนจะส่งลิสต์สินค้าที่ต้องแก้ไขภาษีศุลกากรให้กับที่ประชุมสภาฯเพื่อพิจารณา อาจจะต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้เปิดเผยข้อมูลว่ารัฐบาลมอบหมายให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาข้อสรุปแนวทางการเยียมยาผลกระทบจากภาษีทรัมป์ เพื่อกลับมาเป็นแนวทางที่เหมาะสม แต่ละธุรกิจได้รับผลกระทบที่แตกต่างกันออกไปเช่นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, อาหารสำเร็จรูป และ เครื่องใช้ไฟฟ้า

3 มาตรการเยียวยาผลกระทบจากภาษีทรัมป์

สำหรับมาตรการที่ถูกออกมาเพื่อเยียวยาภาษีทรัมป์นั้น ออกมาเพื่อ 3 กลุ่มเป้าหมายหลักๆได้แก่ พี่น้องเกษตรกร, ผู้ส่งออก และ SME ในซัพพลายเชนการส่งออกตลาดสหรัฐ

  1. มาตรการทางภาษี สนับสนุนผู้ประกอบการปรับตัวช่วงเปลี่ยนผ่านภาษี 19% ด้วยการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล และ การลดภาษีเงินได้นิติบุคคล หรือ การให้เครดิตภาษี
  2. มาตการ Soft Loan ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ 200,000 ล้านบาท ประสานธนาคารพาณิชย์ร่วมให้ Soft Loan ระยะแรก และให้ Soft Loan กับผู้ประกอบการที่ขาดเงินสด พิจาณาใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลืออีก 24,000 ล้านบาท เพื่อชำระหนี้คืน ธ.ก.ส., EXIM Bank เพื่อให้ปล่อยกู้ได้มากขึ้น
  3. เงินอุดหนุนจากภาครัฐ เบื้อต้นดำเนินการผ่าน 2 กองทุน กองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขับของประเทศ สำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณเพิ่ม 10,000 ล้านบาท แนวทางการช่วยเหลือให้เงินลงทุนปรับปรุงเครื่องจักรเป็ฯดิจิทัลมากขึ้น และ จัดทำ Business Matching ให้ผู้ประกอบการเช่น Supply Chain ของ EV นอกจากนี้ยังมีกองทุนช่วยเหลือเพื่อการปรับตัวของภาคการผลิต และ ภาคบริการที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้ากองทุน FTA

ภาคเอกชนต้องการความช่วยเหลือที่แตกต่างกันออกไป

ข้อมูลจากทางด้าน รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แจ้งว่ามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่รัฐบาลได้เตรียมออกมาได้หารือกับผู้ประกอบการมาอย่างต่อเนื่อง โดยดูเป็นรายกลุ่มสินค้าที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งผู้ประกอบการแต่ละกลุ่มมีความต้องการที่แตกต่างกันออกไป สำหรับกลุ่มผู้ส่งออกอัญมณี และ เครื่องประดับ มีการหารือภาระภาษีนำเข้าของสหรัฐที่เพิ่มขึ้น โดยในช่วงแรกผู้นำเข้าอาจรับภาระจากภาษี 40% ของมูลค่าภาษีนำเข้าทั้งหมด และ 40% ขอให้รัฐช่วยแบ่งจ่าย ส่วนอีก 20% อาจส่งต่อให้ผู้บริโภคในสหรัฐหรือการขึ้นราคาสินค้ากับผู้นำเข้าสหรัฐทั้งนี้กลุ่มผู้ส่งออกอัญมณี และเครื่องประดับอาจขอเวลาปรับตัว 1-2 ปี โดยอาจจะขอเป็นมาตรการทางภาษี เช่น การขอลดหย่อนภาษี แทนการขอ Soft Loan และช่วยระหว่างนี้รัฐจะหากลไกอื่นในการเก็บภาษีคืนควบคู่กันไป

กลไกองทุนเพิ่มขีดความสามารถที่ผ่านมาได้รับการอนุมัติวงเงินไป 10,000 ล้านบาท เป็นหนึ่งในแนวทางที่ช่วยให้ผู้ประกอบการปรับเปลี่ยนภาคการผลิตให้สามารถแข่งขันได้ในช่วงที่มีการเปลี่ยนผ่านภาษีครั้งนี้ ในส่วนของการเจรจาข้อตกลงร่วมค้าระหว่างไทย กับสหรัฐ หรือ Join Agreement ซึ่งตอนนี้ทีมไทยต้องไปเจรจาในรายละเอียดสินค้ากว่า 10,000 รายการที่ต้องเปิดตลาดให้กับสหรัฐ รวมถึงสินค้าเกษตรบางรายการที่มีกลไกในการดูแลเกษตรกรในประเทศก่อนเช่น ข้าวโพด จะรับซื้อผลผลิตในประเทศทั้งหมดก่อนที่จะพิจารณนำเข้า พร้อมประกาศราคารับซื้อผลิตในราคานำตลาดเพื่อการันตีว่าผลผลิตที่มีในประเทศจะได้รับการรับซื้อทั้งหมด

 

กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งสภาพอากาศวันที่ 8 สิงหาคม 2568

เปิดเผยข้อมูลล่าสุดจากทางด้าน กรมอุตุนิยมวิทยา เกี่ยวกับสภาพอากาศวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แจ้งเตือนว่ามีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมทั่วประเทศไทย ทำให้มีฝนฟ้าคะนองในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งประมาณ 60% ของพื้นที่ และยังมีการประกาศรายชื่อ 41 จังหวัดทั่วประเทศให้เฝ้าระวังพายุฝนล่าสุด ส่วนทะเลอันดมัน อ่าวไทย มีคลื่นสูง 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

ลักษณะอากาศทั่วไปวันที่ 8 สิงหาคม 2568 มีแนวโน้มฝนตกหนัก

พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบนและประเทศเวียดนามตอนบนประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และ อ่าวไทย

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทย มีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามัน และอาวไทยยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

พยากรณ์อากาศสำหรับประทเศไทย เวลา 06.00 น. วันนี้ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้

  • สภาพอากาศภาคเหนือ มีฝนตกร้อยละ 40% ของพื้นที่
  • สภาพอากาศภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนตกร้อยละ 30% ของพื้นที่
  • สภาพอากาศภาคกลาง มีฝนตกร้อยละ 40% ของพื้นที่
  • สภาพอากศภาคตะวันออก มีฝนตกร้อยละ 60% ของพื้นที่
  • สภาพอากาศภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกร้อยละ 40% ของพื้นที่
  • สภาพอากศภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกร้อยละ 40% ของพื้นที่
  • สภาพอากาศกรุงเทพ และ ปริมณฑล มีฝนตกร้อยละ 60% ของพื้นที่

 

สมัครประกันเดินทาง MSIG Travel Easy

หากคุณกำลังวางแผนเดินทางต่างประเทศในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว พักผ่อน หรือดูงาน สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือการทำประกันเดินทางที่ช่วยคุ้มครองทั้งอุบัติเหตุ เจ็บป่วย และเหตุไม่คาดฝันต่าง ๆ ซึ่งหนึ่งในแผนที่ได้รับความนิยมสูงจากผู้เดินทางชาวไทยคือ MSIG Travel Easy บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับรายละเอียดของแผนประกัน พร้อมวิธีสมัคร และข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ

MSIG Travel Easy คืออะไร?

MSIG Travel Easy เป็นแผนประกันเดินทางต่างประเทศที่ออกแบบมาเพื่อให้ความคุ้มครองครอบคลุมทั้งสุขภาพและเหตุฉุกเฉินระหว่างการเดินทางในต่างประเทศ โดย MSIG เป็นบริษัทประกันภัยระดับโลกที่ได้รับความเชื่อถือจากผู้ใช้บริการทั่วโลก ให้บริการประกันทั้งรายเที่ยวและรายปี

  • นักท่องเที่ยวที่เดินทางระยะสั้น (รายเที่ยว)
  • นักธุรกิจที่เดินทางบ่อย (รายปี)
  • นักเรียน นักศึกษาที่ไปเรียนต่อต่างประเทศ
  • ผู้ที่ต้องการความอุ่นใจระหว่างเดินทางทุกประเภท

จุดเด่นของประกัน MSIG Travel Easy

  • คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลต่างประเทศ สูงสุด 4 ล้านบาท (ขึ้นอยู่กับแผน)
  • คุ้มครองการยกเลิก/เลื่อนการเดินทาง เที่ยวบินล่าช้า หรือกระเป๋าหาย
  • ครอบคลุม COVID-19 ตามเงื่อนไขกรมธรรม์
  • บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. ทั่วโลก
  • เคลมง่าย ผ่านออนไลน์หรือแอป MSIG SpeeDi

แผนประกัน MSIG ที่มีให้เลือก

แผน ค่ารักษาพยาบาลต่างประเทศ อุบัติเหตุส่วนบุคคล สัมภาระหาย เบี้ยประกัน (เริ่มต้น)
Travel Easy Eco 1,000,000 บาท 1,000,000 บาท 20,000 บาท เริ่มต้น 250 บาท
Travel Easy Plus 2,000,000 บาท 1,500,000 บาท 30,000 บาท เริ่มต้น 390 บาท
Travel Easy Premier 4,000,000 บาท 2,000,000 บาท 50,000 บาท เริ่มต้น 520 บาท

ขั้นตอนการสมัครประกัน MSIG Travel Easy

1. เลือกแผนที่เหมาะกับการเดินทาง

ตรวจสอบประเทศปลายทาง และระยะเวลาการเดินทาง เพื่อเลือกแผนคุ้มครองที่เหมาะสม เช่น ถ้าเดินทางหลายประเทศ หรือมีกิจกรรมผจญภัย อาจต้องเลือกแผนที่ครอบคลุมเป็นพิเศษ

2. สมัครผ่านช่องทางออนไลน์

สามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ www.msig-thai.com แล้วเลือกเมนู “ประกันเดินทาง” จากนั้นกรอกข้อมูลส่วนตัว กำหนดวันเดินทาง และเลือกแผนที่ต้องการ ระบบจะแสดงราคาและรายละเอียดความคุ้มครองให้ตรวจสอบก่อนชำระเงิน

3. ชำระเงินและรับกรมธรรม์

เมื่อชำระเงินเสร็จ ระบบจะส่งกรมธรรม์เข้าทางอีเมลทันที และสามารถโหลดไฟล์ PDF เพื่อใช้แสดงต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (กรณีจำเป็น) หรือใช้ยื่นขอวีซ่าบางประเทศได้

4. ดาวน์โหลดแอป MSIG SpeeDi

แนะนำให้ดาวน์โหลดแอป SpeeDi เพื่อใช้ดูข้อมูลกรมธรรม์, ติดต่อขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน หรือยื่นเคลมผ่านแอปได้สะดวกในระหว่างเดินทาง

สมัครประกันเดินทาง MSIG Travel Easy รับส่วนลดพิเศษ

ข้อควรรู้ก่อนสมัครประกันเดินทาง MSIG

  • อายุที่รับประกันอยู่ระหว่าง 1 – 75 ปี (แผนบางประเภทมีข้อยกเว้นเพิ่มเติม)
  • ควรสมัครล่วงหน้าก่อนวันเดินทางอย่างน้อย 1 วัน
  • ไม่ครอบคลุมการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว หรือการตั้งครรภ์
  • ไม่คุ้มครองเหตุที่เกิดจากการดื่มสุราหรือยาเสพติด
  • สามารถใช้ยื่นขอวีซ่าชengen, ญี่ปุ่น หรือประเทศที่ต้องการประกัน

MSIG Travel Easy ดีไหม

MSIG Travel Easy เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประกันเดินทางที่คุ้มค่า ครอบคลุม และเชื่อถือได้ มีให้เลือกหลายแผนตามงบประมาณและลักษณะการเดินทาง การสมัครก็สะดวกผ่านระบบออนไลน์ พร้อมบริการช่วยเหลือทั่วโลก 24 ชั่วโมง ทำให้คุณมั่นใจได้ตลอดการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นทริปสั้นหรือยาว MSIG ก็มีแผนให้คุณเลือกอย่างยืดหยุ่น

วันหยุดพิเศษเพิ่มเติม สิงหาคม 2568

เดือนสิงหาคม 2568 เป็นเดือนที่มีการค้นหา และ ถูกพูดถึงเกี่ยวกับวันหยุดยาวในเดือนสิงหาคม 2568 ค่อนข้างเยอะมาก เนื่องจากในเดือนสิงหาคม 2568 นั้นมี วันแม่แห่งชาติ เป็นวันหยุดราชการ วันหยุดธนาคาร ใครที่กำลังวางแผนจะเดินทางไปเที่ยว แนะนำเช็คปฎิทินเอาไว้เลย ว่าจะลาเพิ่ม เพื่อไปเที่ยวต่างประเทศ หรือ จะเที่ยวในประเทศดี สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถดูได้ด้านล่าง

วันหยุดเดือน สิงหาคม 2568

สำหรับวันหยุดเดือนสิงหาคม 2568 และเป็นช่วงวันหยุดยาว

  • วันจันทร์ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดเพิ่มกรณีพิเศษ หยุดทั้งข้าราชการ และ ธนาคาร
  • วันอังคารที่ 12 สิงหาคม 2568 วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง และวันแม่แห่งชาติ หยุดทั้งข้าราชการ และ ธนาคาร

จากวันหยุดดัวกล่าว จะทำให้เดือนสิงหาคม 2568 จะมีวันหยุดยาวถึง 4 วันติดต่อกัน ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม 2568 ไปจนถึงวันอังคารที่ 12 สิงหาคม 2568 อย่างไรก็ตาม สำหรับวันที่ 11 สิงหาคม พนักงานบริษัทเอกชน ต้องรอการประกาศจากบริษัทก่อนว่า วันจันทร์ที่ 11 สิงหาคม 2568 จะเป็นวันหยุดหรือไม่ ถ้าบริษัทไหนมีมาตรการว่าไม่ให้เป็นวันหยุด อาจจะต้องใช้วันลาเพื่อลาหยุดในวันจันทร์ที่ 11 สิงหาคม 2568 ถ้าต้องการจะหยุดยาว 4 วันติด

วันแม่ 12 สิงหาคม ปีนี้ พาแม่เที่ยวที่ไหนดี

วันแม่แห่งชาติในประเทศไทยตรงกับวันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี ซึ่งนอกจากจะเป็นวันหยุดราชการแล้ว ยังเป็นโอกาสอันดีที่หลายครอบครัวจะได้ใช้เวลาร่วมกัน หนึ่งในกิจกรรมยอดฮิตคือ “พาคุณแม่เที่ยว” เพื่อเติมความสุข และเก็บความทรงจำร่วมกัน สำหรับใครที่ยังไม่แน่ใจว่า ปีนี้จะพาแม่ไปไหนดี เรารวบรวมไอเดียที่เที่ยวหลากหลายสไตล์มาแนะนำกัน

เหตุผลที่ควรพาแม่เที่ยวในวันแม่

  • เป็นช่วงเวลาครอบครัวที่สำคัญ ช่วยสร้างสายใยความผูกพัน
  • เติมเต็มความสุขให้แม่ ด้วยการเปลี่ยนบรรยากาศจากความเครียดประจำวัน
  • เป็นโอกาสในการตอบแทนความรักและความห่วงใยที่แม่มีให้มาตลอดปี

5 สไตล์สถานที่เที่ยววันแม่ยอดนิยมในปี 2025

1. เที่ยวธรรมชาติ สูดอากาศดีๆ กับแม่

คุณแม่หลายคนที่เหนื่อยล้าจากชีวิตเมือง อาจอยากเปลี่ยนบรรยากาศไปพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ บรรยากาศเงียบสงบและวิวสวยงามช่วยให้แม่รู้สึกผ่อนคลาย ตัวเลือกยอดนิยม เช่น:

  • เขาใหญ่: มีทั้งอากาศดีและที่พักสไตล์รีสอร์ต มีร้านอาหารวิวเขาให้พาแม่ไปดื่มด่ำธรรมชาติ
  • สวนผึ้ง ราชบุรี: จุดหมายใกล้กรุง เหมาะสำหรับทริป 1-2 วัน มีฟาร์มแกะ คาเฟ่ และที่พักบรรยากาศยุโรป
  • เชียงใหม่: หากมีเวลาหลายวัน การบินไปเที่ยวแม่ริม ดอยสุเทพ หรือหมู่บ้านแม่กำปอง ก็เป็นตัวเลือกที่แม่หลายคนชื่นชอบ

2. พาแม่เที่ยวคาเฟ่และร้านอาหารวิวดี

สำหรับบ้านที่คุณแม่ไม่ถนัดการเดินทางไกล การเลือกร้านอาหารหรือคาเฟ่ที่บรรยากาศดี ใกล้บ้าน ก็สามารถทำให้วันแม่พิเศษได้ไม่แพ้กัน ลองเลือกสถานที่ที่มีวิวธรรมชาติ อาหารอร่อย และมีมุมถ่ายภาพน่ารักให้แม่ประทับใจ เช่น:

  • คาเฟ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา: เช่น The Never Ending Summer, The Jam Factory
  • ร้านอาหารไทยระดับพรีเมียม: เช่น ร้านสวนทิพย์, ร้านศาลาริมน้ำ

3. ทริปศิลปะและวัฒนธรรม

คุณแม่สายบุญหรือสายวัฒนธรรมมักชอบกิจกรรมที่มีความหมาย เช่น การไปไหว้พระ ทำบุญ หรือเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ ตัวอย่างสถานที่น่าสนใจได้แก่:

  • วัดพระแก้ว และพระบรมมหาราชวัง สำหรับครอบครัวที่อยู่ในกรุงเทพ
  • พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เหมาะสำหรับคุณแม่ที่สนใจเรื่องประวัติศาสตร์
  • วัดถ้ำเสือ กาญจนบุรี จุดชมวิวสูงและมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ให้สักการะ

4. สปาและที่พักหรู พาแม่ผ่อนคลาย

หากแม่ชอบการดูแลตัวเอง การพาไปทำสปา หรือพักผ่อนในรีสอร์ตหรูสักคืน ถือเป็นของขวัญที่แม่จะต้องประทับใจ แนะนำ:

  • Chi, The Spa @ Shangri-La Bangkok ประสบการณ์สปาหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา
  • Let’s Relax Spa มีหลายสาขาทั่วประเทศ ในราคาที่จับต้องได้
  • พักโรงแรม 5 ดาวพร้อมวิว: เช่น The Okura Prestige, Capella Bangkok

5. พาทัวร์เดินตลาดและช้อปของอร่อย

แม่หลายคนชอบการเดินตลาด ชิมอาหาร ลองของท้องถิ่น การพาไปเดินเล่นในตลาดดังๆ ก็เติมเต็มวันแม่ได้ดีไม่น้อย เช่น:

  • ตลาดน้ำอัมพวา: เดินทางสะดวก ของกินเพียบ บรรยากาศอบอุ่น
  • ตลาดหัวหิน (Cicada, Tamarind): ได้ทั้งศิลปะ ดนตรี และของอร่อย
  • ตลาดนัดเจเจกรีน 2 หรือ ตลาดต้นตาลขอนแก่น สำหรับครอบครัวต่างจังหวัด

สิ่งที่ควรเตรียมก่อนพาแม่เที่ยว

  • สำรวจความชอบของแม่: ว่าแม่ชอบธรรมชาติ ร้านอาหาร หรือกิจกรรมแบบไหน
  • จองล่วงหน้า: วันหยุดยาวอย่างวันแม่ สถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารมักเต็มเร็ว
  • เตรียมของขวัญหรือการ์ดเล็กๆ: สร้างความประทับใจเพิ่มเติมในวันพิเศษ

วันแม่ปีนี้ พาแม่เที่ยว เติมเต็มความสุขด้วยความใส่ใจ

วันแม่ไม่จำเป็นต้องมีของขวัญราคาแพง แค่เพียงการพาแม่ไปเที่ยวในที่ที่แม่ชอบ อยู่กับแม่ในช่วงเวลาที่มีค่า และแสดงความรักด้วยความจริงใจ ก็เพียงพอแล้วในการสร้างความทรงจำที่สวยงาม หากยังไม่มีแผน อย่าลืมลองเลือกสถานที่จากที่แนะนำข้างต้น แล้วเตรียมกล้องให้พร้อม บันทึกภาพแห่งความสุขไว้ให้ครบทุกช่วงเวลา

Honda กำไรร่วงหน้า 50% หลังเจอภาษีทรัมป์

บริษัท Honda Motor ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 2 ในประเทศญี่ปุ่น ได้มีการรายงานกำไรสุทธิไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2568 ตั้งแต่เดือน เมษายน ถึง เดือนมิถุนายน 2568 ปรับตัวลดลง 50% จากช่วงเดียวกันของปีอยู่ที่ 1.966 แสนล้านเยน ราวๆ 4.3 หมื่นล้านบาท เนื่องจากผลกระทบของมาตรการภาษีรถยนต์ และ ชิ้นส่วนยานยนต์ 25% สาเหตุมาจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐบังคับใช้ในเดือนเมษายน ที่ผ่านมา

ทางด้านฮอนด้า ออกมาระบุเกี่ยวกับผลกระทบมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐ กับกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาสแรกอยู่ที่ 1.246 แสนล้านเยน คิดเป็นเงินไทยราวๆ 2.73 หมื่นล้านบาท คาดว่าผลกระทบเชิงลบจากภาษี ศุลกากรตลอดทั้งปี งบ 2568 สิ้นสุดในเดือน มึนาคม 2569 จะอยู่ราวๆ 4.5 แสนล้านเยน หรือเกือบ 9.9 หมื่นล้านบาท Honda เพิ่งได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรทั้งปี หลังจากวิเคราะห์ผลกระทบของภาษีนำเข้า และ ประเมินสมมติฐานอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศใหม่ภายใต้สถานการณ์ล่าสุด เนื่องจากผลกระทบทางภาษีจะลดลงเหลือ 4.5 แสนล้านเยน จากเดิมที่คาดการณ์เอาไว้อยู่ที่ 6.5 แสนล้านเยน

Honda เลยมีการปรับเพิ่มคาดการณ์กำไรจากการดำเนินงานของปีงบ 68 อยู่ที่ 7 แสนล้านเยน จากการคาดการณ์เดิมที่ 5 แสนล้านเยน ส่วนรายรับคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์เดิมที่ 20.3 ล้านล้านเยน เป็น 21.1 ล้านล้านเยน สำรหับกำไรสุทธิคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 2.5 แสนล้านเยนเป็น 4.2 แสนล้านเยน ถึงแม้จะน้อยกว่าปีก่อนถึง 50% ก็ตาม

 

เศรษฐกิจโลกกับความกังวลการส่งออก แข่งรุนแรง

จากการประเมินจากหลายๆฝ่าย ว่าตอนนี้เศรษฐกิจโลก มีทิศทางที่ดูดีขึ้น หลังจากที่สหรัฐอเมริกาประกาศข้อตกลงด้านภาษีกับหลายๆประเทศ หลายประเทศมีอัตราภาษีศุลกากร ส่วนลดที่ลดลงกว่าที่สหรัฐอเมริกาประกาศ เมื่อเดือนเมษายน 2568 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชีย และ อาเซียน สำหรับการประมาณการณ์ของเศรษฐกิตโลกในปี 2025 นั้น IMF คาดการณ์เอาไว้ว่า จะมีการปรับเพิ่มเติมโต 3% จากเดิมอยู่ที่ 2.8% ต่ำกว่าการคาดการณ์เอาไว้เฉลี่ยอยู่ที่ 3.5% จากตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการชะลอตัวของผลกำแพงภาษีที่มันสูงขึ้น

ข้อมูลจากทางด้านกรรมการสมาคมธนาคารไทย แจ้งว่าเอกชนมีความวังวลประเด็ดภาษีสินค้า Transshipment และการกำหนดสัดส่วน Local Content ของแต่ละประเทศ ทั้งนี้ การใช้เกณฑ์องค์การการค้าโลก หรือ WTO ที่อยู่ที่ 40% แต่ปัจจุบันสหรัฐอเมริกา จะใช้เกณฑ์ของตัวเองซึ่งยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน แต่อาจจะส่งผลให้กับบางสินค้าของไทยถูกเก็บภาษีสูงถึง 40% โดยเฉพาะสินค้าจากประเทศเพื่อบ้าน ที่มีสัดส่วน Local Content ต่ำ ประเทศไทยยังต้องเร่งมือปรับตัวรับมือระยะสั้น และ ระยะยาว โดยระยะสั้นการแข่งขันด้านราคาจะเพิ่มขึ้นทั้งสินค้าที่ไทยส่งออก และสินค้าที่ขายในประเทศไทย ที่จะแข่งขันกับสินค้าที่ไทยเปิดตลาดนำเข้าเพิ่มขึ้น ซึ่งจะกระทบกลุ่มที่มี Margin ต่ำ

จากการคาดการณ์เศรษฐกิจไทย ในปี 2025 มีแนวโน้มที่จะขยายตัว 1.8-2.2% ปรับขึ้นจากการประมาณการเดิมอยู่ที่ 1.5-2.0% ในส่วนของการส่งออก มีแนวโน้มขยายตัวอยู่ที่ 2-3% สูงกว่าการประมาณการเดิม โดยความสำเร็จจากการเจรจาการค้าส่งผลให้ไทยถูกเรียกเก็บภาษีที่ 19% แทน 36% ซึ่งยังต้องให้ความสำคัญกับรายละเอียดที่ต้องเจรจาต่อไป

สินค้าที่ได้กำไรน้อยกระทบมากที่สุด

จากตัวเลขเดิมไทยเคยเสียภาษีสหรัฐเพียง 2% ซึ่งตัวเลขใหม่นี้ขยับขึ้นมาเป็น 19% หากเทียบกับคู่แข่งในภูมิภาค ยังคงสามารถแข่งขันในตลาดสหรัฐได้ในระยะสั้น ต่างจากภูมิภาคอื่นที่ส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นฐานการผลิตหลัก อย่างจีนที่โดนภาษีในอัตราที่สูงกว่า สำหรับอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือกลับที่มีอัตรากำไร หรือ Margin ต่ำกว่า 10% ส่วนใหญ่จะขายในปริมาณมากแต่มีราคาถูก ทำให้ไม่สามารถผลักภาระภาษี 19% ให้กับผู้บริโภคโดยตรง เพราะสหรัฐเป็นตลาดปิด และ ผู้บริโภคมีทางเลือกอื่น กลุ่มนี้เลยต้องเจรจานำเข้าเพื่อแบ่งเบาภาระร่วมกันเช่น ไทยที่เป็นผู้ส่งออกรับผิดชอบ 10% และ ผู้นำเข้ารับผิดชอบ 9% เป็นต้น

3 แนวทางการปรับตัวของไทย

สถานการณ์ภาษีออกมาแบบนี้ถือว่าเป็นสัญญาญเตือนว่าโลกจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ถ้าหากประเทศไทยยังไม่สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ก็อาจจะตามหลังประเทศอื่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ สิ่งที่ต้องทำจะมีอยู่ 3 แนวทางหลักๆ

  1. เจรจาและบริหารจัดการ ยังต้องมีการเจรจากับสหรัฐเกี่ยวกับสัดส่วน Local Content ที่ต้องมีสัดส่วนในการผลิตในประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 40-60% เพื่อเป็นการป้องกันการสวมสิทธิ์จากประเทศอื่น
  2. ปฎิรูปประเทศ รีบปฎิรูประบบการผลิตในอุตสาหกรรมต่างๆ ปรับปรุงระบบการศึกษาให้สาารถผลิตบุคลากรได้ตรงตามความต้องการของตลาด และพัฒนาระบบราชการให้เร็ว ทันสมัย และ โปร่งใส ระบบดิจิทัล จะช่วยลดต้นทุน และ แก้ไขปัญหาที่ไม่ใช่ภาษี หรือ Non Tariff Barriers ที่สหรัฐเคยมองว่าไทยมีกฎหมายซับซ้อน และ ใช้เวลาในการอนุมัตินาน
  3. เพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจ ภาครัฐเร่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่นด้านดิจิทัล และ การจัดการน้ำ ระบบขนส่งทางบกและทางน้ำ เพื่อลดต้นทุน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน กระจายความเจริญในประเทศ และส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมืองรองเพื่อกระจายรายได้และลดความแออัดในเมืองหลัก

 

 

 

เงินกองทุนฯสุขภาพท้องถิ่น ช่วยเหลือชายแดนไทย-กัมพูชา

เปิดเผยข้อมูลจากทางรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้แจ้งว่าในที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เมื่อวานนี้ ที่ประชุมได้อนุมัติร่างประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเรื่องหลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ เพื่อแก้ไขหลักเกณฑ์ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถใช้เงินจากกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่นเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างทันท่วงที โดยครอบคลุมถึงกรณีภัยพิบัติและความไม่สงบในพื้นที่

การแก้ไขประกาศ จากสาเหตุสถานการณ์ไทย-กัมพูชา และสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือที่เกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนต้องอพยพจากบ้านเรือนไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัย องค์กรปกครองส่วนท้อถิ่นมีความจำเป็นต้องให้การสนับสนุสหรือจัดบริการด้านสาธารสุข เพื่อช่วยเหลือดูแลประชาชน ที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน ซึ่งก่อนหน้านี้หลักเกณฑ์การดำเนิน กปท. ตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่องหลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินงานและบริหารจัดการระบบ หลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่น หรือ พื้นที่ ในปี พ.ศ. 2567 ที่ไม่ครอบคลุมกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบ ในพื้นที่และสถานการณ์อุทกภัยทำให้ อปท. ไม่สามารถขอรับสนับสนุนงบประมาณจาก กปท. เพื่อนำไปช่วยเหลือและดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบด้านสาธารณสุขจากสถานการณ์ในพื้นที่ได้ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มีหลักเกณฑ์ กปท. เพื่อเอื้อต่อ อปท. ในการนำงบระมาณ กปท. ไปดำเนินการกรณีเหตุการณ์ความไม่สงบและสถานการณ์อุทกภัยได้และได้เสนอกับบอร์ด สปสช. ซึ่งเห็นชอบแล้ว ณ วันที่ 4 สิงหาคม 2568

  • อนุมัติงบประมาณ กปท. โดยให้ประธานกรรมการ กปท. มีอำนาจอนุมัติโครงการหรือกิจกรรม เพื่อป้องกัน และ แก้ไขปัญหาด้านสาธารสุขในสถานการณ์ดังกล่าวได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม
  • ขยายขอบเขตสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยเพิ่มกรณีสถานการณ์ฉุกเฉิน สถานการณ์ภัยพิบัติ หรือ สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ที่จำเป็นต้องสนับสนุนหรือจัดบริการด้านสาธารณสุขอย่างเร่งด่วน
  • การดูแลผู้ประสบภัยภายใต้โครงการหรือกิจกรรม ให้รวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบซึ่งเป็นบุคคลภายนอกเขตพื้นที่ของ อปท. ที่ได้อพยพหรือเข้ามาพักพิงในพื้นที่ โดยมีสิทธิได้รับบริการที่จัดขึ้นในโครงการหรือกิจกรรมได้เช่นเดียวกับคนในพื้นที่
  • กำหนดงบเงินอนุมัติต่อโครงการ หรือกิจกรรมไม่เกิน 1 แสนบาท โดยถือว่าโครงการนั้นได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการกองทุน แล้วให้ประธานกรรมการรายงานให้คณะกรรมการกองทุนทราบโดยเร็วเมื่อสามารถดำเนินการได้

มาตรการหลังจากนี้ สปสช. จะนำร่างประกาศเสนอต่อคณะอนุกรรมการด้านกฎหมายก่อนนำเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พิจารณาลงนามต่อไปอย่างไรก็ดี เรื่องนี้ถือเป็นกรณีเร่งด่วนโดย สปสช. จะเร่งดำเนินการโดยเร็วเพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ภาวะฉุกเฉินที่หลายจังหวัดประสบอยู่ตอนนี้

เกมการค้าโลก ได้เปลี่ยนแปลงแล้วอย่างสิ้นเชิง

หลังจกาที่สหรัฐอเมริกาได้มีการประกาศจัดเก็บภาษี นำเข้าสินค้าไทย 19% ถือเป็นสัญญาญเตือนสำคัญเกมการค้าโลก ได้เปลี่ยนไปแล้ว มีกติกาใหม่ในเวทีเศรษฐกิจโลกไม่ได้อิงแต่เรื่องต้นทุนหรือราคาอีกต่อไป

การแข่งขันด้านเทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม และ มาตรฐานแรงงาน ประเทศไทย ในฐานะสมาชิกของระบบการค้า ทำให้เลี่ยงไม่ได้ต้องยกระดับตัวเอง อย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้ถูกลดบทบาทมากไปกว่านี้ ภาษีเพิ่มขึ้นอาจะไม่ใช่แค่ตัวเลขแต่มันสะท้อนถึงขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศที่ยังไม่สามารถยกระดับให้ทันต่อแนวโน้มใหม่ในเศรษฐกิจโลก ทั้งด้านการผลิตที่ยังพึ่งแรงงานราคาถูก การพัฒนาเทคโนโลยี ที่ยังไม่ลึกพอ ไปจนถึงปัญหาโครงสร้าง โดยเฉพาะการขาดทักษะในแรงงานรุ่นใหม่ ขณะที่หลายประเทศเข้าสู่ยุค 5.0 ไทยยังติดอยู่กับกับดักรายได้ปานกลาง และ เจอกับการแข่งขันที่หลักกว่าเดิมหลายเท่า การยกระดับขีดความแข่งขันของไทย ควรมองการไกล การเพิ่มแรงจูงใจให้นักลงทุนหรือลดอุปสรรคทางธุรกิจ ซึ่งเราต้องมองไปถึงระดับโครงสร้างเชิงลึกของเศรษฐกิจ กฎหมาย และ การกำกับดูแล ส่งเสริมนวัตกรรม และปรับระบบการศึกษาที่จะผลิตกำลังคน ที่มีทักษะตรงกับเศรษฐกิจใหม่ โดยเฉพาะ ทักษะดิจิทัล รวมถึงความสามารถทำงานร่วมกับเครื่องจักรอัจฉริยะ ซึ่งเป็นหัวใจของการผลิตในยุคถัดไป

รัฐบาลต้องลุกขึ้นมาปรับปรุงอย่างเข้มแข็ง ซึ่งเป็นหน้าที่ตัวเร่ง ไม่ใช่แค่ผู้ตาม ทั้งการสร้างระบบนิเวศเพื่อสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาของภาคเอกชน การปรับกระบวนการอนุญาต การอำนวยความสะดวกด้านโลจิสติกส์ การผลักดันการเจรจาข้อตกลงการค้าใหม่ รวมถึงการเปิดโอกาสให้ไทยเข้าถึงตลาดที่มีกำลังซื้อสูง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรม ชิป, เซมิคอนดักเตอร์, ยานยนต์ไฟฟ้า, ธุรกิจเวลเนส ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพในการทำในด้านนี้

ในส่วนของภาคเอกชนก็ต้องปรับตัวอย่างเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในเทคโนโลยี การบริหารจัดการซัพพลายเชนให้ยืดหยุ่นตอบรับกับความเสี่ยง ยกระดับแรงงานภายในองค์กร ไปจนถึงการสร้างแบรนด์และความน่าเชื่อถือในตลาดต่างประเทศ รวมทั้งความได้เปรียบในอดึตที่ไม่สามารถใช้ต่อรองในเวทีการค้าโลคยุคใหม่ได้อีก ถ้าหากภาคธุรกิจไทยยังมองแค่ผลกำไรระยะสั้น เราอาจจะกลายเป็นจุดอ่อนที่ถูกแทนที่ด้วยผู้เล่นรายหใหม่ในตลาดโลก ประเทศไทยยังมีโอกาส แต่เวลากำลังเดินไปเรื่อยๆ การปรับตัวแทนที่ด้วยผู้เล่นรายใหม่ในตลาดโลก ประเทศไทยถือว่ายังเป็นประเทศที่ยังมีโอกาส แต่ต้องเร่ง ถ้าไม่อยากเป็นเพียงคนที่ดูอย่างเดียว ผ่านการยกระดับขีดความสามารถประเทศ เพื่อให้อยู่รอด

 

 

สภาพอากาศวันนี้กรมอุตุฯ พยากรณ์อากาศวันนี้ทั่วไทยรับมือฝนตกเพิ่ม

รายงานจากกรมอุตุฯ พยากรณ์อากาศวันนี้ 6 สิงหาคม 2568 เตือนทั่วไทย รับมือฝนตกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือมีฝนตกร้อยละ 70 สำหรับกรุงเทพมหานคร มีฝนตกและมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกและมีลมกระโชกแรงบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักบางพื้นที่ บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่, เชียงราย, ลำปาง, พะเยา, น่าน, หนองคาย, บึงกาฬ, นครพนมม, สุราษฎร์ธานี, นครษรีธรรมราช, สงขลา, ปัตตานี, ยะลา, นราธิวาส, ระนอง, พังงา, ตรัง และ สตูล กรมอุตุฯแจ้งเตือน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และ ฝนตกหนักที่อาจจะเกิดขึ้น เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และ อ่าวไทย

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน ตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตรบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง มีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และ หลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ สำหรับประเทศ”ทย 06.00 น. วันนี้ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้

  • กรุงเทพ และ ปริมณฑล มีฝนตกร้อยละ 40 ของพื้นที่ มีลมกระโชกแรงบางแห่ง
  • ภาคเหนือ มีฝนตกร้อยละ 70 ของพื้นที่ กับมีลบกระโชกแรงบางแห่ง โดยมีฝนตกนหักบางพื้นที่
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
  • ภาคกลางมีฝนตกร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
  • ภาคตะวันออก มีฝนตกร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
  • ภาคใต้ ฝั่งตะวันออก มีฝนตกร้อยละ 60 ของพื้นที่ และ มีฝนตกหนักบางแห่ง
  • ภาคใต้ ฝั่งตะวันตก มีฝนตกร้อยละ 60 ของพื้นที่ และ มีฝนตกหนักบางแห่ง