กรมสรรพากร ชงเว้นภาษีผู้มีเงินได้ต่างประเทศ หวังดึงเงินลงทุนกลับไทย

 In บทความ

เปิดเผยข้อมูลจากกรมสรรพากร พิจารณาปรับแก้กฎกระทรวงเก็บภาษีเงินได้จากต่างประเทศ

อัพเดทจากทางกรมสรรพากร พิจารณาปรับแก้กฎกระทรวงเก็บเงินภาษีเงินได้จากต่างประเทศ ที่นำเข้ามาในประเทศไทย เพื่อผ่อนคลายกฎเกณฑ์การเก็บภาษีเงินได้จากต่างประเทศ ที่นำกลับเข้ามาในประเทศไทย หากเงินได้นั้นเกิดขึ้น และถูกนำกลับมาภายใน 2 ปีภาษีจะได้รับการยกเว้นโดยไม่ต้องนำมารวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ทางกรมสรรพากรพบว่าคนไทยที่มีการลงทุนในต่างประเทศ มีตัวเลขสูงถึง 2 ล้านล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภทเช่น อสังหาริมทรัพย์, ประกัน, หุ้น, ตราสารหนี้ ซึ่งเงินทุนเหล่านี้สามารถสร้างผลตอบแทนได้ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบดอกเบี้ย, เงินปันผล, หรือ กำไรที่เกิดจากการขายสินทรัพย์ และ อื่นๆ จะได้ยอดราวๆหลักแสนล้านบาท การจูงใจให้เงินเหล่านี้ไหลกลับเข้าประเทศจะช่วยกระตุ้นตลาดในประเทศให้กลับมาคึกคักยิ่งขึ้น

หลักการในการจัดเก็บภษาีเงินได้บุคคลธรรมดาของประเทศไทยนั้น อ้างอิงจากแหล่งเงินทุน นั่นก็คือเงินได้ที่เกิดขึ้นในไทย และ หลักถิ่นที่อยู่ สำหรับผู้ที่อาศัยในไทยรวมกันเกิน 180 วันในปีนั้น หากมีเงินได้จากต่างประเทศ เมื่อนำเข้ามาในไทยมีหน้าที่ต้องเสียภาษีตามหลักของ World Wide Income รวมถึงคนไทยที่มีเงินได้จากต่างประเทศ โดยมีการปรับเกณฑ์ไปแล้วเมื่อ 1 มกราคม 2567 ที่กำหนดให้เงินได้จากต่างประเทศที่เกิดตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นไป หากนำเข้าไทยเมื่อไหร่ต้องเสียภาษีเมื่อนั้น เพื่อความเป็นธรรม เนื่องจากก่อนหน้านี้ หากนำเงินเข้ามาในปีถัดไปจะไม่ต้องเสียภาษี

ในส่วนของหลักเกณฑ์ใหม่ที่กำลังพิจารณาอยู่ในตอนนี้ ก็คือหากเงินได้จากต่างปะเทศ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี่ 2567 เป็นต้นไป ถูกนำกลับเข้าไทยภายใน 2 ปีภาษี นับจากปีที่เงินนั้นเกิดขึ้น มีโอกาสได้รับการยกเว้นภาษี แต่หากนำเกลับเข้ามาหลังจากนั้นต้องเสียภาษีตามปกติ ทั้งนี้ การเสียภาษีซ้ำซ้อน ทางกรมสรรพากรมีกลไก เครดิตภาษี ตามาตราฐานสากล กล่าวคือ หากเงินได้ต่างประเทศถูกหักภาษีในต่างประเทศไปแล้ว ผู้เสียภาษีสามารถนำภาษีที่เสียไปนั้นมาหักออกจากภาษีที่ต้องเสียในไทยได้ โดยจำนวนที่เครดิตได้ จะไม่เกินภาษีที่เสียไปในต่างประเทศ หรือไม่เกินภาษีที่ต้องเสียในประเทศไทย แต่จำนวนใดจะน้อยกว่า ซึ่งกำไลนี้อยู่ใต้อนุสัญญาภาษีซ้อนที่ไทยมีกับ 61 ประเทศทั่วโลก

3 แนวทางรีดรายได้เพิ่มจากกรมสรรพากร

นอกจากนี้กรมสรรพากร ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาการศึกษาเพื่อขยายฐานภาษีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษี ซึ่งจะมีอยู่ 3 รูปแบบด้วยกันที่กรมสรรพากรกำลังศึกษา

  1. การปรับปรุงเชิงนโยบาย จากกฎหมายที่มีอยู่แล้วซึ่งสามารถสั่งการได้ทันทีอยู่ที่การตัดสินใจของรัฐบาล ยกตัวอย่างเช่น การเพิ่มอัตราจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT จากปัจจุบันที่มีนโยบายลดภาษีมูลค่าเพิ่มเหลือ 7% จาก 10%
  2. การปรับปรุงเชิงบริหาร สำหรับภาษีบางรายการที่จัดเก็บได้ไม่มาก โดยสามารถออกกฎระเบียบเพิ่มเติมเพื่อให้การจัดเก็บรายได้มีประสิทธิภาพ เช่น การออกกฎกระทรวงเพื่อยกเว้นภาษีเงินได้จากต่างประเทศ
  3. การปรับปรุงเชิงโครงสร้าง เช่นการศึกษาการยกร่างกฎหมายใหม่ ในการจัดเก็บภาษี เพื่อส่งเสริมในมิติรายได้รัฐ หรือ กรณีอื่นๆ เช่นภาษีที่เก็บจากคนที่เดินทางไปต่างประเทศ

 

 

Recent Posts

Start typing and press Enter to search