เลือกบัตรไหนคุ้มค่าสำหรับการเดินทางต่างประเทศ 2025
การเดินทางไปต่างประเทศเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น แต่การจัดการเรื่องการเงินอาจเป็นเรื่องท้าทาย การพกเงินสดจำนวนมากไม่ปลอดภัย และการใช้บัตรเครดิตทั่วไปอาจมีค่าธรรมเนียมสูง บัตร Travel Card จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักเดินทางที่ต้องการความสะดวกสบายและความคุ้มค่า ในบทความนี้ เราจะรีวิวบัตร Travel Card ที่ดีที่สุดในปี 2025 เพื่อช่วยคุณเลือกบัตรที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ
บัตร Travel Card คืออะไร?
บัตร Travel Card เป็นบัตรที่ออกแบบมาเพื่อการใช้จ่ายในต่างประเทศโดยเฉพาะ มีลักษณะเป็นบัตรเติมเงิน (Prepaid Card) หรือบัตรเดบิตที่สามารถแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศล่วงหน้าได้ ผู้ถือบัตรสามารถใช้บัตรนี้ในการชำระค่าสินค้าและบริการ หรือถอนเงินสดจากตู้ ATM ในต่างประเทศ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนหรือค่าธรรมเนียมที่สูง
รีวิวบัตร Travel Card ที่น่าสนใจในปี 2025
1. TTB all free: ธนาคารทหารไทยธนชาต
บัตร ttb all free เป็นบัตรเดบิตที่ออกแบบมาเพื่อการใช้จ่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ มาพร้อมกับสิทธิประโยชน์ที่น่าสนใจ เช่น
- เครดิตเงินคืน 1% สำหรับทุกการใช้จ่ายออนไลน์ สูงสุด 200 บาทต่อเดือน
- ไม่มีค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน 2.5% สำหรับการใช้จ่ายทุกสกุลเงินทั่วโลก
- ฟรีค่าธรรมเนียมการกดเงินสด โอน จ่าย และเติมเงิน ที่ตู้ ATM ทุกธนาคารในประเทศไทย
ค่าธรรมเนียม:
- ค่าธรรมเนียมออกบัตร: 200 บาทต่อใบต่อปี (ไม่เกิน 5 ใบต่อปี)
- ค่าธรรมเนียมรายปี: 250 บาท (ยกเว้นเมื่อมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรขั้นต่ำ 30,000 บาทต่อปี)
2. KBank Journey Card: ธนาคารกสิกรไทย
KBank Journey Card เป็นบัตรเดบิตที่ออกแบบมาสำหรับนักเดินทาง มอบสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่า เช่น
- ไม่มีค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน 2.5% สำหรับการใช้จ่ายทุกสกุลเงิน
- รับเงินคืน 5% และส่วนลดร้านค้าที่ร่วมรายการ สูงสุด 999 บาท
- บริการห้องรับรองพิเศษ เช่น Miracle Lounge, The Coral Lounge หรือ K Point KLUB (จำกัด 1 สิทธิ์ต่อผู้ถือบัตรต่อปี)
- ฟรีประกันการเดินทางต่างประเทศ สูงสุด 10 วัน จาก AXA
ค่าธรรมเนียม:
- ค่าธรรมเนียมออกบัตรใหม่: 550 บาท
- ค่าธรรมเนียมแรกเข้า: 700 บาท
- ค่าธรรมเนียมรายปี: 550 บาท (ฟรีในปีแรก)
3. YouTrip: ธนาคารกสิกรไทย
YouTrip เป็นบัตรเติมเงินที่รองรับการใช้จ่ายในกว่า 150 สกุลเงินทั่วโลก มาพร้อมกับสิทธิประโยชน์ดังนี้
- ไม่มีค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน 2.5% สำหรับการใช้จ่ายในสกุลเงินต่างประเทศ
- อัตราแลกเปลี่ยนพิเศษ ที่สามารถล็อกเรทล่วงหน้าได้
- ฟรีค่าธรรมเนียมการกดเงินสดจากตู้ ATM ต่างประเทศ ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2568
- รองรับการชำระเงินผ่าน Google Pay เพื่อความสะดวกสบายในการใช้จ่าย
ค่าธรรมเนียม:
- ค่าธรรมเนียมสมัครและรายปี: ไม่มี
4. Krungsri Boarding Card: ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
Krungsri Boarding Card เป็นบัตรเติมเงินที่ออกแบบมาสำหรับนักเดินทาง มีจุดเด่นดังนี้
- อัตราแลกเปลี่ยนพิเศษ สำหรับ 16 สกุลเงินหลัก
- ไม่มีค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงิน 2.5% สำหรับการใช้จ่ายทุกสกุลเงิน
- สามารถล็อกอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้าได้ถึง 15 วัน เพื่อความมั่นใจในการใช้จ่าย
ค่าธรรมเนียม:
- ค่าธรรมเนียมสมัครบัตร: 150 บาท (ฟรีเมื่อสมัครผ่านแอป Krungsri และยืนยันเปิดใช้บัตรระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2568 – 30 มิถุนายน 2568)
- ค่าธรรมเนียมรายปี: ไม่มี
วิธีเลือกบัตร Travel Card ที่เหมาะกับคุณ
หากคุณกำลังมองหาบัตร Travel Card ที่เหมาะกับการเดินทางของคุณ ควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้
1. อัตราแลกเปลี่ยนและค่าธรรมเนียม
เลือกบัตรที่มีอัตราแลกเปลี่ยนดีและไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง
2. ความสะดวกในการเติมเงิน
บางบัตรสามารถเติมเงินผ่านแอปมือถือได้ง่าย ในขณะที่บางบัตรต้องไปเติมเงินที่ธนาคาร
3. จำนวนสกุลเงินที่รองรับ
หากคุณเดินทางไปหลายประเทศ บัตรที่รองรับหลายสกุลเงินจะช่วยให้คุณไม่ต้องแลกเงินหลายรอบ
4. ความปลอดภัยและฟีเจอร์เสริม
เลือกบัตรที่มีระบบป้องกันการโจรกรรม เช่น ระบบล็อกบัตรผ่านแอป หรือระบบแจ้งเตือนการใช้จ่าย
สรุป: บัตร Travel Card ใบไหนดีที่สุด?
หากคุณต้องการบัตรที่ใช้งานง่ายและไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง ttb all free และ SCB Planet Card เป็นตัวเลือกที่ดี
หากต้องการบัตรที่รองรับหลายสกุลเงินและล็อกอัตราแลกเปลี่ยนได้ล่วงหน้า Krungthai Travel Card และ KBank Multi-Currency Travel Card อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะกว่า
สุดท้ายแล้ว การเลือกบัตรที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการเดินทางและความต้องการของคุณเอง อย่าลืมศึกษารายละเอียดให้ดีและเลือกบัตรที่ให้ความคุ้มค่ามากที่สุด!
การเลือกบัตร Travel Card ที่เหมาะสมจะช่วยให้การเดินทางของคุณสะดวกสบายและคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น แต่ละบัตรมีจุดเด่นและสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกัน ควรพิจารณาจากรูปแบบการใช้จ่ายและความต้องการของคุณเอง เพื่อให้การเดินทางครั้งต่อไปเป็นประสบการณ์ที่ดีที่สุด
รายละเอียดการทำสัญญากู้ยืมเงินอย่างถูกต้อง
การจัดทำสัญญากู้ยืมเงินเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยปกป้องสิทธิ์ของทั้งผู้ให้กู้และผู้กู้ เพื่อให้การกู้ยืมเงินเป็นไปอย่างราบรื่นและถูกต้องตามกฎหมาย บทความนี้จะนำเสนอขั้นตอนและข้อควรพิจารณาในการจัดทำสัญญากู้ยืมเงินอย่างละเอียด
ความสำคัญของสัญญากู้ยืมเงิน
สัญญากู้ยืมเงินเป็นเอกสารที่ระบุข้อตกลงระหว่างผู้ให้กู้และผู้กู้ โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนเงินที่กู้ ดอกเบี้ย กำหนดการชำระคืน และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง การมีสัญญาที่ชัดเจนจะช่วยลดความขัดแย้งและปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ข้อควรพิจารณาก่อนทำสัญญากู้ยืมเงิน
-
จำนวนเงินกู้ยืม: หากจำนวนเงินกู้ยืมเกินกว่า 2,000 บาท กฎหมายกำหนดให้ต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร มิฉะนั้นจะไม่สามารถฟ้องร้องบังคับคดีได้
-
อัตราดอกเบี้ย: กฎหมายกำหนดให้อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 15% ต่อปี หากกำหนดเกินกว่านี้ ดอกเบี้ยส่วนที่เกินจะถือเป็นโมฆะ
-
การคิดดอกเบี้ยทบต้น: ห้ามคิดดอกเบี้ยทบต้น ยกเว้นกรณีที่ค้างชำระดอกเบี้ยไม่น้อยกว่าหนึ่งปี และมีการตกลงให้ดอกเบี้ยทบเข้ากับเงินต้น
-
อายุความในการฟ้องร้อง: การฟ้องร้องเรียกเงินตามสัญญากู้ยืมเงินต้องดำเนินการภายใน 10 ปี นับจากวันที่ถึงกำหนดชำระคืน
ขั้นตอนการจัดทำสัญญากู้ยืมเงิน
การจัดทำสัญญากู้ยืมเงินสามารถทำได้ด้วยตนเอง โดยมีรายละเอียดดังนี้:
-
วันที่ทำสัญญา: ระบุวันที่ที่สัญญาถูกจัดทำขึ้น
-
ข้อมูลของคู่สัญญา: ระบุชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ และข้อมูลติดต่อของผู้กู้และผู้ให้กู้
-
จำนวนเงินกู้: ระบุจำนวนเงินที่กู้ทั้งตัวเลขและตัวหนังสือ
-
กำหนดการชำระคืน: ระบุวันที่หรือระยะเวลาที่ผู้กู้ต้องชำระคืน
-
อัตราดอกเบี้ย: ระบุอัตราดอกเบี้ยที่ตกลงกัน (ไม่เกิน 15% ต่อปี)
-
ลายเซ็น: ผู้กู้และผู้ให้กู้ต้องลงลายมือชื่อในสัญญา
หากต้องการสัญญาที่เรียบง่าย สามารถระบุว่า “นาย A ได้กู้ยืมเงินจากนาย B จำนวน xxx บาท” และลงลายมือชื่อของผู้กู้
ตัวอย่างสัญญากู้ยืมเงิน
เพื่อความเข้าใจที่ชัดเจน นี่คือตัวอย่างสัญญากู้ยืมเงิน:
สัญญากู้ยืมเงิน
วันที่: [วันที่ทำสัญญา]
ข้าพเจ้า [ชื่อผู้กู้] อยู่ที่ [ที่อยู่ผู้กู้] ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “ผู้กู้”
และ [ชื่อผู้ให้กู้] อยู่ที่ [ที่อยู่ผู้ให้กู้] ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “ผู้ให้กู้”
ทั้งสองฝ่ายตกลงทำสัญญาดังนี้:
-
จำนวนเงินกู้: ผู้ให้กู้ตกลงให้ผู้กู้ยืมเงินจำนวน [จำนวนเงิน] บาท ([จำนวนเงินเป็นตัวหนังสือ])
-
อัตราดอกเบี้ย: ผู้กู้ตกลงชำระดอกเบี้ยในอัตรา [อัตราดอกเบี้ย] ต่อปี
-
กำหนดการชำระคืน: ผู้กู้ตกลงชำระเงินคืนเต็มจำนวนพร้อมดอกเบี้ยภายในวันที่ [วันที่กำหนด]
ลงชื่อ____________________ ผู้กู้
ลงชื่อ____________________ ผู้ให้กู้
ข้อควรระวังในการทำสัญญากู้ยืมเงิน
-
ตรวจสอบความถูกต้องของสัญญา: ก่อนลงลายมือชื่อ ควรตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดในสัญญาให้ถูกต้อง
-
หลีกเลี่ยงการเซ็นสัญญาเปล่า: ห้ามลงลายมือชื่อในสัญญาที่ยังไม่มีการกรอกข้อมูลครบถ้วน
-
จัดทำสำเนาสัญญา: ควรจัดทำสัญญาอย่างน้อย 2 ฉบับ เพื่อให้ทั้งผู้กู้และผู้ให้กู้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
การจัดทำสัญญากู้ยืมเงินที่ถูกต้องและชัดเจนจะช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และทำให้ทั้งสองฝ่ายมีความมั่นใจในการทำธุรกรรมร่วมกัน
เปิดรายละเอียด เงินดิจิทัลเฟส 3 แลกเป็นเงินสด
เงินดิจิทัลล่าสุด 10,000 บาทเฟส 3 สำหรับกลุ่มที่มีอายุ 16-59 ปี แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต มีกลุ่มเดียวที่สามารถแลกเป็นเงินสดได้ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถดูได้ด้านล่าง
หนึ่งในโครงการจากรัฐบาล เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ แจกเงินดิจิทัล เฟส 3 แจกเงิน 10,000 บาท สำหรับกลุ่มคนทั่วไปที่มีอายุ 16-59 ปี ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต มีเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น ที่สามารถแลกเงินดิจิทัลเป็นเงินสดได้ สำหรับใครที่สามารถแลกเป็นเงินสดได้บ้างนั้น และ ลิสต์รายการสินค้าที่ซื้อได้ และ ซื้อไม่ได้ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ด้านล่าง
ข้อมูลจากทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ออกมาเปิดเผยล่าสุดเกี่ยวกับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทเฟส 3 ยืนยันว่ากลุ่มคนทั่วไปจะได้รับเงินในระบบ ดิจิทัลวอลเล็ต เท่านั้น จะไม่มีการแจกเป็นเงินสด และ ไม่สามารถแลกเป็นเงินสดได้ และในส่วนของกลุ่มคนที่สามารถถอนเงินสดออกมาได้นั้น จะมีเพียงกลุ่มเดียว นั่นก็คือกลุ่มร้านค้านั่นเอง โดยมีการพิจารณาผ่อนปรนให้กับร้านค้าและประชาชน สามารถใช้จ่ายเงินดิจิทัลเฟส 3 ดิจิทัลวอลเล็ตได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม เช่นกำหนดให้ร้านค้าสามารถถอนเงินสดออกมาใช้ได้ ก็ต่อเมื่อใช้จ่ายตั้งแต่รอบที่ 2 เป็นต้นไป
สำหรับข้อจำกัดในเรื่องพื้นที่ หรือ อำเภอตามทะเบียนบ้านนั้น ต้องรอข้อสรุปจากทางคณะกรรมการ ซึ่งจะมีการประชุมเร็วๆนี้ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2568 แต่คาดว่ามีแนวโน้มจะใช้พื้นที่เขตอำเภอเดิม
เงินดิจิทูลเฟส 3 เหลืออีกประมาณ 16 ล้านคน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า แจกเงิน 10,000 เฟส 3 จะเหลืออีกประมาณ 16 ล้านคน สำหรับกลุ่มคนที่มีอายุ 16-59 ปี ที่ไม่ติดเงื่อนไขทรัพย์สิน และ รายได้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด รัฐบาลยืนยันว่า ได้มีการเตรียมการเอาไว้แล้ว โดยอยู่ระหว่างจัดทำระบบการจ่ายเงินดิจิทัลเบื้องหลังมีระบบล็อกส่วนการเชื่อมระบบการชำระเงินนั้น ได้หาลือกับสถาบันการเงินแล้ว เกี่ยวกับการเชื่อมต่อ Open Loop ร่วมกัน เหลือแค่เพียงขั้นตอนรายละเอียดปลีกย่อยและมีระยะเวลาในการทดสอบระบบ
เงินดิจิทัล 10,000 บาทเฟส 3 คนทั่วไป อายุ 16-59 ปี ใครได้รับบ้าง
- บุคคลที่ลงทะเบียนแอปทางรัฐ ยืนยันตัวตน
- ประชากรที่มีอยู่ในทะเบียนบ้าน
- สัญชาติไทย
- อายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ก่อนวันที่ 16 กันยายน 2567
- ไม่เป็นผู้ที่มีรายได้ 840,000 บาท สำหรับปีภาษี 2566
- ไม่เป็นผู้ที่มีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์ และ สถาบันการเงินเฉพาะกิจรวมกันเกิน 500,000 บาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567
- ไม่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างต้องโทษจำคุกในเรือนจำ
- ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียนเงินคืนในมาตรการ หรือ โครงการอื่นๆของรัฐบาล
- ไม่เป็นผู้ฝ่าฝืนเงื่อนไขมาตรการ หรือ โครงการอื่นๆของรัฐบาล
ฝนตกหนักวันนี้ กรุงเทพฯ และ ปริมณฑลตก 40% ของพื้นที่
กลุมอุตุพยากรณ์อากาศวันนี้ วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 มีมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ ทะเลจีนใต้ ลักษณะเช่นนี้ ส่งผลให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดความชื้นจากทะเลจีนใต้ และ อ่าวไทย เข้ามาปกคลุมภาคเหนือนตอนล่าง ทำให้หลายๆภาคเช่น ภาคกลาง และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งรวมกรุงเทพมหานคร และ ปริมณฑล มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง และอาจจะมีลมกระโชกแรง รวมถึงฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่
สำหรับอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียสในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ, ภาคกลาง, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีอากาศเย็นในตอนเช้า แนะนำให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งใต้ต้นไม้ใหญ่, ป้ายโฆษณา เนื่องจากมีกระแสลมแรง
ภาคใต้มีในเพิ่มมากขึ้นมีคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีแนวโน้มที่จะมีกำลังแรงขึ้น แนะนำให้หลีกเลี่ยงการเดินเรียนในช่วงเวลาที่มีฝนตก สำหรับสภาวะอากาศในครั้งนี้ มีการสะสมของฝุ่นละออง และ หมอกควัน บริเวณภาคเหนือตอนล่าง และ ภาคกลางตอนบน อยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงมาก เนื่องจากมีลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อน
อัพเดทรายละเอียดสิทธิประโยชน์ บัตร Amex Platinum ล่าสุด
บัตรที่ถือว่าสมัครยากมากที่สุด ถือว่าเป็นบัตรที่อยู่จุดสูงสุดของบัตรเครดิต เป็นบัตรเครดิตระดับบนๆเลยก็ว่าได้ เนื่องจากผู้ที่จะถือบัตรเครดิตนี้ได้นั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีเงินเดือนหลักแสนถึงจะสมัครผ่าน เพราะว่าเงื่อนไขในการสมัครค่อนข้างเยอะ ผู้สมัครต้องมีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป และ ต้องมีรายได้ขั้นต่ำ 1,200,000 บาทต่อปี แถมเป็นบัตรเครดิตเดียวในประเทศไทย ที่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมสูงถึง 35,000 บาทต่อปี ไม่สามารถเวฟได้ด้วย
สิทธิพิเศษเหนือระดับสำหรับผู้สมัครบัตร AMEX
สมัครบัตร Amex Platinum รับคะแนนโบนัสสูงสุด 150,000 โบนัสคะแนน ซึ่งคะแนนสะสมนี้จะเรียกว่า คะแนนสะสมเม็มเบอร์ชิป รีวอร์ด สมัครตอนนี้ยังได้บัตรกำนัลห้องพัก Deluxe King, Park View โรงแรมดุสิตธานีกรุงเทพ 1 คืน พร้อมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน มูลค่ากว่า 18,000 บาท เมื่อสมัครบัตรแพลทินัม และได้รับการอนุมัติภายใน 28 กุมภาพันธ์ 2568 และ ใช้จ่ายตามเงื่อนไข
สำหรับคะแนนสะสม 150,000 คะแนน สามารถแลกรับบัตรโดยสารชั้นธุรกิจ ไปหรือกลับ อเมริกา หรือ ยุโรป ได้ 1 ที่นั่ง
รายละเอียดการรับคะแนนสะสมสำหรับผู้สมัครบัตรใหม่
- 50,000 บาทใช้จ่ายภายใน 30 วันแรก รับโบนัสคะแนนสะสม 20,000 คะแนน
- 300,000 บาทใช้จ่ายภายใน 3 เดือนแรก รับเพิ่มอีก 130,000 โบนัสคะแนน รวม 150,000 โบนัสคะแนน + ห้องพักโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ 1 คืน
เงื่อนไขการรับคะแนนสะสม Membership Reward 150,000 คะแนน
- รับคะแนนสะสม 20,000 โบนัสคะแนน เมื่อมียอดใช้จ่ายครบ 50,000 บาท ใน 30 วันแรกของการเป็นสมาชิกบัตร
- รับเพิ่มอีก 130,000 โบนัสคะแนน + บัตรกำนัลห้องพักโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ 1 คืน เมื่อใช้จ่ายครบ 300,000 บาทภายใน 3 เดือนแรกของการเป็นสมาชิกบัตร
- สำหรับ 150,000 คะแนนสะสม Membership reward สามารถโอนไปเป็นไมล์สะสมได้สูงสุด 100,000 ไมล์ ซึ่งสามารถแลกรับบัตรโดยสารชั้นธุรกิจเส้นทางกรุงเทพฯ-อเมริกา หรือ กรุงเทพฯ-ยุโรป 1 ที่นั่ง กับสายการบิน Qatar Airways อ้างอิงข้อมูลจากโปรแกรมสมาชิก British Avios เดือนธันวาคม 2567 ที่ปรากฎใน www.britishairways.com
- ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ยหรือค่าปรับ 16% ต่อปี
สมัครบัตร American Express Platinum
สิทธิประโยชน์จากบัตรแพลทินัม 2568
- ห้องพัก 1 คืน ณ โรงแรมในต่างประเทศ ที่เข้าร่วมรายการ ยกตัวอย่างเช่น The Fullerton Hotel Singapore, The St. Regis Singapore, Banyan Tree Vabbinfaru และ โรงแรมอื่นๆอีกมากมาย
- รับบัตรโดยสารชั้นธุรกิจสำหรับเพื่อนร่วมเดินทาง ไป-กลับ ฮ่องกง หรือ สิงคโปร์ จากสายการบิน เอมิเรตส์ หรือ สิงคโปร์ กับสิงคโปร์แอร์ไลน์ เมื่อใช้จ่ายตามเงื่อนไข
- เครดิตรับประทานอาหารสูงสุด 14,000 สำหรับร้านอาหารทั้งใน และ ต่างประเทศกว่า 2,000 แห่ง ใน 20 ประเทศ พร้อมรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 7,000 บาท สำหรับประสบการณ์ การรับประทานอาหารในต่างประเทศเมื่อใช้จ่ายในสกุลเงินต่างประเทศ สูงสุด 7,000 บาท สำหรับร้านอาหารในประเทศ
- บริการลีมูซีน รับ-ส่ง สนามบิน ไม่จำกัดจำนวนครั้ง สิทธิพิเศษเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการเดินทาง อภินันทนาการลีมูซีน รับ-ส่งสนามบิน ทั้งขาไป-ขากลับ จากสนามบินสุวรรณภูมิ หรือ สนามบินดอนเมือง โดยท่านสามารถเลือกบริการ ได้ระหว่างประเภท Luxury Van หรือ Luxury Sedan เมื่อใช้จ่ายตามเงื่อนไขที่กำหนด
- สิทธิ์เข้าใช้ห้องรับรองสนามบินในรายการ American Express Global Lounge สะดวกสบายกว่า ในทุกๆการเดินทางด้วยอภินันทนาการในการเข้าใช้ห้องรับรองสนามบินกว่า 1,400 แห่ง กว่า 140 ประเทศทั่วโลก อาทิเช่น เดอะ เซ็นจูเรียน (The Centurion Lounge), ห้องรับรอง ไพรออริตี้ พาส (Priority Pass), พลาซ่า พรีเมียม (Plaza Premium) เป็นต้น
- กรมธรรม์ประกันการเดินทาง ที่มอบความคุ้มครอบสูงสุด 25 ล้านบาท อุ่นใจขั้นสุด กับประกันการเดินทางที่ติดตัวคุณไปทุกที่ มอบความคุ้มครองสมาชิกบัตรหลัก, คู่สมรส และ บุตรของสมาชิกบัตรหลัก รวมไปถึง สมาชิกบัตรเสริม และ ยังครอบคลุมถึงความคุ้มครองที่จำเป็นตามข้อกำหนดสำหรับการขอ วีซ่าเข้าประเทศในกลุ่มแชงเก้น
ทำประกันเดินทางแบบไหนเหมาะกับเรามากที่สุด
อัพเดทประกันเดินทาง สำหรับใครที่กำลังวางแผนเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นช่วงต้นปีหรือปลายปีก็ตาม การซื้อประกันเดินทาง ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก เนื่องจากการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศนั้น อาจจะมีสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เพื่อความปลอดภัย นักท่องเที่ยวหลายๆท่าน เลยเลือกซื้อประกันเดินทางติดตัวไปด้วยนอกจากจะทำให้เราอุ่นใจแล้ว ยังเป็นตัวช่วยสำคัญให้เราหลายกังวล ไม่ว่าจะเป็น เจ็บป่วย, อุบัติเหตุ, ของหาย, กระเป๋าเดินทางหาย, เที่ยวบินยกเลิก, เที่ยวบินดีเลย์ และสิ่งที่ไม่คาดคิดอีกเพียบเลย
ตัวประกันการเดินทางถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักท่องเที่ยวในยุคนี้ไปแล้ว เพราะว่ามันช่วยลดความเสี่ยงต่างๆ ที่เราอาจจะคาดไม่ถึงนั่นเอง คนไทยหลายคนยังส่งสัยว่าประเภทของการเดินทางนั้นมีแบบไหนบ้างต่างกันยังไงลองไปศึกษารายละเอียดด้านล่างดู
- ประกันเดินทางระยะสั้น
- ประกันเดินทางระยะยาว
การซื้อประกันเดินทางนั้นแบ่งออกเป็น 2 ประเภทด้วยกันได้แก่ประกันเดินทางระยะสั้น เช่นการเดินทางไปเที่ยวในระยะเวลาสั้นๆ อาทิตย์ หรือ 2 อาทิตย์ ส่วนประกันเดินทางระยะยาวนั้น จะเป็นการเดินทางแบบ ไปเรียนต่อต่างประเทศหลายๆเดือนเป็นต้น
ความคุ้มครองของประกันเดินทาง
การเลือกซื้อประกันการเดินทางนอกจากราคาที่เราต้องเปรียบเทียบแล้ว ยังมีความคุ้มครองที่เราต้องอ่านด้วย เนื่องจากบางประกันการเดินทาง ไม่ครอบคลุมในสิ่งที่เราต้องการนั่นเอง เช่น ค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ, เจ็บป่วย, ค่าชดเชยกรณีเที่ยวบินล่าสุด, เที่ยวบินถูกยกเลิก และ ของหาย
เตรียมเอกสารก่อนซื้อประกันการเดินทาง
ก่อนที่เราจะซื้อประกันการเดินทางนั้น เราจะต้องทำการสมัครและต้องเตรียมเอกสารให้พร้อมก่อนที่จะซื้อประกันการเดินทาง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาล่าช้า ยกตัวอย่างเช่น Passport, บัตรประชาชน รวมไปถึงข้อมูลการเดินทางต่างๆ
ซื้อประกันการเดินทาง
หลังจากที่เตรียมเอกสารเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อมาก็คือการจ่ายเบี้ยประกันการเดินทางนั่นเอง การชำระเบี้ยประกันการเดินทางนั้น เราสามารถจ่ายเงินได้ตามที่บริษัทกำหนด ยกตัวอย่างเช่น การโอนเงิน, การชำระผ่านบัตรเครดิต สิ่งที่เราต้องดูก็คือ ชื่อบริษัทประกัน กับชื่อบริษัทที่เราโอนเงินไปนั้น ชื่อตรงกันหรือไม่ เผื่อเป็นการป้องกันมิจฉาชีพนั่นเอง
การซื้อประกันการเดินทาง ในยุคปัจจุบันนั้นถือว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับนักท่องเที่ยวคนไทยไปแล้ว เพราะว่าประกันการเดินทาง นอกจากจะช่วยให้เราอุ่นใจแล้ว ยังสามารถช่วยเราประหยัดเงินในกระเป๋าหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น อย่างอุบัติเหต, เจ็บป่วยที่ต่างประเทศ, กระเป๋าหาย หรือเที่ยวบิน ความกังวลเหล่านี้จะหายไป ถ้าหากเรามีประกันการเดินทางนั่นเอง
นักวิเคราะห์เตือน เงินเฟ้อ สหราชอาณาจักรพุ่งสูง 2.8%
นักวิเคราะห์การเงินออกมาเตือนเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักร ที่มีแนวโน้มว่าอาจจะพุ่งสูงขึ้นถึง 2.8% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบ 10 เดือน เป็นการกดดันให้ BoE ระวังการลดอัตราดอกเบี้ย พร้อมกับควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
จากการเปิดเผยของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ได้ออกมารายงานเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ ของสหราชอาณาจักร ว่ามีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่สูงสุดในรอบ 10 เดือนที่ผ่านมานั้นมาจากแรงกดดันด้านราคาในสหราชอาณาจักรที่เริ่มเพิ่มขึ้นอีกครั้งตัวเลขเงินเฟ้อภาคบริการที่ตึงตัวส่งผลให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Bank of England ช้ากว่าปกติ
นักเศรษฐศาสตร์ที่มีการสำรวจ Bloomberg ได้ออกมาคาดการณ์ว่า ผู้บริโภคในเดือนกุมภาพันธ์นั้น จะเพิ่มขึ้น 2.8% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว สำหรับสาเหตุนั้นมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมโรงเรียนเอกชน และ การเปลี่ยนแปลงของปัจจุบันผันผวน ที่มีต่อเงินเฟ้อในเดือนมกราคม
ถึงแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับที่สูงขึ้น แต่ทางธนาคารหรือ Bank of England ยังคงให้ความสำคัญและระมัดระวัง ในการปรับลดดอกเบี้ย เนื่องจากต้องควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ข้อมูลดังกล่าว เป็นสิ่งที่หน้ากังวลสำหรับคณะกรรมการที่กำหนดอัตราดอกเบี้ยของ Bank of England เนื่องจากแนวโน้มเงินเฟ้อของสหราชอาณาจักรดูเหมือนจะไม่สดใส ในขณะเดียวกันเศรษฐกิจของประเทศตอนนี้ยังอยู่ในภาวะที่ซบเซา
ทางด้าน Bank of England ยังออกมาคาดการณ์อีกด้วยว่า ราคาพลังงานที่สูงขึ้นจะทำให้อัตราเงินเฟ้อของผู้บริโภคสูงขึ้นด้วย คาดว่าจะสูงสุดที่ 3.7% ในช่วงปลายปี 2025 นี้
เพิ่มราคาบัตร บัตรประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าว เป็น 3,800 บาท
เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาปรับเพิ่มราคาบัตรประกันสุขภาพสำหรับแรงงานต่างด้าวที่อยู่นอกระบบประกันสังคม จากเดิมประมาณ 1,000 บาท เป็น 3,800 บาทต่อปี เพื่อให้การดูแลสุขภาพของแรงงานกลุ่มนี้มีมาตรฐานเทียบเท่ากับคนไทย
ปัจจุบัน แรงงานต่างด้าวที่ไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคมจะได้รับการดูแลสุขภาพผ่านกองทุนประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าวของกระทรวงสาธารณสุข อย่างไรก็ตาม ค่าบัตรประกันสุขภาพที่มีอยู่ในปัจจุบันครอบคลุมเพียงบางโรคเท่านั้น ทำให้เกิดภาระเพิ่มเติมต่อระบบสาธารณสุขของไทย การปรับเพิ่มราคาบัตรประกันสุขภาพเป็น 3,800 บาทต่อปีนี้ จะช่วยให้การดูแลสุขภาพของแรงงานต่างด้าวครอบคลุมมากขึ้น และลดภาระของระบบสาธารณสุขไทย
นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ยังได้กล่าวถึงสถานการณ์ของผู้ลี้ภัยที่อาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวทั้ง 9 แห่งตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งมีจำนวนประมาณ 100,000 คน เนื่องจากสหรัฐอเมริกาได้ระงับงบประมาณช่วยเหลือด้านสาธารณสุขสำหรับผู้ลี้ภัยเหล่านี้เป็นเวลา 90 วัน ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพของผู้ลี้ภัย กระทรวงสาธารณสุขจึงได้วางแผนลงพื้นที่โรงพยาบาลแม่สอด จังหวัดตาก ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อประเมินสถานการณ์และให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์
ในศูนย์พักพิงผู้ลี้ภัยมีหน่วยพยาบาลที่ให้การรักษาเบื้องต้นอยู่แล้ว แต่หากผู้ลี้ภัยมีอาการป่วยที่รุนแรง จำเป็นต้องส่งต่อไปยังโรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุขในประเทศไทย แม้ว่าจำนวนผู้ป่วยที่ต้องส่งต่อจะไม่มากนัก แต่ก็เป็นภาระเพิ่มเติมต่อระบบสาธารณสุขไทย ดังนั้น การปรับเพิ่มราคาบัตรประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าวจะช่วยลดภาระนี้ได้
สำหรับข้อมูลการขึ้นทะเบียนบัตรประกันสุขภาพของกองทุนประกันสุขภาพคนต่างด้าวและแรงงานต่างด้าวในช่วงเดือนมกราคมถึงตุลาคม พ.ศ. 2567 พบว่ามีการขึ้นทะเบียนทั้งหมด 309,416 คน แบ่งเป็นแรงงานหรือผู้ติดตามอายุเกิน 7 ปี จำนวน 262,843 คน ผู้ติดตามอายุไม่เกิน 7 ปี จำนวน 39,602 คน และคนต่างด้าวทั่วไป 6,971 คน โดยสัญชาติของผู้ขึ้นทะเบียนส่วนใหญ่เป็นชาวเมียนมา 66.4% กัมพูชา 27.7% ลาว 16.71% และที่เหลือเป็นเวียดนามและอื่นๆ
การปรับเพิ่มราคาบัตรประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าวเป็น 3,800 บาทต่อปีนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้แรงงานต่างด้าวได้รับการดูแลสุขภาพที่ครอบคลุมมากขึ้น แต่ยังเป็นการลดภาระของระบบสาธารณสุขไทย และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคที่อาจเกิดขึ้นจากแรงงานต่างด้าวที่ไม่ได้รับการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม
นอกจากนี้ การดำเนินการดังกล่าวยังเป็นการตอบสนองต่อความกังวลของสังคมเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรสาธารณสุขของแรงงานต่างด้าว และเป็นการสร้างความเป็นธรรมในการเข้าถึงบริการสาธารณสุขสำหรับทุกคนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม การปรับเพิ่มราคาบัตรประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าวยังต้องได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี และอาจมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดเพิ่มเติมตามความเหมาะสม กระทรวงสาธารณสุขจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และดำเนินการตามนโยบายที่ได้รับการอนุมัติเพื่อให้การดูแลสุขภาพของแรงงานต่างด้าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
ในระหว่างนี้ แรงงานต่างด้าวที่อยู่นอกระบบประกันสังคมควรติดตามข่าวสารและข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมความพร้อมในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
การปรับเพิ่มราคาบัตรประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าวเป็น 3,800 บาทต่อปี เป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็งและยั่งยืนสำหรับทุกคนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนจะได้รับการดูแลสุขภาพที่เหมาะสมและเท่าเทียมกัน
ทีทีบีออกบัตรเครดิตลาย ดีสนีย์ สมัครได้แล้ววันนี้
เปิดตัวใหม่ล่าสุดเลยสำหรับบัตรเครดิต ทีทีบี ที่เปิดให้เราได้เป็นเจ้าของบัตรเดบิต และ บัตรเครดิต ลายดิสนีย์ที่มีให้เราเลือกมากถึง 20 ลาย จากแบรนด์ดังของดิสนีย์เช่น Marvel, Star Wars, Disney, Pixar, Mickey & Friends, Disney Princess, Heroines, Elas จาก Frozen, Buzz Lightyear จาก Toy Story และ อื่นๆอีกเพียบ สำหรับสายสะสม หรือแฟนตัวจริงของดิสนีย์ ต้องไม่พลาดที่จะเลือกลายที่ชอบ สำหรับผู้ที่ถือบัตรเครดิตยังมีสิทธิ์ใช้ e-Slip หลากหลายธีม เพื่อประสบการณ์ที่แตกต่าง
คุ้มค่าทุกการใช้จ่ายกับสิทธิประโยชน์จากบัตรเดบิต และ บัตรเครดิต ทีทีบี ดิสนีย์ ที่จะได้ตลอดปี บัตรเคดริตทีทีบี เป็นบัตรที่สามารถตอบโจทย์ทุก Lifestyle การใช้ชีวิต มีลายจากดิสนีย์ให้คุณเลือกมากถึง 20 กว่าลายเลยทีเดียว รับคะแนนสะสม 5 เท่าเมื่อใช้จ่ายในหมวดออนไลน์, ร้านอาหาร และ ซูเปอร์มาร์เก็ต และยังสามารถใช้คะแนนแลกของรางวัลสุดแรร์กับ TTB Disney Reward Catalog
รายละเอียดบัตรเดบิต และ บัตรเครดิต ทีทีบีออลล์ฟรี ดิสนีย์
- ใช้จ่ายออนไลน์ รับเงินคืน 1% และ พิเศษกว่า รับเงินคืน 2% ในวันดับเบิลเดย์ (ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2568)
- ใช้จ่ายในสกุลเงินต่างประเทศ ไม่มีชาร์จ Fix Rate 2.5% เป็นเรททั่วโลก เที่ยวต่างประเทศไม่ต้องแลกเงิน
- รับสิทธิ์ใช้ e-Slip โอนเงินหลากหลายธีมจากดิสนีย์
- ส่วนลด 20% จากร้านค้าทั่วประเทศ
- โปรโมชั่นพิเศษ หากสมัครบัตรเดบิต ทีทีบีออลล์ฟรี ดิสนีย์ ทั้งลูกค้าปัจจุบัน และ ลูกค้าใหม่ ระหว่างวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2568 รับฟรี กระเป๋า Mickey Mouse Cross Body Limited Edition มูลค่า 3,990 บาท เพียงมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรตั้งแต่ 7,000 บาท ขึ้นไปภายใน 45 วัน นับจากวันที่ออกบัตร และ พิเศษ กว่านั้นรับกระเป๋าเดินทาง Mickey Mouse 20 นิ้ว Two Tone Limited Edition มูลค่า 5,990 บาท เพียงฝากเงินเพิ่ม 150,000 บาท และคงไว้ในบัญชีตามเงื่อนไข
รายละเอียดบัตรเครดิต ทีทีบี ดิสนีย์
- รับคะแนน 5 เท่า ในหมวดร้านอาหาร, ซูเปอร์มาร์เก็ต และ ใช้จ่ายออนไลน์
- แลกคะแนนสะสมกับแรร์ไอเท็มจากดิสนีย์ กับทีทีบี ดิสนีย์ รีวอร์ด แค็ตตาล็อก
- เลือกจ่าย 0% นานสูงสุด 6 เดือน กับร้านค้าดิสนีย์ที่ร่วมรายการ ทั้งในร้านค้า หรือ การทำธุรกรรมผ่านทางออนไลน์ รวมไปถึงการจองกิจกรรมดิสนีย์ผ่าน Klook เริ่มตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ทำรายการแบ่งจ่ายด้วยตัวเองกับบริการ TTB So Goood บนแอป ทีทีบีทัช
- แบ่งจ่าย 0% ได้นานสูงสุด 3 เดือนทุกรายการที่มียอดใช้จ่าย 1,000 บาทขึ้นไป ต่อเซลล์สลิป ทุกร้านค้าทั่วโลก ทำรายการแบ่งจ่ายด้วยตัวเองกับบริการ TTB so goood บนแอปทีทีบีทัช
- ในส่วนของผู้สมัครบัตรเครดิต ทีทีบี ดิสนีย์ ลูกค้าใหม่เท่านั้นที่สมัครและ อนุมัติระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ถึง 30 มิถุนายน 2568 รับกระเป๋าเดินทาง Mickey Mouse 20 นิ้ว Limited Edition มูลค่า 5,990 บาท เพียงมียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 15,000 บาทขึ้นไปภายใน 30 วัน นับจากวันที่บัตรได้รับการอนุมัติ พร้อมสมัครใช้บริการแอป ทีทีบี ทัส และ e-Statement
รับสิทธิประโยชน์สุดพิเศษจาก 11 แบรนด์ชั้นนำ
- McDonald’s รับสิทธิซื้อชุดอิ่มคุ้มเพียง 69 บาท จากราคาปกติ 204 บาท
- Bar B Q Plaza รับส่วนลด 50% เมื่อซื้อชุดประหยัดหมูจากราคาปกติ 255 บาท
- SEKI รับสิทธิ์ซื้อเมนู Special Salmon Set ราคาพิฌศษเพียง 99 บาท จากราคาปกติ 329 บาท
- การบินไทย รับไมล์สะสมเพิ่มสูงสุด 3,000 ไมล์ เมื่อซื้อตั๋วเครื่องบินในเส้นทาง ฮ่องกง, เซี่ยงไฮ้, โตเกียว และ ปารีส
- Sealife สมัครบัตรสมาชิกรายปี Platinum ในราคาพิเศษเริ่มเพียง 1,690 บาท พร้อม FIN Package บัตรเข้าชม One Day Pass และ กิจกรรม Virtual Reality ในราคาพิเศษ 500 บาท ต่อท่าน
- Makor Cineplex รับฟรีที่นั่งสำหรับเด็ก เมื่อซื้อบัตรชมภาพยนต์ที่ Kids Cinema
- Klook รับส่วนลดสูงสุด 1,000 บาท เมื่อมียอดซื้อ 5,000 บาทขึ้นไป สำหรับบัตรเข้าสวนสนุก Disneyland รวมถึงบัตร Express Pass และ แพ็กเกจโรงแรมดิสนีย์ พร้อมรับสิทธิ์แบ่งจ่าย 0% นาน 6 เดือน
- Global Union Express รับแพ็กเกจห้องพัก พร้อมตั๋วเครื่องบิน ราคาพิเศษเส้นทางฮ่องกง, เซี่ยงไฮ้, โตเกียว และ ปารีส
- โรงแรมในเครือไมเนอร์ รับส่วนลด 15% สำหรับค่าห้องพักจาก Best Available Rate พร้อมรับเครดิตเงินคืน 10% สำหรับห้องพักโรงแรมในเครือภายในประเทศที่ร่วมรายการ
- The Mall รับ 200 M Point เมื่อมียอดใช้จ่ายทุกๆ 2,500 บาท
- โรงแรมในเครือดุสิตธานี รับส่วนลด 10% สำหรับค่าห้องพัก และ ค่าอาหาร พร้อมรับเครดิตเงินคืน 10% สำหรับห้องพักโรงแรมภายในประเทศที่ร่วมรายการ
ออกใหม่เงินเดือนข้าราชการ 2568 ปรับฐานใหม่ล่าสุด
ฐานเงินเดือนข้าราชการใหม่ออกแล้ว ปรับเงินเดือนข้าราชการ 2568 ล่าสุด เงินเข้ามือทุกวุฒิการศึกษา ปวช., ปวส., ป.ตรี, ป.เอก ได้เงินวันไหนในเดือนพฤษภาคม 2568
จากการติดตามการปรับฐานเงินข้าราชการ 2568 ล่าสุด เกี่ยวกับการปรับฐานเงินเดือนใหม่ 2568 ออกมาแล้ว มีข่าวดีด้วยเพราะว่าการปรับล่าสุดนั้นปรับให้กับทุกวุฒิการศึกษา เงินขึ้นคนบรรจุใหม่ จ่ายเงินเดือนข้าราชการเริ่มต้น 11,380 – 27,960 บาท เข้ามาอัพเดทเงินเดือนข้าราชการ 2568 ได้ด้านล่าง พ.ร.บ. งบประมาณ 2568 ได้มีกำหนดรายละเอียดเอาไว้อย่างชัดเจนว่า วงเงินที่จะนำมาใช้ในการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ กลุ่มแรกบรรจุ ที่มีวุฒิการศึกษาในระดับ ปริญญาตรี ภายใต้วงเงินงบประมาณจ่ายงบกลาง ซึ่งตั้งเอาไว้ที่จำนวน 882,001 ล้านบาท
กลุ่มเข้าเกณฑ์ขึ้นเงินเดือน 2568
- เงินเลื่อนเงินเดือนและเงินปรับวุฒิข้าราชการ ตั้งไว้วงเงิน 13,000 ล้านบาท
- เงินช่วยเหลือข้าราชการ ลูกจ้าง และ พนักงานรัฐ ตั้งวงเงินไว้ 5,000 ล้านบาท
- เงินเบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ ตั้งวงเงินไว้ 354,500 ล้านบาท
- เงินสมทบลูกจ้างประจำตั้งวงเงินไว้ 370 ล้านบาท
- เงินสำรอง เงินสมทบ และ เงินชดเชยของข้าราชการ ตั้งวงเงินไว้ 82,775 ล้านบาท
อัตราเงินเดือนข้าราชการ วุฒิการศึกษา ปวช.
- ปีงบประมาณ 2567 อัตรา 10,340 – 11,380 บาท
- ปีงบประมาณ 2568 เพิ่มเป็น 11,380 – 12,520 บาท
อัตราเงินเดือนข้าราชการ วุฒิการศึกษา ปวส.
- ปีงบประมาณ 2567 อัตรา 12,650 – 13,920 บาท
- ปีงบประมาณ 2568 เพิ่มเป็น 13,920 – 15,320 บาท
ฐานเงินเดือนข้าราชการ วุฒิการศึกษา ปริญญาตรี
- ปีงบประมาณ 2567 อัตรา 16,500 – 18,150 บาท
- ปีงบประมาณ 2568 เพิ่มเป็น 18,150 – 19,970 บาท
ฐานเงินเดือนข้าราชการ วุฒิการศึกษา ปริญญาโท
- ปีงบประมาณ 2567 อัตรา 19,250 – 21,180 บาท
- ปีงบประมาณ 2568 เพิ่มเป็น 21,180 – 23,300 บาท
ฐานเงินเดือนขึ้นข้าราชการ วุฒิการศึกษา ปริญญาเอก
- ปีงบประมาณ 2567 อัตรา 23,100 – 25,410 บาท
- ปีงบประมาณ 2568 เพิ่มเป็น 25,410 – 27,960 บาท