เงินบำนาญชราภาพเดือนมิถุนายน 2568 เข้าวันไหน
เปิดรายละเอียดเช็กสิทธิประกันสังคมผ่านทางเว็บไซต์ sso.go.th มีกำหนดการออกมาแล้ว ให้ผู้ที่ได้รับสิทธิ สามารถเข้าไปเช็คสิทธิ พร้อมกับเปิดสูตรคำนวณล่าสุด เงินบำนาญชราภาพในเดือนมิถุนายน 2568 ประกันสังคมจ่าย 3,000 ถึง 7,500 บาทใครได้รับบ้าง และยังมีการบอกรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ประกันตนเกษียณอายุ 55 ปี จะได้เงินผู้สูงอายุตลอดชีวิตอีกด้วย
สำนักงานประกันสังคม หรือ สปส. เตรียมโอนเงินบำนาญชราภาพประจำเดือนมิถุนายน 2568 ให้กับผู้ประกันตนในวันที่ 25 มิถุนายน 2568 สำหรับผู้ที่กำลังเกษียณ หรือผู้ที่ต้องการทราบสิทธิประโยชน์จากประกันสังคม ซึ่งไม่ควรพลาดข้อมูล และ เงื่อนไขการรับเงินบำนาญชราภาพดังกล่าว รวมถึงสูตรที่ใช้คำนวณเงินบำนาญที่จะได้รับสูงสุด 7,500 บาทต่อเดือน
สำหรับเงินบำนาญชราภาพ ทางสำนักงานประกันสังคม จะทำการโอนเงินเข้าบัญชี ผู้ที่ได้รับสิทธิ์จะได้รับเงินเข้าบัญชีทุกเดือนทุกๆวันที่ 25 มิถุนายน 2568 ถ้าหากวันที่ 25 ของเดือนนั้นๆ ตรงกับวันหยุดราชการ, วันเสาร์-วันอาทิตย์ หรือ วันหยุดนักขัตฤกษ์ ทางสำนักงานประกันสังคม จะเลื่อนการจ่ายเงินเป็นวันทำการก่อนวันหยุดแทน เพื่อให้ผู้ประกันตนได้รับเงินอย่างต่อเนื่อง
การยื่นสิทธิประกันสังคม สามารถยื่นได้เมื่อไหร่?
สำหรับผู้ที่กำลังยื่นขอรับสิทธิเงินบำนาญชราภาพ หากยื่นขอรับสิทธิภายในวันที่ 7 ของเดือน จะได้รับสิทธิในงวดเดือนนั้นทันที แต่ถ้าหากยื่นเลยวันที่ 7 ของเดือนนั้นๆ ผู้ประกันตนจะได้รับสิทธิในเดือนถัดไป รวมงวดเดือนปัจจุบัน หากเป็นเงินบำเหน็จชราภาพ หรือ ที่เรียกว่าเงินก้อน จะได้รับภายใน 7-10 วันทำการ หลังจากได้รับการอนุมัติ สำหรับเงินบำนาญชราภาพ หลังจากที่ได้รับการอนุมัติแล้ว เงินจะถูกโอนเข้าบัญชีภายในวันที่ 25 ของเดือนถัดไป
เปิดคุณสมบัติผู้ที่มีสิทธิรับเงินบำนาญชราภาพ 2568
เงื่อนไขการรับเงินบำนาญชราภาพ จากประกันสังคมนั้น เข้าใจได้ง่าย และไม่ยุ่งยากเลย เพียงแค่ผู้ประกันตนมีคุณสมบัติตามรายละเอียดด้านล่าง
- มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
- สิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน ความเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 พนักงานบริษัท หรือ เป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ต้องสิ้นสุดลง
หลักเกณฑ์การส่งเงินสมทบ บำเหน็จ หรือ บำนาญ
การได้รับเงินบำเหน็จ ที่เรียกว่าเงินก้อน หรือ เงินบำนาญ ที่จะได้รับทุกเดือนตลอดชีวิต ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการส่งเงินสมทบ
- ส่งเงินสมทบน้อยกว่า 180 เดือน หรือ 15 ปี จะได้รับเงินบำเหน็จ เงินก้อนครั้งเดียว
- ส่งเงินสมทบตั้งแต่ 180 เดือนขึ้นไป จะได้รับเงินบำนาญ เป็นรายเดือนตลอดชีวิต
เปิดสูตรคำนวณเงินบำนาญชราภาพ 2568 จ่ายสูงสุด 7,500 บาทต่อเดือน
ผู้ประกันตนหลายๆคนอาจจะมีความสงสัยเกี่ยวกับชีวิตหลังเกษียณ จะได้รับเงินบำนาญเท่าไหร่ ทางสำนักงานประกันสังคม ได้กำหนดสูตรการคำนวณเงินบำนาญชราภาพเอาไว้ โดยเงินบำนาญชราภาพ จะถูกคำนวณจากร้อยละของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย ก่อนเกษียณ ซึ่งอัตราเงินบำนาญจะแตกต่างกันไป ตามระยะเวลาการส่งเงินสมทบตามรายละเอียดด้านล่าง
- เงินสมทบ 15-20 ปี ได้รับประมาณ 3,000 – 4,125 บาท ต่อเดือน
- เงินสมทบ 21-25 ปี ได้รับประเมาณ 4,350 – 5,250 บาทต่อเดือน
- เงินสมทบ 26-30 ปี ได้รับประมาณ 5,475 – 6,375 บาทต่อเดือน
- เงินสมทบ 31 – 35 ปี ได้รับประมาณ 6,600 – 7,500 บาทต่อเดือน
ผู้ประกันตน สามารถตรวจสอบสิทธิประกันสังคม ล่าสุดได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคมที่ www.sso.go.th เพื่ออ่านรายละเอียดและข้อมูลให้ครบถ้วน
เปิดวาร์ปโปรโมชั่นสุดคุ้ม! บัตรเครดิต UOB จัดเต็มส่วนลดและสิทธิพิเศษตลอดปี 2025
ใครที่ถือ บัตรเครดิต UOB อยู่ในมือ บอกเลยว่าปี 2025 นี้มีอะไรให้ใช้เพียบ! ไม่ว่าจะเป็นสายกิน สายช้อป สายเที่ยว หรือคนที่ใช้จ่ายประจำทุกเดือน UOB ขนขบวนสิทธิพิเศษมาให้แบบจุก ๆ ใช้ถูกจังหวะเมื่อไหร่ ก็คุ้มเกินต้าน บทความนี้จะพาไปอัปเดต โปรโมชั่นเด็ด ๆ แบบเรียลไทม์ พร้อมวิธีใช้สิทธิ์และข้อควรระวังที่ควรรู้
สิทธิพิเศษบัตรเครดิต UOB ปี 2025 แบ่งตามหมวดหมู่
หมวดร้านอาหาร: ลดหนักแบบจานต่อจาน
- UOB Dining Privileges: ส่วนลดสูงสุด 50% กับร้านอาหารระดับพรีเมียม เช่น Audrey, Wine Connection, Greyhound Café (เฉพาะสาขาที่ร่วมรายการ)
- บัตร UOB Lady’s Card: รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 10% เมื่อใช้จ่ายในร้านอาหารทุกวันศุกร์
- บัตร UOB Preferred: รับ 3% เครดิตเงินคืน เมื่อใช้จ่ายในหมวดอาหารทุกวัน
ระยะเวลาโปรโมชั่น: มกราคม – ธันวาคม 2568
หมวดช้อปปิ้งออนไลน์: ช้อปได้ทุกเว็บ ได้เงินคืนเพิ่ม
- UOB x Lazada & Shopee: รับโค้ดส่วนลดพิเศษสูงสุด 200 บาท ทุกเดือน เมื่อช้อปขั้นต่ำ 1,500 บาท
- UOB One Card: รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 5% สำหรับยอดใช้จ่ายในหมวด e-commerce
- โปรแกรมผ่อน 0%: แบ่งจ่ายได้สบาย ๆ กับร้านค้าออนไลน์ชั้นนำที่ร่วมรายการ
ระยะเวลาโปรโมชั่น: ต่อเนื่องทั้งปี 2568 (อาจมีอัปเดตเงื่อนไขรายเดือน)
หมวดเดินทาง: สะสมไมล์-พักโรงแรม-เช่ารถครบ
- UOB Travel Club: ส่วนลดพิเศษสำหรับโรงแรม, เที่ยวบิน, และรถเช่า เมื่อจองผ่าน UOB Travel Hub
- สะสมไมล์เร็ว: บัตร UOB PriviMiles แลกไมล์ได้เร็ว โดยทุก 15 บาท = 1 ไมล์
- รับสิทธิ์ Priority Pass: สำหรับบัตรระดับ Signature และ Infinite
ระยะเวลาโปรโมชั่น: ครอบคลุมถึง 31 ธันวาคม 2568
หมวดไลฟ์สไตล์และความบันเทิง
- โรงภาพยนตร์: ซื้อ 1 แถม 1 ที่ Major และ SF Cinema เมื่อใช้จ่ายผ่านแอป UOB TMRW
- Beauty & Wellness: ส่วนลดสูงสุด 30% สำหรับบริการสปา, ซาลอน, ฟิตเนสที่ร่วมรายการ
- ช้อป Duty Free: รับส่วนลดเพิ่ม 5-10% เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรที่ King Power หรือ Dufry
เงื่อนไขการใช้สิทธิ์ที่ควรอ่านให้เข้าใจก่อน
แม้โปรโมชั่นจะเยอะและดูน่าสนใจ แต่สิ่งสำคัญคือการเข้าใจ “เงื่อนไข” ก่อนใช้บัตรแต่ละครั้ง เพื่อไม่ให้พลาดสิทธิพิเศษที่ควรได้ เช่น:
- บางโปรต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์หรือแอป TMRW ก่อน
- ใช้จ่ายขั้นต่ำเพื่อรับเครดิตเงินคืนอาจแตกต่างกันในแต่ละโปร
- โปรโมชั่นบางรายการจำกัดสิทธิ์รายเดือน เช่น จำกัด 1,000 สิทธิ์แรกเท่านั้น
- ต้องชำระเต็มจำนวนหรือผ่อนเฉพาะร้านค้าที่ร่วมรายการเท่านั้น
ติดตามโปรโมชั่นใหม่ ๆ จาก UOB ได้ที่ไหน?
หากคุณไม่อยากพลาดโปรใหม่ที่ทยอยออกมาตลอดปี แนะนำให้ติดตามช่องทางเหล่านี้:
- แอป UOB TMRW: รวมโปรเด็ด กดดูได้ทันทีจากหน้าจอ
- เว็บไซต์ UOB Thailand: เมนูโปรโมชั่นอัปเดตรายสัปดาห์
- อีเมลโปรโมชั่น: หากสมัครรับข่าวสารจากธนาคารจะได้รับก่อนใคร
- Line Official UOB: แจ้งเตือนโปรใหม่ผ่านข้อความ
คำแนะนำ: ใช้ให้คุ้มต้องวางแผน
การใช้บัตรเครดิตให้คุ้ม ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่โปรโมชั่นเท่านั้น แต่ต้องวางแผนการใช้จ่ายอย่างมีวินัยด้วย เช่น:
- จับตาช่วงลดแรงหรือเทศกาลสำคัญ เช่น 9.9, 11.11 หรือช่วงปีใหม่
- ใช้บัตรตรงตามหมวดเพื่อให้ได้รับเครดิตเงินคืนสูงสุด
- ใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น ไม่เน้นสะสมหนี้
- อย่าลืมตรวจสอบยอดเงินคืนหรือคะแนนสะสมในแต่ละเดือนผ่านแอป
ปี 2025 คือปีทองของผู้ถือบัตร UOB
หากคุณถือบัตรเครดิต UOB อยู่ในมือ หรือกำลังคิดจะสมัคร บอกเลยว่าปีนี้คือ “จังหวะดี” ที่สุดสำหรับสายรูด เพราะโปรโมชั่นหลากหลาย ครอบคลุมทุกหมวด ใช้ได้จริง และคุ้มค่าแบบไม่ต้องรอเทศกาลใหญ่
อย่าลืมเช็กโปรใหม่ ๆ เป็นประจำ เพราะบางสิทธิ์มาไวหมดไว ใช้ทันก่อนใครได้เปรียบ!
เปิดกรุบัตรเครดิตสะสมคะแนนยอดนิยมปี 2025 บัตรไหนมาแรง น่าจับตามอง?
ในปี 2568 หรือ 2025 นี้ กระแสการใช้บัตรเครดิตเพื่อสะสมคะแนนกลับมาแรงอีกครั้ง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการเปลี่ยนค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันให้กลายเป็นรางวัล เช่น ส่วนลด ท่องเที่ยว หรือไมล์สายการบินต่าง ๆ บทความนี้จะพาไปเจาะลึกบัตรเครดิตสะสมคะแนนยอดนิยม ที่ทั้งให้แต้มเยอะ ใช้ง่าย และมีโปรโมชันน่าสนใจที่สุดในปีนี้
ทำไมการสะสมคะแนนถึงยังเป็นที่นิยมในปี 2025?
แม้กระแส “แคชแบ็ก” จะมาแรงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่คะแนนสะสมยังคงครองใจคนจำนวนไม่น้อย เพราะ…
- สามารถแลกของรางวัลได้หลากหลาย
- บางบัตรมีโปรจับคู่คะแนนกับไมล์สายการบิน
- มักมีโปรโมชันพิเศษ เช่น คะแนน X2, X3 หรือ X5
- คะแนนที่สะสมไว้ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในอนาคต เช่น ใช้แลกตั๋วเครื่องบิน หรือช้อปฟรี
4 บัตรเครดิตสะสมคะแนนยอดนิยมปี 2025
1. บัตรเครดิต KTC x Krungsri Platinum
บัตรที่กำลังมาแรงในกลุ่มนักสะสมแต้ม เนื่องจาก…
- คะแนน KTC Forever ไม่มีวันหมดอายุ
- ใช้ 25 บาท = 1 คะแนน
- โปรโมชั่นเดือนนี้: คะแนน X2 เมื่อใช้จ่ายกับพันธมิตร KTC Online Partners
- มีโปรจับคู่กับสายการบินเช่น AirAsia
เหมาะสำหรับคนที่ใช้จ่ายประจำต่อเดือนและชอบแลกเป็นเครดิตเงินคืนหรือของรางวัล
- ใช้จ่ายครบ 5,000 บาทขึ้นไปต่อรอบ จะได้รับคะแนนพิเศษเพิ่ม 1.5 เท่า
- มีแอป UOB TMRW ใช้งานง่าย
- โปรพิเศษ: แลกของรางวัล Lazada หรือ Central ด้วยคะแนนพิเศษ (ใช้แต้มลดลง 20%)
3. บัตรเครดิต SCB M Luxe
สายแฟชั่นและช้อปปิ้งห้างต้องมี เพราะ…
- ใช้จ่ายในห้างเครือ The Mall Group จะได้คะแนน M Point x3
- คะแนนสามารถใช้แลกส่วนลดหรือแลกของรางวัลใน SCB Rewards
- คะแนนไม่มีวันหมดอายุ
- สิทธิ์เข้าใช้ห้องรับรองสนามบิน SCB Lounge
4. บัตรเครดิต AEON Royal Orchid Plus Platinum
บัตรที่คนเดินทางบ่อยไม่ควรมองข้าม
- คะแนน AEON Happy Point แลกเป็น ROP ได้ (คะแนน 1,500 = 1,000 ROP)
- ฟรีประกันอุบัติเหตุเดินทางสูงสุด 10 ล้านบาท
- รับคะแนน 2 เท่าเมื่อใช้จ่ายกับสายการบินไทย
เคล็ดลับการเลือกบัตรเครดิตสะสมคะแนนให้คุ้มค่าที่สุด
ก่อนจะเลือกสมัครบัตรเครดิตสะสมคะแนน ควรพิจารณาปัจจัยดังต่อไปนี้:
- พฤติกรรมการใช้จ่าย: ใช้ในหมวดไหนบ่อย เช่น ช้อปปิ้ง, ท่องเที่ยว, ร้านอาหาร
- เงื่อนไขการแลกคะแนน: ดูว่าสามารถแลกของรางวัลที่เราต้องการได้ง่ายไหม
- อายุคะแนน: บางบัตรมีวันหมดอายุของคะแนน ควรเลือกที่ไม่มีวันหมดอายุ
- โปรโมชันพิเศษ: ช่วงโปรเปิดตัว หรือโปรพาร์ตเนอร์ อาจช่วยให้ได้คะแนนคูณเพิ่ม
ปี 2025 บัตรสะสมคะแนนยังน่าสนใจไหม?
คำตอบคือ “ใช่” โดยเฉพาะในยุคที่ผู้บริโภคมองหาความคุ้มค่าในการใช้จ่าย หากใช้บัตรเครดิตอย่างมีวินัย การสะสมคะแนนสามารถเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้จริง และยังแลกสิทธิประโยชน์มากมาย ทั้งเที่ยวฟรี ช้อปฟรี หรือคืนเงินได้อีกด้วย ก่อนสมัครควรเปรียบเทียบข้อเสนอของแต่ละบัตรให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ และอย่าลืมตรวจสอบเงื่อนไขเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาจมีผลต่อการแลกคะแนนด้วย
กรมอุตุพยากรณ์อากาศวันนี้ 11 มิถุนายน 2568
ตรวจสอบสภาพอากาศวันนี้ให้ดีๆ เนื่องจากกรมอุตุได้ออกมาพยากรณ์อากาศวันที่ 11 มิถุนายน 2568 ออกมาเตือนประเทศไทยตอนนี้ ฝนตกเพิ่มขึ้น อาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก สำหรับกรุงเทพมหานคร วันนี้โดนฝนตกหนัก ตกร้อยละ 60%
พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนตก และ มีฝนตกหนักบางแห่ง ฝนตกหนักมากาในบริเวณเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ทางกรมอุตุ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และ ฝนที่ตกสะสม อาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และ น้ำป่าไหลหลากโดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
เกษตรควรเตรียมตัวป้องกัน และ ระวังความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นต่อผลผลิตการเกษตรไว้ด้วย เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทย ในส่วนของคลื่นลมบริเวณอันดามัน และ อ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง มีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร
ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามัน และ อ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และ หลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามัน และ อ่าวไทยตอนบน ควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 13 มิถุนายน 2568 พายุดีเปรสชั่น ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น กลายเป็นพายุโซนร้อน ในระยะต่อไป โดยพายุนี้จะไม่เคลื่อนสู่ประเทศไทย
- กรุงเทพ และ ปริมณฑล มีฝนตกร้อยละ 60% ของพื้นที่
- ภาคเหนือ มีฝนตกร้อยละ 70% ของพื้นที่ และ มีฝนตกหนัก ถึงหนักมากบางแห่ง
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนตกร้อยละ 70% ของพื้นที่
- ภาคกลางมีฝนตกร้อยละ 40% ของพื้นที่
- ภาคตะวันออก มีฝนตกร้อยละ 60% ของพื้นที่ และ มีฝนตกหนัก ถึงหนักมากบางแห่ง
- ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกร้อยละ 40% ของพื้นที่
- ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกร้อยละ 70% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
เด็กจบใหม่ ตกงานสาเหตุจาก AI แย่งงานหมด
ปัจจุบันเทคโนโลยี AI เติมโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นข้อดีของหลายๆบริษัทที่สามารถลดต้นทุนของคนได้ ผ่านการใช้ AI มาทดแทน แต่มันก็ไม่ได้มีแต่ข้อดีอย่างเดียว เนื่องจาก AI ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องกำลังจะมาแย่งงานเด็กจบใหม่ ทำให้อัตราการว่างงานเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันเด็กจบใหม่แค่คิดว่า ผ่านการฝึกงาน และมีคอนเนคชั่นจากรุ่นพี่ ก็สามารถหางานได้ไม่ยากแต่ความเป็นจริงแล้ว มันไม่ใช่แบบนั้นเสมอไป เนื่องจากเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดอย่าง สหรัฐอเมริกา ที่มีเด็กเพิ่งจบใหม่ และมีคุณสมบัติโดดเด่นหลายๆอย่าง ยังคงหางานได้ยากไม่ได้ต่างจากเด็กจบใหม่ในประเทศไทยเลย
ข้อมูลจากสำนักข่าว Bloomberg ได้รายงานว่า การหางานเต็มเวลา มันยากมากขึ้น แม้แต่เด็กในวัย 21 ปีที่เพิ่งจบการศึกษาจากมหาวิยาลัยชื่อดังในเดือนพฤษภาคม 2025 แถมยังมีรายชื่อบุคคลอ้างอิงที่ช่วยการันตี และมีเครือข่ายครอบครัว และศิษย์เก่า ที่พร้อมให้คำแนะนำ รวมถึงผ่านประสบการณ์การฝึกภาคฤดูร้อน สำหรับสถิติในการตอบรับ หลังจากสมัครงานกับบริษัทตอนนี้มีเปอร์เซนต์ที่น่าตกใจอย่างมาก สามารถดูตัวเลขได้ด้านล่าง
- 4% ได้รับการติดต่อเพื่อนัดสัมภาษณ์
- 33% ได้รับการปฎิเสทแบบอัตโนมัติ
- ส่วนเปอร์เซนต์ที่เหลือ ไม่มีการตอบรับใดๆ
ตอนนี้ในทุกๆเจเนอเรชั่นที่เป็นเด็กจบใหม่จะต้องเจอกับการตลาดแรงงานในช่วงที่ท้าทายมาก เนื่องจากหางานประจำได้ยากสุดๆ ยอย่างในปี 2008 ที่ต้องเจอกับวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ สหรัฐเจอเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งเป็นมาแล้วถึง 3 ครั้งตั้งแต่ปี 2000 ในยุคนี้ไม่มีเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจอย่างเดียว เนื่องจากตอนนี้มันมีสัญญาญการจ้างงาน ที่เลขร้ายและแย่กว่าครั้งไหนๆ สาเหตุหลักมาจาก ปัญญาประดิษฐ์ หรือที่เราเรียกว่า AI ที่ได้แทนตำแหน่งงานระดับเริ่มต้นบางส่วน อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน รวมถึงนโยบายการค้าสหรัฐที่ กลับหัวแบบ 180 องศาเลยทีเดียว กลายเป็นเป็นผู้นำต่อต้านการค้าแบบเสรี ถึงขั้นทำให้ภาคธรุกิจลดการจ้างงานลง อย่างเห็นได้ชัด
เศรษฐกิจสหรัฐโดยรวมแล้วจะดูแข็งแรง ตามตัวชี้วัดหลายด้าน แต่ความเป็นจริงแล้วเมื่อหันมาดูอัตราว่างาน แทบจะไม่เปลี่ยนแปลงในเดือนพฤษภาค แถมจำนวนผู้ว่างงาน กลับเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน นับได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่สุด นับตั้งแต่ปี 2009 ตามข้อมูลของรัฐบาล และโดยเฉพาะกลุ่มคนหนุ่มสาว ที่กำลังรับรู้ถึงผลกระทบที่รุนแรงนี้ อัตราการว่างงาน ของเด็กจบการศึกษาระดับ ปริญญาตรีที่มีอายุช่วง 22-27 ปี พุ่งสูงขึ้นถึง 5.8% เมื่อต้นฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา ซึ่งตัวเลขนี้ถือว่าสูงสุดในรอบ 4 ปีเลยทีเดียว
AI เริ่มแย่งงานระดับเริ่มต้น ทำให้เด็กจบใหม่เลือกงานไม่ได้
จากสถานการณ์ หางานยาก จนน่ากังวล ในปัจจุบันมีจุดเชื่อมโยงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้จากการเติบโตของปัญญาประดิษฐ์ จากการสำรวจตัวเลขล่าสุดของผู้บริหารบน LinkedIn มากกว่า 60% ยอมรับว่า AI กำลังเข้ามาแย่งงานในระดับเริ่มต้น โดยเฉพาะงานที่ซ้ำซาก และจำเจ ไม่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์สูง
บริษัทขนส่งจำกัด ประกาศหยุดให้บริการรถโดยสารระหว่างประเทศ เริ่มตั้งแต่วันนี้
ตรวจสอบก่อนเดินทาง ตอนนี้ทางบริษัทขนส่ง หรือ บขส. ประกาศหยุดให้บริการเดินรถ โดยสารระหว่างประเทศ 2 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพฯ เสียมราฐ เส้นทางที่ 12 และ กรุงเทพฯ – พนมเปญ เส้นทางที่ 13 เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป
ในส่วนของสาเหตุการหยุดให้บริการครั้งนี้ เนื่องจากมีคำสั่งห้ามรถโดยสารข้ามจุดผ่านแดนระหว่างประเทศไทย และ กัมภูชาเป็นการชั่วคราว ทาง บขส. ขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น และ จะมีการประกาศให้ทราบหากมีความคืบหน้าเกี่ยวกับการกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง
สำหรับรายละเอียดของทั้ง 2 เส้นทางที่หยุดให้บริการ
เส้นทางกรุงเทพ – เสียมราฐ
- ระยะทาง 419 กิโลเมตร ค่าโดยสาร 750 บาท
- มีรถโดยสารวันละ 2 เที่ยว ไป-กลับ
- ขาไปออกจากกรุงเทพฯ 9.00 น.
- ขากลับออกจากเสียมราฐ 9.00 น.
เส้นทางกรุงเทพ – พนมเปญ
- ระยะทาง 719 กิโลเมตร ค่าโดยสาร 900 บาท
- มีรถโดยสารวันละ 2 เที่ยว ไป-กลับ
- ขาไปออกจากกรุงเทพฯ เวลา 08.00 น.
- ขากลับออกจากพนมเปญเวลา 08.00 น.
ประชาชนมีความจำเป็นต้องเดินทาง สามารถติดตามประกาศเพิ่มเติมจาก บขส. ได้หลากหลายช่องทาง เช่น
- facebook.com/BorKorSor99
- Line: บขส.99 (@TCL99)
- โทร 02-936-3660 ในวันและเวลาราชการ
ลงทะเบียนเที่ยวไทย คนละครึ่ง 2568 กดรับสิทธิ์ได้เมื่อไหร่?
รายละเอียด เที่ยวไทยคนละครึ่งในปี 2568 มีข้อมูลออกมาแล้ว สำหรับโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศไทยครั้งนี้ ใช้ชื่อว่า เที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568 เที่ยวเมืองหลัก เที่ยวเมือรอง สามารถเลือกได้หมด รัฐบาลจ่ายค่าที่พักให้ 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน ใช้ได้สูงสุด 5 สิทธิต่อคน
โครงการล่าสุดจากทางรัฐบาล ออกมาเพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศไทย ซึ่งใช้ชื่อว่า เที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568 คนไทยเตรียมตัวเก็บกระเป๋าเที่ยวได้เลย สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติม ซื้อใช้เวลาอ่านประมาณ 5 นาทีเท่านั้น สำหรับบทความนี้ เพื่อเป็นการไม่ให้พลาดโอกาส ต้องเช็คก่อนเลยว่าเราสามารถกดรับสิทธิได้วันไหนบ้าง สำหรับการลงทะเบียนเที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568 ให้คนไทยได้เที่ยวเมืองหลัก และ เมืองรอง สามารถเลือกได้หมดเลย ทางรัฐบาลจ่ายออกค่าที่พัก 3,000 บาท ต่อคืน ใช้ได้สูงุสด 5 สิทธิ ต่อคน รัฐจ่ายสมทบให้อีก 50% สามารถเช็คเงื่อนไข โครงการดังกล่าวเพิ่มเติมได้ด้านล่าง
เปิดเผยข้อมูลจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว และ กีฬา เปิดเผยความคืบหน้าโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568 โดยคาดว่าจะมีการนำเสนอให้พิจารณาของคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 10 มิถุนายน 2568 ถ้าหากคณะรัฐมนตรี ให้ความเห็นชอบ ก็จะเปิดให้ผู้ประกอบการ ท่องเที่ยวต่างๆ และ ประชาชน ที่สนใจสามารถเข้าไปลงทะเบียน เพื่อเริ่มใช้สิทธิ์ได้ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ถือว่าเป็นอีกหนึ่งข่าวดีสำหรับผู้ที่วางแผนจะเที่ยวในประเทศไทย ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2568
โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568
โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง เป็นโครงการที่ถูกเสนอขอในงบกลาง แต่ด้วยกรอบงบประมาณ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 1.5 แสนล้านบาท ทำให้สำนักงบประมาณแนะนำให้นำโครงการเข้าร่วมในกรอบ
จากการตรวจสอบข้อมูลล่าสุดสำหรับจำนวนสิทธิที่กำหนดไว้จะอยู่ที่ 5 แสนสิทธิ ซึ่งลดลงจากเดิมที่ถูกตั้งเอาไว้ที่จำนวน 1 ล้านสิทธิ เนื่องจากงบประมาณ 1,780 ล้านบาท ได้ถูกเกลี่ยให้ใช้กับการกระตุ้นตลาดต่างประเทศ เช่น เที่ยวบินประจำ (Regular Flight) และ เที่ยวบินเช่าแบบเหมาลำ (Charter Flight)
จากข้อมูลดังกล่าวทำให้มีการปรับลดจำนวนสิทธิลง แต่ถึงแม้ว่าจำนวนสิทธิจะลดลง โครงการนี้ก็ยังคงเป็นโอกาสที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางของคนไทยเยอะมากๆ
เที่ยวเมืองหลัก กับ เที่ยวเมืองรอง รัฐจ่ายสมทบ แตกต่างกันยังไง?
- เที่ยวเมืองหลัก รัฐจ่ายสมทบ 40% ประชาชนจ่ายเอง 60%
- เที่ยวเมืองรอง หรือ เมืองน่าเที่ยว รัฐจ่ายสมทบ 50% ประชาชนจ่ายเอง 50%
เที่ยววันธรรมดา กับ เที่ยววันหยุด
- เที่ยววันธรรมดาตั้งแต่วันจันทร์ ถึง วันศุกร์ รัฐจ่ายสมทบ 50% ประชาชนจ่ายเอง 50%
- เที่ยววันเสาร์-วันอาทิตย์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์ รัฐจ่ายเงินสมทบ 40% ประชาชนจ่ายเอง 60%
รับสิทธิสูงสุด 5 คืน มาพร้อมกับคูปองดิจิทัล
สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนและได้รับสิทธิ จะได้รับคูปองดิจิทัล สำหรับใช้จ่ายในร้านอาหาร, ร้านขายของที่ระลึก, ร้าน OTOP และ แหล่งท่องเที่ยว เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน และ กระจายรายได้สู่ท้องถิ่น
ซื้อของที่โลตัสใช้จ่ายด้วย บัตรเครดิตอะไรได้บ้าง
ในยุคที่การจับจ่ายใช้สอยผ่านบัตรเครดิตได้รับความนิยมสูงมากขึ้นเรื่อยๆ ร้านค้าปลีกชั้นนำอย่างโลตัส (Lotus) ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ผู้บริโภคมักจะใช้บริการผ่านบัตรเครดิต เพราะความสะดวก รวดเร็ว และยังได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากการชำระผ่านบัตรเครดิตอีกด้วย สำหรับปี 2568 โลตัสยังคงรองรับบัตรเครดิตหลากหลายประเภท เรามาดูกันว่ามีบัตรเครดิตอะไรบ้างที่โลตัสรับ และแต่ละประเภทมีจุดเด่นอะไรที่น่าสนใจ
บัตรเครดิต Visa
บัตรเครดิต Visa ยังคงเป็นที่นิยมอันดับต้นๆ ที่โลตัสรับชำระในปี 2568 เนื่องจากเป็นระบบที่มีเครือข่ายกว้างขวางทั่วโลก จุดเด่นสำคัญของบัตรเครดิต Visa ที่ทำให้ผู้ใช้สะดวกในการช้อปปิ้งที่โลตัส คือ
- การรองรับอย่างแพร่หลายทั้งร้านค้าออนไลน์และออฟไลน์
- สิทธิประโยชน์และโปรโมชั่นจากร้านค้าและแบรนด์ต่างๆ ที่ร่วมรายการ
- มีระบบรักษาความปลอดภัยสูงผ่านการยืนยันตัวตนแบบหลายขั้นตอน
บัตรเครดิต MasterCard
อีกหนึ่งบัตรเครดิตที่โลตัสให้การยอมรับอย่างกว้างขวางคือ MasterCard ซึ่งมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ด้วยจุดเด่นในเรื่อง
- การสะสมแต้มและ Cashback สูงสุดตามยอดใช้จ่าย
- โปรโมชั่นพิเศษเฉพาะจาก MasterCard เช่น ส่วนลดเพิ่มเติมเมื่อซื้อสินค้าที่โลตัสในช่วงโปรโมชั่น
- ระบบชำระเงินที่รวดเร็วและปลอดภัยสูงด้วยมาตรฐานระดับสากล
บัตรเครดิต JCB
บัตรเครดิต JCB เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่โลตัสรองรับในปี 2568 ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากโดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่เดินทางไปประเทศญี่ปุ่นเป็นประจำ จุดเด่นของ JCB ได้แก่
- สิทธิพิเศษด้านการเดินทาง เช่น ส่วนลดค่าบัตรโดยสารหรือโรงแรม
- โปรโมชั่นพิเศษที่ร้านอาหารและช้อปปิ้งภายในโลตัสที่เข้าร่วมรายการ
- บริการลูกค้าระดับพรีเมียมที่ตอบสนองรวดเร็ว
บัตรเครดิต UnionPay
ในปี 2568 โลตัสยังรองรับบัตรเครดิต UnionPay ซึ่งได้รับความนิยมสูงจากนักท่องเที่ยวและผู้ใช้งานชาวจีน โดยมีจุดเด่นที่น่าสนใจดังนี้
- ค่าธรรมเนียมในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินที่ต่ำ
- ส่วนลดและโปรโมชั่นพิเศษในช่วงเทศกาลสำคัญของจีน เช่น ตรุษจีน
- สามารถใช้งานได้ทั่วโลกโดยเฉพาะในประเทศจีนที่นิยมมาก
บัตรเครดิต American Express (AMEX)
แม้จะมีจุดจำกัดในเรื่องค่าธรรมเนียมที่สูง แต่ในปี 2568 โลตัสยังคงให้บริการสำหรับผู้ถือบัตร American Express ด้วยเหตุผลสำคัญคือสิทธิประโยชน์ที่มากมาย เช่น
- สิทธิในการเข้าใช้ห้องรับรองพิเศษที่สนามบินทั่วโลก
- ประกันการเดินทางและความคุ้มครองพิเศษเมื่อใช้จ่ายผ่านบัตร
- โปรโมชั่นสุดพิเศษเฉพาะผู้ถือบัตร AMEX ที่ร่วมกับโลตัส
บัตรเครดิตร้านค้าร่วมโลตัส (Co-Branded Cards)
โลตัสมีความร่วมมือกับธนาคารต่างๆ ในการออกบัตรเครดิตร่วมแบรนด์ (Co-Branded Cards) โดยมีข้อดีที่ผู้ใช้งานจะได้รับสิทธิประโยชน์โดยตรงเมื่อช้อปปิ้งที่โลตัส เช่น
- การสะสมคะแนนพิเศษเพิ่มขึ้นเมื่อซื้อสินค้าที่โลตัส
- ส่วนลดเฉพาะสินค้าที่เข้าร่วมรายการ
- โปรโมชั่นส่งเสริมการขายที่ออกแบบมาเพื่อผู้ถือบัตรร่วมโลตัสโดยเฉพาะ
ข้อควรระวังในการใช้บัตรเครดิตที่โลตัส
แม้ว่าการใช้บัตรเครดิตจะมีข้อดีมากมาย แต่ผู้บริโภคควรมีความระมัดระวังในประเด็นต่างๆ ดังนี้
- ตรวจสอบวงเงินในบัตรก่อนการใช้งานทุกครั้งเพื่อป้องกันการถูกปฏิเสธชำระเงิน
- เช็คโปรโมชั่นและเงื่อนไขต่างๆ ให้ละเอียดเพื่อไม่พลาดสิทธิประโยชน์ที่คุณสามารถรับได้
- ควบคุมการใช้จ่ายอย่างมีวินัยและอย่าใช้จ่ายเกินความจำเป็น เพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นหนี้สะสม
การเลือกใช้บัตรเครดิตที่โลตัสในปี 2568
การที่โลตัสรับบัตรเครดิตหลากหลายประเภทช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการช้อปปิ้งและบริหารจัดการการเงินของผู้บริโภค โดยแต่ละบัตรเครดิตต่างก็มีจุดเด่นและสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างกันไป ดังนั้นการเลือกใช้บัตรเครดิตควรพิจารณาถึงไลฟ์สไตล์ของตัวเอง เช่น ความถี่ในการใช้จ่ายประเภทต่างๆ หรือการเดินทางเป็นประจำ เพื่อที่จะสามารถเลือกบัตรเครดิตที่ตอบโจทย์ชีวิตประจำวันของคุณได้อย่างดีที่สุด
ในปี 2568 การใช้บัตรเครดิตที่โลตัสยังคงเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับคนยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวก ปลอดภัย และได้รับผลตอบแทนจากการใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า การที่คุณเลือกบัตรเครดิตที่เหมาะสมจะช่วยให้การใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเป็นเรื่องง่าย สบายใจ และสามารถได้รับสิทธิพิเศษที่ตรงกับความต้องการมากที่สุดอีกด้วย
ทำบัตรประชาชนปี 2025 ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง?
บัตรประชาชนถือเป็นเอกสารสำคัญที่คนไทยทุกคนต้องมีติดตัว เพื่อใช้ในการยืนยันตัวตนในการทำธุรกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสมัครงาน เปิดบัญชีธนาคาร ไปจนถึงการรับบริการจากหน่วยงานราชการ ดังนั้น การเตรียมเอกสารให้พร้อมก่อนทำบัตรประชาชนจึงสำคัญมาก มาดูกันว่าในปี 2025 ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง
เอกสารสำคัญที่ต้องใช้ในการทำบัตรประชาชน
1. กรณีขอทำบัตรประชาชนครั้งแรก
หากคุณมีอายุครบ 7 ปีบริบูรณ์ ซึ่งเป็นวัยที่กฎหมายกำหนดให้เริ่มทำบัตรประชาชนครั้งแรก จำเป็นต้องเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้:
- สำเนาสูติบัตรตัวจริง หรือสำเนาเอกสารรับรองการเกิดจากทะเบียนราษฎร
- เอกสารแสดงความสัมพันธ์กับผู้ปกครอง เช่น สำเนาทะเบียนบ้านที่มีชื่อเด็กและผู้ปกครองปรากฏ
- ผู้ปกครองหรือผู้ดูแลตามกฎหมาย ต้องนำบัตรประชาชนของตนเองมาด้วย
2. กรณีบัตรประชาชนหมดอายุ หรือสูญหาย
สำหรับกรณีบัตรประชาชนหมดอายุ หรือสูญหาย เอกสารที่ต้องเตรียมมีดังนี้:
- บัตรประชาชนใบเก่า (กรณีหมดอายุ)
- สำเนาทะเบียนบ้านตัวจริง หรือสำเนาทะเบียนบ้านพร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง
- ใบแจ้งความจากสถานีตำรวจ (กรณีบัตรสูญหาย)
ข้อควรรู้ก่อนการทำบัตรประชาชน
นอกจากการเตรียมเอกสารที่ถูกต้องครบถ้วนแล้ว ยังมีข้อควรรู้อื่นๆ ที่ช่วยให้การทำบัตรประชาชนง่ายขึ้น
เวลาที่เหมาะสมในการทำบัตรประชาชน
ควรไปที่สำนักงานเขต หรือที่ว่าการอำเภอในช่วงเช้า เนื่องจากช่วงเวลานี้จะมีผู้ใช้บริการน้อยกว่าช่วงบ่ายหรือช่วงเย็น ทำให้ประหยัดเวลาในการรอคิว
การแต่งกายในการทำบัตรประชาชน
ควรแต่งกายสุภาพเรียบร้อย ไม่ควรใส่เสื้อแขนกุด หรือเสื้อที่เผยให้เห็นส่วนของร่างกายมากเกินไป เพราะเจ้าหน้าที่จะถ่ายรูปทันทีที่ทำบัตรเสร็จ
ขั้นตอนการทำบัตรประชาชน
การทำบัตรประชาชนมีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้:
- เตรียมเอกสารที่จำเป็นให้ครบถ้วน
- รับบัตรคิวที่สำนักงานเขตหรืออำเภอ
- รอเรียกคิวเพื่อยื่นเอกสารและตรวจสอบความถูกต้อง
- เจ้าหน้าที่จะบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล ถ่ายภาพ และเก็บลายนิ้วมือ
- รอรับบัตรประชาชนใบใหม่ (โดยปกติจะได้รับทันที)
ค่าใช้จ่ายในการทำบัตรประชาชน
- กรณีทำบัตรประชาชนครั้งแรกหรือบัตรหมดอายุ: ไม่มีค่าใช้จ่าย
- กรณีบัตรหายหรือชำรุด: มีค่าใช้จ่ายประมาณ 100 บาท
การทำบัตรประชาชนออนไลน์
ในปี 2025 หลายสำนักงานได้เพิ่มระบบการนัดหมายออนไลน์เพื่อความสะดวกสบายมากขึ้น โดยประชาชนสามารถจองคิวล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ของกรมการปกครองหรือแอปพลิเคชันที่กำหนดได้
คำถามที่พบบ่อยในการทำบัตรประชาชน
1. บัตรประชาชนหมดอายุนานแล้วทำใหม่ได้หรือไม่?
- สามารถทำใหม่ได้ แต่ต้องนำบัตรเก่าและเอกสารทะเบียนบ้านมาด้วย
2. หากลืมนำเอกสารสำคัญมาจะทำบัตรได้ไหม?
- จะไม่สามารถทำได้ เพราะเจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบเอกสารที่ถูกต้องเท่านั้น
3. หากชื่อในบัตรประชาชนสะกดผิดต้องทำอย่างไร?
- ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ให้แก้ไขทันที โดยเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น สูติบัตร หรือใบเปลี่ยนชื่อ
การเตรียมเอกสารให้พร้อมก่อนทำบัตรประชาชนในปี 2025 เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การดำเนินการราบรื่นและรวดเร็วมากขึ้น โดยเฉพาะการเตรียมเอกสารที่ถูกต้องครบถ้วน การนัดหมายล่วงหน้า และการแต่งกายที่เหมาะสม ก็จะช่วยประหยัดเวลาในการทำบัตรประชาชนได้เป็นอย่างดี
อัพเดทบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มิถุนายน 2568 เงินเข้าวันไหนบ้าง
เปิดเผยข้อมูลจากกรมบัญชีกลาง เกี่ยวกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 ในเดือนมิถุนายน ว่าจะมีการจ่ายเงินเข้าบัญชีผู้ที่ได้รับสิทธิวันไหนบ้าง และจ่ายเป็นค่าอะไรบ้าง ทางด้านรองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ได้ฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ได้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับโครงการลงทะเบีนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 ผู้ที่ได้รับสิทธิ สามารถใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบ Smart Card ในเดือนมกราคม 2568 สำหรับสิทธิต่างๆสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ด้านล่าง
1. มิถุนายน 2568 (วงเงินสิทธิ์ไม่สามารถถอนออกมาเป็นเงินสดได้)
- วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน
- วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาท ต่อคนต่อ 3 เดือน (เมษายน – มิถุนายน 2568)
- วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน ประกอบด้วย บขส. รถไฟ, ขสมก, รถไฟฟ้า และ รถโดยสารเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ
2. วันที่ 20 มิถุนายน 2568
- เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาท ต่อเดือน
- สำหรับผู้ที่มีสิทธิที่เป็นคนพิการ มีบัตรประจำตัวคนพิการ และ ได้รับเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน เงินช่วยเหลือจะถูกโอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลักของผู้ได้รับสิทธิ หรือ บัญชีเงินฝากธนาคาร ของผู้ที่มีสิทธิ
สำหรับประชาชนท่านไหนที่มีข้อสงสัย สามารถติดต่อสอบถามได้ด้วยตัวเองที่เบอร์ 02-109-2345 ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิแห่งรัฐ หรือติดต่อที่ Call Center กรมบัญชีกลาง ที่เบอร์ 02-270-6400 ในเวลาราชการ