เปิดรายละเอียดประกันสังคม 2568 เพิ่มสิทธิมากขึ้น

จากการตรวจสอบตัวเลขผู้ประกันตนในปี 2567 มีผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมกว่า 24.80 ล้านคน ประกอบไปด้วย มาตรา 33 จำนวน 12.07 ล้านคน และ มาตรา 39 จำนวน 1.72 ล้านคน มาตรา 40 จำนวน 11.01 ล้านคน ทางสำนักงานประกันสังคมได้แจ้งว่าการจ่ายสิทธิประโยชน์กองทุนประกันสังคมจะมีอยู่ 7 กรณีด้วยกัน ได้แก่ผู้ประกันตนไปแล้วคิดเป็นจำนวน 38.58 ล้าน คิดเป็นจำนวนเงิน 112,829.93 ล้านบาท สำหรับกองทุนเงินทดแทน คิดเป็นจำนวน 1,821.25 ล้านบาท รวมสิทธิประโยชน์จากทั้ง 2 กองทุน คิดเป็นจำนวน 114,651.18 ล้านบาท

กองทุนประกันสังคม มีเงินสมทบมากกว่า 2.6 ล้านล้านบาท และได้ผลตอบแทนจากเงินสะสมจากการลงทุนคิดเป็นจำนวน 989,740 ล้านบาทในปี 2567

ประกันสังคม 2568 เพิ่ม สิทธิ 4 สิทธิด้วยกัน

1. เพิ่มเงินสงเคราะห์บตรเพิ่มเป็น 1,000 บาท

ในปี 2568 ประกันสังคมได้มีการพิจารณาเพิ่มสิทธิสำหรับเงินสงเคราะห์บุตร จากการพิจารณาเพิ่มเติม ในส่วนนี้ให้กับผู้ประกันตน จะมีผลบังคับให้ใช้ทันทีตั้งแต่ 1 มกราคม 2568 และ ส่วนที่คณะกรรมการประกันสังคม หรือ บอร์ดประกันสังคมเห็นชอบแล้วรอออกประกาศ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ผู้ประกันตน มาตรา 33 และ มาตรา 39 ซึ่งมีบัตรตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึง 6 ปี จะได้รับเงินสงเคราะห์บัตร จาก 800 บาทเพิ่มเป็น 1,000 บาท ต่อเดือน ต่อบัตร 1 คน โดยให้สิทธิคราวละไม่เกิน 3 คน

ในกรณีผู้ประกันตน ทีได้รับเงินสงเคราะห์บัตรใหม่ จะต้องยื่นแบบคำขอกับทางสำนักงานประกันสังคมโดยสำนักงานจะต้องจ่ายเงินวงเคราะห์บัตรของเดือนมกราคม 2568 เป็นเงิน 1,000 บาทให้โดยอัตโนมัติ

2. มะเร็งรักษาทุกโรงพยาบาล ที่เอ็มโอยูประกันสังคม

เริ่มต้นตั้งแต่ 1 มกราคม 2568 สำหรับการรักษามะเร็ง สามารถรักษาได้ทุกโรงพยาบาล โดยผู้ประกันตน สามารถไปรักษาได้ที่โรงพยาบาลแห่งใดก็ได้ที่ได้ทำข้อตกลงระหว่างสำนักงานประกันสังคม แล้วประกันสังคมจะตามไปจ่าย ไม่ต้องรักษาเฉพาะแต่โรงพยาบาล ประกันสังคมตามสิทธิเท่านั้น ตามโครงการ SSO Cancer Care โดยสำนักงานประกันสังคม หรือ สปส. รักษาโรงมะเร็งที่มีคุณภาพสำหรับผู้ประกันตนแบบครงวงจร ตั้งแต่การตรวจวินิจฉัยจนถึงการรักษา

ปัจจุบันสามารถเข้ารับการรักษาได้ที่โรงพยาบาลใดก็ได้ ที่ทำข้อตกลงระหว่างประกันสังคม ซึ่งมีแล้วมากกว่า 50 โรงพยาบาล ที่เข้าร่วมข้อตกลงกับทางประกันสังคม รวมถึงการเพิ่มยามุ่งเป้าสำหรับมะเร็ง ถือว่าเป็นการเพิ่มการเข้าถึงการรักษาโรงมะเร็งของผู้ประกันตน ผู้ประกันตน สามารถตัดสินใจร่วมกับทางทีมแพทย์ที่ทำการรักษาในโรงพยาบาลตามสิทธิผู้ประกันตนหรือ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคม หรือ สาขา ทุกแห่งทั่วประเทศ สามารถโทรสายด่วนได้ที่เบอร์ 1506 กด 1 สำนักงานประกันสังคม

3. เพิ่มโรงพยาล ประกันสังคม 7 แห่ง

ในปี 2568 นี้ทางประกันสังคมได้มีการเพิ่มโรงพบาบาล ที่อยู่ในคู่สัญญาประกันสังคมถึง 7 แห่งด้วยกันเป็นโรงพบาบาลรัฐ 4 แห่ง และ โรงพยาบาลเอกชน 3 แห่ง สามารถดูเพิ่มเติมได้ด้านล่าง

  • โรงพยาบาล จุฬาภรณ์ จังหวัดกรุงเทพมหานคร
  • โรงพยาบาล กาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎ์ธานี
  • โรงพยาบาล ราชวิถี 2 รังสิต จังหวัด ปทุมธานี
  • โรงพยาบาล ผู้สูงอายุบางขุนเทียน จังหวัดกรุงเทพมหานคร
  • โรงพยาบาล พญาไทศรีราชา 2 จังหวัดชลบุรี
  • โรงพยาบาล วัฒนแพทย์สมุย จังหวัดสุราษร์ธานี
  • โรงพยาบาล ราชธานี หนองแค จังหวัดสระบุรี

จากการประกาศดังกล่าวทำให้ปัจจุบัน ประกันสังคมมีโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นทั้งหมดเป็น 271 แห่ง เป็นโรงพยาบาลรัฐ 174 แห่ง และ โรงพยาบาลเอกชน 97 แห่ง ผู้ประกันตนสามารถเปลี่ยนโรงพยาบาล และ สิทธิประกันสังคมได้ปีละ 1 ครั้ง และ ในปีนี้สามารถเลือกเปลี่ยนได้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2568

4. เงินทดแทนว่างงานขยับเป็น 60%

บอร์ดประกันสังคมได้ลงมติเห็นชอบในกรณีว่างงาน โดยเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2567 มีมติเห็นชอบแรวทางการปรับเพิ่มสิทธิประโยชน์ทดแทนในกรณีว่างงาน สำหรับการว่างงาน เพราะเหตุถูกเลิกจ้าง ให้มีสิทธิรับเงินทดแทนเป็น 60% ของค่าจ้างรายวัน เพิ่มขึ้นจากเดิม 50% ของค่าจ้างรายวัน

เล็งเพิ่มสิทธิทำฟัน ประกันสังคม

ในส่วนของสิทธิทำฟันประกันสังคม นั้นตอนนี้ผู้ประกันตนที่มีสิทธิทำฟันปีละ 900 บาท ทางด้านประกันสังคมแจ้งว่า จะมีการพิจารณาและมีความชัดเจนเกี่ยวกับ สิทธิประโยชน์ของสิทธิการทำฟันยกตัวอย่างเช่น รากฟันเทียม และ อื่นๆ รวมถึงกรณีที่ไม่ได้ใช้สิทธิก็สามารถเก็บสิทธินั้นไปใช้ในปีถัดไปได้ เป็นการรักษาสิทธิไว้ให้ผู้ประกันตน โดยจะเริ่มโครงการทดลองทำเป็น sandbox เพื่อดูผลที่เกิดขึ้น

สรุปในปี 2568 สำหรับสิทธิประโยชน์กรณีเจ็บป่วย ทางคณะกรรมการการแพทย์ กองทุนประกันสังคม เตรียมพร้อมเพื่อปรับสิทธิประโยชน์กรณีเจ็บป่วยให้รักษาได้รวดเร็ว และครอบคลุมทุกโรค เพื่อดูแลผู้ประกันตน รองรับเทคโนโลยีด้านการรักษา เช่น การผ่าตัดแผลขนาดเล็กผ่านกล้อง จำนวน 27 รายการ รวม 76 โรค และ รักษาได้ภายใน 28 วัน เพื่อเป็นการลดระยะการพักฟื้น ลดภาระค่าใช้จ่ายในการนอนพักรักษาตัว เพื่อให้ผู้ประกันตนสามารถกลับไปดำเนินชีวิตได้อย่างรวดเร็ว

 

 

 

เปิดรายละเอียดผู้มีสิทธิลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568

แจ้งอัพเดทความคืบหน้าล่าสุด สำหรับผู้ที่มีสิทธิลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 นี้ ทางกระทรวงการคลังได้ออกมาเปิดเผยว่า ได้มีการจัดเตรียมเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรายใหม่ ทางด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ระบุในที่ประชุมเกี่ยวกับคณะกรรมการประชารัฐสวัสดดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ได้หารือเกี่ยวกับเกณฑ์เปิดลงทะเบียน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ โดยเบี้องต้นจะทำการตรวจสอบสิทธิ 14.5 ล้านคน

สำหรับการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ในปี 2568 นั้นจากการกำหนด คาดว่าอาจจะมีประมาณ 10 ล้านคนเข้ามาลงทะเบียนใหม่ เป็นการประมาณการตัวเลขจากกลุ่มคนเช่นเด็กที่เติมโต ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และ กลุ่มที่เคยลงทะเบียนเอาไว้ แต่ไม่ได้รับสิทธิ โดยทั้งหมดจะต้องทำการตรวจสอบตามกลไก ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ อาจจะมีสูงถึง 25 ล้านคน

เกณฑ์การลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568

ทางด้านกระทรวงการคลังได้ออกมาเปิดเผยกระบวนการในการลงทะเบียนเบื้องต้น คาดว่าจะมีผู้ลงทะเบียนมากกว่า 25 ล้านคน ซึ่งจะถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มด้วยกัน

  1. กลุ่มเดิมคือผู้ที่มีสิทธิในปัจจุบันที่ผ่ารกระบวนการแล้วกว่า 14.5 ล้านคน
  2. กลุ่มใหมที่ประมาณการเอาไว้ที่ 10 ล้านคน

สำหรับกลุ่มใหม่ที่ยังไม่เคยได้รับสิทธิมาก่อน จะมาจากประชาชนที่มีอายุครบ 18 ปีเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา และกลุ่มที่เคยลงทะเบีนแต่ไม่ได้รับสิทธิประมาณ 4-5 ล้านคน และกลุ่มอื่น ที่คาดการณ์เอาไว้ว่ามีหลายล้านคนที่คาดว่าจะมาลงทะเบียน แต่ไม่ได้หมายความว่า การลงทะเบียนจะได้รับสิทธิทั้งหมด จะต้องมาตรวจสอบกลไกหลังจากนี้อีก

ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะต้องลงทะเบียนใหม่หรือไม่?

  • ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ สำหรับกลุ่มผู้ที่มีสิทธิเดิมจำนวน 14.5 ล้านคน ไม่จำเป็นจะต้องลงทะเบียนใหม่ รัฐบาลจะนำรายชื่อไปคัดกรองสิทธิให้อัตโนมัติ
  • กลุ่มผู้ที่ยังไม่เคยได้รับสิทธิ กลุ่มนี้จะต้องลงทะเบียนใหม่ โดยการลงทะเบียนจะเริ่มต้นขึ้นก่อนสิ้นเดือนมีนาคม 2568

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะแจ้งให้ศึกษาการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ” และ ขึ้นตอนการลงทะเบียน เพื่อที่จะอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน นอกจากนี้ยังได้มีคำสั่งให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. ได้ดำเนินการตรวจสอบทบทวนหลักเกณฑ์ทั้งแบบเก่า และ แบบใหม่ เพื่อให้ครอบคลุมกับการดำเนินการ และป้องกันไม่ให้คนจนไม่จริงเข้ามาสวมสิทธิ

หลักเกณ์รายได้ครัวเรือนยังอยู่คงเดิม ในขณะที่เกณฑ์เรื่องการถือครองที่ดิน จะทำให้สามารถตรวจสอบและใช้ได้จริง พร้อมกับการดูรายละเอียดในเรื่องสิททรัพย์การถือครองสลาก และ พันธบัตร

กำหนดการลงทะเบีนน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568

  • มกราคม 2568 เปิดให้ลงทะเบียนสำหรับผู้ถือบัตรเก่า และ ผู้สนใจรายใหม่
  • มีนาคม 2568 ประกาศผลการลงทะเบียน และ เปิดให้ยืนยันตัวตนเพื่อรับสิทธิ
  • เมษายน 2568 เริ่มใช้สิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่

เปิดเกณฑ์คุณสมบัตรผู้เข้าร่วมโครงการ เบื้องต้นคาดว่าจะยังไม่ได้เปลี่ยนจากเดิมตามรายละเอียดด้านล่าง

  • ลงทะเบียนรายบุคคล และ ตรวจสอบคุณสมบัติเป็นรายบุคคล และ ครอบครัว
  • ต้องเป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทย
  • มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป
  • มีรายได้คนละไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ภายในครอบครัว มีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี
  • ทรัพย์สินทางการเงินได้แก่ เงินฝากพันธบัตร, ตราสารหนี้ต่างๆ จะต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน และ ครอบครัวไม่เกิน 100,00 บาทต่อคนต่อปี เช่นเดียวกัน
  • ต้องไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือ ที่ดินที่เกินจากเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด
  • ไม่มีบัตรเครดิต
  • ไม่มีวงเงินกู้บ้านตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป
  • วงเงินกู้ซื้อรถตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป
  • ต้องไม่เป็นภิกษุ สามเณร ผู้ต้องขัง หรือ บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ ข้าราชการ พนักงานราชการ ผู้รับบำเหน็จรายเดือน ผู้รับบำนาญ ข้าราชการการเมือง รวมไปถึง สส. และ สว.

 

วันตรุษจีน 2568 วันไหว้ วันจ่าย วันเที่ยว ตรงกับวันไหน

เทศกาลตรุษจีนเป็นเทศกาลที่คนจีน และ คนไทยเชื้อสายจีนต่างก็ให้ความสำคัญ เนื่องจากเป็นเทศกาลที่สืบทอดกันมาหลายพันปี ในวันตรุษจีนนั้นคนจีน และ คนไทยเชื้อสายจีนส่วนใหญ่จะเลือกใส่เสื้อสีแดงเนื่องจากเป็นสีมงคลของคนจีนนั่นเอง สำหรับคำถามที่ถูกถามเข้ามาทุกๆปี สำหรับวันตรุษจีนนั้นมักจะถามกันว่า วันตรุษจีนปีนี้ตรงกับวันอะไร วันไหนที่เป็นวันจ่าย, วันไหว้ และ วันเที่ยว

วันตรุษจีนคืออะไร มีความสำคัญอย่างไร ?

วันตรุษจีน ถือว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ของคนจีน เป็นวันสำคัญที่มีมานานตั้งแต่ 4,000 ปีก่อน ในอดึตวันตรุษจีนถูกเรียกว่า วันชุงเจ๋ หมายถึงเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ เป็นเทศกาลที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองฤดูใบไม้ผลิ เนื่องจากช่วงก่อนหน้านั้นซึ่งเป็นช่วงปลายปีเมืองจีนจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะในช่วงฤดูหนาว ทำให้ไม่สามารถทำการเกษตรได้ และเมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ก็จะสามารถกลับมาทำการเพาะปลูกได้ตามปกติ ทำให้เกิดเทศกาลเฉลิมฉลองฤดูใบไม้ผลิขึ้น ชาวจีนเลยได้มีการกำหนดให้วันแรกของฤดูใบไม้ผลิของแต่ละปี เป็นวันสำคัญเรียกว่า “วันตรุษจีน”

10 อย่างที่ต้องรู้เกี่ยวกับวันตรุษจีน

  1. วันตรุษจีนถือเป็นเทศกาลปีใหม่ของคนจีน ตามธรรมเนียมประเพณีปฎิบัติ 3 วัน ได้แต่วันจ่าย, วันไหว้ และ วันเที่ยว
  2. วันจ่าย ภาษาจีนเรียกว่า “ตื่อเส็ก” เป็นวันก่อนสิ้นปี นิยมออกไปหาซื้ออาหาร, ผลไม้ และ เตรียมเครื่องเซ่นไหว้
  3. วันไหว้ หรือ วันสิ้นปีของชาวจีน เป็นการนำอาหาร, ผลไม้ และ เครื่องเซ่นไหว้ ไปขอพรกับเทพเจ้า และ บรรพบุรุษ
  4. วันเที่ยว ภาษาจีน เรียกวันนี้ว่า “วันชิวอิก” หรือวันขึ้นปีใหม่ เป็นวันสิริมงคล งดทำบาป, ไม่พูดจาไม่ดี, ไม่ทำความสะอาดบ้าน เป็นวันที่นิยมเดินทางท่องเที่ยวเป็นครอบครัว
  5. ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้ อั่งเปาตั่วตั่ว ไก๊ ภาษาจีนแปลว่า ปีใหม่นี้ ขอให้สมปรารถนา มีแต่ความสุข โชคดีร่ำรวยตลอดปี
  6. อั่งเป่า แปลความหมายตามภาษาจีนคำว่า อั่ง แปลว่าแดง คำว่าเปา แปลว่า ซอง รวมความหมายของคำว่า อั่งเปา แปลว่า ซองสีแดงไว้ใส่เงิน
  7. แต๊ะเอีย แปลเป็นไทยได้ว่า เงินที่อยู่ในซอง นิยมใส่กันเป็นเลขคู่ เพราะหมายถึงโชคทวีคูณนั่นเอง
  8. อาหารนำโชค เป็นมื้อสุดท้ายก่อนขึ้นปีใหม่ นิยมกินเกี้ยว เพื่อให้มั่งมีเงินทอง และ มื้อแรกของปีใหม่ นิยมกินเจ เพื่อที่จะได้บุญตลอดปี
  9. ผมไม้ต้องห้าม สำหรับวันตรุษจีน ก็คือผลไม้ที่มีสีดำ เนื่องจากเป็นผลไม้ที่สื่อถึงการไว้ทุกข์ ไม่เป็นมงคล
  10. เครื่องแต่งกาย ส่วนใหญ่จะเลือกใส่เสื้อผ้าสีสดใส โดยเฉพาะสีแดง ที่เป็นสีมงคล ไม่ควรใส่เสื้อสีเทา และ สีดำเนื่องจากไม่เป็นสิริมงคล

ตรุษจีน 2568 ตรงกับวันอะไร ?

วันตรุษจีน วันจ่าย 2568 ตรงกับวันที่ 27 มกราคม 2568

  • วันนี้คนจีน และ คนไทยเชื้อสายจีนจะออกไปซื้อของเพื่อมาเตรียมไว้เทพเจ้า, บรรพบุรุษ และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ โดยเน้นการเตรียมอาหาร, ผลไม้, เครื่องเซ่นไหว้ รวมถึงของใช้จำเป็นสำหรับครอบครัว

วันตรุษจีน วันไหว้ 2568 ตรงกับวันที่ 28 มกราคม 2568

  • วันไหว้ ถือว่าเป็นวันที่สำคัญที่สุดสำหรับวันตรุษจีน การไหว้จะเริ่มต้นจากการไหว้เทพเจ้า ตามด้วยการไหว้บรรพบุรุษ และ ผีไร้ญาติ ถือว่าเป็นวันสำคัญเนื่องจากเป็นการไหว้เพื่อขอบคุณเทพเจ้า, บรรพบุรุษที่คุ้มครอง และ เพื่อเป็นการขอพรให้ปีใหม่มีความสุข รำรวย สุขภาพแข็งแรงตลอดปี

วันตรุษจีน วันเที่ยว 2568 ตรงกับวันที่ 29 มกราคม 2568

  • วันเที่ยวถือว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ของคนจีน วันนี้คนจีน และ คนไทยเชื้อสายจีน จะเลือกใส่เสื้อผ้าที่มีสีสดใส ออกไปไหว้ขอพรจากญาติผู้ใหญ่ ส่วนใหญ่จะเลือกส้ม 4 ผลอวยพรผู้ใหญ่ และ ออกไปเที่ยวเพื่อพักผ่อน เป็นวันที่ต้องไม่พูดจาหยาบคาย

 

 

เปิดรายละเอียด วิธีขอสเตทเม้นของแต่ละธนาคาร

Statement คืออะไร

ปัจจุบันการทำธุรกรรมทางเงินต่างๆ หรือจะเป็นการสมัครบัตรเครดิตจากธนาคารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สมัครบัตร UOB, สมัครบัตร KTC, สมัครบัตรกสิกรไทย หรือจะเป็นการขอสินเชื่อต่างๆ ทางธนาคารจะทำการขอดูสเตทเม้น ย้อนหลังของผู้สมัคร เนื่องจากทางธนาคารจะต้องเช็คความสามารถในการชำระหนี้ หากต้องการจะกู้ยืมเงิน หรือ สมัครบัตรเครดิตต่างๆ นอกจากนี้การขอสเตทเม้น นั้นยังใช้สำหรับการขอวีซ่าเพื่อการเรียนต่อต่างประเทศ รวมไปถึงการสมัครงานบางแห่งด้วย

Statement คืออะไร?

สำหรับคำถามที่ว่า Statement คืออะไรนั้นในวงการการเงิน หรือ ธนาคาร คำๆนี้จะหมายถึงข้อมูลที่บันทึกการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคารนั่นเอง การขอดูรายละเอียดบัญชีธนาคารย้อนหลัง ไม่ว่าจะเป็นการฝากเงิน และ ถอนเงิน สามารถตรวจสอบได้ผ่าน Statement นั่นเอง ปกติแล้วหากคุณต้องการสมัครบัตรเครดิต ไม่ว่าจากธนาคารไหนก็ตาม ทางธนาคารจะขอดูสเตทเม้น จากบัญชีธนาคารของคุณย้อนหลัง 3 เดือน หรือ 6 เดือน และ 12 เดือน ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของธนาคารนั้นๆ

การขอดู Statement ย้อนหลัง

การขอดู Statement ย้อนหลังจากทางธนาคาร ถือว่ามีความสำคัญมากๆ เป็นตัวตัดสินได้เลยว่าคุณจะสมัครบัตรเครดิตผ่านหรือไม่ผ่าน หรือ กู้ผ่านหรือไม่ผ่าน เนื่องจากสเตทเม้น เป็นตัวชี้วัดว่าคุณมีศักยภาพในการผ่อนชำระคืนมากน้อยแค่ไหน ทางธนาคารเลยต้องการตรวจสอบความเคลื่อนไหวของบัญชีย้อนหลัง เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการยืนยันว่าเราสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายได้หรือไม่ ในส่วนของการขอ Statement เพื่อทำวีซ่าเพื่อไปเรียนต่อต่างประเทศ เนื่องจากจะต้องใช้เป็นหลักฐานว่าเราสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆได้ครอบคลุมตลอดระยะเวลาที่เราเรียนต่อหรือไม่

สมัครบัตรเครดิต จะต้องขอ Statement หรือไม่?

การสมัครบัตรเครดิตจากทางธนาคารต่างๆ เอกสารหลักที่ธนาคารจะขอดูเลยก็คือ Statement ของผู้ขอสมัครนั่นเอง เนื่องจากสเตทเม้น สามารถใช้เป็นหลักฐาน ว่าเรามีความสามารถพอที่จะจ่ายค่าบัตรเครดิต ในระยะเวลาที่ธนาคารกำหนด Statement เป็นเอกสารที่แสดงให้ธนาคารเห็นพฤติกรรมการใช้เงิน รวมไปถึงวินัยการใช้เงินของเราได้เป็นอย่างดี แม้แต่การสมัครงานบางแห่งที่เราขอเรียนเงินเดือนที่มากกว่าหรือเท่ากับเงินเดือนปัจจุบัน บริษัทเหล่านั้นอาจจะขอ Statement จากทางเราเพื่อเป็นการยืนยันว่าเราได้รับเงินเดือนตามที่แจ้งไปจริงๆ

ธนาคารกรุงเทพ

ธนาคารกรุงเทพ ลูกค้าสามารถขอสเตทเม้น ได้ผ่าน 2 ช่องทาง

  • ขอสเตทเม้นผ่านธนาคาร โดยการเดินทางไปที่ธนาคาร และ ทำการขอสเตทเม้น กับทางเจ้าหน้าที่โดยตรงเลย สำหรับเอกสารที่จำเป็นจะต้องใช้ก็คือ บัตรประจำตัวประชาชน, สมุดบัญชี สำหรับค่าธรรมเนียมในการขอสเตทเม้นไม่เกิน 6 เดือนจะไม่เสียค่าธรรมเนียม หากขอเกิน 6 เดือน หรือ 12 เดือน ธนาคารจะคิดค่าธรรมเนียม 200 บาท และ หากขอ 2 ปี จะเสียค่าธรรมเนียม 500 บาท
  • ขอสเตทเม้นผ่านช่องทางออนไลน์ สามารถขอสเตทเม้น ผ่าน Mobile Banking ผ่าน Application ของธนาคารกรุงเทพ

ธนาคารกรุงไทย

ธนาคารกรุงไทย สามารถขอ สเตทเม้นได้ผ่าน 2 ช่องทางด้วยกัน

  • สามารถขอสเตทเม้นผ่านสาขาของธนาคาร โดยนำบัตรประชาชน และ สมุดบัญชีไปเพื่อขอ สเตทเม้น สำหรับค่าธรรมเนียมในการขอ 3-6 เดือนจะเสียค่าธรรมเนียม 100 บท และ 6-12 เดือนจะเสียค่าธรรมเนียม 200 บาท หากขอ 2 ปี ขึ้นไป จะเสียค่าธรรมเนียม 500 บาท
  • ขอสเตทเม้นผ่านช่องทางออนไลน์ สามารถทำรายการได้ผ่าน Mobile Banking ผ่าน Application Krungthai NEXT ของธนาคากรุงไทย ไม่เสียค่าธรรมเนียมในการขอผ่านทางออนไลน์

ธนาคารกสิกรไทย

ธนาคารกสิกรไทย สามารถขอได้ 2 ช่องทาง

  • สามารถขอได้ผ่านทางธนาคาร โดยให้เตรียมสมุดบัญชี และ บัตรประจำตัวประชาชนไปเพื่อยื่นขอกับทางธนาคาร ค่าธรรมเนียมหากน้อยกว่า 6 เดือนจะเสียค่าธรรมเนียม 200 บาท หากขอ 6-24 เดือน จะเสียค่าธรรมเนียม 200 บาท และ หากขอมากกว่า 24 เดือนจะเสียค่าธรรมเนียม 500 บาท
  • การขอสเตทเม้นผ่านทางออนไลน์ของธนาคารกสิกรไทย สามารถขอได้ ผ่านทาง Mobile Banking บน Application K Plus ไม่เสียค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้น

ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB)

ธนาคาร TTB สามารถขอได้ผ่าน 2 ช่องทาง

  • ผ่านทางธนาคาร โดยผู้ขอจะต้องเตรียมสมุดบัญชี และ บัตรประชาชนไป ค่าธรรมเนียม 6 เดือน เสียค่าธรรมเนียม 100 บาท 6 เดือนขึ้นไป เสียค่าธรรมเนียม 200 บาท
  • ขอผ่านทางออนไลน์ สามารถขอได้ผ่าน Mobile Banking ผ่านแอป TTB Touch หากต้องการใช้ Application TTB Touch จะต้องทำการเปิดกับทางธนาคารการเริ่มต้นใช้งาน

ธนาคารไทยพาณิชย์

ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) สามารถขอได้ผ่าน 2 ช่องทาง

  • ผ่านทางธนาคาร โดยจะต้องเตรียมเองการบัตรประจำตัวประชาชน และ สมุดบัญชีธนาคารเพื่อขอสเตทเม้น หากขอ 6 เดือน จะเสียค่าธรรมเนียมประมาณ 100 บาท หากเกินกว่านั้น จะเสียค่าธรรมเนียมขึ้นอยู่แต่ละสาขา
  • ขอสเตทเม้นผ่านทางออนไลน์ สำหรับลูกค้าธนาคาร SCB สามารถขอผ่านช่องทางออนไลน์ผ่าน Mobile Banking บน Application SCB Easy โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม และ ยังสามารถขอได้ตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย

 

เปิดรายละเอียดและข้อกำหนด ยื่นภาษีออนไลน์ 2567

ยื่นภาษีออนไลน์ 2567

เข้าสู่ปีใหม่ในปี 2568 ซึ่งในช่วงต้นปีคนไทยส่วนใหญ่ที่ทำงานกินเงินเดือนก็จะเริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับ การยื่นภาษีกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากปัจจุบัน เราไม่จำเป็นต้องเดินทางไปยื่นภาษีที่สำนักงานกรมสรรพากรแล้ว เราสามารถทำการขอยื่นภาษีผ่านช่องทางออนไลน์ได้แล้ว สะดวกสบายและรวดเร็วมากๆ  การยื่นภาษีออนไลน์ในปี 2567 นั้นหลายคนยังมีคำถาม และยังไม่ค่อยทราบข้อมูลกันมากนัก ว่าสามารถยื่นได้ถึงเมื่อไหร่ และ ผู้ยื่นจะต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง สำหรับแนวทางสำหรับคนที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการยื่นภาษีอยู่ สามารถดูรายละเอียดข้อมูลได้ด้านล่าง

ยื่นภาษีออนไลน์คืออะไร

คำถามยอดฮิต สำหรับคำถามที่ว่า “ยื่นภาษีออนไลน์คืนอะไร” มนุษย์เงินเดือนหลายๆคนยังคงมีคำถามในหัวอยู่ว่า เราจำเป็นต้องยื่นภาษีรึเปล่า แล้วสามารถยื่นภาษีผ่านทางออนไลน์ได้หรือไม่ การยื่นภาษีออนไลน์ เป็นการส่งแบบการแสดงรายได้ และ รายการภาษี หรือ ภ.ง.ด. 90 หรือ ภ.ง.ด. 91 ผ่านทางเว็บไซต์ของกรมสรรพากร การยื่นภาษีออนไลน์ เป็นดการช่วยลดขั้นตอน และ ความยุ่งยากในการยื่นภาษี สำหรับผู้ที่มีรายได้ทุกคน สามารถทำการยื่นแบบภาษีผ่านทางออนไลน์จากที่บ้านได้ง่ายโดยที่ไม่ต้องไปยื่นที่สำนักงานสรรพากร

ยื่นภาษีออนไลน์ 2567 สามารถยื่นได้ถึงเมื่อไหร่?

การยื่นภาษีออนไลน์ 2567 ทางกรมสรรพากร เปิดให้ผู้ที่มีรายได้ สามารถยื่นแบบแสดงรายได้ และ การลดหย่อนภาษีได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2568 และในส่วนของช่องทางออนไลน์ สามารถส่งแบบได้ถึงสัปดหา์แรกของเดือนเมษายน 2568 ไปจนถึงวันที่ 8 เมษายน 2568

เอกสารที่ต้องใช้ สำหรับการยื่นภาษีออนไลน์

  • รวบรวมเอกสารที่เกี่ยวกับรายได้ และ การลดหย่อนภาษีเช่น หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่ จ่าย หรือ 50 ทวิ
  • เอกสารรายได้จากแหล่งอื่น
  • เอกสารลดหย่อยภาษี เช่น เบี้ยประกันชีวิต, กองทุนรวมเพื่อการออม หรือ SSF ค่าลดหย่อนบุตร

เว็บไซต์ยื่นภาษีออนไลน์ กรมสรรพากร

  • เข้าไปที่เว็บไซต์ www.rd.go.th และทำการเลือกเมนู ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ บุคคลธรรมดา หรือ E-Filing

การลงทะเบียน เข้าสู่ระบบ

  • หากผู้เสียภาษียังไม่เคยมีบัญชีกับทางกรมสรรพากร สามารถลงทะเบียนได้ง่ายๆ โดยใช้บัตรประจำตัวประชาชน

ภาษีที่สามารถยื่นได้แบ่งออกเป็น 2 ประเภท

  • ภ.ง.ด. 90 สำหรับผู้ที่มีรายได้หลายประเภท ยกตัวอย่างเช่น ค่าจ้าง, ค่าธรรมเนียม และ รายได้จากการขายทรัพย์สิน
  • ภ.ง.ด. 91 สำหรับผู้ที่มีรายได้จากเงินเดือนอย่างเดียว

กรอกข้อมูลรายได้ และ ค่าลดหย่อนภาษี 

  • หลังจากเลือกแบบภาษีแล้ว ทำให้การกรอกข้อมูลตามเอกสารที่เตรียมเอาไว้ ยกตัวอย่างเช่น รายได้ประจำปี และ ข้อมูลค่าลดหย่อนภาษี

ตรวจสอบความถูกต้อง และ คำนวณภาษี

  • ระบบจะทำการตรวจสอบข้อมูล และคำนวณภาษีที่ต้องชำระ
  • ผู้เสียภาษี สามารถทำการชำระภาษีผ่าน Mobile Banking
  • การขอคืนภาษี ให้ทำการระบุบัญชีธนาคารเพื่อขอรับเงินคืน

หนังสือรับรองการหัก ณ ที่ จ่าย หรือ 50 ทวิ

  • หนังสือรับรองนี้ สำหรับพนักงาน ประจำ หรือ ลูกจ้าง

รายการสำหรับการลดหย่อนภาษี

  • เบี้ยประกันชีวิต หรือ เบี้ยประกันสุขภาพ
  • กองทุน SSF หรือ RMF
  • ค่าเลี้ยงดูบิดา มารดา
  • ดอกเบี้ย เงินกู้ยืม เพื่อที่อยู่อาศัย

ระยะเวลาในการขอคืนภาษี 

หากมีการหักภาษีเกิน ทางระบบ จะทำการคืนเงินให้ผ่านบัญชีที่กรอกภายในระยะเวลา 30 วันหลังจากยื่นแบบ ถ้าหากผู้เสียภาษีมีข้อสงสัย สามารถติดต่อไปยัง Call Center หรือที่เบอร์ 1161 สำนักงานสรรพากร

 

 

เปิดรายละเอียดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มกราคม 2568

เดือนมกราคมถือว่าเป็นอีกหนึ่งเดือนที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญเกี่ยวกับมาตรการ ที่ถูกปล่อยออกมาเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนคนไทย และ หนึ่งในมาตรการที่หลายๆคนรอคอยอยู่นั่นก็คือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งตอนนี้มีคนไทยที่มีสิทธิ์และถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีคำถามออกมาว่าเดือนมกราคม 2568 สามารถรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อใช้จ่ายได้กี่บาท?

ล่าสุดทางกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลังได้ออกมาเปิดเผย ถึงการโอนเงินให้กับผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถใช้จ่ายซื้อของ และ ได้รับส่วนลดสำหรับการซื้อก๊าซหุงตุ้ม พร้อมค่าเดินทางขนส่งสาธารณะ ใครที่ได้รับสิทธิบ้าง สามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ด้านล่าง

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจนในเดือนมกราคม 2568 ทางรัฐบาลได้โอนให้กับผู้ที่ถือบัตรแล้ว เพื่อนำไปซื้อสินค้า และ เพื่อรับส่วนลดสำหรับซื้อก๊าซหุงตั้มพร้อมกับค่าเดินทาง รถขนส่งสาธารณะ เช่น บขส., รถไฟ ขสมก., รถไฟฟ้า

วันที่ 1 มกราคม 2568 บัตรสวัสดิการแห่งรัฐโอนแล้ว ใช้จ่ายอะไรได้บ้างเช็คเลย

  • รับวงเงินซื้สินค้า 300 บาท ต่อคนต่อเดือน
  • รับวงเงินส่วนลดซื้อก๊าซหุงคุ้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน
  • วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบ สาธารณะ 750 บาท ต่อคนต่อเดือน

วันที่ 20 มกราคม 2568 ใครได้รับเงินบ้าง

วันที่ 20 มกราคม 2568 กรมบัญชีกลางจะทำการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผู้ถือบัตรทำการผูกกับพร้อมเพย์ ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ของผู้ที่มีสิทธิ หรือ บัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ที่มีสิทธิ หรือ ผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่สามารถกดนำมาเป็นเงินได้ได้นั้น มีวงเงิน 2 รูปแบบด้วยกันได้แต่ เบี้ยผู้พิการเพิ่มเติม และ เงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย

  • ผู้พิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
  • มีบัตรประจำตัวคนพิการ
  • ได้รับสิทธิสวัสดิการรอบใหม่
  • ต้องทำการยืนยันตัวตนกับธนาคารกรุงไทย, ธนาคารออมสิน หรือ ธนาคารเพื่อการเกษตร และ สหกรณ์การเกษตรก่อน ถึงจะได้รับสิทธิ

เปิดช่องทางการติดต่อเพื่อสอบถามรายละเอียดบัตรคนจน 2568

  • ติดต่อได้ที่ Call Center ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 02-109-2345
  • ติดต่อได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง 02-270-6400 ในวันและเวลาราชการ

ครม. อนุมัติ Easy E-Receipt 2.0 ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 5 หมื่นบาท

หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้มีการประชุม ครม. เกี่ยวกับนโยบายกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยได้มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังได้เสนอมาเกี่ยวกับมาตรการต่างๆ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม้ 2568 และหนึ่งในมาตรการที่ถูกนำมาเป็นของขวัญปีใหม่นั่นก็คือมาตรการลดหย่อนภาษี หรือ Easy E-Receipt 2.0 เป็นมาตรการที่ออกมาเพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของประชาชน หรือที่เรียกกันว่า Easy E-Receipt 2.0 นั่นเอง

ประชาชนที่อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องชำระภาษี เพื่อนำไปจับจ่ายใช้สอยนั่น ทางร้านค้าที่ออกใบกำกับภาษี หรือ ใบรับในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ E-Tax Invoice & E-Receipt ด้วยวงเงิน 50,000 บาท เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2568 ไปจนถึง กุมภาพันธ์ 2568 โดยประชาชนที่ต้องการลดหย่อนภาษีสามารถนำใบกำกับภาษีไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปีภาษี 2568

หลักเกณฑ์และเงื่อนไข มาตรการ Easy E-Receipt

  1. สำหรับใช้จ่ายสินค้าทั่วไป โดยกำหนดเงินลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30,000 บาท
  2. สำหรับการใช้จ่ายร้านวิสาหกิจ ชุมชน SME และ ร้านค้า OTOP ลดหย่อนภาษีได้ตั้งแต่ 20,000 บาทไปจนถึง 50,000 บาท

ทางด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับโครงการ Easy E-Receipt ในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ร้านค้าที่เข้ามาอยู่ในระบบภาษีเพิ่มขึ้น 20% ทั้งนี้วิสาหกิจชุมชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถทำการลงทะเบียนเข้าระบบภาษีมูลค่าเพิ่มได้ โดยระยะเวลาในการลงทะเบียนจะเปิดให้เพียง 1 สัปดาห์ ทางกระทรวงการคลังได้ออกมาตรการดังกล่าว ว่าจะทำให้ช่วยกระตุ้นเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 70,000 ล้านบาท และทำให้รัฐสูญเสียการจัดเก็บรายได้ประมาณ 10,000 ล้านบาท

เปิดรายละเอียดค่าสินค้า หรือ บริการ ที่สามารถหักลดหย่อนภาษีได้ไม่รวมถึง

  • ค่าซื้อสุรา, เบียร์ และ ไวน์
  • ค่ายาสูบ
  • ค่าซื้อรถยนต์, รถจัรกรยานยนต์ หรือ เรือ
  • ค่าน้ำมันและก๊าซ, ค่าบริการประจุไฟฟ้า สำหรับเติมยานพาหนะ
  • ค่าสาธารณูปโภค, ค่าน้ำประปา, ค่าไฟฟ้า, ค่าบริการสัญญาญโทรศัพท์, ค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต, ค่าบริการสำหรับบริการที่มีข้อตกลงในระยะยาว ที่เริ่มต้นก่อนวันที่ 15 มกราคม 2568 หรือ สินค้าหลังวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 แม้ว่าจะจ่ายค่าบริการระหว่างวันที่ 15 มกราคม 2568 ไปจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 ก็ตาม
  • ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย โดยหลักเกณฑ์ วิธีการ และ เงื่อนไขๆ เป็นไปตามที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด

 

ของขวัญจับฉลากขึ้นต้นด้วย ง งู ปี 2568

ช่วงเวลาแห่งความสุขใกล้จะมาถึงเข้าไปทุกที ตอนนี้บริษัทหลายๆบริษัท ให้พนักงานหยุดยา่วกันแล้ว แต่ก็มีอีกหลายๆบริษัทที่กำลังจัดงานปีใหม่แจกโบนัส แจกของขวัญให้กับพนักงาน ไฮไลท์สำคัญๆของบริษัท และ ครอบครัวของทุกๆปีก็หนีไม่พ้น การจับฉลากในช่วงปีใหม่ของทุกนั่นเอง ส่วนใหญ่แล้วจะช่วงปลายเดือนธันวาคม ไปจนถึงเดือนมกราคมปีใหม่ แต่บางบริษัทที่มีเชื้อสายจีน ก็จะจัดรวบด้วยในช่วงตรุษจีนเลย

ใครที่กำลังมองหาของขวัญเพื่อจับฉลากในช่วงปีใหม่อยู่แล้วหละก็ เทรนด์การจับของขวัญปีใหม่ในปีนี้ก็หนีไม่พ้น ของขวัญจับฉลากที่ขึ้นต้นด้วย ง งู นั่นเองเหตุผลที่ของขวัญต้องขึ้นต้นด้วย ง งู ก็เพราะว่าปี 2568 เป็นปีงูนั่นเอง ทำให้ปีนี้มีเทรนด์การหาของขวัญที่ต้องขึ้นต้นด้วย ง งู สำหรับใครที่กำลังหาไอเดียของขวัญ จับฉลากที่ขึ้นต้นด้วย ง งูอยู่แล้วหละก็ วันนี้ทาง CreditCardTH มีของขวัญที่ขึ้นต้นด้วย ง งู ในราคาสบายๆกระเป๋า มาแนะนำให้คุณไปเลือกซื้อมาจับฉลากกันได้ ในราคาเบาๆ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถดูได้ด้านล่าง

ของขวัญจับฉลากขึ้นต้นด้วย ง งู 2568

  • งู: หาของขวัญอะไรก็ได้ที่เป็น งู ยกตัวอย่างเช่น งูปลอม, ตุ๊กตางู, เครื่องประดับที่มีงู, เคสมือถือลายงู, เสื้อผ้าลายงู, หรือผลิตภัณฑ์ที่มีแบรนด์ หรือ รูป งู เช่น แป้งตรางู, BVLGARI เครื่องประดับงู, กาแฟโบราณ ตรางูเห่า, ปูนซีเมนต์ตรางูเห่า, ถังปูนใส่น้ำ ตรางู ฯลฯ
  • เงิน: เงิน หรือ สิ่งที่ทุกคนในสังคมยอมรับกันโดยทั่วไป ในการใช้เป็นสื่อกลาง สำหรับการแลกเปลี่ยนและยังเป็นเครื่องใช้ชีวัดมูลค่าของสินค้า หรือ บริการ ความไปถึงใช้เพื่อการชำระหนี้ สำหรับ เงิน เป็นของขวัญอีกหนึ่งอย่างที่ใช้ อักษร ง งู ขึ้นต้น และ สามารถนำมาจับฉลากได้
  • เงาะกระป๋อง: สำหรับใครที่หาของขวัญตัวอักษร ที่ขึ้นต้นด้วย ง งูไม่ทัน แนะนำเข้า 7-11 หาซื้อเงาะกระป๋องมาจับฉลากได้เลย เป็นของขวัญที่หาได้ง่ายที่สุด เพราะว่ามีขายในร้านสะดวกซื้อแทบจะทุกที่ทั่วประเทศไทย
  • งา: วัตถุดิบที่ใช้เพื่อปรุงอาหาร ชื่อภาษาอังกฤษคือ Sesame สามารถซื้องา เพื่อนำมาจับฉลากได้ หรือจะหาซื้อขนม ที่มีส่วนผสมของงามาจับฉลากได้เช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น ขนมงาขาว, ขนมงาทอด, ขนมคอเป็ด, ขนมงาอ่อน, ขนมงาดำ ฯลฯ
  • เงือก: สำหรับบ้านไหนที่มีเด็กๆ การหาตุ๊กตาเงือก หรือ ตุ๊กตา Ariel นำมาจับฉลากถือว่าเป็นความคิดที่ดีมากๆ เนื่องจากเป็นเจ้าหญิงจาก Disney แล้วยังเป็นตัวเลือกที่เด็กๆชอบอีกด้วยสำหรับ Ariel เป็นเจ้าหญิงเงือกที่อยู่ในจักรวาลดิสนีย์ หาซื้อได้ไม่ยากมากนัก

ของขวัญที่ขึ้นต้นด้วย ง งู ด้านบนเป็นแค่ไอเดีย เบื้องต้น สำหรับใครที่มีไอเดียที่แปลกใหม่ๆกว่าด้านบน สามารถแชร์มาให้ฟังกันได้ สำหรับปีใหม่ 2568 เป็นปีงู ซึ่งหลายๆบ้าน หรือ หลายๆบริษัท อาจจะนำข้อกำหนดในการจับฉลาก ยกตัวอย่างเช่น “หาของขวัญ ที่ขึ้นต้นด้วย ง งู” มาจับฉลากด้วยงบตามที่กำหนด เพื่อความสนุก และ ความบันเทิง แถมยังแฝงไปด้วยความน่าตื่นเต้นก็ได้นะ

 

อัพเดทบัตรเครดิต UOB 2568 เลือกแบบไหนดี

สมัครบัตรเครดิต UOB ออนไลน์

เลือกสมัครบัตรเครดิต UOB ในปี 2568 หลายคนอาจจะมีคำถามว่าเลือกสมัครบัตรใบไหนดี ก่อนอื่นเลยต้องมีเช็คการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของคุณก่อนเป็นอันดับแรกเลยว่า การใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของคุณหนักไปทางไหน ไม่ว่าจะเป็นการสมัครบัตรเครดิตเพื่อนำไปใช้ซื้อสินค้า หรือ บริการ หรือจะเป็นการใช้จ่ายเพื่อสะสมไมล์ เพื่อนำไปแลกตั๋วเครื่องบินเป็นต้น

คนไทยหลายๆคนที่กำลังวางแผนจะสมัครบัตรเครดิตอยู่ในปี 2568 เลยมีคำถามว่า การเลือกสมัครบัตรเครดิต UOB ในปี 2568 ควรจะเลือกสมัครบัตรใบไหนดี แล้วบัตรใบไหนที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ วันนี้เราไปอัพเดทด้านล่างกันว่าบัตร UOB มีประเภทไหนบ้าง ที่เหมาะกับคุณสำหรับการสมัครบัตรล่าสุด

ทำไมถึงเลือกสมัครบัตรเครดิต UOB?

ก่อนจะไปลงรายละเอียดประเภทบัตรเครดิต UOB ว่ามีกี่ประเภทให้เราสมัคร ให้คุณลองไปเช็คตัวเองก่อนว่าทำไมคุณถึงเลือกสมัครบัตรเครดิตกับทางธนาคาร UOB ซึ่งสาเหตุที่คนไทยส่วนใหญ่เลือกสมัครบัตรเครดิต UOB ก็เพราะการบริการ และ จุดประสงค์ในการใช้จ่ายบัตรเครดิตเครดิต ไม่ว่าจะเป็นการรูดซื้นสินค้า หรือ บริการ หรือ ผ่อนสินค้า ผู้ที่ถือบัตร UOB จะได้รับสิทธิ์พิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเครดิตเงินคืน หรือ ที่เราเรียกว่า Cash Back ซึ่งบัตรเครดิต UOB เป็นบัตรเครดิตประเภทเดียวที่มอบ Cash Back ให้กับผู้ถือบัตรสูงถึง 15% นอกจากมีบัตร Cash Back ให้เราใช้จ่ายเพื่อได้รับเงินคืนแล้วยังมีบัตรที่ใช้จ่ายเพื่อสะสมไมล์ด้วยนะอย่างบัตร UOB Privimiles หากใช้จ่ายผ่านบัตรใบนี้แล้ว จะได้รับคะแนนสะสมเพื่อนำไปแลกตั๋วเครื่องบินเป็นต้น

4 บัตร UOB น่าสมัคร 2568

อัพเดทบัตร UOB น่าสมัคร 2568 มีแบบไหนบ้าง แล้วบัตรเครดิต UOB แบบไหนที่เหมาะกับคุณ

UOB Premier

  • บัตรเครดิต UOB Premier เป็นบัตรที่จะทำให้การช้อปปิ้งของคุณเหนือระดับขึ้นไปอีก ด้วยสิทธิพิเศษต่างๆ ที่สามารถเติมเต็มกับทุกไลฟ์สไตล์การใช้จ่าย
  • จุดเด่นบัตร UOB Premier
  • สามารถแลกรับเครดิตเงินคืนได้สูงสุด 15% และ ทุกๆการใช้จ่ายที่ Supermarket ที่ร่วมรายการจะได้รับเครดิตเงินคืน 5%
  • ได้รับคะแนน UOB Reward Plus 4 เท่าเมื่อใช้จ่ายที่ห้างสรรพสินค้าที่เข้าร่วมรายการ
  • รับคะแนนสะสม UOB Reward Plus 2 เท่าเมื่อใช้จ่ายในสกุลเงินต่างประเทศ
  • คุ้มสุดๆ รับเครื่องดื่มฟรีที่ร้านค้า และ ร้านอาหารชั้นนำ ที่เข้าร่วมรายการ ทุกเดือน (แนะนำให้ไปต่อคิวรับเครื่องดื่มฟรี ทุกวันที่ 1 ของเดือน เพราะว่าหากไปต่อวันที่ 2 ของเดือนสิทธิ์อาจจะหมด)
  • พิเศษ สามารถเข้ารับบริการห้องรับรองพิเศษ ที่สถานบินสุวรรณภูมิ และ สนามบินกว่า 1,300 แห่งทั่วโลก
  • บริการเลขาส่วนตัว และ หากมีเหตุฉุกเฉินสามารถติดต่อเพื่อขอรับความช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนได้ฟรี
  • สามารถเลือกผ่อน 0% ได้นานสูงสุด 3 เดือน

บัตร UOB Premier ไม่แนะนำให้ใครสมัคร?

บัตร UOB Primer ไม่แนะนำให้เด็กจบใหม่สมัครเนื่องจากว่าบัตร UOB Primer จะต้องมีเงินเดือนขั้นต่ำ 30,000 บาทถึงจะสมัครได้ และถึงแม้จะฟรีค่าธรรมเนียมรายปี แต่ปีถัดไปต้องจ่ายค่าธรรมเนียมอยู่ดี

UOB Privimiles

  • บัตรเครดิต UOB Privimiles เป็นบัตรเครดิตที่เหนือกว่าทุกระดับสำหรับผู้ที่รักในการเดินทางท่องเที่ยว เนื่องจากบัตรเครดิตใบนี้ สามารถใช้จ่ายเพื่อสะสมไมล์ แล้วนำไมล์ไปแลกตั๋วเครื่องบินได้ฟรีๆอีกด้วย
  • ทุกๆการใช้จ่าย 15 บาท รับคะแนนสะสม 1 คะแนน
  • ทุกๆ 1.2 คะแนน จะเท่ากับ 1 ไมล์ ซึ่งผู้ถือบัตรสามารถคะแนนไปแลกเปลี่ยนเป็นตั๋วเครื่องบินการสายการบินชั้นนำ
  • ทุกๆ 1 คะแนน จะเท่ากับ 1 คะแนนของ Big Point AirAsia
  • แลกคะแนนคุ้มๆ เปลี่ยนเที่ยวบิน, แพ็คเกจทัวร์, โรงแรม, รถเช่า หรือ แลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15%
  • เพิ่มความอุ่นใจให้กับคุณผ่านประกันการเดินทางโดยคุ้มครองสูงสุด 20 ล้านบาท
  • มีบริการห้องรับรองพิเศษ Royal Silk Lounge ที่สถานบินสุวรรณภูมิสามารถใช้ได้สูงสุด 2 ครั้งต่อปี

บัตร UOB Privimiles ไม่เหมาะกับใคร?

บัตร UOB Privimile ไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบเดินทาง  แถมข้อกำหนดของการสมัครบัตรค่อนข้างสูง โดยจะต้องมีเงินเดือนขั้นต่ำ 70,000 บาท

UOB Preferred

  • บัตรเครดิตที่ตอบทุกโจทย์ของสายช้อปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้า รับเครดิตเงินคืนได้สูงสุดถึง 2,000 บาท สำหรับผู้สมัครใหม่ และ รับเครดิตเงินคืน สูงสุด 15%
  • รับคะแนนสะสม The 1 เพิ่ม 2 คะแนน เมื่อมีการใช้จ่ายทุกๆ 25 บาท ในทุกยอดการใช้จ่ายผ่านบัตร
  • รับคะแนนสะสม UOB Reward Plus ได้ทุกๆยอดการใช้จ่ายผ่านบัตร
  • ได้ฟรี ประกันการเดินทาง และ บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน และ บริการเลขาส่วนตัวได้ 24 ชั่วโมง

บัตร UOB Preferred เหมาะสำหรับบัตรที่ชอปช้อปปิ้งสินค้าหรือบริการผ่านห้างสรรพสินค้า

UOB Yolo Platinum

  • บัตรเครดิต UOB Yolo เป็นบัตรที่จะช่วยให้คุณประหยัดมากขึ้นหากคุณซื้อสินค้าจากร้านค้าชั้นนำ
  • รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15% เมื่อใช้จ่ายบริการที่ร่วมรายการ เช่นค่าบริการการเดินทางผ่าน รถไฟฟ้า BTS, รถไฟใต้ดิน MRT, 7-11,  Boots, Watson, Matsumoto, Burger King, Shopee, Grab
  • รับเครดิตเงินคืน 1% ทุกๆยอดการใช้จ่าย
  • รับเพิ่มอีกต่อเมื่อซื้อบัตรชมภาพยนต์ SF แบบ 1 ฟรี 1
  • ให้คุณสามารถแบ่งชำระได้ 0% นานสูงสุด 3 เดือน

บัตร UOB Yolo Platinum เหมาะกับเด็กจบใหม่ที่มีเงินเดือนขั้นต่ำ 15,000 บาท หรือ เด็กจบใหม่ที่ไม่ชอบพกเงินสดติดตัว และ ชอบใช้จ่ายผ่านบัตรดิต บัตรเครดิต UOB Yolo Platinum สามารถใช้จ่ายได้ทุกรายการ

สมัครบัตรเครดิต UOB ออนไลน์ รับสิทธิพิเศษที่นี่

 

เงินดิจิทัล 10,000 บาท ตรวจสอบรายชื่อผ่านเว็บไซต์ได้แล้ววันนี้

เว็บไซต์ govwelfare.cgd.go.th เป็นเว็บไซต์ที่ประชาชนสามารถเข้าไปเช็ครายชื่อผู้ที่ได้รับเงินโอนการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท จากทางรัฐบาล ทางกรมบัญชีกลางได้ออกมาแจ้งให้ตรวจสอบรายชื่อ รับเงินดิจิทัลเฟส 2 และ 3 ในวันตรุษจีน 2568 ตามรายละเอียดขึ้นตอนด้านล่าง

เงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่กำลังจะถูกแจกในปี 2568 โดยทางกระทรวงการคลัง ได้ออกมาแจ้งผ่านกรมบัญชีกลางว่าพร้อมแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทเฟส 2 สำหรับผู้สูงอายุ โดยทางนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้ออกมาประกาศเกี่ยวกับแผนการดำเนินงานของทางรัฐบาลรอบ 3 เดือน ภายใตัชื่อ 2568 โอกาสไทย ทำได้จริง และ การมอบนโยบาบการบริหารราชการแผ่นดิน

ทางนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาเปิดเผยถึงความคืบหน้า เกี่ยวกับโครงการตระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2567 การแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ได้ออกมาระบุว่า กำลังดำเนินโครงการ 10,000 บาท เพื่อฟื้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 โดยเงินสดจะถึงมือผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ประมาณ 4 ล้านคน ไม่เกินตรุษจีน 2568 นี้ โดยวันตรุษจีน 2568 จะตรงกับวันที่ 29 มกราคม 2568 จากการประเมินจะใช้วงเงินประมาณ 40,000 ล้านบาท สำหรับโครงการนี้

ทางกรมบัญชีได้ออกมาแจ้งการเปิดระบบ govwelfare.cgd.go.th เพื่อให้ผู้ที่ได้รับสิทธิโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2567 ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และ คนพิการไปก่อนหน้านี้ เพราะฉะนั้นการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทเฟส 2 สำหรับผู้สูงอายุ สามารถเข้าไปตรวจสอบเว็บไซต์ govwelfare.cgd.go.th ได้ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม 2568 ทางกระทรวงการคลัง ได้มีการเตรียมเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรี ให้มีการพิจารณาภายในสัปดาห์หน้า หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง กรมบัญชีกลาง จะทำการจ่ายเงินเป็นเงินสด

เปิดเงื่อนไข ผู้ที่ได้รับสิทธิแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 2 สำหรับผู้สูงอายุ ตามรายละเอียดด้านล่าง

  • กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป แต่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเฟสแรก
  • จำนวนทั้งหมด 4 ล้านคน
  • แจกเป็นเงินสดจำนวน 10,000 บาท
  • ใช้งบประมาณทั้งหมด 40,000 ล้านบาท
  • เป็นผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนร่วมโครงการผ่อนแอปพลิเคชั่นทางรัฐบาล ในช่วงที่เปิดให้ลงทะเบียนแล้ว
  • ผ่านการตรวจสอบสิทธิ์ และผ่านกระบวนการ KYC แล้ว

ขั้นตอนในการเช็คเงินดิจิทัล 10,000 เฟส 2 และ เฟส 3

  • เข้าไปที่เว็บไซต์ govwelfare.cgd.go.th
  • กรอกเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก
  • คลิกที่ปุ่มตรวจสอบ

แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 โอนเงินจ่ายผ่านแอปทางรัฐ

โครงการแจกเงินดิจิทัล เฟส 3 จะเป็นการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตผ่านโครงการเติมเงินในกระเป๋า 10,000 ซึ่งเฟส 3 ทางกรมบัญชีกลาง จะไม่แจกเป็นเงินสดผ่านทางพร้อมเพย์ที่ผูกบัตรประชาชน  แต่จะเป็นการจ่ายผ่านดิจิทัลวอลเล็ต (Digital Wallet) เพราะเราต้องใช้เอไอเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือเพื่อเชื่อมรัฐบาลกับประชาชน