รีวิว สมัครบัตรเครดิตไม่ผ่านต้องรอนานขนาดไหน พร้อมคำแนะนำให้ผ่านรอบหน้า
หลายคนที่เคยสมัครบัตรเครดิตแล้วไม่ผ่าน อาจสงสัยว่าต้องรอนานแค่ไหนถึงจะสามารถสมัครใหม่ได้ และจะมีวิธีการอย่างไรให้มีโอกาสอนุมัติในครั้งถัดไป ในบทความนี้เราจะพาคุณมาทำความเข้าใจว่าเหตุใดการสมัครบัตรเครดิตของคุณถึงไม่ผ่าน และจะต้องรอเวลากี่เดือนก่อนจะลองสมัครใหม่
ทำไมการสมัครบัตรเครดิตถึงไม่ผ่าน?
การสมัครบัตรเครดิตอาจถูกปฏิเสธด้วยเหตุผลหลายประการ ซึ่งหลักๆ มีดังนี้:
- ประวัติเครดิตไม่ดี – หากเคยมีประวัติการค้างชำระหรือติดเครดิตบูโร โอกาสที่ธนาคารจะอนุมัติบัตรเครดิตจะน้อยลง
- รายได้ไม่ถึงเกณฑ์ – แต่ละธนาคารมีเกณฑ์รายได้ขั้นต่ำที่แตกต่างกัน หากรายได้ของคุณต่ำกว่าที่กำหนดก็อาจถูกปฏิเสธ
- หนี้สินมากเกินไป – หากภาระหนี้สูงเกินไปเมื่อเทียบกับรายได้ ธนาคารอาจมองว่าคุณมีความเสี่ยงทางการเงิน
- ไม่มีประวัติเครดิต – ผู้ที่ไม่มีประวัติสินเชื่อเลย (เช่น คนที่ไม่เคยกู้เงินหรือใช้บัตรเครดิตมาก่อน) อาจถูกมองว่ามีความเสี่ยงสูง
- เอกสารไม่ครบถ้วนหรือข้อมูลผิดพลาด – ข้อมูลที่ให้กับธนาคารไม่ครบถ้วน หรือมีความผิดพลาด อาจทำให้ถูกปฏิเสธได้
สมัครบัตรเครดิตไม่ผ่าน ต้องรอกี่เดือนก่อนสมัครใหม่?
ระยะเวลาที่ต้องรอขึ้นอยู่กับธนาคารและเหตุผลที่ทำให้การสมัครถูกปฏิเสธ โดยทั่วไปแล้ว:
- ขั้นต่ำ 3 เดือน – หากไม่มีปัญหาเครดิตบูโรหรือหนี้สินมากเกินไป การรอประมาณ 3 เดือนอาจเพียงพอ
- 6 เดือนขึ้นไป – หากมีปัญหาหนี้สินหรือคะแนนเครดิตต่ำ อาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือนขึ้นไปเพื่อปรับปรุงสถานะทางการเงิน
- 1 ปีขึ้นไป – หากมีประวัติเครดิตเสียหนัก อาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปีในการแก้ไขข้อมูลก่อนจะลองสมัครใหม่
7 วิธีเพิ่มโอกาสให้สมัครบัตรเครดิตผ่านในรอบถัดไป
หากต้องการสมัครบัตรเครดิตให้ผ่านในการสมัครครั้งหน้า ควรทำตามคำแนะนำดังนี้:
1. ตรวจสอบเครดิตบูโรของตนเอง
สามารถเช็คประวัติเครดิตได้ที่สำนักงานเครดิตแห่งชาติ (NCB) เพื่อตรวจสอบว่ามีรายการผิดปกติหรือไม่ และดำเนินการแก้ไขก่อนสมัครใหม่
2. ลดภาระหนี้สินที่มีอยู่
หากมีหนี้สินมาก ควรพยายามชำระให้ลดลงก่อนสมัครใหม่ โดยเฉพาะหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูง เช่น หนี้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อบุคคล
3. เพิ่มรายได้ให้มากขึ้น
การมีรายได้ที่มั่นคงและมากขึ้นจะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติบัตรเครดิต อาจลองหางานเสริม หรือปรับโครงสร้างรายได้ให้ดูน่าเชื่อถือขึ้น
4. สมัครบัตรเครดิตที่เหมาะกับรายได้ของตนเอง
แต่ละธนาคารมีบัตรเครดิตที่เหมาะกับกลุ่มรายได้ต่างกัน ควรเลือกบัตรที่มีเงื่อนไขตรงกับรายได้ของคุณเพื่อให้มีโอกาสผ่านมากขึ้น
5. สมัครบัตรเครดิตที่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน
หากสมัครบัตรเครดิตแบบปกติไม่ผ่าน อาจลองสมัครบัตรเครดิตที่ใช้เงินฝากค้ำประกัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสได้รับอนุมัติ
6. ไม่สมัครบัตรเครดิตหลายใบพร้อมกัน
การสมัครบัตรเครดิตหลายใบในเวลาเดียวกันอาจส่งผลเสียต่อประวัติเครดิตและลดโอกาสการอนุมัติ
7. ตรวจสอบเอกสารให้ครบถ้วน
ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเอกสารที่ใช้ในการสมัครครบถ้วนและถูกต้อง เพื่อป้องกันการถูกปฏิเสธเนื่องจากข้อมูลผิดพลาด
หากสมัครบัตรเครดิตไม่ผ่าน ควรเว้นช่วงเวลาในการสมัครใหม่อย่างน้อย 3-6 เดือน และใช้เวลานี้ในการปรับปรุงเครดิต เพิ่มรายได้ ลดภาระหนี้ และเลือกบัตรที่เหมาะสมกับตนเอง การเตรียมตัวให้ดีจะช่วยให้คุณมีโอกาสได้รับอนุมัติบัตรเครดิตในครั้งต่อไปได้ง่ายขึ้น หากต้องการตรวจสอบข้อมูลเครดิตหรือหาบัตรเครดิตที่เหมาะกับตนเอง ลองศึกษาเงื่อนไขจากแต่ละธนาคารก่อนสมัครเพื่อเพิ่มโอกาสให้ผ่านได้ง่ายขึ้น!
เปิดรายละเอียด การลงทะเบียนว่างงานออนไลน์
ในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างสามารถทำได้ผ่านอินเทอร์เน็ต การลงทะเบียนว่างงานก็ไม่เป็นข้อยกเว้น บทความนี้จะพาคุณผ่านประสบการณ์การลงทะเบียนว่างงานออนไลน์อย่างละเอียด เพื่อให้คุณสามารถดำเนินการได้อย่างมั่นใจและไม่มีปัญหา
ประโยชน์ของการลงทะเบียนว่างงานออนไลน์
ข้อดีของการลงทะเบียนว่างงานออนไลน์
- สะดวกสบาย: ไม่ต้องเดินทางไปยังสำนักงาน สามารถทำได้ทุกที่ที่มีอินเทอร์เน็ต
- รวดเร็ว: ลดเวลาการรอคิวและการดำเนินการเอกสาร
- ติดตามสถานะได้ง่าย: สามารถตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ได้ตลอดเวลา
ขั้นตอนการลงทะเบียนว่างงานออนไลน์
การลงทะเบียนว่างงานออนไลน์สามารถทำได้ง่าย ๆ ตามขั้นตอนดังนี้:
1. เตรียมเอกสารที่จำเป็น
ก่อนเริ่มการลงทะเบียน ควรเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้:
- บัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- เอกสารการสิ้นสุดการจ้างงานหรือหนังสือรับรองการลาออก
- สมุดบัญชีธนาคารสำหรับรับเงินชดเชย
2. เข้าสู่เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม
- ไปที่เว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลหลักสำหรับการลงทะเบียนว่างงานออนไลน์
3. ลงทะเบียนหรือเข้าสู่ระบบ
หากคุณยังไม่มีบัญชีผู้ใช้:
- คลิกที่ปุ่ม “สมัครสมาชิก”
- กรอกข้อมูลส่วนตัวตามที่ระบบร้องขอ
- ยืนยันการสมัครผ่านอีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์
หากมีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว:
กรอกชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านเพื่อเข้าสู่ระบบ
4. กรอกแบบฟอร์มการลงทะเบียนว่างงาน
หลังจากเข้าสู่ระบบ:
- เลือกเมนู “ลงทะเบียนว่างงาน”
- กรอกข้อมูลที่จำเป็น เช่น ข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลการจ้างงานล่าสุด และสาเหตุของการว่างงาน
- อัปโหลดเอกสารที่เตรียมไว้
5. ยืนยันและส่งข้อมูล
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทั้งหมด:
- หากทุกอย่างถูกต้อง คลิก “ยืนยัน” เพื่อส่งข้อมูล
- ระบบจะแสดงหมายเลขอ้างอิงสำหรับการติดตามสถานะ
การลงทะเบียนว่างงานออนไลน์เป็นวิธีที่สะดวกและรวดเร็วในการรับสิทธิประโยชน์จากประกันสังคม ด้วยขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน คุณสามารถดำเนินการได้ด้วยตนเองที่บ้าน หวังว่าคู่มือนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจและสามารถลงทะเบียนว่างงานออนไลน์ได้อย่างมั่นใจ
สิ่งที่ไม่ควรทำ หากมีเงินโอนเข้าบัญชีแต่ไม่รู้ที่มา
หลายคนยังสงสัยทางธนาคารเลยออกมาแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำ และ สิ่งที่ไม่ควรทำถ้าหากมีเงินโอนเข้าบัญชีโดยที่เราไม่รู้ที่มา หรือ เกิดการโอนเงินผิดเข้าบัญชีธนาคารของเรา
สำหรับความชัดเจนซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้มาจากทางธนาคารเลยเกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำ และ ไม่ควรทำ หากมีเงินน่าสงสัยโอนเข้าบัญชีของเราโดยที่เราไม่รู้แหล่งที่มาของเงินนั้น หรือ เกิดการโอนเงินผิด ถ้าเกิดปัญหานี้ขึ้นมาให้ปฎิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อป้องกันปัญหา และ ลดความเสี่ยงต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้น
สิ่งที่ไม่ควรทำ หากมีการโอนเงินผิดเข้าบัญชีของเรา
- ห้ามถอนเงินออกจากบัญชีโดยเด็ดขาด การถอนเงินอาจจะถูกมองว่ายอมรับเงินที่ไม่ได้มาจากแหล่งที่ถูกต้อง
- ห้ามโอนเงินคืนเองโดยเด็ดขาด หรือ โดยที่เราไม่ได้ปรึกษาธนาคารหรือเจ้าหน้าที่ธนาคาร เพราะอาจจะเข้าข่าวเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดได้
- การปฎิบัติตามขั้นตอนแหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงจากการโอนเงินผิด และ ป้องกันการเกิดปัญหาทางกฎหมายอื่นๆได้
สิ่งที่ควรทำ หากมีการโอนเงินผิดเข้าบัญชีธนาคารของเรา
- ตรวจสอบข้อมูลบัญชี แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดการโอนที่แสดงในแอปธนาคาร หรือ สมุดบัญชีของคุณเพื่อตรวจสอบชื่อผู้โอน และ ข้อมูลอื่นๆ ว่าถูกโอนมาจากใคร
- ติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคาร ทันทีเพื่อขอล็อกบัญชี และ ขอคำแนะนำในการดำเนินธนาคาค อาจจะสามารถช่วยตรวจสอบการโอนนั้นได้
- หากไม่สามารถติดต่อผู้โอนได้ หรือสงสัยว่าเป็นการโอนผิดจากการฉ้อโกง แนะนำให้รีบแจ้งตำรวจให้ช่วยติดตามและดำเนินการ
แจกเงิน 10,000 บาทเฟส 4 กลุ่มคนทั่วไป อายุ 16-59 ปี
หนึ่งในโครงการที่ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนมากที่สุดเลยก็ว่าได้กับโครงการ กระตุ้นเศรษฐกิจ แจกเงินดิจิทัลผ่านดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงิน 10,000 ตอนนี้เข้ามาถึงเฟสที่ 4 แล้ว สำหรับการแจกเงินกลุ่มคนทั่วไปที่มีอายุ 16-59 ปี ทางรัฐบาลได้ออกมาอัปเดทความเครื่องไหวล่าสุด ว่าทางกระทรวงการคลังได้เปิดเผยถึงรายละเอียดสำหรับกลุ่มคนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน และยังรอเงินหมื่นอยู่ว่าจะมีการเปิดให้มีการลงทะเบียนต่อไป ผา่นทางธนาคารของรัฐ โดยระยะเวลาประมาณ 2 เดือนเตรียมความพร้อมสำหรับระบบในการลงทะเบียน
สำหรับประชาชนในกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน อาจจะมีไม่ถึง 1 ล้านคนซึ่งส่วนมากน่าจะอยู่ในกลุ่มเปราะบางจำนวน 14.5 ล้านบาท ซึ่งได้รับเงิน 10,000 บาท ผ่านโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 1 ไม่นานระบบการลงทะเบียนจะพร้อมแต่ต้องนำเรื่องเข้าสู่คณะกรรมการเพื่อให้เห็นชอบก่อน ทางด้านรัฐมนตรีกระทรวงการคลังได้ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตรวจสอบแยกกลุ่มสมาร์ทโฟนกับไม่มีสมาร์ทโฟน หลังจากนี้จะมีการประกาศเกี่ยวกับขั้นตอนว่าจะมีการดำเนินการอย่างไร ซึ่งจะใช้เวลาอีกไม่เกิน 2 เดือน รวมถึงรายละเอียดต่างๆ โดยยืนยันว่ากลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนจะได้รับเงิน 10,000 บาทอย่างแน่นอน ซึ่งไม่จำเป็นว่าจะต้องได้พร้อมกับกลุ่มเฟส 3
สถานที่ลงทะเบียน
- ธนาคารออมสิน
- ธนาคารกรุงไทย
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธ.ก.ส.
- ธนาคารอาคารสงเคราะห์
- ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
- ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง และ ขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
วันที่เปิดให้ลงทะเบียน เงินดิจิทัลเฟส 4
คาดว่าจะมีการเปิดให้ประชาชนกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน ลงทะเบียนเงินดิจิทัลเฟส 3 ในเดือนมีนาคม 2568 และ จะได้รับเงินพร้อมกับกลุ่มเฟส 3
ช่องทางสอบถามข้อมูล
- ช่องทางหลักในการตรวจสอบสิทธิ และผลการได้รับเงินในโครงการแอปพลิเคชั่นทางรัฐ
- เว็บเพจรวบรวมข้อมูลข่าวสารประชาสัมพันธ์ของโครงการ เว็บไซต์กระทรวงการคลัง mof.go.th แบนเนอร์โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ
- Call Center สำหรับสอบถามข้อมูลโครงการ ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน สายด่วน 1111
บัตรทองใช้สิทธิรับยาฟรีที่ เอ็กซ์ต้า พลัส
สิทธิใหม่ล่าสุดที่ถูกประกาศมาจาก สปสช. ให้ผู้มีสิทธิบัตรทอง สามารถใช้บัตรประชาชนใบเดียว รับยาฟรีได้ที่ร้านยา Xta Plus 7-Eleven ที่มีสัญลักษณ์ ร้านยาคุณภาพของฉัน ทั่วประเทศไทย ซึ่งครอบคุมความเจ็บป่วย 32 อาการ
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งข่าวดี สำหรับผู้ที่ถือบัตรทอง สามารถใช้บัตรประจำตัวประชาชนใบเดียวเข้ารับยารักษาโรคที่ป่วย 16 อาการได้ฟรี ที่เอ็กซ์ต้า พลัส 7-11 ที่มีสัญลักษ์ ร้านยาคุณภาพของฉัน ที่มีสาขามากกว่า 200 สาขาทั่วประเทศไทย
เปิดรายละเอียดสิทธิบัตรทอง
สำหรับสิทธิบัตรทองเป็นสิทธิที่ให้กับกลุ่มผู้สูงอายุในประเทศไทย แรงงานนอกระบบ รวมไปถึงผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ช่วยให้คนกลุ่มนี้ สามารถใช้บริการทางการแพทย์และยาได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ณ ร้านขายยา โดยสามารถทำการตรวจสอบสิทธิได้ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือที่เว็บไซต์ https://www.nhso.go.th/
เปิดเงื่อนไขรับยาฟรี ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัง 7-11 สำหรับผู้ที่มีสิทธิบัตรทอง
- เป็นผู้ที่มีสิทธิบัตรทอง
- มีอาการเจ็บป่วยทั่วไป ครอบคลุม 16 อาการ
- บัตรประชาชนตัวจริง ไม่สามารถใช้สำเนาบัตรประชาชน หรือ ภาพถ่ายได้
32 อาการเจ็บป่วย ที่สามารถใช้สิทธิบัตรทองขอรับยาฟรีที่ เอ็กซ์ต้า พลัส 7-11
- ความผิดปกติต่างๆเกี่ยวกับหู
- ปวดข้อ
- ตกขาวผิดปกติ
- มีบาดแผล
- อาการทางผิวหนัง ผื่น คัน
- ความผิดปกติต่างๆเกี่ยวกับตา
- เจ็บกล้ามเนื้อ
- ปัสสาวะลำบาก
- ท้องเสีย
- ท้องผูก
- ปวดท้อง
- เวียนหัว
- ไอ
- มีไข้
- ปวดหัว
- เจ็บคอ
- ปวดประจำเดือน
- ปวดฟัน
- ท้องผูก ริดสีดวงทวาร
- ปัสสาวะแสบขัด
- ผื่นผิวหนัง
- ติดเชื้อโควิด 19
- เริมที่ปาก
- มีบาดแผลในปาก
- หิด เหา
- อาการชา เหน็บชา
- นอนไม่หลับ
- เมารถ เมาเรือ
- เบื่ออาหารโดยไม่มีโรคร่วม
- อาการแพ้ยา แพ้อาหาร หรือแมลงสัตว์กัดต่อย
- เจ็บป่วยจากการสูบบุหรี่
- เหงือกอัพเสบ มีกลิ่นปาก
ขั้นตอนในการขอรับยาฟรีที่ เอ็กซ์ต้าพลัส
- แสดงบัตรประชาชนที่ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ที่มีสัญลักษ์ ร้านยาคุณภาพของฉัน
- เภสัชกรทำการเช็คสิทธิบัตรทอง
- เภสัชกรให้ยาและคำแนะนำในการใช้ยา เพื่อบรรเทาอการเบื้องต้น พร้อมให้คำแนะนำในการปฎิบัติตัว
- เมื่อครบ 3 วันเภสัชกรจะโทรติดตามอาการผู้ป่วย
ธนาคารออมสินเตือน ผ่อนบ้าน คอนโดน ต้องโอนชื่อเข้าทะเบียนบ้าน
สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจจะผ่อนบ้าน หรือ ผ่อนคอนโดอยู่ตอนนี้ แนะนำให้โอนชื่อเข้าทะเบียนบ้านด้วย ถ้าหากไม่อยากเสียสิทธิประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นค่าภาษีที่ติด และ สิ่งปลูกสร้าง, ค่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา, ค่าน้ำ, ค่าไฟ ฯลฯ
ธนาคารออมสินออกมาเตือน สำหรับใครที่กำลังผ่อนบ้าน หรือ ผ่อนคอนโดอยู่ แต่ยังไม่ได้ดำเนินการโอนชื่อเข้าทะเบียนบ้าน จะทำให้เสียสิทธิโปรโยชน์เยอะมาก ยกตัวอย่างเช่น ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา, ค่าน้ำค่าไฟ และ ค่าภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
สิทธิประโยชน์ที่เสีย ถ้าหากซื้อบ้าน และ คอนโด แล้วไม่ทำการบย้ายชื่อเข้าทะเบียนบ้าน
ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
- หากไม่ย้ายชื่อเข้าทะเบียนบ้านจะเสียสิทธิ์ในการได้รับยกเว้นค่าภาษีที่ดิน และ สิ่งปลูกสร้าง ในกรณีที่ดิน และ สิ่งปลูกสร้างมีมูลค่ารวม 50 ล้านบาทแรก
สิทธิประโยชน์ทางภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
- ไม่สามารถใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยได้ วงเงินสูงสุด 100,000 บาทต่อปี เนื่องจากเงื่อนไขกำหนดเอาไว้ว่าต้องเป็นที่อยู่อาศัยหลัก
ค่าน้ำ-ค่าไฟ
- ค่าน้ำจะถูกคิดในเรทราคาของธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งมีอัตราขั้นต่ำ 300 บาทต่อเดือน และหากใช้น้ำเกิน 15 ลบ.ม. ราคาน้ำต่อหน่วยจะถูกคิดในเรทของธุรกิจขนาดใหญ่
- ค่าไฟ หากเป็นที่อยู่อาศัยที่ไม่มีทะเบียนบ้าน หรือ ไม่ได้แสดงว่าเป็นที่อยู่อาศัย จะถูกคิดในเรทของไฟฟ้าชั่วคราว หน่วยละ 6.8025 บาท ซึ่งมีราคาสูงกว่าค่าไฟฟ้าปกติ
สิทธิประโยชน์ในด้านอื่นๆ
- ไม่ได้รับสิทธิรัฐ เช่นค่าเบี้ยยังชีพม ค่าไฟฟ้าฟรี เป็นต้น
- การติดต่อกับหน่วยราชการ บางแห่งอาจจะพิจารณาที่อยู่ในทะเบียนบ้านสำหรับการพิจารณาสิทธิเช่น การลงทะเบียนเรียนกับโรงเรียนในพื้นที่
การไม่ย้ายชื่อเข้าทะเบียนบ้านสำหรับผู้ที่กำลังผ่อนบ้าน ผ่อนคอนโด หรือซื้อบ้านซื้อคอนโดใหม่ อาจจะมีผลกระทบในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านภาษี และ ค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภค รวมไปถึงอาจจะเสียสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีบางรายการ เช่นการลดหย่อยดอกเบี้ยเงินกู้เป็นต้น
พลาดสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง หากไม่โอนชื่อเข้าบ้าน หรือ คอนโด
- ค่าภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เสียสิทธิยกเว้นค่าภาษีที่ดิน และ สิ่งปลูกสร้างในกรณีมีมูลค่ารวม 50 ล้านบาทแรก
- ค่าน้ำ-ค่าไฟฟ้า: ค่าน้ำจะถูกคิดเรทราคาธุรกิจขนาดใหญ่ โดยมีอัตราขั้นต่ำ 300 บาทต่อเดือน และ ค่าไฟฟ้าจะถูกคิดเรทของไฟฟ้าชั่วคราวหน่วยละ 6.8025 บาท
- สิทธิประโยชน์ทางภาษี เงินได้บุคคลธรรมดา ไม่สามารถใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยได้ วงเงินสูงสุด 100,000 บาทต่ปี เนื่องจากเงื่อนไขกำหนดว่าต้องเป็นที่อยู่อาศัยหลัก
- สิทธิประโยชน์ด้านอื่น ไม่ได้รับสิทธิรัฐเช่น ส่วนลดค่าไฟฟ้า และ ค่าเบี้ยยังชีพ รวมไปถึงการติดต่อราชการ
หวยเกษียณ แก้คนไร้เงินออม เตรียมส่งร่างกฎหมายเข้าสภาแล้ว
จากการเปิดเผยรายละเอียด มาตรการที่จะออกมาช่วยแก้ไขกลไกคนไทยไร้เงินออม เปิดเผยกฤษฎีกาตรวจร่างกฎหมายเสร็จแล้ว เตรียมเข้าสู่สภา
สำหรับปัญหาที่รัฐบาลกำลังเร่งแก้ไขตอนนี้ก็คือปัญหาแก่ไปไร้เงินออม ยังคงเป็นภัยเงียบ และ ยังคงเป็นสิ่งที่วิกฤตเงียบของสังคมไทย สาเหตุหลักมาจากรายได้ต่ำทำให้การออมเงินกลายเป็นเรื่องรองนอกจากนี้ยังขาดทักษะความรู้ทางด้านการเงิน ที่ส่งผลให้คนไทยหลายๆคน ต้องหันไปพึ่งลูกหลาน, กู้หนี้ยืมสิน, รัฐสวัสดิการ รวมไปถึงผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในช่วงวัยเกษียณ
การออมถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างรากฐานเศรษฐกิจที่มั่นคง ทั้งในระดับบุคคล และ ระดับประเทศ ถ้าหากว่าคนไทยมีเงินออมไม่พอ ก็จะไม่สามารถช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตได้แบบยั่งยืน และเพื่อเป็นการกระตุ้นการออมของคนไทย รัฐบาลได้ออกมาตรการเพื่อดำเนินโครงการ สลากออมทรัพย์ เพื่อการดำรงชีพในวัยชราภาพ หรือ วันเกษียณนั่นเอง โดยมาตรการนี้เรียกว่า “หวยเกษียณ” เป็นกลไกที่ผูกความชอบของคนไทยบวกกับพฤติกรรมของการซื้อหวย เพื่อจูงใจให้เกิดการออม
ความคืบหน้าล่าสุด หวยเกษียณ
รัฐบาลแจ้งความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา ทางด้านคณะกรรมการกฤฎีกาได้มีการปรับแก้ พ.ร.บ. กอช. เสร็จแล้วปัจจุบันกำลังส่งร่าง พ.ร.บ. กอช. เข้าสู่สภา สำหรับหวยเกษียณ จะมาในรูปแบบสลากขูดดิจิทัล ใบละ 50 บาท ซื้อได้ไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือนและออกรางวัลทุกวันศุกร์เวลา 17.00
รางวัลหวยเกษียณ
- รางวัลที่ 1 มูลค่า 1,000,000 บาท จำนวน 5 รางวัล
- รางวัลที่ 2 มูลค่า 1,000 บาท จำนวน 10,000 รางวัล
รายละเอียดผู้ที่ซื้อสลาก กอช. จะได้รับเงินออมรวมผลประโยชน์คืนเมื่อ
- มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์
- กรณีอายุเกิน 60 ปีครบกำหนดเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อสลาก กอช. ในครั้งนั้น
- ทุพพลภาพ
- เสียสัญชาติไทย
อัปเดต iOS iPhone ด่วนก่อนใช้แอปกรุงไทยไม่ได้
ธนาคารกรุงไทยได้ออกมาแจ้งเตือนคนใช้ iPhone ให้เตรียมตัวอัพเดต iOS เพื่อความปลอดภัยในการใช้ Mobile Banking ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2568 ก่อนที่จะใช้ App Krungthai NEXT เป๋าตัง และ ถุงเงินไม่ได้
เพื่อเป็นการยกระดับความปลอดภัยทางธนาคารกรุงไทยได้ออกมาแจ้งเตือนให้คนที่ใช้ iPhone ออกมาอัปเดตระบบปฎิบัติการ iOS เพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้นสำหรับการใช้โมบาย แบงก์กิ้งตั้งแต่เดือนมีนาคม 2568 เป็นต้นไป ก่อนที่จะไม่สามารถใช้ Krungthai NEXT เป๋าตัง และถุงเงินไม่ได้หากไม่ทำการอัปเดต
ขั้นตอนในการอัปเดตระบบปฎิบัติการของโทรศัพท์ ก่อนเข้าใช้งาน Krungthai NEXT ไม่ได้ในเดือนมีนาคม 2568
- ไปที่เมนูตั้งค่า (Setting)
- ไปที่เมนูทั่วไป (General)
- ไปที่รายการอัปเดตซอฟต์แวร์ (Software Update)
- กดดาวน์โหลดและติดตั้ง (Update Now)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อ Krungthai Contact Center โทร 02-111-1111 ตลอด 24 ชั่วโมง
ตรวจสอบสิทธิผู้ประกันตน เปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคมได้แล้ววันนี้
ผู้ประกันตนสามารถเช็คสิทธิ เปลี่ยนโรงพบาบาลประกันสังคมได้ที่เว็บไซต์ www.sso.go.th รู้ผล 2 วัน สำหรับผู้ประกันตนที่ถามกันเข้ามาเกี่ยวกับการย้ายสิทธิประกันสังคมออนไลน์ สามารถย้ายได้ถึงวันไหน และ ประกาศรายชื่อโรงพยาบาลประกันสังคม 2568 ว่ามีที่ไหนบ้าง สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ด้านล่างเลย
เช็คสิทธิประกันสังคม 2568 เข้าเว็บไซต์ www.sso.go.th ใหกับผู้ประกันตน สามารถเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคมได้แล้ววันนี้ แจ้งสิทธิแล้วสามารถตรวจสอบสิทธิได้ภายใน 2 วัน การย้ายสิทธิประกันสังคมสามารถย้ายผ่านทางออนไลน์ได้
ประกันสังคม กระทรวงแรงงาน ได้ออกมาเปิดเผยว่า ผู้ประกันตนสามารถเปลี่ยนโรงพยาบาลตามสิทธิประจำปี 2568 ได้ง่ายๆตามขั้นตอนด้านล่าง
- เข้าไปที่ Line @ssothai
- กดลงทะเบียน ที่มุมขวาล่าง
- เลือก เปลี่ยนโรงพยาบาล
- เลือกโรงพยาบาลที่ต้องการ แล้วกดยืนยัน
- เสร็จแล้วรอผลภายใน 2 วัน
** ผู้ประกันตนสามารถใช้สิทธิโรงพยาบาลใหม่ได้ภายในวันที่ 1 หรือ 16 ของเดือน
สิทธิประกันสังคม 2568 การเปลี่ยนสถานพยาบาล
- ผู้ประกันตนสามารถใช้สิทธิเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคม สามารถดำเนินการได้ระหว่างวันที่ 16 ธันวาคม 2567 ไปจนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2568
- การเปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคมระหว่างปี กรณีมีเหตุจำเป็นเช่น ย้ายที่พัก, ย้ายที่อยู่อาศัย, ย้ายสถานที่ทำงาน หรือ พิสูจน์ทราบว่าผู้ประกันตนไม่ได้มีทางเลือกสถานพยาบาลด้วยตนเอง ให้ยื่นเปลี่ยนสถานพยาบาลในระยะเวลา 30 วัน
ขั้นตอนในการเปลี่ยนโรงพยาบาลตามสิทธิ สำนักงานประกันสังคม เลือกได้ 4 วิธีให้ผู้ประกันตนทุกคนเลือกเปลี่ยนได้อย่างที่ตนเองสะดวก
- เข้าไปที่เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th
- แอปพลิเคชั่น SSO Plus
- สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานคร
- ทำรายการผ่าน Line Official SSO โดยเพิ่มเพื่อน @ssothai
เปลี่ยนโรงพยาบาลใหม่ ย้ายสิทธิประกันสังคมออนไลน์ได้ถึงเมื่อไหร่?
- สามารถเปลี่ยนได้แล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มีนาคม 2568
ช่องทางติดต่อสำนักงานประกันสังคม
- สอบถามข้อมูลประกันสังคมได้ที่ www.sso.go.th
- โทรสายด่วน 1506 ให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
อัพเดทค่าเงินบาท 21 ก.พ. 68 เปิดตลาดแข็งค่า
ค่าเงินบาทวันนี้ วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 เปิดตลาดแข็งค่าที่ 33.55 บาท ต่อดอลลาร์ ทางด้านกรุงไทย ชี้ตามเงินเยน ที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น บวกกับราคาทองที่รีบาวด์ มองเงินบาทวันนี้จะอยู่ระหว่าง 33.45 ถึง 33.75 บาทต่อดอลลาร์
ค่าเงินบาทปัจจุบันทยอยแข็งค่าขึ้นซึ่งใกล้จะเข้าโซนแนวรับสำคัญที่ 33.50 บาท ต่อดอลลาร์ ซึ่งจะอยู่ในกรอบ 33.52 ถึง 33.69 บาทต่อดอลลาร์ ปัจจัยสำคัญก็คือ ค่าเงินดอลลาร์ที่มีแนวโน้มอ่อนค่าลง มาพร้อมกับการย่อตัวของบอนด์ยีลด์ 10 ปีสหรัฐ โดยคำกว่าวของบรรดาเจ้าที่เฟด ของสหรัฐสนับสนุนให้เฟดชะลอการลดดอกเบี้ย ท่ามกลางความไม่แน่นอนของนโยบายกีดกันทางการค้าของรัฐบาล Trump จากมาตรการดังกล่าวไม่ได้ช่วยหนุนเงินดอลลาร์เลย
เฟดสามารถเดินหน้าลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง หรือ 50bps ในปีนี้ การทยอยแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องจองบรรดาสกุลเงินหลัก โดยเฉพาะเงินเยนญี่ปุ่น ที่ล่าสุดแข็งค่าขึ้นหลุดแนวรับสำคัญที่ 150 เยนต่อดอลลาร์ ท่ามกลางมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่หวังว่าธนาคารญี่ปุ่น หรือ Bank of Japan จะสามารถเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้อีกอย่างน้อย 1 ครั้ง เป็นส่วนทำให้มีการกดดันเงินดอลลาร์ และเป็นปัจจัยที่ทำให้ดอลลาร์ทยอยอ่อนค่าลง
แนวโน้มค่าเงินบาท
เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้นซึ่งใกล้สู่แถวรับสำคัญแล้วเช่นกันที่ 33.50 บาทต่อดอลลาร์ในช่วงคืนที่ผ่านมา เป็นการประเมินที่เหนือความคาดหมาย ภายหลังบรรดาสกุลเงินหลักอย่างเงินเยนของญี่ปุ่น ยังคงแข็งค่าขึ้นทะลุแนวรับสำคัญที่ 150 เยนต่อดอลลาร์ อีกทั้งราคาทองยังสามารถรีบาวด์อีกด้วย
ตลาดค่าเงินดอลลาร์ทยอยอ่อนค่าลง พร้อมกับกดดันโดยรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาผสมกับผู้เล่นในตลาดที่ออกมาประเมินว่าราวๆ 52% ที่เฟดจะสามารถลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ แถมตอนนี้เงินดอลลาร์ถูกกดดันจากการแข็งค่าขึ้นของบรรดาสกุลเงินหลัก โดยเฉพาะเงินเยนของญี่ปุ่นที่แข็งค่าทะลุโซนแนวรับ 150 เยนต่อดอลลาร์ จากมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่เชื่อว่าธนาคารญี่ปุ่นจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย 1 ครั้งในปีนี้ ทำให้โดยรวมเงินดอลลาร์ย่อตัวลงไปในโซน 106.4 จุด ส่วนราคาทองคำถึงแม้ว่าจะมีแรงเทขายออกมาทำกำไรของผู้เล่นในตลาด แต่ภาวะปิดรับความเสี่ยงของตลาดการเงินโดยรวม ยังพอช่วยหนุนให้ราคาทองคำยังคงแกว่งในโซน