KBank The Wisdom คืออะไร บริการธนาคารพรีเมียมของกสิกรไทยดีอย่างไร?

หากพูดถึงบริการธนาคารระดับพรีเมียมในประเทศไทย หนึ่งในชื่อที่หลายคนคุ้นหูมากที่สุดก็คือ KBank The Wisdom จากธนาคารกสิกรไทย บริการนี้ถูกออกแบบมาเพื่อดูแลลูกค้ากลุ่ม High Net Worth หรือกลุ่มที่มีศักยภาพทางการเงินสูงโดยเฉพาะ ทั้งในแง่ของการบริหารความมั่งคั่ง สิทธิพิเศษต่าง ๆ และการดูแลส่วนตัวจากผู้เชี่ยวชาญ

ความหมายของ KBank The Wisdom

KBank The Wisdom คือ บริการด้านการเงินระดับพรีเมียมของธนาคารกสิกรไทยที่ให้การดูแลแบบองค์รวมแก่ลูกค้ารายสำคัญ ทั้งด้านการลงทุน การวางแผนภาษี การโอนถ่ายความมั่งคั่ง และสิทธิพิเศษที่เหนือระดับในชีวิตประจำวัน

ลูกค้าที่อยู่ในกลุ่ม The Wisdom จะได้รับบริการจาก ผู้จัดการความสัมพันธ์ลูกค้าส่วนตัว (Personal Banker) ที่ผ่านการอบรมมาอย่างมืออาชีพ รวมถึงได้รับสิทธิพิเศษจากพันธมิตรมากมาย ทั้งด้านการท่องเที่ยว การรักษาพยาบาล และบริการภายในสนามบิน เป็นต้น

สิทธิประโยชน์ของ KBank The Wisdom

1. บริการผู้จัดการส่วนตัวดูแลทุกด้านการเงิน

  • ได้รับคำแนะนำด้านการลงทุนแบบเจาะลึกจากผู้เชี่ยวชาญ
  • ช่วยวางแผนภาษีและการส่งต่อทรัพย์สิน
  • การจัดการพอร์ตการลงทุนและการติดตามผลแบบเรียลไทม์

2. เข้าใช้ห้องรับรองพิเศษ (The Wisdom Lounge)

  • มีให้บริการในหลายสาขาทั่วประเทศ เช่น สยามพารากอน, เซ็นทรัลลาดพร้าว ฯลฯ
  • มีเครื่องดื่ม ของว่าง Wi-Fi และพื้นที่ส่วนตัวในการปรึกษาด้านการเงิน

3. สิทธิพิเศษด้านการเดินทาง

  • บริการ Meet & Assist ที่สนามบินสุวรรณภูมิ
  • บริการรถรับส่งสนามบินในบางแพ็กเกจ
  • ประกันการเดินทาง และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินระหว่างเดินทาง

4. สิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพ

  • ตรวจสุขภาพประจำปีฟรีกับโรงพยาบาลชั้นนำ
  • บริการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากคลินิกพิเศษ

5. สิทธิพิเศษด้านไลฟ์สไตล์

  • ส่วนลดร้านอาหาร โรงแรม และรีสอร์ตระดับ 5 ดาว
  • กิจกรรมพิเศษ เช่น การอบรมด้านศิลปะ การเงิน หรือกิจกรรมแฟมิลี่เดย์เฉพาะสมาชิก

คุณสมบัติผู้มีสิทธิ์สมัคร KBank The Wisdom

1. มียอดเงินฝากหรือการลงทุนขั้นต่ำ

ลูกค้าจะต้องมีเงินฝาก/เงินลงทุนรวมกันไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป กับธนาคารกสิกรไทยจึงจะมีสิทธิ์เข้าร่วมโปรแกรมนี้ได้

2. เป็นผู้ถือบัตร The Wisdom

ธนาคารจะออกบัตร The Wisdom ซึ่งเป็นทั้งบัตร ATM และบัตรเดบิตในใบเดียว โดยใช้สิทธิผ่านบัตรนี้ในหลายบริการที่กล่าวมา

3. มีการพิจารณาจากธนาคาร

แม้จะมีเงินถึงเกณฑ์ ธนาคารอาจยังพิจารณาความเหมาะสมด้านอื่น เช่น พฤติกรรมทางการเงิน หรือความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่มีมาก่อน

ความแตกต่างของ KBank The Wisdom กับบริการทั่วไป

แม้ว่าลูกค้าทั่วไปของธนาคารจะสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้ในระดับมาตรฐาน แต่ KBank The Wisdom จะได้รับการดูแลแบบเฉพาะบุคคลที่มากกว่าและครอบคลุมกว่า

คุณสมบัติ ลูกค้าทั่วไป The Wisdom
ผู้จัดการส่วนตัว ไม่มี มีผู้ดูแลเฉพาะบุคคล
บริการห้องรับรอง ไม่มี เข้าถึง Wisdom Lounge
สิทธิสนามบิน ไม่มี Meet & Assist, ประกันเดินทาง
กิจกรรมพิเศษ ไม่มี เข้าร่วมกิจกรรมเฉพาะสมาชิก

KBank The Wisdom เหมาะกับใคร?

  • นักธุรกิจที่ต้องการจัดการการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ
  • นักลงทุนที่ต้องการคำปรึกษาแบบเจาะลึก
  • ผู้ที่ต้องเดินทางบ่อยและต้องการความสะดวก
  • ผู้ที่ให้ความสำคัญกับไลฟ์สไตล์และประสบการณ์ที่เหนือระดับ

KBank The Wisdom ไม่ใช่แค่บริการธนาคาร แต่คือประสบการณ์แบบครบวงจรที่ธนาคารกสิกรไทยตั้งใจออกแบบให้กับลูกค้าระดับพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการลงทุน ความมั่งคั่ง ไลฟ์สไตล์ หรือการเดินทาง ถ้าคุณเป็นผู้ที่ต้องการความสะดวก ความเป็นส่วนตัว และคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ KBank The Wisdom คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้ครบถ้วน

K-Curated Dining Experience บริการพิเศษให้คุณสัมผัสประสบการณ์มื้อพิเศษที่รังสรรค์ โดยเชฟชั่นนำ สิทธิพิเศษเฉพาะบัตรเครดิต กสิกรไทย เป็นโปรโมชั่นบัตรเครดิต ร้านอาหาร สิทธิประโยชน์พิเศษ เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทยที่ร้าน Fine Dining และ Casual Fine Dining รับส่วนลดพิเศษ หรือ สิทธิพิเศษในร้านอาหารชั้นนำ ทั่วประเทศ ตามลิสร้านอาหารด้านล่าง

  • อาหารนานาชาติ
  • อาหารไทย
  • อาหารอิตาเลียน
  • อาหารฝรั่งเศส Omakase
  • อาหารอินเดีย
  • อาหารไทย-จีน
  • อาหารสเปน
  • อาหารญี่ปุ่น

 

 

ราคาค้าก่อสร้าง ต่อเติมสูงขึ้นต่อเนื่องในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568

การปรับขึ้นที่เพิ่มสูงขึ้นของค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐานในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 ซึ่งเป็นจุดที่สะท้านแรงกดดันจากหลากหลายทิศทาง โดยเฉพาะวัสดุก่อสร้าง, ค่าจ้างแรงงาน รวมไปถึงค่าใช้จ่ายด้านระบบอาคาร จากข้อมูลล่าสุด ทางด้านธนาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส. ได้ออกมารายงานดัชนีราคาคต่าก่อสร้างบ้านมาตรฐาน ซึ่งอยู่ในระดับ 140.2 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2% จากไตนมาสก่อน และ ขยับขึ้น 2.0% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ต้นทุน ไฟฟ้า และ สุขภัณฑ์ ราคาต้นทุนปรับสูงขึ้น

  • ระบบไฟฟ้า และ สื่อสารสูงขึ้น 10.7%
  • งานสถาปัตยกรรม สูงสุด 2.3%
  • สุขาภิบาล ลดลง 0.8%
  • สุขภัณฑ์พุ่งสูงถึง 9.5%
  • กระเบื้อง เพิ่ม 8.6%
  • อุปกรณ์ไฟฟ้า และ ประปา เพิ่ม 7.4%

ราคาวัสดุกลุ่มเหล็ก-ไม้ ลดลง

  • เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ลดลง 7.9%
  • ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ลดลง 0.4%

แรงงานก่อสร้างขยับตามค่าแรงขั้นต่ำใหม่

ค่าแรงขั้นต่ำปรับขึ้นเป็น 372 บาท ต่อวัน มีผลตั้งแต่ 1 มกราคม 2568 เป็นสาเหตุทำให้ค่าแรงในหมวดก่อสร้างเพิ่มขึ้น 1.1% เป็นสาเหตุทำให้เพิ่มภาระต้นทุนของผู้ที่พัฒนาโครงการ รวมถึงเจ้าของบ้านต้องจ่ายเงินเพิ่มมากขึ้นในการก่อสร้าง หรือต่อเติม ถึงแม้การเพิ่มขึ้นของดัชนีจะดูน้อย โดยมีภาพรวมเพียง 0.2-2.0% แต่ถ้าหากดูแบบละเอียดในแต่ละหมวดหมู่จะพบว่าโครงสร้างต้นทุนการก่อสร้างบ้าน ซึ่งอยู่ภายใต้แรงดันจากต้นทุนวัสดุ และ ค่าแรง รวมไปถึงค่าระบบอาคาร ที่สะสมเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดจุดสมดุลใหม่ที่อุตสาหกรรมต้องปรับตัวให้ทัน

 

นายกประกาศ ดิจิทัลวอลเล็ต 1.57 แสนล้านบาท ยังไม่ยกเลิก

ประกาศจากทำเนียบรัฐบาล โดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์หลังมีการประชุม คณะรัฐมนตรี ถึงกรณีการเปลี่ยนแปลงโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 เป็นเพราะไม่มีเงินหรือไม่ และได้มีการชี้แจงอย่างไรกับประชาชนที่รออยู่ ว่าเป้าหมายของโครงการ กระตุ้นเศรษฐกิจ ของประเทศทั้งหมด โดยในการแจกรอบแรก และ รอบสอง ซึ่งได้มีการกระตุ้นไปแล้วในกลุ่มเปราะบาง และ ผู้สูงอายุ แต่พอมีเรื่องของภาษีสหรัฐเข้ามา ทำให้ต้องพิจารณาทบทวน และได้ข้อเสนอจากธนาคารแห่งประเทศไทย และสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ให้ทำการทบทวนเรื่องใหม่ ว่าเงินก้อนนี้สามารถใช้อะไรที่จำเป็นและเร่งด่วน กว่าดิจิทัลวอลเล็ต ก็คือการเปลี่ยนรูปแบบของการกระตุ้นโดยเอาเงินก้อนไปจัดลำดับความสำคัญ ว่าอะไรที่จำเป็นสำหรับประเทศ ณ ตอนนี้ และอะไรที่เกิดผลกับประเทศสูงสุด

ดิจิทัลวอลเล็ต มีการยกเลิกแต่รัฐบาลไม่กล้าออกมาแจ้งหรือไม่ เพราะว่ากลัวผลกระทบฐานเสียง ทางนายกได้ออกมาแจ้งว่า เราต้องคุยกันให้เข้าใจก่อน ว่าปัญหาตอนนี้ที่ถูกแทรกเข้ามานั้น ประเทศไหนก็ไม่อยากให้ปัญหานี้เกิดขึ้นเพราะฉะนั้น เงินก้อนนี้เราต้องไปดูว่าเอาไปทำอะไรแล้วเกิดผลประโยชน์สูงสุด ซึ่งเราจะเน้นตรงนั้นมากกว่า

นายกแจ้งอีกด้วยว่า “ไม่ได้บอกว่ายกเลิก” เพราะสมมติถ้ากลับมาทำอีกในสถานการณ์เศรษฐกิจที่มันดีขึ้น และการกระตุ้นเศรษฐกิจรูปแบบนี้จะได้ผลมากที่สุด ซึ่งทางนายกหวังว่าอะไรที่เป็นประโยชน์สูงสุดในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็จะได้ทำ อย่างกรณีที่คณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจทบทวนกันมาว่าการแจกดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ใช่ตัวกระตุ้นที่ดีที่สุดในเวลานี้ เพราะฉะนั้น ต้องรับฟังและถามว่า ตัวกระตุ้นไหนที่ดีที่สุดสำหรับประเทศนั่นก็คือสิ่งที่เราทำอยู่ในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีเรื่องกำแพงภาษีสหรัฐเข้ามานั่นเอง

นอกจากนี้ การหาเสียงของพรรคเพื่อไทยในอนาคต เมื่อสัญญาไปแล้วไม่เป็นไปตามนั้น จะกระทบอะไรหรือไม่ ทางด้านนายกกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเวลาหาเสียง เราประเมินสถานการณ์แล้วว่าเราทำได้จริงแต่ว่าไม่มีใครพูดถึงเรื่องกำแพงภาษีสหรัฐที่เพิ่มเข้ามา ซึ่งเรื่องนี้ ไม่มีประเทศไหนคาดคิด ซึ่งตัวเลขภาษีที่จะมีการเก็บทุกคนก็ตกใจ หลายประเทศถูกเก็บ 30-40% ก็เป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้เลย แต่ถามว่าทำไม่ได้จริง หรือ ไม่ก็ไม่จริง ซึ่งความเป็นจริงแล้ว นายกได้แจ้งว่า เราทำไปแล้ว ไม่ใช่นโยบายเราทำไม่ได้เลย เพียงแต่สถานการณ์ที่เข้ามามันสุดวิสัย ไม่ใช่ว่าทำอยู่แล้วถูกยกเลิก หรือ ไม่ทำแล้วชะลอ ซึ่งมันก็ไม่ได้ชะลอ

นายกกล่าวอีกด้วยว่า งบ 1.57 แสนล้าน เพื่อดำเนินการในระดับโครงสร้างของประเทศไทย ก็อาจจะไม่ได้ลงถึงรายบุคคล แต่เป็นภาพรวมที่ทั้งประเทศไทย จะได้รับประโยชน์ร่วมกัน ก็ขอความร่วมมือในการช่วยกันสื่อสาร เมื่อเกิดเหตุการณ์แทรกขึ้นมา ซึ่งมันทำให้เราจะต้องชะลอให้คนบางกลุ่มก่อน

หากถามว่า งบที่จะใช้นี้ สามารถสู้กับภาษีสหรัฐฯ อยู่ใน พ.ร.ก. กู้เงิน 5 แสนล้านใช่หรือไม่ นกยกกล่าวว่า ในงบ 1.57 แสนล้าน ก็มีส่วนหนึ่ง แต่เงินส่วนนี้ต้องการให้เห็นชัดเป็นรูปธรรม และจะมีงบอีกก้อนที่เราใช้ด้วย ซึ่งรายละเอียดให้กระทรวงการคลังชี้แจง นอกจากนี้ นายกยังแจ้งว่า จะมีการดึงนักธรุกิจพลังงาน รายใหญ่เข้ามาช่วยเจรจาภาษีสหรัฐ หรือไม่ ซึ่งนายกกล่าวว่า เราต้องทำตามระบบก่อน และ ไม่ว่านักธุรกิจใหญ่ หรือเจ้าไหนถ้าสมมติว่าเกิดประโยชน์กับรัฐบาลทุกฝ่ายคงร่วมมือกัน

เตรียมรับมือน้ำท่วม เนื่องจากฝนตกหนักถึงหนักมาก 23-27 พ.ค. 68

กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนฉบับ 1 ระหว่างวันที่ 23-27 พฤษภาคม 2568 ประเทศไทยจะมีฝนตกเพิ่มขึ้น ให้เตรียมรับมือ “ฝนตกหนัก ถึงหนักมาก” ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ประเทศไทยเกิดน้ำท่วม และ น้ำป่าไหลหลาก

วันที่ 21 พฤษภาคม 2568 ประกาศแจ้งเตือนจากทางเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเรื่องฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย มีผลกระทบช่วงระหว่างวันที่ 23-27 พฤษภาคม 2568 ฉบับที่ 1 ระบุว่า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีการพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และ อ่าวไทยซึ่งมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับร่องมรสุมจะพาดผ่านประเทศไทยตอนบน และ ภาคใต้ตอนบน ทั้งนี้ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และ บริเวณที่ฝนตกสะสม อาจจะทำให้เกิดน้ำท่วมหนัก และ น้ำป่าไหลหลากได้ โดยเฉพาะพื้นที่เชิงเขาใกล้กับทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และ เส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาน โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ และ อาจจะน้ำท่วมขังระยะสั้นได้

ส่วนการเกษตรควรเสริมความแข็งแรงให้ไมผล นอกจากนี้ยังต้องเตรียมป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง คลื่นลมทะเลบริเวณทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้นโดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงกว่า 2 เมตร ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และ ให้หลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในช่วงวันดังกล่าวด้วย

เพื่อความปลอดภัย และ ลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น ขอให้ประชาชนวางแผนการใช้ชีวิต และการเดินทางในช่วงเวลาดังกล่าวอย่างระมัดระวัง และ ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาและสามารถติดตามข้อมูลเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา https://www.tmd.go.th หรือ 02-399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

 

 

 

 

เปรียบเทียบบริการ Privilege Banking UOB vs SCB vs KBank

ในยุคที่การวางแผนการเงินและการลงทุนมีความซับซ้อนมากขึ้น กลุ่มผู้มีสินทรัพย์สูง (High Net Worth Individuals – HNWIs) จึงให้ความสำคัญกับบริการพิเศษจากธนาคารที่ตอบโจทย์ทั้งการลงทุน การบริหารทรัพย์สิน และไลฟ์สไตล์ส่วนตัว หนึ่งในบริการที่ได้รับความนิยมอย่างมากคือ Privilege Banking ซึ่งในไทยมีหลายธนาคารให้บริการในกลุ่มนี้ บทความนี้จะเปรียบเทียบบริการจาก 3 ธนาคารชั้นนำ ได้แก่ UOB Privilege Banking, SCB First และ KBank The Wisdom เพื่อช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าธนาคารใดตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด

บริการ Privilege Banking คืออะไร?

Privilege Banking คือบริการพิเศษสำหรับลูกค้าระดับพรีเมียม โดยมุ่งเน้นการดูแลทรัพย์สิน การลงทุน และการวางแผนทางการเงินในระยะยาว โดยมีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาส่วนตัว พร้อมสิทธิประโยชน์ในด้านไลฟ์สไตล์ เช่น เลานจ์สนามบิน บริการผู้ช่วยส่วนตัว ประกันสุขภาพพรีเมียม และอื่น ๆ

เปรียบเทียบบริการจาก 3 ธนาคารใหญ่

1. UOB Privilege Banking

  • เงื่อนไขการสมัคร: เงินฝากหรือสินทรัพย์ลงทุนรวม ≥ 5 ล้านบาท
  • ผู้ดูแลบัญชี: Relationship Manager เฉพาะบุคคล
  • บริการเด่น: การลงทุนผ่านกองทุนรวมระดับสากล, บริการ Wealth Advisory, ประกันพรีเมียมจากพันธมิตร
  • ไลฟ์สไตล์: บัตรเครดิตระดับสูง, สิทธิใช้ห้องรับรอง, แพ็กเกจตรวจสุขภาพประจำปี, สิทธิร่วมกิจกรรมพิเศษเฉพาะสมาชิก

2. SCB First

  • เงื่อนไขการสมัคร: เงินฝากหรือสินทรัพย์ลงทุนรวม ≥ 2 ล้านบาท
  • ผู้ดูแลบัญชี: Investment Consultant เฉพาะราย
  • บริการเด่น: แนะนำการลงทุนในกองทุน SCBAM, การวางแผนภาษี, วางแผนเกษียณ
  • ไลฟ์สไตล์: ใช้เลานจ์ SCB First Lounge, สิทธิที่พักระดับโรงแรม 5 ดาว, การสะสมคะแนน First Reward

3. KBank The Wisdom

  • เงื่อนไขการสมัคร: เงินฝากหรือสินทรัพย์ลงทุนรวม ≥ 10 ล้านบาท
  • ผู้ดูแลบัญชี: The Wisdom Relationship Manager
  • บริการเด่น: เครื่องมือจัดการพอร์ต, การวิเคราะห์เศรษฐกิจเชิงลึก, การวางแผนสินทรัพย์ระหว่างรุ่น
  • ไลฟ์สไตล์: ใช้ Wisdom Lounge, ที่จอดรถ VIP, ส่วนลดร้านอาหารระดับพรีเมียม, เข้าร่วมกิจกรรมลูกค้าระดับสูง

ตารางเปรียบเทียบบริการโดยสรุป

รายการ UOB Privilege SCB First KBank The Wisdom
เงินขั้นต่ำ 5 ล้านบาท 2 ล้านบาท 10 ล้านบาท
มีผู้ดูแลส่วนตัว
บริการวางแผนการลงทุน
สิทธิเลานจ์
สิทธิประกันสุขภาพ บางส่วน
โปรแกรมรางวัล First Reward Wisdom Privilege

ธนาคารไหนคุ้มค่าที่สุด?

การเลือกบริการ Privilege Banking ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และเป้าหมายทางการเงินของแต่ละคน หากมองหาการลงทุนระดับสากลพร้อมสิทธิไลฟ์สไตล์ที่ยืดหยุ่น UOB Privilege Banking ถือว่าโดดเด่นด้วยเครือข่ายระดับภูมิภาค

หากมีเงินลงทุนเริ่มต้นไม่สูงมากและต้องการเน้นสิทธิประโยชน์แบบสมดุลในประเทศ SCB First อาจเป็นตัวเลือกที่เข้าถึงง่ายและคุ้มค่า

สำหรับผู้ที่มีทรัพย์สินจำนวนมากและต้องการบริการระดับ ultra premium ทั้งในด้านการเงินและไลฟ์สไตล์ KBank The Wisdom คือคำตอบที่ให้สิทธิพิเศษแบบจัดเต็ม

คำแนะนำสำหรับผู้สนใจ

ก่อนตัดสินใจสมัครบริการ Privilege Banking ควรเปรียบเทียบทั้งด้านเงื่อนไขเงินฝาก ผลตอบแทนการลงทุน ความสะดวกในการใช้งาน และประสบการณ์จริงจากผู้ใช้บริการ ทั้งนี้สามารถนัดหมายกับที่ปรึกษาการเงินของแต่ละธนาคารเพื่อประเมินความเหมาะสมกับเป้าหมายของตนเองได้ฟรี

แจ้งเตือนรับมือพายุถล่มไทย 23-30 พฤษภาคม 2568 นี้

กรมอุตุนิยมวิทยา ออกมาแจ้งเตือนประชาชน ให้เตรียมรับมือพายุจอถล่มไทย ระหว่าง 23-30 พฤษภาคม 2568 ซึ่งประเทศไทยจะมีฝนตกหนัก ถึงหนักมากในหลายพื้นที่เสี่ยงสูง มีโอกาสน้ำท่วมฉับพลัน และ น้ำป่าไหลหลาก

กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกมาอัพเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน ทุกๆ 24 ชั่วโมงตั้งแต่เวลา 7.00 น. ถึง 7.00 น. ของวันรุ่งขึ้น

ช่วงวันที่ 20-22 พฤษภาคม 2568 

ในช่วงเช้าถึงเที่ยงของวันนี้ถึงวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ยังคงมีแสงแดดให้เห็นอยู่บ้าง แต่ในช่วงบ่ายถึงค่ำ ประเทศไทยจะยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และ ฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ตอนบนของภาคเหนือ ได้แก่ ตาก, เชียงใหม่, น่าน, แพร่, อุตรดิตถ์, เพชรบูรณ์ ในส่วนของภาคตะวันออกเฉี่ยงเหนือตอนบน และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ซึ่งเป็นด้านรับมรสุม ที่ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ส่วนประเทศไทยตอนบน ยังมีลมฝ่ายใต้และลมตะวันออกเฉี่ยงใต้พัดปกคลุม

กรมอุตุนิยมวิทยา ยังเน้นให้ประชาชนเฝ้าระวังฝนตกที่สะสม ซึ่งจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้ นอกจากนี้ยังต้องระวังน้ำท่วมขังในพื้นที่ที่มีปัญหาการระบายน้ำ และ เป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก สำหรับผู้ที่เดินทางขอให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากฝนตกอาจทำให้ถนนลื่น และควรพกร่มหรือเสื้อกันฝนติดต่อเมื่อออกจากบ้าน

ช่วง 23-30 พฤษภาคม 2568 ช่วงเฝ้าระวังพิเศษ 

ช่วงระหวา่งวันที่ 23-30 พฤษภาคม 2568 เป็นช่วงที่ประเทศไทยของเราจะมีปริมาณฝนฟ้าคะนองมากเป็นพิเศษ และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ รวมไปถึงฝนตกหนักมากหลายแห่ง โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันตกของภาคเหนือ, ภาคตะวันออกเฉี่ยงเหนือตอนบน, ภาคกลางด้านตะวันตก, ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ฝั่งอันดามัน เนื่องจากมรสุมมีกำลังแรงขึ้น และ ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมทะเลอันดามัน ซึ่งยังต้องติดตามว่าจะมีกำลังแรงขึ้นถึงระดับพายุไซโคลนหรือไม่

 

 

แจ้งเตือนโควิด-19 ระบาดหนัก มากกว่าไข้หวัดใหญ่ 17 เท่า

รายงานสถานการณ์โควิด-19 ล่าสุด ทางด้านอาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯได้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีการระบาดมากกว่าไข้หวัดใหญ่เกือบ 7 เท่าด้าน กทม. แจ้งว่าให้เฝ้าระวังคลัสเตอร์ในโรงเรียน หวั่นเกิดการระบาดหนักในหมู่เด็กเล็ก

สถานการณ์ล่าสุด การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งเป็นโรคติดต่อที่ทำให้ประชาชนป่วยมากที่สุดในสัปดาห์ที่ผ่านมาและยังคงครองอันดับ 1 ในทุกช่วงอายุ ตั้งแต่เด็กเล็ก, เด็กโต, วัยรุ่น, วัยทำงาน รวมไปถึงผู้สูงอายุ สำหรับสถิติของสัปดาห์ที่ผ่านมา พอผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล ทั้งผู้ป่วยใน และ ผู้ป่วยนอก สูงถึง 43,213 ราย เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนถึง 35.5% โดยมีการรายงานผู้เสียชีวิต 3 ราย จากจังหวัดกาญจนบุรี, สุโขทัย และ เขตบางกอกน้อย จากตัวเลขของผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 พบกว่ามีสูงกว่าผู้ที่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ถึง 7 เท่าเลยทีเดียว

นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยถึงช่วงเวลาที่เปิดภาคเรียน ซึ่งมีแนวโน้มพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็กอายุ 0-4 ปี โดยตั้งแต่เดือนเมษายน ไปจนถึง 8 พฤษภาคม 2568 มีผู้ป่วยเข้ารับบริการในโรงพยาบาลสังกัด กทม. รวม 1,974 รายแบ่งเป็นผู้ป่วยใน 11 ราย และ ผู้ป่วยนอก 1,963 ราย

 

UOB Privilege Banking คืออะไร บริการธนาคารระดับพรีเมียมสำหรับลูกค้าคนสำคัญ

เมื่อพูดถึงการให้บริการทางการเงินระดับสูง นอกจากจะมีบริการบัตรเครดิต UOB ที่มีการเหนือระดับแล้ว หลายๆคนอาจนึกถึงสิทธิพิเศษต่าง ๆ ที่มากกว่าแค่บัญชีเงินฝากทั่วไป ซึ่ง UOB Privilege Banking คือหนึ่งในบริการที่ออกแบบมาเพื่อดูแลลูกค้าระดับพรีเมียมโดยเฉพาะ ด้วยแนวคิด “ให้มากกว่าคำว่าธนาคาร” ทั้งด้านการเงิน การลงทุน และไลฟ์สไตล์แบบเหนือระดับ

พิเศษสำหรับลูกค้าที่สมัครสมาชิกใหม่ รับเครดิตเงินคืน สูงสุด 30,000 บาท*

  • Privilege Reserve: มูลค่าสินทรัพย์รวมสุทธิ 50 ล้านบาทขึ้นไป รับเครดิตเงินคืนเวลคัมโบนัส 5,000 บาท รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 25,000 บาท เมื่อมียอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเคราดิตยูโอบร ที่กำหนด 10,000 บาท รับเครดิตเงินคืน 100 บาท ยอดรวมเครดิตเงินคืนสูงสุด 30,000 บาท เดือนที่ 1-3
  • Privilege Banking: มูลค่าสินทรัพย์รวมสุทธิ 10-49.99 ล้านบาท รับเครดิตเงินคืนเวลคัมโบนัส 3,000 บาท รับเครดิตเงินคืนทุกๆการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตยูโอบี ที่กำหนด 10,000 บาท รับเครดิตเงินคืน 100 บาท ได้สูงสุด 15,000 บาท ยอดรวมเครดิตเงินคืนสูงสุด 18,000 บาท เดือนที่ 1-3

UOB Privilege Banking คืออะไร?

UOB Privilege Banking คือบริการธนาคารส่วนบุคคลระดับพรีเมียมจากธนาคารยูโอบี ที่ออกแบบมาเพื่อดูแลลูกค้าที่มีศักยภาพทางการเงินสูง โดยให้บริการแบบครบวงจร ทั้งการจัดการสินทรัพย์ การวางแผนการเงิน การลงทุน และการส่งต่อความมั่งคั่งไปยังรุ่นถัดไป

จุดเด่นของ UOB Privilege Banking

  • มีผู้จัดการความสัมพันธ์ส่วนตัว (Relationship Manager) ดูแลบัญชีและให้คำปรึกษาโดยตรง
  • เข้าถึงผลิตภัณฑ์การเงินที่ออกแบบเฉพาะ เช่น กองทุนพิเศษหรือการลงทุนในต่างประเทศ
  • สิทธิพิเศษด้านไลฟ์สไตล์ เช่น ห้องรับรองพิเศษ สนามบิน ประกันการเดินทาง และบริการเชฟส่วนตัวในบางแคมเปญ
  • วางแผนมรดกและการส่งต่อความมั่งคั่งให้ลูกหลาน
  • บริการวิเคราะห์พอร์ตการลงทุนและปรับกลยุทธ์ให้เหมาะกับเป้าหมายชีวิต

คุณสมบัติของผู้สมัคร UOB Privilege Banking

ผู้ที่สนใจใช้บริการ UOB Privilege Banking ต้องมีคุณสมบัติตามที่ธนาคารกำหนด โดยทั่วไปจะมีเกณฑ์เบื้องต้นดังนี้:

  • มีเงินฝากหรือเงินลงทุนรวมกับธนาคารตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป
  • หรือเป็นลูกค้าที่มีศักยภาพเติบโตด้านการเงินตามเกณฑ์ของธนาคาร
  • ยินดีรับบริการที่ปรึกษาทางการเงินแบบใกล้ชิด

ค่าธรรมเนียมมีหรือไม่?

การสมัครใช้บริการ Privilege Banking ไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม แต่ต้องรักษายอดเงินตามที่กำหนด หากยอดต่ำกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำ อาจถูกเปลี่ยนสถานะกลับเป็นลูกค้าทั่วไป

สิทธิประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ

1. การดูแลทางการเงินอย่างครบวงจร

ลูกค้าจะได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนโดยตรง ช่วยวางแผนการเงินทั้งระยะสั้นและระยะยาวอย่างมีประสิทธิภาพ

2. สิทธิพิเศษในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงิน

ผลิตภัณฑ์การลงทุนบางตัวจะเปิดให้เฉพาะกลุ่ม Privilege Banking เท่านั้น เช่น กองทุนพิเศษ หุ้นกู้เอกชน หรือประกันชีวิตแบบวางแผนภาษี

3. บริการไลฟ์สไตล์เหนือระดับ

ไม่ใช่แค่การเงินเท่านั้น UOB Privilege Banking ยังมอบประสบการณ์ด้านไลฟ์สไตล์ ทั้งบริการจองสนามกอล์ฟ ห้องรับรองสนามบิน ประกันเดินทางฟรี หรือแม้กระทั่งที่ปรึกษาส่วนตัวด้านสุขภาพ

4. การวางแผนมรดกและความมั่งคั่ง

ลูกค้าจะได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและภาษี เพื่อให้สามารถวางแผนส่งต่อทรัพย์สินได้อย่างมั่นคงและถูกต้อง

เหมาะกับใคร?

บริการนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการ:

  • บริหารสินทรัพย์อย่างมืออาชีพ
  • ต้องการวางแผนการเงินระยะยาว
  • แสวงหาผลตอบแทนจากการลงทุนที่มีความซับซ้อนมากขึ้น
  • ใช้ชีวิตด้วยความสะดวกสบายและมีสิทธิประโยชน์เฉพาะตัว

UOB Privilege Banking ไม่ใช่แค่บัญชีธนาคารธรรมดา แต่เป็นระบบการดูแลด้านการเงินและไลฟ์สไตล์แบบครบวงจรที่ออกแบบมาเพื่อลูกค้าระดับพรีเมียมโดยเฉพาะ หากคุณกำลังมองหาการบริการที่ลึกซึ้งกว่า มีที่ปรึกษาส่วนตัว และเข้าถึงโอกาสการลงทุนที่มากกว่าผู้อื่น UOB Privilege Banking คือคำตอบที่ควรพิจารณาอย่างยิ่ง

เงินคนพิการ รัฐจ่ายเพิ่มอีก 200 บาท รวมเป็น 1,000 บาท

ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทางกรมบัญชีกลางได้ออกมาแจ้งว่า ทางรัฐบาลได้มีการจ่ายเงินเพิ่มอีก 200 บาท เงินเข้าแล้ววันนี้ รวมเป็นเงินที่ได้รับเป็น 1,000 บาท โอนเข้าบัญชีพร้อมเพย์ผูกกับเลขบัตรประชาชน ใครได้บ้างสามารถเช็คได้เลย

สำหรับผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เป็นผู้พิการ ทางด้านรองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง ได้ออกมาเป้ดเผยถึงการจ่ายเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับผู้ที่ได้รับสิทธิภายใต้โครงการลงทะเบียน เพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 ในเดือนพฤษภาคม 2568 โดยผู้มีสิทธิยังคงสามารถใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบ Smart Card ได้ตามปกติ

เงินคนพิการงวดพฤษภาคม 2568 โอนเข้าบัญชีวันนี้

สำหรับผู้พิการที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ และเป็นผู้ที่มีสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับเงินเพิ่มเบี้ยความพิการจำนวน 200 บาท ต่อเดือน โดยเงินจำนวนนี้จะถูกโอนเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ทำการผูกกับเลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือ บัญชีธนาคาร ของผู้ที่มีสิทธิ หรือ ผู้รับมอบอำนาจ ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2568

รายละเอียดการรับเงิน สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

วันที่ 1

  • วงเงินซื้อสินค้า 300 บาท ต่อเดือน
  • ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาท ต่อ 3 เดือน (เมษายน – มิถุนายน 2568)
  • วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อเดือน ประกอบไปด้วย บขส, รถไฟ, ขสมก., รถไฟฟ้า และ รถโดยสารเอกชน ที่เข้าร่วมโครงการ
  • ถอนเป็นเงินสดไม่ได้ และ ไม่สามารถสะสมไปใช้ในเดือนถัดไปได้

วันที่ 20

  • เงินเบี้ยความพิการ 200 บาท ต่อเดือน
  • สำหรับผู้ที่มีสิทธิเป็นคนพิการ ที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ และ ได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน
  • การโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ ด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก หรือ บัญชีเงินฝากธนาคาร ของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท

สรุปยอดเงินคนพิการ เดือนพฤษภาคม 2568 ได้เท่าไหร่

สำหรับผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และมีคุณสมบัติเป็นผู้พิการ จะได้รับเงินช่วยเหลือรวมตามรายละเอียดด้านล่าง

  • ผู้พิการที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไปจะได้รับเบี้ยความพิการพื้นฐาน 800 บาทต่อเดือนและได้รับเงินเพิ่มพิเศษอีก 200 บาท รวมเป็น 1,000 บาท
  • ผู้พิการที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จะได้รับเบี้ยความพิการจำนวน 1,000 บาทต่อเดือน ตามเกณฑ์ปกติ

 

 

ทำบัตร UOB World ไว้ใช้ต่างประเทศดีไหม?

บัตรเครดิต UOB World ถือเป็นหนึ่งในบัตรพรีเมียมที่หลายคนให้ความสนใจ โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางบ่อยหรือชอบใช้จ่ายในต่างประเทศ บทความนี้จะพาไปสำรวจว่าใช้บัตรนี้ต่างประเทศดีจริงไหม มีค่าธรรมเนียมอะไรบ้าง และให้สิทธิพิเศษคืนเงินแบบไหนที่คุ้มค่าต่อการใช้งาน

บัตร UOB World คืออะไร?

UOB World เป็นบัตรเครดิตระดับ World Mastercard จากธนาคารยูโอบี ซึ่งออกแบบมาเพื่อคนที่มองหาความสะดวกสบายในการเดินทาง และสิทธิพิเศษที่เหนือกว่าทั้งในและนอกประเทศ

สิทธิประโยชน์หลักของบัตร

  • สิทธิ์ใช้บริการห้องรับรองสนามบิน (Lounge Access)
  • คะแนนสะสม UOB Reward Plus ที่นำไปแลกไมล์สายการบินหรือของรางวัลได้
  • ประกันการเดินทางเมื่อจองตั๋วผ่านบัตร
  • โปรโมชั่นพิเศษกับร้านค้า ร้านอาหาร และโรงแรมทั่วโลก

ค่าธรรมเนียมเมื่อใช้จ่ายต่างประเทศ

เมื่อใช้บัตรเครดิตในต่างประเทศ ผู้ถือบัตรจะต้องรับภาระค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงิน ซึ่งบัตร UOB World ก็มีการเรียกเก็บเช่นเดียวกันกับบัตรเครดิตทั่วไป

ค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงิน (Foreign Exchange Conversion Fee)

  • ค่าธรรมเนียมของธนาคาร: 2.0%
  • ค่าธรรมเนียมจาก MasterCard: 1.0%
  • รวมทั้งสิ้น: 3.0% ของยอดใช้จ่ายในสกุลเงินต่างประเทศ

เช่น หากใช้จ่ายในต่างประเทศ 10,000 บาท (คิดตามอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันนั้น) จะต้องเสียค่าธรรมเนียมประมาณ 300 บาท

>> สมัครบัตรเครดิต UOB (บัตรหลัก)ได้ที่นี่ <<

วิธีลดผลกระทบจากค่าธรรมเนียม

  • เลือกจ่ายเป็นสกุลเงินท้องถิ่นแทนที่จะเลือกให้รูดเป็นเงินบาท
  • วางแผนการใช้จ่ายล่วงหน้า และใช้บัตรเมื่อได้อัตราแลกเปลี่ยนที่ดี
  • เช็คโปรโมชั่นของธนาคารที่อาจมีสิทธิพิเศษลดค่าธรรมเนียมในบางช่วง

สิทธิคืนเงินและสิทธิพิเศษเมื่อใช้ต่างประเทศ

แม้จะมีค่าธรรมเนียม แต่บัตร UOB World ก็มีสิทธิประโยชน์ที่น่าสนใจในการใช้ต่างประเทศ โดยเฉพาะด้านการคืนเงินและคะแนนสะสม

1. คืนเงินพิเศษจากหมวดใช้จ่ายท่องเที่ยว

  • คืนเงินสูงสุด 3% จากยอดใช้จ่ายในหมวดโรงแรมและสายการบินที่ร่วมรายการ
  • ยอดคืนจะเข้าในรอบบัญชีถัดไปโดยอัตโนมัติ

2. คะแนนสะสม Reward Plus

  • ทุก 15 บาท ใช้จ่ายในต่างประเทศ = 1 คะแนน
  • นำไปแลกเป็นไมล์บิน เช่น Asia Miles, KrisFlyer, Royal Orchid Plus
  • หรือแลกสินค้า บัตรกำนัล และสิทธิพิเศษจาก UOB

3. สิทธิพิเศษด้านความปลอดภัย

  • แจ้งเตือนการใช้จ่ายผ่านแอป UOB TMRW แบบเรียลไทม์
  • บริการอายัดบัตรทันทีผ่านแอปกรณีเกิดปัญหา
  • ประกันเดินทางแบบอัตโนมัติเมื่อใช้บัตรชำระค่าตั๋วเครื่องบิน

UOB World เหมาะกับใครเมื่อต้องใช้จ่ายต่างประเทศ?

บัตรนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่:

  • เดินทางต่างประเทศบ่อย ทั้งเพื่อธุรกิจและท่องเที่ยว
  • ชอบสิทธิพิเศษด้านการเดินทาง เช่น ห้องรับรองสนามบิน และประกันเดินทาง
  • เน้นสะสมคะแนนเพื่อแลกไมล์บินหรือของรางวัล
  • สามารถบริหารค่าใช้จ่ายและวางแผนการใช้จ่ายได้ดี

ใช้ UOB World ต่างประเทศคุ้มไหม?

แม้จะมีค่าธรรมเนียมแปลงสกุลเงินรวม 3% แต่ UOB World ก็มีข้อดีหลายประการที่ช่วยให้การใช้จ่ายในต่างประเทศมีความคุ้มค่า โดยเฉพาะสิทธิประโยชน์ในหมวดเดินทาง การคืนเงิน และคะแนนสะสมที่สามารถเปลี่ยนเป็นไมล์บินหรือสิทธิพิเศษต่าง ๆ ได้ หากใช้บัตรอย่างมีวางแผน UOB World ถือว่าเป็นหนึ่งในบัตรที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่เดินทางบ่อยและต้องการสิทธิพิเศษที่ครอบคลุม

อย่างไรก็ตาม ก่อนใช้งานจริง ควรตรวจสอบเงื่อนไขล่าสุดจากธนาคาร UOB และเปรียบเทียบกับบัตรเครดิตใบอื่นเพื่อให้ตรงกับพฤติกรรมการใช้จ่ายของตนเองมากที่สุด