บัตรเครดิตใช้ผ่อนของปลายเดือน ควรวางแผนยังไงไม่ให้กระทบเดือนถัดไป?
วางแผนยังไงดี หากจะใช้บัตรเครดิตผ่อนของปลายเดือน
ในยุคที่การใช้บัตรเครดิตกลายเป็นเรื่องปกติของชีวิตประจำวัน การใช้ฟีเจอร์ “ผ่อน 0%” ก็เป็นหนึ่งในเครื่องมือยอดนิยมที่ช่วยให้คนสามารถจับจ่ายของชิ้นใหญ่โดยไม่ต้องจ่ายเต็มจำนวนในทันที โดยเฉพาะในช่วงปลายเดือนที่เงินสดในบัญชีเริ่มร่อยหรอ
แต่การใช้บัตรเครดิตผ่อนของในช่วงเวลานี้ หากไม่วางแผนให้ดี อาจกลายเป็นภาระในเดือนถัดไปโดยไม่รู้ตัว บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจวิธีวางแผนใช้บัตรเครดิตเพื่อผ่อนสินค้าอย่างมีสติ และไม่กระทบการเงินในรอบถัดไป
ทำไมการผ่อนของช่วงปลายเดือนต้องวางแผนมากกว่าปกติ?
เพราะคุณมี “เวลาเตรียมตัวน้อยลง” และ “ภาระอาจซ้อน”
การผ่อนสินค้าในช่วงปลายเดือนใกล้วันตัดยอดบัตรเครดิต อาจส่งผลให้ยอดที่ควรจะไปอยู่ในรอบบัญชีถัดไป กลับถูกรวมเข้ารอบบัญชีปัจจุบัน ทำให้คุณต้องเริ่มชำระค่างวดทันทีในเดือนหน้าโดยไม่มีเวลาเตรียมตัวมากพอ
ในขณะที่ถ้าคุณผ่อนของ หลังวันตัดรอบบิลไปแล้วเพียงไม่กี่วัน คุณจะมีเวลาเตรียมเงินเกือบ 45-50 วันเต็ม ก่อนต้องชำระค่างวดแรก
เข้าใจระบบรอบบัญชีของบัตรเครดิตก่อนเริ่มผ่อน
รอบบิล / วันตัดยอด / วันครบกำหนดจ่าย
สิ่งที่ควรตรวจสอบก่อนใช้บัตรผ่อนสินค้า:
-
วันตัดยอด: วันที่สรุปยอดการใช้จ่ายของคุณทุกเดือน
-
วันครบกำหนดชำระ: วันที่คุณต้องจ่ายยอดคงค้าง (โดยปกติห่างจากวันตัดยอดราว 45 วัน)
-
รอบบัญชี: หากคุณรูดก่อนวันตัดยอด ยอดจะเข้าสู่รอบบัญชีปัจจุบัน
หากรูดหลังวันตัดยอด ยอดจะเข้าสู่รอบถัดไป ซึ่งหมายถึงเวลาจ่ายจะยืดออกไป
5 เทคนิควางแผนผ่อนของปลายเดือนอย่างฉลาด
1. ผ่อนหลังวันตัดรอบบิล เพื่อขยายเวลาชำระ
ถ้าคุณรู้วันตัดยอดของบัตร เช่น วันที่ 25 ของเดือน ลองเลื่อนการรูดผ่อนเป็นวันที่ 26 หรือหลังจากนั้น
การวางจังหวะให้ดีจะช่วยให้คุณได้เวลา “พักหนี้” นานขึ้น และสามารถวางแผนจ่ายเงินได้สบายกว่า
2. ตรวจสอบโปรผ่อน 0% กับร้านที่คุณจะซื้อ
หลายร้านค้าเปิดโปรผ่อน 0% แบบจำกัดเวลา หรือร่วมกับเฉพาะบัตรบางธนาคารเท่านั้น ก่อนรูดควรถามให้ชัดเจน:
-
ผ่อนได้กี่เดือน?
-
มีขั้นต่ำไหม?
-
คิดค่าธรรมเนียมอื่นเพิ่มเติมหรือไม่?
การใช้โปรที่มีเงื่อนไขชัดเจนจะช่วยคุณประหยัดทั้งเงินและความยุ่งยาก
3. หลีกเลี่ยงการผ่อนของหลายรายการซ้อนในช่วงเวลาเดียวกัน
การผ่อนของหลายชิ้นพร้อมกันอาจดูน้อยต่อเดือน
แต่ถ้าทุกยอดเริ่มผ่อนในเดือนเดียวกัน ยอดรวมในรอบบัญชีถัดไปอาจสูงจนคุณรับไม่ไหว
เคล็ดลับ: ควรวางแผนให้ยอดรวมผ่อนต่อเดือนไม่เกิน 20% ของรายได้ เพื่อให้ไม่กระทบภาระจำเป็นอื่น
4. ใช้แอปธนาคารหรือแอปบัตรเครดิตในการติดตามยอดผ่อน
แอปพลิเคชันของแต่ละธนาคารช่วยให้คุณเห็นยอดผ่อนคงเหลือและงวดที่ต้องจ่ายได้ชัดเจนขึ้น เช่น:
-
วันที่เริ่มผ่อน
-
ยอดผ่อนแต่ละเดือน
-
รอบบัญชีที่กำลังจะมาถึง
การใช้เทคโนโลยีช่วยให้คุณควบคุมการเงินได้ดีขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งการจดจำอย่างเดียว
5. ตั้งเตือนจ่ายเงินล่วงหน้าหรือเปิดใช้บริการหักบัญชีอัตโนมัติ
เพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับหรือดอกเบี้ยจากการลืมจ่าย คุณควร:
-
ตั้งเตือนในโทรศัพท์ก่อนวันครบกำหนด 3-5 วัน
-
สมัครหักบัญชีอัตโนมัติ (Auto debit) กับธนาคารของคุณ
การจ่ายตรงเวลาไม่เพียงแค่เลี่ยงดอกเบี้ย แต่ยังช่วยรักษาเครดิตของคุณให้น่าเชื่อถือในสายตาสถาบันการเงิน
ทางเลือกเสริม: ใช้โปรแกรมแบ่งจ่ายพิเศษจากบัตรเครดิต
ถ้าคุณใช้บัตรเครดิตแล้วอยากเปลี่ยนยอดใช้จ่ายให้เป็นงวดผ่อนภายหลัง
หลายธนาคารมีฟีเจอร์ “แบ่งจ่ายภายหลัง” (เช่น Flexi Plan, Smart Pay) ที่ให้ผ่อนยอดใช้จ่ายได้แม้ไม่อยู่ในร้านที่ร่วมโปร
เหมาะสำหรับกรณีที่คุณจำเป็นต้องใช้จ่ายก้อนใหญ่โดยไม่มีโปรผ่อน 0% ล่วงหน้า
ผ่อนของปลายเดือนได้ ถ้าวางแผนอย่างมีวินัย
การผ่อนของปลายเดือนไม่ใช่เรื่องผิด หากคุณ:
-
เข้าใจระบบรอบบิล
-
วางแผนกระแสเงินสด
-
เลือกใช้โปรอย่างเหมาะสม
ผ่อนของด้วยบัตรเครดิต ไม่ควรเป็นการยืมอนาคตมาใช้โดยไม่คิด แต่ควรเป็นเครื่องมือที่ช่วยวางแผนทางการเงินให้ดีขึ้น วางแผนก่อนรูด แล้วคุณจะไม่ต้องกังวลตอนรอบบิลใหม่มาถึงอีกครั้ง