ยืมเงินไม่คืน มีความผิดหรือเปล่า แจ้งความได้มั้ย
ยืมเงินแล้วไม่คืน มีความผิดหรือเปล่า
หลายคนอาจเคยประสบเหตุการณ์ “เพื่อนยืมเงินแล้วไม่คืน” หรือ “ให้ญาติยืมเงินไปนานแล้วเงียบหาย” ทำให้เกิดคำถามขึ้นว่า แบบนี้เราสามารถแจ้งความได้หรือไม่? และถ้าผู้ยืมไม่คืนเงินจริง ๆ จะมีความผิดตามกฎหมายหรือไม่? บทความนี้จะพาไปหาคำตอบแบบละเอียด พร้อมแนะนำแนวทางการดำเนินการตามกฎหมายในกรณีที่เกิดหนี้ค้างชำระ
ยืมเงินไม่คืน ผิดกฎหมายหรือไม่?
การยืมเงินระหว่างบุคคลถือเป็น “สัญญากู้ยืมเงิน” ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 โดยจะถือว่าเป็นภาระหนี้ที่ผู้กู้ต้องชำระคืนตามกำหนด หากไม่คืนเงินตามที่ตกลงไว้ เจ้าหนี้สามารถฟ้องร้องทางแพ่งได้ทันที
กฎหมายแพ่ง vs กฎหมายอาญา: เข้าใจให้ชัด
- กฎหมายแพ่ง: กรณียืมเงินแล้วไม่คืนถือเป็นคดีแพ่ง ไม่ใช่คดีอาญา กล่าวคือ เป็นเรื่องของหนี้สินที่เจ้าหนี้สามารถฟ้องร้องเรียกคืนเงินได้
- กฎหมายอาญา: หากไม่มีพฤติกรรมหลอกลวง เช่น การปลอมเอกสารหรือแสดงเจตนาฉ้อโกงตั้งแต่ต้น การไม่คืนเงินจะไม่เข้าข่ายคดีอาญา จึงไม่สามารถแจ้งความจับได้
แจ้งความได้หรือไม่?
หากไม่มีการฉ้อโกง เช่น ไม่มีเจตนาหลอกยืมเงินแต่แรก การแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจไม่สามารถดำเนินคดีอาญาได้ เจ้าหน้าที่จะมักแนะนำให้ไปฟ้องร้องทางแพ่งแทน
ข้อยกเว้น: กรณีที่อาจแจ้งความได้
มีบางกรณีที่อาจเข้าข่ายความผิดทางอาญา ได้แก่:
- แสดงเจตนาหลอกลวง เช่น แอบอ้างโครงการหรือชื่อบุคคลอื่นเพื่อให้หลงเชื่อและยืมเงิน
- ปลอมเอกสาร เช่น สลิปโอนเงิน ใบรับรอง หรือสัญญาปลอม
- ยืมเงินแล้วหนีติดต่อไม่ได้ตั้งแต่ต้น
ในกรณีเหล่านี้สามารถแจ้งความในข้อหาฉ้อโกงหรือปลอมแปลงเอกสารได้ ซึ่งเป็นความผิดทางอาญา
หากจะฟ้องร้อง ต้องเริ่มต้นอย่างไร?
หากตัดสินใจดำเนินการทางแพ่งเพื่อเรียกคืนเงิน เจ้าหนี้ควรเตรียมเอกสารและหลักฐานให้ครบถ้วน เช่น:
- ข้อความแชทที่แสดงการตกลงยืมเงิน
- สลิปโอนเงิน
- สัญญาเงินกู้ (ถ้ามี)
- พยานบุคคล (ถ้ามี)
ขั้นตอนการฟ้องร้องในศาลแพ่ง
- ยื่นฟ้องที่ศาลแพ่งในพื้นที่ที่ลูกหนี้อยู่ หรือที่สัญญาถูกทำขึ้น
- ชำระค่าธรรมเนียมศาล โดยคิดจากยอดเงินที่ต้องการเรียกคืน
- หากศาลรับฟ้อง จะนัดทั้งสองฝ่ายมาไกล่เกลี่ยหรือสืบพยานตามกระบวนการ
- หากศาลพิพากษาให้ลูกหนี้ต้องคืนเงินและลูกหนี้ไม่ยอมชำระ เจ้าหนี้สามารถขอบังคับคดี เช่น อายัดเงินเดือน ยึดทรัพย์ ได้
หมดอายุความหรือยัง? รู้ไว้ก่อนสาย
ตามกฎหมายแพ่ง การฟ้องร้องเรียกคืนหนี้จากการกู้ยืมเงินมีอายุความ 10 ปี นับจากวันที่ครบกำหนดชำระ (ถ้ามีการกำหนดวัน) หรือ 10 ปีนับจากวันที่ให้กู้ (หากไม่ได้กำหนดวันชำระ)
หากปล่อยไว้เกิน 10 ปีโดยไม่ดำเนินการใด ๆ เจ้าหนี้จะไม่สามารถฟ้องร้องได้อีก ถือว่าหนี้ขาดอายุความ
ควรทำอย่างไรเมื่อเจอปัญหานี้?
1. พยายามเจรจาเป็นอันดับแรก
แนะนำให้ติดต่อผู้กู้เพื่อเจรจาขอคืนเงินก่อนเสมอ เพราะการดำเนินคดีมีค่าใช้จ่ายและใช้เวลานาน การพูดคุยอาจได้ผลดีกว่า
2. รวบรวมหลักฐานไว้ให้ครบ
แม้ยังไม่ตัดสินใจฟ้อง ก็ควรรวบรวมหลักฐานไว้ล่วงหน้า เพราะเมื่อถึงเวลาที่ต้องใช้ จะได้มีข้อมูลพร้อม
3. ขอคำปรึกษาจากทนาย
หากไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นอย่างไร หรือกรณีมีความซับซ้อน เช่น เกี่ยวข้องกับต่างจังหวัด ต่างประเทศ หรือมูลหนี้จำนวนมาก การปรึกษาทนายความจะช่วยให้วางแผนได้ชัดเจน
ยืมเงินไม่คืน ไม่ใช่คดีอาญาแต่ฟ้องแพ่งได้
การยืมเงินแล้วไม่คืนโดยทั่วไปไม่ถือเป็นคดีอาญา แต่เป็นคดีแพ่งที่เจ้าหนี้สามารถฟ้องร้องเรียกเงินคืนได้ หากมีพฤติกรรมหลอกลวงหรือปลอมแปลงเอกสารอาจเข้าข่ายคดีอาญาได้ การเตรียมหลักฐานและดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอนจะช่วยให้คุณเรียกเงินคืนได้สำเร็จ และลดความเสี่ยงจากการเสียเปรียบทางกฎหมาย หากคุณกำลังเผชิญปัญหาคนยืมเงินไม่คืน อย่าเพิ่งท้อใจ เพราะกฎหมายให้สิทธิ์คุณในการเรียกร้องคืนทรัพย์สินที่คุณสมควรได้รับ