ยื่นงบล่าช้าต้องจ่ายค่าปรับเท่าไหร่ วางแผนยังไงบ้าง คนทำธุรกิจต้องรู้
ยืนงบล่าสุดจะต้องจ่ายค่าปรับเท่าไหร่ คนทำธุรกิจต้องเรียนรู้
การยื่นงบการเงินประจำปีต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) และยื่นแบบภาษีกับกรมสรรพากรเป็นภาระหน้าที่สำคัญของผู้ประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กหรือบริษัทจำกัด หากมีการยื่นล่าช้าหรือไม่ยื่นเลย อาจต้องเสียค่าปรับในอัตราที่สูงอย่างคาดไม่ถึง บทความนี้จะช่วยให้ผู้ทำธุรกิจเข้าใจเรื่องค่าปรับที่ต้องเจอหากยื่นงบล่าช้า พร้อมแนวทางวางแผนให้ถูกต้อง
ยื่นงบการเงินคืออะไร?
งบการเงินคือเอกสารทางบัญชีที่แสดงผลการดำเนินงาน รายรับ รายจ่าย สินทรัพย์ หนี้สิน และสถานะการเงินของกิจการในรอบปีที่ผ่านมา ซึ่งต้องยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (สำหรับบริษัท/ห้างหุ้นส่วน) และยื่นแบบภาษีกับกรมสรรพากร (เช่น ภ.ง.ด.50, ภ.ง.ด.51)
กำหนดเวลายื่นงบการเงิน
- ยื่นงบการเงินต่อ DBD: ภายใน 1 เดือนหลังวันประชุมผู้ถือหุ้น
- ยื่นแบบ ภ.ง.ด.50 ต่อสรรพากร: ภายใน 150 วันนับจากวันสิ้นปีบัญชี
ตัวอย่างเช่น หากสิ้นปีบัญชีวันที่ 31 ธันวาคม ต้องยื่นแบบภ.ง.ด.50 ภายในวันที่ 30 พฤษภาคม ปีถัดไป
ค่าปรับหากยื่นงบล่าช้า
1. ค่าปรับจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD)
- ค่าปรับกรณีไม่ยื่นงบการเงิน: ปรับไม่เกิน 100,000 บาท
- ค่าปรับกรณียื่นล่าช้า: ปรับไม่เกิน 50,000 บาท
ทั้งนี้ การลงโทษขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่และระยะเวลาที่ล่าช้า หากยื่นหลังจากกำหนดหลายเดือนหรือหลายปี ค่าปรับจะเพิ่มขึ้นตามความรุนแรงของความผิด
2. ค่าปรับจากกรมสรรพากร
- ยื่นแบบภ.ง.ด.50 ล่าช้า: ปรับสูงสุดไม่เกิน 2,000 บาท
- เบี้ยปรับกรณีมีภาษีที่ต้องชำระ: ปรับ 1.5% ต่อเดือนของภาษีที่ยังไม่ได้ชำระ
- เงินเพิ่ม: เพิ่มอีก 1% ต่อเดือนของภาษีที่ยังไม่ได้ชำระ
หากยื่นล่าช้า 3 เดือน และมีภาษีค้างอยู่ 100,000 บาท อาจต้องชำระค่าปรับรวมเกือบ 5,500 บาท
ผลกระทบอื่นๆ นอกเหนือจากค่าปรับ
1. เสียความน่าเชื่อถือของกิจการ
การไม่ยื่นงบหรือล่าช้าบ่อยครั้งอาจส่งผลให้บริษัทดูไม่น่าเชื่อถือในสายตาของธนาคาร นักลงทุน หรือพันธมิตรทางธุรกิจ
2. ไม่สามารถต่อใบอนุญาตหรือขอสินเชื่อ
หน่วยงานรัฐบางแห่ง หรือธนาคาร อาจขอเอกสารงบการเงินล่าสุดในการพิจารณา หากไม่สามารถยื่นได้ อาจเสียโอกาสทางธุรกิจ
แนวทางวางแผนป้องกันการยื่นล่าช้า
1. ตั้งระบบเตือนล่วงหน้า
ผู้ประกอบการควรมีระบบแจ้งเตือนวันที่ครบกำหนดยื่นงบ เช่น การตั้งแจ้งเตือนในปฏิทิน หรือใช้ซอฟต์แวร์บัญชีที่มีระบบเตือนอัตโนมัติ
2. จ้างสำนักงานบัญชีที่มีประสบการณ์
หากไม่มีทีมบัญชีภายใน ควรเลือกใช้บริการสำนักงานบัญชีที่เชี่ยวชาญและเข้าใจข้อกำหนดของ DBD และสรรพากร จะช่วยลดความผิดพลาดได้
3. ปรับปรุงเอกสารให้เป็นระบบ
ควรจัดเก็บเอกสารทางบัญชีให้เป็นระเบียบ เช่น ใบเสร็จรับเงิน ใบแจ้งหนี้ เพื่อให้งานจัดทำงบการเงินเป็นไปอย่างรวดเร็ว
4. ตรวจสอบภาษีกลางปีล่วงหน้า
อย่ารอจนถึงสิ้นปีบัญชี ควรมีการตรวจสอบรายได้ ค่าใช้จ่าย และภาษีที่ต้องจ่ายในช่วงกลางปี เพื่อไม่ให้เกิดภาระภาษีสะสมในปลายปี
การยื่นงบล่าช้าไม่ใช่แค่เรื่องของค่าปรับเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อความน่าเชื่อถือและโอกาสทางธุรกิจในอนาคต การวางแผนให้ดีตั้งแต่ต้นปีบัญชีจะช่วยให้ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าปรับ และสามารถมุ่งพัฒนาธุรกิจได้อย่างมั่นใจ