fbpx

รีไฟแนนซ์รถยนต์ ทำยังไง 2568

 In บทความ

 

การรีไฟแนนซ์รถยนต์เป็นวิธีที่ช่วยลดภาระทางการเงินสำหรับผู้ที่กำลังผ่อนชำระค่างวดรถอยู่ โดยการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการผ่อนชำระให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน บทความนี้จะอธิบายขั้นตอนและเอกสารที่จำเป็นในการรีไฟแนนซ์รถยนต์อย่างละเอียด

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง:

  • 5 ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์รถยนต์ให้ผ่อนน้อยลง
  • รวมขั้นตอนรีไฟแนนซ์รถยนต์ พร้อมค่าใช้จ่ายที่ต้องรู้
  • รีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด 2568 ทำได้หรือไม่ ที่ไหนดี

รีไฟแนนซ์รถยนต์คืออะไร?

การรีไฟแนนซ์รถยนต์คือการขอสินเชื่อใหม่จากสถาบันการเงินเพื่อนำมาชำระหนี้สินเชื่อรถยนต์เดิมที่ยังผ่อนไม่หมด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงเงื่อนไขการผ่อนชำระ เช่น ลดอัตราดอกเบี้ย ขยายระยะเวลาผ่อนชำระ หรือปรับยอดค่างวดให้เหมาะสมกับความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้

ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์รถยนต์

  1. ตรวจสอบเงื่อนไขสินเชื่อปัจจุบัน

    ก่อนดำเนินการรีไฟแนนซ์ ควรตรวจสอบรายละเอียดสินเชื่อเดิมที่มีอยู่ เช่น อัตราดอกเบี้ยปัจจุบัน ยอดเงินคงเหลือ และค่าธรรมเนียมในการปิดบัญชีก่อนกำหนด ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยในการประเมินความคุ้มค่าของการรีไฟแนนซ์

  2. เปรียบเทียบข้อเสนอจากสถาบันการเงินต่าง ๆ

    ค้นหาข้อมูลจากสถาบันการเงินหลายแห่งเพื่อเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อนชำระ และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ การเปรียบเทียบนี้จะช่วยให้คุณเลือกข้อเสนอที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุด

  3. เตรียมเอกสารที่จำเป็น

    การเตรียมเอกสารอย่างครบถ้วนจะช่วยให้กระบวนการรีไฟแนนซ์เป็นไปอย่างราบรื่น เอกสารที่จำเป็นได้แก่:

    • สำเนาบัตรประชาชน
    • สำเนาทะเบียนบ้าน
    • เล่มทะเบียนรถยนต์
    • เอกสารแสดงรายได้ เช่น สลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองเงินเดือน
    • สัญญาเช่าซื้อเดิม (ถ้ามี)
  4. ยื่นคำขอรีไฟแนนซ์

    เมื่อเตรียมเอกสารครบถ้วน ให้ยื่นคำขอรีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงินที่เลือก โดยกรอกแบบฟอร์มและส่งเอกสารที่จำเป็น สถาบันการเงินจะพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้และประวัติสินเชื่อของคุณ

  5. รอการอนุมัติ

    หลังจากยื่นคำขอ สถาบันการเงินจะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ในการพิจารณา หากได้รับการอนุมัติ จะมีการติดต่อเพื่อดำเนินการขั้นตอนต่อไป

  6. ปิดบัญชีสินเชื่อเดิม

    เมื่อได้รับการอนุมัติ สถาบันการเงินใหม่จะชำระยอดหนี้คงเหลือกับสถาบันการเงินเดิม คุณอาจต้องชำระค่าธรรมเนียมการปิดบัญชีก่อนกำหนด (ถ้ามี)

  7. ลงนามในสัญญาใหม่

    หลังจากปิดบัญชีเดิม คุณจะต้องลงนามในสัญญาเงินกู้ใหม่กับสถาบันการเงิน พร้อมชำระค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เช่น ค่าประเมินราคารถยนต์ และค่าจดทะเบียนจำนอง

  8. เริ่มผ่อนชำระกับสถาบันการเงินใหม่

    เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนทั้งหมด คุณจะเริ่มผ่อนชำระค่างวดกับสถาบันการเงินใหม่ตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้

ข้อดีของการรีไฟแนนซ์รถยนต์

  • ลดอัตราดอกเบี้ย: ช่วยลดภาระดอกเบี้ยที่ต้องชำระในแต่ละเดือน
  • ขยายระยะเวลาผ่อนชำระ: ทำให้ค่างวดต่อเดือนลดลง เพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน
  • ได้รับเงินสดส่วนต่าง: หากมูลค่ารถยนต์สูงกว่ายอดหนี้คงเหลือ คุณอาจได้รับเงินสดส่วนต่างเพื่อนำไปใช้จ่ายตามความต้องการ

สิ่งที่ควรระวัง

  • ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ: เช่น ค่าประเมินราคารถยนต์ ค่าจดทะเบียนจำนอง และค่าปรับการปิดบัญชีก่อนกำหนด
  • ระยะเวลาผ่อนชำระที่ยาวขึ้น: อาจทำให้ยอดดอกเบี้ยรวมที่ต้องชำระเพิ่มขึ้น

หนี้และประวัติสินเชื่อของคุณ ก่อนอนุมัติสินเชื่อใหม่ หากได้รับการอนุมัติ คุณจะต้องลงนามในสัญญาเงินกู้ใหม่เพื่อดำเนินการรีไฟแนนซ์ให้เสร็จสมบูรณ์

การประเมินสภาพรถยนต์

หลังจากที่สถาบันการเงินอนุมัติสินเชื่อแล้ว จะมีการตรวจสอบสภาพรถยนต์ก่อนทำสัญญา ซึ่งอาจรวมถึงการตรวจสอบเลขตัวถัง หมายเลขเครื่องยนต์ และสภาพโดยรวมของรถ หากรถมีสภาพสมบูรณ์ตามที่กำหนด การรีไฟแนนซ์ก็จะดำเนินการต่อไปได้

การปิดบัญชีสินเชื่อเดิมและรับเงินกู้ใหม่

เมื่อการรีไฟแนนซ์ได้รับการอนุมัติ สถาบันการเงินแห่งใหม่จะดำเนินการชำระสินเชื่อเดิมให้กับธนาคารหรือบริษัทไฟแนนซ์ที่คุณเคยใช้บริการ หลังจากนั้น เงินส่วนต่าง (ถ้ามี) จะถูกโอนเข้าบัญชีของคุณตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้


ข้อดีและข้อเสียของการรีไฟแนนซ์รถยนต์

ข้อดีของการรีไฟแนนซ์รถยนต์

ลดค่างวดรายเดือน – หากได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง หรือมีการขยายระยะเวลาผ่อนชำระ ค่างวดในแต่ละเดือนจะลดลง ช่วยให้มีสภาพคล่องทางการเงินมากขึ้น
ได้รับเงินก้อนจากส่วนต่าง – ในกรณีที่มูลค่ารถสูงกว่ายอดหนี้ที่เหลืออยู่ คุณสามารถขอรับเงินกู้เพิ่มได้ตามเงื่อนไขของสถาบันการเงิน
สามารถเลือกอัตราดอกเบี้ยที่ดีกว่า – หากสถาบันการเงินใหม่เสนออัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า คุณสามารถลดภาระดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายตลอดอายุสัญญา

ข้อเสียของการรีไฟแนนซ์รถยนต์

ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม – อาจมีค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์ เช่น ค่าธรรมเนียมปิดบัญชี ค่าประเมินสภาพรถ และค่าธรรมเนียมดำเนินการ
ระยะเวลาผ่อนชำระยาวขึ้น – หากเลือกขยายเวลาผ่อนชำระ แม้ว่าค่างวดจะลดลง แต่ดอกเบี้ยสะสมในระยะยาวอาจสูงขึ้น


สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์รถยนต์

  1. อัตราดอกเบี้ยใหม่คุ้มค่าหรือไม่?
    • เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยระหว่างสินเชื่อเดิมและสินเชื่อใหม่ หากอัตราดอกเบี้ยใหม่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ การรีไฟแนนซ์อาจเป็นทางเลือกที่ดี
  2. ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ส่งผลต่อความคุ้มค่าหรือไม่?
    • ตรวจสอบค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรีไฟแนนซ์ เช่น ค่าปิดบัญชีเดิม ค่าดำเนินการ และค่าโอนทะเบียนรถ
  3. ภาระหนี้ในปัจจุบันของคุณเป็นอย่างไร?
    • หากคุณมีหนี้สินอื่น ๆ อยู่แล้ว การเพิ่มภาระสินเชื่อรถยนต์อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด ควรประเมินสถานะทางการเงินของตนเองก่อนตัดสินใจ
  4. สามารถผ่อนชำระค่างวดใหม่ได้หรือไม่?
    • ตรวจสอบว่าคุณสามารถรับผิดชอบค่างวดใหม่ได้โดยไม่กระทบต่อค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
Recent Posts

Start typing and press Enter to search