ร่ายกฎใหม่ ก.พ. 68 ข้าราชการรับเงินเดือนเพิ่ม 5,600 บาท
ร่างกฎใหม่ ก.พ. 68 รับเงินเพิ่ม 3,500-5,600 ต่อเดือน
ข้าราชการได้เงินเพิ่ม มีใครได้บ้าง สำหรับร่างกฎใหม่ ก.พ. 68 ให้สิทธิ์ข้าราชการ, นักฟิสิกส์การแพทย์ ได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้น สำหรับเงินประจำตำแหน่ง 3,500 – 5,600 บาท ต่อเดือนเพื่อดึงดูดคนเก่ง เข้ามาเสริมระบบสาธารณสุขไทย
ข่าวดีสำหรับวงการสาธารณสุขไทย ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้มีการลงมติสำคัญ อนุมัติร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินประจำตำแหน่ง ซึ่งมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการเพิ่มสิทธิ์ให้ นักฟิสิกส์การแพทย์ ได้รับเงินประจำตำแหน่งโดยมีเป้าหมายหลักคือการรักษาและดึงดูดบุคลากรผู้ที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทางไว้ในระบบราชการ เพื่อยกระดับคุณภาพและความปลอดภัยในการดูแลรักษาผู้ป่วยของประชาชน
การอนุมัติร่างกฎหมาย ก.พ. ครั้งนี้เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินประจำตำแหน่ง พ.ศ. 2567 โดยเฉพาะการเพิ่มสายงานฟิสิกส์การแพทย์ เข้าไปในบัญชีสายงานที่มีสิทธิได้รับเงินประจำตำแหน่ง สำหรับรายละเอียดการเพิ่มเงินประจำตำแหน่งสามารถดูเพิ่มเติมได้ด้านล่าง
- ระดับชำนาญการ จะได้รับเงินประจำตำแหน่งในอัตรา 3,500 บาทต่อเดือน
- ระดับชำนาญการพิเศษ จะได้รับเงินประจำตำแหน่งในอัตรา 5,600 บาทต่อเดือน
การปรับเพิ่มเงินเดือนดังกล่าว จะสอดคล้องกับมาตรฐานกำหนดตำแหน่งประเภทวิชาการ ที่เพิ่มขึ้นใหม่ในสายงานด้านวิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยี กลุ่มงานวิทยาศาสตร์สุขภาพและการแพทย์
นักฟิสิกส์การแพทย์ สำคัญต่อระบบสาธารสุขยังไง?
หลายคนอาจเกิดความสงสัยเกี่ยวกับนักฟิสิกส์การแพทย์ ว่ามีบทบาทสำคัญยังไง ซึ่งบุคลากรกลุ่มนี้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางที่จำเป็นมากในการทำงานร่วมกับแพทย์ โดยเฉพาะการรักษาผู้ป่วยมะเร็งด้วยรังสี
หน้าที่ของนักฟิสิกส์การแพทย์
- บริหารจัดการความปลอดภัยจากการใช้รังสี เป็นส่วนสำคัญที่ต้องใช้ความรู้ในการควบคุมเครื่องมือเทคโนโลยีที่มีความซับซ้อน
- วางแผนการรักษา และ คำนวณปริมาณรังสี ตามที่แพทย์กำหนดในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งด้วยเครื่องฉายรังสีในโรงพยาบาล
- ใช้เครื่องมือรังสีที่มีความซับซ็อน รวมถึงการคำนวญด้วยคอมพิวเตอร์ที่ซับซ้อน เพื่อให้การรักษาผู้ป่วยเป็นไปอย่างแม่นยำและปลอดภัย
- ความแตกต่างกับนักรังสีแพทย์ นักฟิสิก์การแพทย์จะเน้นการใช้เครื่องฉาบรังสีที่ต้องอาศัยการคำนวณที่ซับซ้อนในขณะที่นักรังสีการแพทย์ จะเป็นผู้ประเมินว่าผู้ป่วยเหมาะกับการรักษาด้วยเครื่องฉายรังสีแบบไหน