สิทธิบัตรทอง รักษาฟัน 30 บาท ไปคลินิกเอกชนได้กว่า 1,400 แห่ง
สิทธิบัตรทอง 30 บาท ไปคลินิกทันตกรรมเอกชนที่ร่วมได้ทุกที่
รักษาฟรี 5 รายการ สำหรับสิทธิบัตรทอง 30 บาท สามารถเดินทางไปคลินิกทันตกรรมเอกชน ที่ร่วม 30 บาทรักษาทุกโลกได้แบบไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม สำหรับทำฟันเทียม, รากฟันเทียม สามารถติดต่อ โรงพยาบาลรัฐประจำอำเภอและโรงพยาบาลรัฐประจำจังหวัดได้ทุกแห่ง
จากข่าวที่ออกมากรณีผู้ป่วยทันตกรรม รับสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง 30 บาท เข้ารับบริการทำฟันที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี และ ได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่ว่าต้องรอคิวนานถึง 8 ปี ต่อมาทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้พูดคุยระหว่างผู้ป่วย และ ได้ประสานงานกับสำนักงาน สาธารณสุขจังหวัด โดยจะนำผู้ป่วยเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลปากเกร็ดเนื่องจากสภาวะช่องปากต้องได้การใส่ฟัน
จากการตรวจสอบข่าวที่ออกไปนั้นพบว่า น่าจะเกิดจากข้อมูลที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในการบริหารจัดการคิดบริการของโรงพยาบาล แต่ส่วนของระบบบัตรทองนั้น ทางด้านสปสช. ยืนยันในสิทธิประโยชน์บริการทันตกรรมที่ครอบคลุมเพื่อมอบให้กับประชาชนคนไทยผู้มีสิทธิทุกคน แต่ละเคสต้องใช้เวลามากน้อยแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับความยากง่าย ทำให้มีข้อจำกัดในการให้บริการประชาชนเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน
ปัจจุบันมีคลินิกทันตกรรมเอกชนที่ขึ้นทะเบียนในระบบแล้วจำนวน 1,427 แห่งรวมให้บริการ 30 บาท รักษาทุกโรค ที่ครอบคลุมการบริการทันตกรรม 5 รายการ ประชาชนสามารถเข้ารับบริการได้ปีละ 3 ครั้งตามรายละเอียดด้านล่าง
- อุดฟัน
- ขูดหินปูน
- ถอนฟัน
- เคลือบหลุมร่องฟัน
- เคลือบฟลูออไรด์
สำหรับประชาชนที่ทำฟันเทียม หรือ รากฟันเทียมนั้น ประชาชนสามารถติดต่อรับบริการโดยใช้สิทธิบัตรทองได้ที่ โรงพยาบาลรัฐประจำอำเภอ และ โรงแรมพยาบาลรัฐประจำจังหวัดทุกที่ ในส่วนของสัดส่วนของผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง 30 บาทต่อทันตแพทย์ที่อยู่ในสังกัดโรงพยาบาลของรัฐ เช่น โรงพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข หรือ โรงพยาบาลในสังกัดมหาวิทยาลัย เท่ากับทันตแพทย์ จะต้องดูแลผู้ป่วยบัตรทองในสัดส่วนที่สูงมาก เช่น ทันตแพทย์ 1 คนจะต้องดูแลผู้ป่วนประมาณ 9,150 คน ซึ่งมากกว่าสัดส่วนที่ควรจเป็นถึง 3 เท่า
จากตัวเลขดังกล่าวบอกให้เห็นถึงจำนวนตัวเลขของทันตแพทย์ สำหรับรองรับผู้ป่วยสิทธิบัตรทองที่ยังมีไม่เพียงพอ ทำให้เกิดปัญหาการรอคิวในการทำฟันในระยะเวลาที่นาน