เคล็ดลับเจรจากับธนาคาร: ลดภาระหนี้บัตรเครดิตด้วยวิธีที่ถูกต้อง
อยากลดภาระหนี้บัตรเครดิต ต้องเจรจากับธนาคาร ยังไงถึงได้ผล
การมีหนี้บัตรเครดิตจำนวนมากอาจสร้างความกดดันทางการเงินและจิตใจได้ไม่น้อย แต่ข่าวดีคือ ผู้ถือบัตรสามารถ “เจรจากับธนาคาร” เพื่อหาทางออกที่ดีกว่าได้ หากทำด้วยวิธีที่ถูกต้อง ไม่ใช่แค่ช่วยลดภาระรายเดือน แต่ยังอาจลดอัตราดอกเบี้ยลงได้ด้วย
ทำไมต้องเจรจากับธนาคาร?
ธนาคารมีนโยบายให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่มีปัญหาด้านการชำระหนี้ เช่น การปรับโครงสร้างหนี้ หรือการขอผ่อนผันชั่วคราว เพราะหากลูกค้าไม่สามารถชำระได้เลย จะกลายเป็นหนี้เสียที่ส่งผลเสียต่อทั้งสองฝ่าย การเจรจาจึงเป็นทางเลือกที่เป็นประโยชน์ทั้งผู้ถือบัตรและธนาคาร
เตรียมตัวอย่างไรก่อนเจรจา?
1. ประเมินหนี้และสถานการณ์ของตนเอง
- รวมยอดหนี้บัตรเครดิตทั้งหมด
- ประเมินรายได้ รายจ่ายต่อเดือน และกำหนดจำนวนเงินที่สามารถผ่อนชำระได้จริง
- ตรวจสอบประวัติการชำระหนี้ของตนเองจากเครดิตบูโร เพื่อใช้ประกอบการเจรจา
2. รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือจากธนาคาร
ปัจจุบันหลายธนาคารมีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ เช่น
- ปรับลดอัตราดอกเบี้ย (จาก 18% เหลือ 10-12% ต่อปี)
- ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ (สูงสุดถึง 60 เดือน)
- เปลี่ยนหนี้บัตรเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลแบบผ่อนรายเดือน
3. เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน
สิ่งที่ธนาคารมักขอ ได้แก่
- สำเนาบัตรประชาชน
- สลิปเงินเดือนหรือหลักฐานรายได้ล่าสุด
- รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 3-6 เดือน
- เอกสารแสดงภาระหนี้อื่นๆ (ถ้ามี)
วิธีเจรจาอย่างมืออาชีพ
1. ใช้ภาษาที่สุภาพและตรงประเด็น
การเจรจาไม่ใช่การต่อรองแบบเอาชนะ แต่คือการขอความช่วยเหลือ ควรใช้ภาษาที่แสดงความรับผิดชอบ เช่น “ขอเจรจาเพื่อขอลดดอกเบี้ยและผ่อนชำระตามความสามารถจริง”
2. อย่าใช้อารมณ์หรือต่อว่าเจ้าหน้าที่
เจ้าหน้าที่เป็นเพียงผู้ประสานงาน ไม่สามารถตัดสินใจขั้นสุดท้ายได้เอง ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงคำพูดที่ก้าวร้าว เช่น “จะไม่จ่ายแล้ว” หรือ “ธนาคารเอาเปรียบ”
3. เสนอแนวทางที่เป็นไปได้
เช่น “สามารถชำระได้เดือนละ 3,000 บาท หากลดดอกเบี้ยลงมาบ้าง จะสามารถรักษาวินัยการชำระได้ต่อเนื่อง” ซึ่งช่วยให้ธนาคารเห็นความตั้งใจ
ตัวเลือกที่ธนาคารอาจเสนอ
1. ปรับโครงสร้างหนี้
ธนาคารอาจรวมยอดหนี้ทั้งหมดของคุณแล้วเปลี่ยนเป็นสินเชื่อใหม่ที่มีดอกเบี้ยต่ำลง เช่น 10-12% และให้ผ่อนเป็นงวดรายเดือนตามระยะเวลา 36-60 เดือน
2. โครงการไกล่เกลี่ยหนี้ของ ธปท.
สำหรับผู้ที่มีหนี้หลายสถาบัน การเข้าร่วมโครงการของธนาคารแห่งประเทศไทยอาจเป็นทางเลือกที่ดี โดยสามารถขอเจรจาผ่านช่องทางกลางที่มีความเป็นธรรม
บางธนาคารมีบริการรวมหนี้บัตรมาไว้ที่เดียว พร้อมเสนอเงื่อนไขดอกเบี้ยต่ำกว่า เช่น 8-10% ต่อปี หากคุณมีเครดิตดีและมีรายได้มั่นคง
ข้อควรระวังในการเจรจา
- อย่ารับเงื่อนไขที่เกินความสามารถ แม้จะดูเหมือนเป็นข้อเสนอที่ดี
- ขอรายละเอียดเป็นลายลักษณ์อักษรเสมอ และตรวจสอบก่อนลงนาม
- อย่าหยุดจ่ายหนี้โดยไม่ได้รับการยืนยันจากธนาคารก่อน เพราะจะกระทบเครดิตบูโร
การเจรจากับธนาคารไม่ใช่เรื่องน่ากลัว หากมีการเตรียมตัวที่ดีและสื่อสารอย่างมีวุฒิภาวะ ผู้ถือบัตรเครดิตที่มีภาระหนี้สูงสามารถขอความช่วยเหลือและลดภาระลงได้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้อย่าลืมรักษาวินัยทางการเงินและไม่สร้างหนี้ใหม่ระหว่างที่อยู่ในกระบวนการเจรจา