เทรนด์อัตราดอกเบี้ยระยะยาว อนาคตของการออมและการลงทุนในประเทศไทย

 In บทความ

เทรนด์อัตราดอกเบี้ยระยะยาว: อนาคตของการออมและการลงทุนในประเทศไทย

ในโลกการเงินและเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ยถือเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการออม การลงทุน และต้นทุนทางการเงินของภาคธุรกิจอย่างลึกซึ้ง บทความนี้จะพาไปสำรวจแนวโน้มของ อัตราดอกเบี้ยระยะยาว ในประเทศไทย พร้อมทั้งวิเคราะห์ผลกระทบต่อกลุ่มผู้ฝากเงิน นักลงทุน และเศรษฐกิจในภาพรวม

อัตราดอกเบี้ยระยะยาวคืออะไร?

อัตราดอกเบี้ยระยะยาว หมายถึง อัตราดอกเบี้ยของตราสารหนี้หรือสินเชื่อที่มีอายุเกิน 5 ปีขึ้นไป เช่น พันธบัตรรัฐบาล 10 ปี, สินเชื่อบ้าน หรือเงินฝากประจำ 5 ปีขึ้นไป โดยอัตราดอกเบี้ยประเภทนี้มักสะท้อนความคาดหวังในเรื่อง เงินเฟ้อ, การเติบโตทางเศรษฐกิจ และ นโยบายการเงินในอนาคต

แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยระยะยาวในประเทศไทย

1. ดอกเบี้ยผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว?

ในช่วงปี 2563–2565 ประเทศไทยเผชิญกับภาวะดอกเบี้ยต่ำเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากผลกระทบจากโควิด-19 และการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แต่หลังจากปี 2566 เป็นต้นมา ดอกเบี้ยเริ่มปรับตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจากราคาสินค้าและพลังงาน

2. การขึ้นดอกเบี้ยของประเทศพัฒนาแล้วส่งผลต่อไทย

เมื่อสหรัฐฯ และยุโรปทยอยขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้เกิดแรงกดดันให้ประเทศไทยต้องปรับดอกเบี้ยระยะยาวให้สูงขึ้นตาม เพื่อรักษาเสถียรภาพของค่าเงินบาทและป้องกันเงินทุนไหลออก นอกจากนี้ยังมีผลต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยที่ต้องแข่งขันกับประเทศอื่น

3. โครงสร้างเศรษฐกิจและภาระหนี้ภาครัฐ

แม้จะมีแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น แต่ปัจจัยด้านภาระหนี้ภาครัฐ และการเติบโตของเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอน อาจจำกัดเพดานการขึ้นของดอกเบี้ยในระยะยาว เพราะการเพิ่มดอกเบี้ยมากเกินไป อาจกระทบต้นทุนการคลังและภาคครัวเรือน

ผลกระทบของดอกเบี้ยระยะยาวต่อการออม

1. เงินฝากมีแนวโน้มให้ผลตอบแทนดีขึ้น

เมื่อดอกเบี้ยขยับขึ้น ธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ ก็เริ่มปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากให้สูงขึ้น โดยเฉพาะเงินฝากประจำ 12 เดือน หรือ 24 เดือน ทำให้ผู้ที่ถือเงินสดอยู่ในระบบสามารถเริ่มกลับมาใช้การฝากเงินเป็นทางเลือกในการรักษามูลค่าทรัพย์สิน

2. ความเสี่ยงของเงินเฟ้อยังเป็นปัจจัยสำคัญ

แม้ดอกเบี้ยจะสูงขึ้น แต่หากอัตราเงินเฟ้อยังสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากจริง (Real Interest Rate ติดลบ) ก็ยังทำให้ “การออม” แบบเดิม ๆ ไม่สามารถรักษามูลค่าทรัพย์สินในระยะยาวได้ ดังนั้นต้องพิจารณาร่วมกับเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ

ผลกระทบของดอกเบี้ยระยะยาวต่อการลงทุน

1. หุ้นกลุ่มเติบโตอาจเผชิญแรงกดดัน

เมื่ออัตราดอกเบี้ยระยะยาวสูงขึ้น ค่าใช้จ่ายของบริษัทโดยเฉพาะในกลุ่มที่มีภาระหนี้สูงจะเพิ่มขึ้น อีกทั้งราคาหุ้นกลุ่มเติบโต (Growth Stocks) มักจะได้รับผลกระทบจากการคิดลดกระแสเงินสดในอนาคต ทำให้มูลค่าปรับลง

2. พันธบัตรและตราสารหนี้น่าสนใจขึ้น

นักลงทุนที่เน้นความมั่นคงเริ่มหันกลับมาลงทุนในพันธบัตรหรือกองทุนตราสารหนี้ระยะยาวที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้นตามอัตราดอกเบี้ย โดยเฉพาะตราสารหนี้เอกชนที่มีอันดับความน่าเชื่อถือดี

3. ทองคำและสินทรัพย์ปลอดภัยอาจผันผวน

การขึ้นดอกเบี้ยในหลายประเทศทำให้ต้นทุนในการถือทองคำเพิ่มขึ้น (ไม่มีดอกเบี้ย) และทำให้ความน่าสนใจของทองคำลดลงบ้าง แต่ยังถือเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงระยะยาวในสถานการณ์เศรษฐกิจไม่แน่นอน

กลยุทธ์การวางแผนการเงินในยุคดอกเบี้ยขาขึ้น

1. กระจายพอร์ตตามอายุและความเสี่ยง

สำหรับผู้ที่ใกล้เกษียณอาจพิจารณาเพิ่มสัดส่วนตราสารหนี้คุณภาพดี ส่วนคนวัยทำงานควรเน้นหุ้นที่มีความสามารถสร้างกำไรระยะยาว และยังสามารถทนทานต่อความผันผวนของตลาด

2. เลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่ปรับตัวตามเงินเฟ้อ

การเลือกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ (REITs), หุ้นปันผลสูง หรือธุรกิจที่มีอำนาจในการตั้งราคาสินค้าและบริการ อาจช่วยรักษาผลตอบแทนในภาวะที่เงินเฟ้อยังคงสูง

3. ติดตามนโยบายธนาคารกลางอย่างใกล้ชิด

การประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และทิศทางของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เป็นสิ่งที่ต้องจับตา เพราะส่งผลโดยตรงต่อดอกเบี้ยไทยในระยะยาว

ดอกเบี้ยระยะยาวกำหนดทิศทางการเงินทั้งระบบ

แม้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวจะมีการเคลื่อนไหวตามปัจจัยมหภาคและนโยบายของภาครัฐ แต่ในฐานะผู้บริโภค นักลงทุน หรือผู้วางแผนทางการเงิน การเข้าใจเทรนด์และปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ จะช่วยให้สามารถรักษาความมั่งคั่งและสร้างโอกาสในอนาคตได้อย่างมั่นคง

Recent Posts

Start typing and press Enter to search