เปิดผลกระทบหากลืมส่งค่างวดสินเชื่อบ้าน

 In บทความ

มีผลกระทบอะไรบ้าง หากคุณลืมส่งค่างวดสินเชื่อบ้าน

เริ่มแรกเลยเราต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับ สินเชื่อก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งสินเชื่อแบบมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน นั้นหมายถึงสินเชื่อที่ธนาคาร หรือสถาบันการเงินปล่อยกู้ ให้กับลูกค้าที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันนั่นเอง สำหรับหลักทรัพย์ที่นำมาค้ำประกันนั้น อาจจะเป็นรูปแบบอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน, ที่ดิน, คอนโด หรือ สังหาริมทรัพย์อื่นเช่นๆ รถยนต์, บัญชีเงินฝาก ฯลฯ

นอกจากนี้ยังมีสินเชื่อบัตรเครดิต, สินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งสินเชื่อพวกนี้เป็นสินเชื่อที่มีความเสี่ยงต่ำ หากลูกค้าผิดนัดชำระหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ธนาคารหรือสถาบันการเงินสามารถยึดหลักทรัพย์ที่ลูกค้านำมาค้ำประกันเพื่อนำไปขายทอดตลาด และ นำเงินมาใช้หนี้ได้

สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยคืออะไร?

สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือ สินเชื่อบ้าน ก็คือเงินกู้ระยะยาว ที่สถาบันการเงิน ได้แก่ธนาคาร ปล่อยให้กู้ให้กับบุคคลทั่วไป เพื่อวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการมีที่อยู่อาศัยตามรายละเอียดด้านล่าง

  • ซื้อที่อยู่อาศัย: บ้านเดี่ยว, ทาวน์เฮาส์, ทาวน์โฮม, คอนโดมิเนียม หรือ อาคารพาณิชย์
  • ปลูกสร้างที่อยู่อาศัย: สำหรับผู้ที่มีที่ดินเป็นของตัวเอง และ ต้องการสร้างบ้าน
  • ต่อเติม หรือ ปรับปรุง ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย: สำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงบบ้านเดิมให้ดีขึ้น
  • ซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้าง: บางกรณีอาจรวมการกู้เพื่อซื้อที่ดิน และ สร้างบ้านไปพร้อมๆกัน
  • รีไฟแนนซ์ (Refinance): กู้เงินจากสถาบันการเงินแห่งใหม่ เพื่อนำไปชำระหนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัยเดิมกับสถาบันการเงิน มักทำเพื่อหาดอกเบี้ยที่ถูกลง
  • สินเชื่อ Home for Cash บ้านแลกเงิน เป็นสินเชื่อส่วนบุคคล ที่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน โดยนำบ้านที่ปลอดภาระหนี้ มาเป็นหลักประกันเพื่อขอเงินกู้ไปจ่ายตามวัตถุประสงค์อื่น ที่ไม่ใช่การซื้อหรือสร้างบ้าน

สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หากเราทำการขอสินเชื่อเพื่อกู้ซื้อบ้าน หรือ คอนโด กับทางธนาคาร ในช่วงเวลาที่เราผ่อนชำระค่างวดอยู่นั้น เรายังไม่ได้เป็นเจ้าของบ้าน หรือ คอนโดอย่างเต็มตัว ถึงแม้ว่าเราจะเป็นผู้อยู่อาศัยแล้วก็ตาม เราจะเป็นเจ้าของได้เต็มตัวก็ต่อเมื่อเราผ่อนชำระค่างวดสุดท้าย ครบตามระยะเวลาในสัญญาเงินกู้ การคิดดอกเบี้ย สำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย จะเป็นการคิดดอกเบี้ย แบบลดต้นลดดอก แม้ค่างวดที่ส่งในแต่ละเดือนจะเป็นยอดเงินที่เท่ากัน แต่ค่างวดที่จ่ายจะจ่ายๆ ลดเงินต้นมากขึ้น เมื่อระยะเวลาผ่านไป เนื่องจากทุกครั้งที่ทำการจ่ายค่างวดเงินต้นของเราจะลดลงนั่นเอง หากเรามีเงินก้อน สามารถนำเงินนั้นมาชำระเงินกู้ได้ ซึ่งจะทำให้หนี้หมดเร็วขึ้น

หากเราขาดส่งค่างวดสินเชื่อบ้าน หรือ คอนโด จะเกิดอะไรขึ้น?

ในสัญญาเงินกู้ทุกฉบับ จะมีกำหนดรายละเอียดว่าจะต้องจ่ายค่างวดในวันที่เท่าไหร่ของเดือน ซึ่งลูกค้าควรจ่ายค่างวดไม่เกินวันที่กำหนด และ ควรจ่ายค่างวดตามกำหนดทุกครั้ง เพื่อให้ค่างวดไปตัดดอกเบี้ยและเงินต้นตามที่กำหนดเอาไว้ จ่ายก่อนได้ และไม่ควรจ่ายช้า หากจ่ายช้าค่างวดจะถูกแบ่งไปจ่ายดอกเบี้ยมากขึ้น และทำให้เงินต้นไม่ลดลง หรือ ลดลงน้อยกว่าเดิม

หากเราขาดส่งค่างวดบ้านเกินกว่า 75 วัน

ในช่วงเศรษฐกิจแย่ขนาดนี้ อาจจะมีหลายๆบ้าน ที่อาจจะผิดชำระหรือขาดส่งค่างวดบ้านเกิน 75 วัน ซึ่งทางธนาคารจะเริ่มคิดดอกเบี้ยในอัตราผิดนัดที่จะสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยปกติเยอะมาก เช่น อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยอยู่ที่ 6-8% ในขณะที่ดอกเบี้ยผิดนัดชำระ จะอยู่ที่ 15-18% เลยทีเดียว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร การขาดส่งค่างวดบ้าน จึงไม่ใช่เรื่องตลกเลย เนื่องจากคนที่ขาดส่งจะต้องโดยคิดดอกเบี้ยในอัตราที่ผิดชำระ ซึ่งสูงมากๆ

โดยปกติแล้ว การขาดส่งค่างวดตั้งแต่งวดแรก หรือ งวดที่ 1 จะมีเจ้าหน้าที่ธฯาคารติดต่อกลับมา แต่ถ้าหากขาดส่งค่างวดบ้าน 3 งวดติดต่อกัน ทางธนาคารจะถือว่ากลายเป็นหนี้เสีย และจะทำการส่งข้อมูลไปยังเครดิตบูโร ซึ่งจะมีประวัติการเป็นหนี้ที่ไม่ดี ในขณะที่ดอกเบี้ยผิดนัดรวมถึงค่าปรับและค่าทวงหนี้ต่างๆ กรณีจ่ายค่างวดล่าช้า ก็จะถูกคำนวณไปเรื่อยๆ ตลอดเวลาที่เรายังค้างชำระหนี้อยู่ หนี้สินเชื่อจะมีดอกเบี้ยพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นตัวเลขที่น่ากลัวมากๆ

หากสินเชื่อกลายเป็นหนี้ NPL หรือ หนี้เสีย ทางธนาคารมีสิทธิ์ที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายโดยการฟ้องร้องต่อศาล ให้ศาลพิพากษายึดบ้าน หรือ คอนโดลูกหนี้ เพื่อนำไปขายทอดตลาด เพื่อนำเงินที่ได้มาชำระหนี้นั่นเอง

 

 

 

 

 

Recent Posts

Start typing and press Enter to search