เปิดวิธีคิดดอกเบี้ย บัตรเครดิต ฉบับเข้าใจง่าย

 In บทความ

ขั้นตอนและวิธีคิด ดอกเบี้ยบัตรเครดิต

บัตรเครดิตเป็นเครื่องมือทางการเงินที่มอบความสะดวกสบายในการใช้จ่ายและเสริมสภาพคล่องทางการเงินในยามจำเป็น อย่างไรก็ตาม การใช้บัตรเครดิตอย่างไม่ระมัดระวังอาจนำไปสู่การเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยเฉพาะดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นจากการชำระเงินไม่เต็มจำนวนหรือไม่ตรงเวลา การเข้าใจวิธีการคำนวณดอกเบี้ยบัตรเครดิตจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ถือบัตรสามารถบริหารจัดการการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ดอกเบี้ยบัตรเครดิตคืออะไร?

ดอกเบี้ยบัตรเครดิตคือค่าตอบแทนที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินเรียกเก็บจากผู้ถือบัตรเมื่อมีการใช้วงเงินเครดิตและไม่ได้ชำระคืนเต็มจำนวนภายในระยะเวลาที่กำหนด ดอกเบี้ยนี้จะถูกคำนวณตามอัตราที่กำหนดไว้และขึ้นอยู่กับจำนวนวันที่ค้างชำระ

สาเหตุที่ทำให้เกิดดอกเบี้ยบัตรเครดิต

  1. ชำระเงินไม่เต็มจำนวนหรือชำระขั้นต่ำ: เมื่อผู้ถือบัตรเลือกชำระเงินเพียงบางส่วนหรือชำระขั้นต่ำตามที่ธนาคารกำหนด ส่วนที่เหลือจะถูกคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ทำรายการจนถึงวันที่ชำระเงิน
  2. ชำระเงินล่าช้า: หากผู้ถือบัตรชำระเงินหลังจากวันที่กำหนด ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยจากยอดค้างชำระทั้งหมดตั้งแต่วันที่ทำรายการ นอกจากนี้ยังอาจมีค่าธรรมเนียมการชำระล่าช้าเพิ่มเติม
  3. การเบิกถอนเงินสดล่วงหน้า: การใช้บัตรเครดิตเพื่อเบิกถอนเงินสดจะทำให้เกิดดอกเบี้ยทันทีตั้งแต่วันที่เบิกถอน โดยไม่มีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย และยังมีค่าธรรมเนียมการเบิกถอนเพิ่มเติม

อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง

อัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตในประเทศไทยถูกกำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย โดยปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่ธนาคารสามารถเรียกเก็บได้อยู่ที่ 16% ต่อปี นอกจากนี้ยังมีค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ที่ผู้ถือบัตรควรทราบ เช่น ค่าธรรมเนียมการเบิกถอนเงินสด ค่าธรรมเนียมการชำระเงินล่าช้า และค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินต่างประเทศ

วิธีการคำนวณดอกเบี้ยบัตรเครดิต

การคำนวณดอกเบี้ยบัตรเครดิตจะแตกต่างกันไปตามสถานการณ์การชำระเงิน ดังนี้:

  1. กรณีชำระขั้นต่ำตรงเวลาเมื่อผู้ถือบัตรชำระเงินขั้นต่ำตามที่ธนาคารกำหนด ดอกเบี้ยจะถูกคำนวณจากยอดเงินที่ยังไม่ได้ชำระเต็มจำนวน โดยมีวิธีการคำนวณดังนี้:
    • ดอกเบี้ยจากยอดเงินต้น: คำนวณจากวันที่ทำรายการถึงวันก่อนวันชำระเงินดอกเบี้ย=ยอดใช้จ่าย×อัตราดอกเบี้ยต่อปี×จำนวนวัน/365ดอกเบี้ย = ยอดใช้จ่าย × อัตราดอกเบี้ยต่อปี × จำนวนวัน / 365
    • ดอกเบี้ยจากยอดค้างชำระ: คำนวณจากยอดเงินที่ยังไม่ได้ชำระหลังจากชำระขั้นต่ำดอกเบี้ย=ยอดค้างชำระ×อัตราดอกเบี้ยต่อปี×จำนวนวัน/365ดอกเบี้ย = ยอดค้างชำระ × อัตราดอกเบี้ยต่อปี × จำนวนวัน / 365

    ตัวอย่าง:

    นาย A ใช้บัตรเครดิตซื้อสินค้ามูลค่า 30,000 บาท ในวันที่ 1 มกราคม วันสรุปยอดบัญชีคือวันที่ 15 ของเดือน และวันครบกำหนดชำระเงินคือวันที่ 30 ของเดือน อัตราดอกเบี้ย 16% ต่อปี นาย A ชำระเงินขั้นต่ำ 10% ของยอดค้างชำระในวันที่ 30 มกราคม

    • ดอกเบี้ยจากยอดเงินต้น:30,000บาท×1630,000 บาท × 16% × 29 วัน (1 ม.ค. – 29 ม.ค.) / 365 = 380.27 บาท
    • ดอกเบี้ยจากยอดค้างชำระ:ยอดค้างชำระหลังชำระขั้นต่ำ = 30,000 บาท – 3,000 บาท = 27,000 บาท

      27,000บาท×1627,000 บาท × 16% × 15 วัน (30 ม.ค. – 14 ก.พ.) / 365 = 177.26 บาท

    ดังนั้น ดอกเบี้ยรวมที่นาย A ต้องชำระคือ 380.27 บาท + 177.26 บาท = 557.53 บาท

  2. กรณีชำระเต็มจำนวนแต่ล่าช้าหากผู้ถือบัตรชำระยอดค้างชำระเต็มจำนวนแต่หลังจากวันครบกำหนด ดอกเบี้ยจะถูกคำนวณจากยอดเงินต้นตั้งแต่วันที่ทำรายการจนถึงวันที่ชำระเงิน

    ตัวอย่าง:

    นาย B ใช้บัตรเครดิตซื้อสินค้ามูลค่า 20,000 บาท ในวันที่ 1 มีนาคม วันสรุปยอดบัญชีคือวันที่ 15 ของเดือน และวันครบกำหนดชำระเงินคือวันที่ 30 ของเดือน นาย B ชำระเงินเต็มจำนวนในวันที่ 5 เมษายน

    • ดอกเบี้ยจากยอดเงินต้น:20,000บาท×1620,000 บาท × 16% × 35 วัน (1 มี.ค. – 4 เม.ย.) / 365 = 307.40 บาท

    นอกจากดอกเบี้ยนี้ นาย B อาจต้องเสียค่าธรรมเนียมการชำระล่าช้าเพิ่มเติมตามที่ธนาคารกำหนด

  3. กรณีเบิกถอนเงินสดล่วงหน้าการเบิกถอนเงินสดจากบัตรเครดิตจะทำให้เกิดดอกเบี้ยทันทีตั้งแต่วันที่เบิกถอน และไม่มีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยเหมือนการใช้จ่ายผ่านบัตร นอกจากนี้ยังมีค่าธรรมเนียมการเบิกถอนเงินสดเพิ่มเติม ซึ่งปกติจะอยู่ที่ประมาณ 3% ของยอดที่เบิกถอน และยังต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% บนค่าธรรมเนียมอีกด้วย

    ตัวอย่างการคำนวณดอกเบี้ยจากการเบิกถอนเงินสด

    นาย C เบิกถอนเงินสดจากบัตรเครดิตจำนวน 10,000 บาท ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ อัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตอยู่ที่ 16% ต่อปี และค่าธรรมเนียมการเบิกถอนเงินสดอยู่ที่ 3% โดยนาย C ทำการชำระเงินคืนเต็มจำนวนในวันที่ 15 กุมภาพันธ์

    1. ค่าธรรมเนียมการเบิกถอนเงินสด10,000×3%=300บาท10,000 × 3\% = 300 บาทค่าธรรมเนียมนี้จะถูกคิดเพิ่มเข้าไปในยอดหนี้รวมทันที
    2. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) บนค่าธรรมเนียม300×7%=21บาท300 × 7\% = 21 บาทดังนั้นค่าธรรมเนียมทั้งหมดที่ต้องจ่ายคือ 321 บาท
    3. ดอกเบี้ยจากการเบิกถอนเงินสด
      คำนวณดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. – 14 ก.พ. (14 วัน)(10,000+321)×16%×14/365=63.80บาท(10,000 + 321) × 16\% × 14 / 365 = 63.80 บาทดอกเบี้ยรวมที่นาย C ต้องชำระคือ 63.80 บาท และค่าธรรมเนียมเบิกถอนเงินสด 321 บาท
      รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด = 10,000 + 321 + 63.80 = 10,384.80 บาท

    จากตัวอย่างนี้จะเห็นได้ว่าการเบิกถอนเงินสดจากบัตรเครดิตมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงหากไม่จำเป็น

 

Recent Posts

Start typing and press Enter to search