15 สินค้า 4 ตลาดใหม่ ยุทธศาสตร์ไทยรับภาษีทรัมป์

 In บทความ

เปิดยุทธศาสตร์ไทยรับภาษีทรัมป์ลดผลกระทบการส่งออก

หากไทยถูกสหรัฐปรับเพิ่มอัตราภาษีศุลกากร 36% มาตรการภาษีต่างตอบแทน หรือ Reciprocal Tariffs โดยอ้างว่าเป็นประเทศที่ไม่สมดุลทางการค้ากับสหรัฐ นอกจากนี้อาจจะมีการพิจารณาใช้อัตราภาษีรายภูมิภาค หรือ Regional หรืออาจจะขยายระยะเวลาการระงับการเก็บภาษีในบางประเทศก็เป็นไปได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของทางรัฐบาลสหรัฐ ไม่เพียงเท่านั้นสหรัฐได้ออกมาตรการทางภาษีรายสินค้า หรือ Product Specific Tariffs โดยใช้อำนาจทางกฎหมายตามมาตรา 232 เช่น เหล็ก และ อลูมิเนียมที่นำเข้าจากทุกประเทศ จะถูกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้นอีกในอัตรา 50% สินค้ารถยนต์ และ ชิ้นส่วนรถยนต์บางประเภท ที่นำเข้าจากทุกประเทศ จะถูกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มอีกในอัตรา 25% สำหรับสินค้าอื่นที่ยังไม่ได้ออกมาตรการ เพราะอยู่ระหว่างไต่สวนได้แก่ ทองแดง, ไม้ และ ไม้แปลรูป, เซมิคอนดักเตอร์, ผลิตภัณฑ์ยา, แร่สำคัญ, รถบรรทุกขนาดกลางและขนาดใหญ่, เครื่องบิน และ เครื่องยนต์ไอพ่น

ปัจจุบันหลายประเทศเข้าสู่กระบวนการยื่นข้อเสนอการเจรจาการค้ากับสหรัฐอเมริกา แต่สถานการณ์ด้านภาษีในระยะข้างหน้ายังมีความไม่แน่นอนสูง และคาดเดาได้ยาก สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดทำวิเคราะห์ผลกระทบจากมาตรการด้านภาษีศุลกากรของสหรัฐต่อการส่งออกไทย 2568 ในส่วนการวิเคราะห์สินค้าส่งออกไทยมีแนวโน้มได้รับผลกระทบ จากมาตรการด้านภาษีของสหรัฐพบว่า กลุ่มสินค้าที่พึ่งพาตลาดสหรัฐสูงสุด 12 อันดับแรก หรือมีระดับการพุ่งพาตลาดสหรัฐมากกว่า 28% ซึ่งส่วนใหญ่มีมูลค่าส่งออกระดับปานกลาง ซึ่งประเทศไทยไม่ได้ครองส่วนแบ่งในตลาดสหรัฐในอันดับต้นๆ

การส่งออกสินค้าในกลุ่มเครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า และ เครื่องจักรกล สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของสินค้า 2 กลุ่มนี้ หากได้รับผลกระทบจากมาตรการทางภาษี จะทำให้การส่งออกสินค้ากลุ่มนี้ชะลอลงทำให้ภาพรวมการส่งออกไปสหรัฐลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่สินค้าเกษตร และ อุตสาหกรรมการเกษตรที่พึ่งพาตลาดสหรัฐสูง เช่น ของปรุ่งแต่งทำจากพืชผักผลไม้ น้ำมะพร้าว ผลไม้แปลรูป สับปะรดกระป๋อง ที่พึ่งตลาดาสหรัฐถึง 29.8% มูลค่าสูงถึง 782.6 ล้านดอลลาร์

หากพิจารณาด้านการแข่งขันในตลาดสหรัฐพบว่ากลุ่มสินค้าที่พึ่งพาตลาดสหรัฐสูงของไทย ไม่ได้เป็นสินค้าที่ไทยครองส่วนแบ่งการตลาดในสหรัฐในอันดับต้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วประเทศที่ครองส่วนแบ่งในตลาดสหรัฐมากคือ จีน, เวียดนาม, กัมพูชา, แม็กซิโก และ แคนนาดา แนวทางการพิจารณาหาตลาดส่งออกทดแทนสหรัฐสำหรับสินค้าส่งออกสำคัญที่ไทยส่งออกไปสหรัฐ 15 กลุ่มแรก ซึ่งคิดเป็น 90.1% ของมูลค่าการส่งออกรวมไปสหรัฐในปี 2567 พบว่าไทยมีโอกาสขยายการส่งออกได้หลายกลุ่มสินค้าที่ไทยเป็นแหล่งนำเข้าอันดับต้นๆ หรือ เริ่มเข้าไปชิงส่วนแบ่งการตลาดในตลาดอื่นๆ

 

Recent Posts

Start typing and press Enter to search