5 พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้คนไทยติดหนี้บัตรเครดิตโดยไม่รู้ตัว

 In บทความ

คนไทยเสี่ยงเป็นหนี้บัตรเครดิต โดยไม่รู้ตัว

หนี้บัตรเครดิต เป็นหนึ่งในภาระทางการเงินที่คนไทยจำนวนมากเผชิญอยู่ทุกวัน แม้ว่าบัตรเครดิตจะเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ให้ความสะดวกสบาย แต่หากใช้ผิดวิธี อาจกลายเป็นดาบสองคมที่สร้างภาระหนี้สินโดยไม่รู้ตัว บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกกับ 5 พฤติกรรมเสี่ยงที่มักเกิดขึ้นบ่อยในชีวิตประจำวัน และอาจเป็นต้นเหตุของหนี้บัตรเครดิตแบบไม่รู้ตัว

พฤติกรรมที่ 1: จ่ายขั้นต่ำทุกเดือนเพราะ “ยังไหวอยู่”

เข้าใจผิดว่าการจ่ายขั้นต่ำคือปลอดภัย

หลายคนเข้าใจว่าการจ่ายขั้นต่ำ 10% ของบัตรเครดิตในแต่ละเดือน คือการบริหารเงินที่ดี แต่ในความเป็นจริง การจ่ายขั้นต่ำทำให้ยอดคงค้างสะสมไปเรื่อย ๆ และธนาคารจะคิดดอกเบี้ยจากยอดทั้งหมดที่ยังไม่จ่ายแบบ “ดอกเบี้ยทบต้น”

ผลกระทบระยะยาวของการจ่ายขั้นต่ำ

หากคุณรูดบัตรเครดิต 50,000 บาท แล้วจ่ายขั้นต่ำเพียง 5,000 บาทต่อเดือน ยอดที่เหลือจะถูกคิดดอกเบี้ยทันที และดอกเบี้ยเหล่านั้นจะเพิ่มขึ้นทุกเดือนโดยอัตโนมัติ หากไม่มีการชำระยอดเต็ม หนี้จะทวีคูณภายในเวลาไม่กี่เดือน

พฤติกรรมที่ 2: ผ่อนสินค้า 0% หลายชิ้นจนงบการเงินตึง

ผ่อน 0% ไม่ใช่ไม่เป็นหนี้

โปรโมชั่นผ่อน 0% เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ยอดนิยมที่ร้านค้าใช้เพื่อกระตุ้นยอดขาย หลายคนจึงตัดสินใจซื้อของเกินความจำเป็นโดยคิดว่า “ไม่เสียดอกเบี้ย” แต่ลืมไปว่าแม้ไม่มีดอกเบี้ย ก็ยังต้องจ่ายเงินทุกเดือนอยู่ดี

การผ่อนหลายรายการพร้อมกันคือกับดักเงียบ

เมื่อมีภาระผ่อนสินค้า 3-4 รายการพร้อมกัน เงินสดในแต่ละเดือนจะเริ่มหายไปทีละนิด จนกระทั่งไม่มีเงินเหลือสำหรับชำระยอดบัตรอื่น ๆ หรือภาระจำเป็นอื่น ๆ สุดท้ายก็ต้อง “รูดเพิ่ม” เพื่อประคองสถานการณ์ กลายเป็นหนี้สะสมโดยไม่รู้ตัว

พฤติกรรมที่ 3: ใช้บัตรเครดิตแทนเงินสดในทุกสถานการณ์

รูดง่าย แต่จ่ายคืนไม่ง่าย

การใช้บัตรเครดิตจ่ายค่าน้ำมัน ค่าอาหาร ค่าช้อปปิ้ง หรือแม้กระทั่งค่าน้ำค่าไฟ กลายเป็นเรื่องปกติในยุคปัจจุบัน เพราะสะดวก รวดเร็ว และบางครั้งยังได้แต้มสะสมหรือ cashback อีกด้วย

แต่ปัญหาคือเมื่อใช้รูดบ่อยเกินไป จนไม่ได้คำนวณรายจ่ายทั้งหมดต่อเดือนให้ดีพอ คุณอาจใช้จ่ายเกินตัวโดยไม่รู้สึก เพราะไม่มีเงินสดไหลออกทันที แต่ยอดหนี้กำลังเพิ่มขึ้นแบบเงียบ ๆ

ความเข้าใจผิดเรื่อง “จ่ายทีเดียวปลายเดือน”

บางคนอ้างว่า “รูดก่อน จ่ายทีเดียวปลายเดือน” เป็นวิธีควบคุมเงินสด แต่หากไม่มีวินัยหรือระบบติดตามรายจ่ายที่ชัดเจน สิ่งที่ตามมาคือชำระยอดไม่ไหว กลายเป็นหนี้ทบต้นทุกเดือน

พฤติกรรมที่ 4: ใช้บัตรเครดิตช่วยยืดเงินเดือนให้อยู่รอดถึงสิ้นเดือน

ใช้บัตรในยามฉุกเฉินบ่อยเกินไป

การใช้บัตรเครดิตซื้อของก่อนเงินเดือนออกอาจดูเหมือนเป็นทางออกฉุกเฉินที่ดี แต่หากทำเป็นประจำทุกเดือน แสดงว่า “รายได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย” และการใช้บัตรแบบนี้คือการแก้ปัญหาปลายเหตุ

เสี่ยงติดกับดักหนี้ระยะยาว

เมื่อเริ่มใช้บัตรเพื่อเอาตัวรอด ปัญหาจะสะสมมากขึ้นทุกเดือน เพราะแทนที่จะลดรายจ่าย กลับเพิ่มภาระดอกเบี้ย และทำให้เงินเดือนในเดือนถัดไปต้องนำไปจ่ายหนี้แทนการใช้จ่ายชีวิตจริง ๆ


พฤติกรรมที่ 5: ใช้บัตรเครดิตเพื่อเสริมภาพลักษณ์ทางสังคม

อยากดูดี จึงใช้เงินเกินตัว

ในยุคที่สื่อโซเชียลครองโลก คนจำนวนไม่น้อยใช้บัตรเครดิตซื้อของแบรนด์เนม กินอาหารหรู หรือเที่ยวต่างประเทศ เพื่อโพสต์ภาพให้ดูดี แม้ว่าจะไม่มีเงินสดเพียงพอ

ภาระทางใจที่กลายเป็นภาระทางการเงิน

แม้ว่าการมีภาพลักษณ์ที่ดีจะช่วยในด้านความมั่นใจและโอกาสทางสังคม แต่ถ้าแลกมาด้วยการก่อหนี้ไม่จำเป็น หนี้บัตรเครดิตจะตามหลอกหลอนคุณไปอีกหลายปี โดยเฉพาะถ้ายังไม่มีแผนการชำระคืนที่ชัดเจน

หยุดพฤติกรรมเสี่ยง ก่อนหนี้จะลุกลาม

การใช้บัตรเครดิตไม่ใช่เรื่องผิด แต่ต้องใช้ด้วยความเข้าใจและมีวินัยทางการเงิน การหลีกเลี่ยง 5 พฤติกรรมเสี่ยงข้างต้น จะช่วยให้คุณไม่ตกเป็นเหยื่อของหนี้บัตรเครดิตแบบไม่รู้ตัว และหากคุณรู้ตัวว่าเริ่มมีสัญญาณของปัญหาหนี้แล้ว ควรรีบวางแผนจัดการโดยเร็ว เช่น ลดการใช้จ่าย ฟื้นฟูเครดิต หรือขอคำปรึกษาทางการเงินจากผู้เชี่ยวชาญ

Recent Posts

Start typing and press Enter to search