ชำระภาษีผ่านบัตรเครดิต พร้อมรับสิทธิพิเศษ
เปิดรายละเอียดชำระภาษี ผ่านบัตรเครดิตได้อะไรบ้าง?
เมื่อพูดถึงการชำระภาษีในยุคดิจิทัล หลายคนอาจยังคิดว่าต้องไปต่อคิวยาวๆ ที่สำนักงานสรรพากร หรือทำรายการผ่านธนาคารเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว “การชำระภาษีผ่านบัตรเครดิต” กลายเป็นทางเลือกยอดนิยม ที่ทั้งสะดวก รวดเร็ว และบางครั้งยังมีโปรโมชันที่น่าสนใจจากธนาคารอีกด้วย มาดูกันว่าทำไมวิธีนี้ถึงน่าสนใจ และมีสิ่งที่ควรรู้อะไรบ้างก่อนใช้บริการ
การชำระภาษีผ่านบัตรเครดิตคืออะไร?
การชำระภาษีผ่านบัตรเครดิต คือการนำยอดภาษีที่ต้องจ่าย เช่น ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีนิติบุคคล หรือภาษีมูลค่าเพิ่ม ไปทำรายการผ่านระบบของกรมสรรพากรหรือธนาคารพาณิชย์ที่ร่วมรายการ โดยเลือกวิธีการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตแทนการโอนหรือจ่ายด้วยเงินสด
ประเภทภาษีที่สามารถชำระผ่านบัตรเครดิตได้
✅ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
เหมาะสำหรับผู้ที่ยื่นภาษีประจำปี (ภ.ง.ด. 90/91) ซึ่งสามารถชำระผ่านบัตรเครดิตได้ทันที หลังจากยื่นแบบออนไลน์
✅ ภาษีเงินได้นิติบุคคล
กิจการหรือบริษัทที่ยื่นแบบ ภ.ง.ด.50 หรือ ภ.ง.ด.51 ก็สามารถชำระภาษีผ่านบัตรเครดิตได้ตามขั้นตอนที่กำหนด
✅ ภาษีหัก ณ ที่จ่าย
ภาษีประเภทนี้ เช่น ภ.ง.ด. 1, 3, 53 แม้ไม่ได้มีระบบรองรับโดยตรงจากบางธนาคาร แต่บางช่องทางการเงินก็เปิดให้ใช้บัตรเครดิตชำระผ่านแอปฯ ได้
✅ ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
สำหรับธุรกิจที่ต้องชำระ VAT ทุกเดือน ก็สามารถเลือกชำระผ่าน บัตรเครดิต เพื่อจัดการสภาพคล่องได้อย่างสะดวก
วิธีชำระภาษีผ่านบัตรเครดิต มีขั้นตอนอย่างไร?
1. ยื่นภาษีออนไลน์ผ่านเว็บไซต์สรรพากร
ไปที่เว็บไซต์ www.rd.go.th เลือกเมนู “ยื่นแบบฯ และชำระภาษี”
หากเป็นบุคคลธรรมดาให้เลือกยื่น ภ.ง.ด.90 หรือ 91
หากเป็นนิติบุคคลให้เลือกแบบที่ตรงกับประเภทธุรกิจ
2. เลือกวิธีการชำระเงิน
หลังจากกรอกแบบและระบบคำนวณยอดภาษีเรียบร้อยแล้ว ให้เลือก “ชำระผ่านบัตรเครดิต” โดยเลือกบัตรของธนาคารที่รองรับ
3. กรอกข้อมูลบัตรเครดิต
ใส่หมายเลขบัตร วันหมดอายุ และรหัส CVV ให้ถูกต้อง แล้วกดยืนยัน
4. รับหลักฐานการชำระเงิน
ระบบจะออกหลักฐานการชำระภาษีทันที หรือสามารถดาวน์โหลดเป็นไฟล์ PDF เพื่อจัดเก็บไว้ใช้ในภายหลัง
ชำระภาษีผ่านบัตรเครดิต มีค่าธรรมเนียมหรือไม่?
โดยปกติแล้ว การชำระภาษีผ่านบัตรเครดิตจะมี ค่าธรรมเนียมประมาณ 1.5% – 2% ของยอดภาษี ซึ่งขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร ตัวอย่างเช่น
ธนาคาร | ค่าธรรมเนียมโดยประมาณ | ช่องทางที่รองรับ |
กสิกรไทย | 1.50% | K PLUS, เว็บไซต์ |
กรุงศรีฯ | 2.00% | Krungsri Online, Call Center |
ไทยพาณิชย์ | 1.80% | SCB Easy, Website |
กรุงเทพ | 1.75% | Bualuang iBanking |
ข้อดีของการชำระภาษีผ่านบัตรเครดิต
✔ สะดวก ไม่ต้องเดินทาง
ทุกขั้นตอนสามารถทำผ่านมือถือหรือคอมพิวเตอร์ได้ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปที่สำนักงาน
✔ จัดการสภาพคล่องได้ดี
เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาระค่าใช้จ่ายในเดือนนั้น แต่ยังต้องการชำระภาษีตรงเวลา สามารถชำระผ่านบัตรเครดิตแล้วแบ่งจ่ายภายหลังได้
✔ รับคะแนนสะสมหรือเครดิตเงินคืน
หลายธนาคารมีโปรโมชันพิเศษสำหรับการใช้บัตรเครดิตจ่ายภาษี เช่น ได้คะแนนสะสมเพิ่ม, ได้เครดิตเงินคืน หรือได้สิทธิ์ผ่อน 0% นานสูงสุด 3 เดือน
สิ่งที่ควรระวังในการใช้บัตรเครดิตชำระภาษี
❌ ระวังค่าธรรมเนียมสูง
การชำระผ่านบัตรเครดิตอาจมีค่าธรรมเนียมที่ทำให้ยอดจ่ายจริงสูงกว่าที่ควร โดยเฉพาะหากยอดภาษีสูง
❌ ระวังดอกเบี้ยหากไม่ชำระเต็มจำนวน
หากคุณไม่สามารถชำระยอดเต็มในรอบบิลถัดไป จะต้องเสียดอกเบี้ยในอัตราสูงตามที่ธนาคารกำหนด
❌ ไม่สามารถขอคืนค่าธรรมเนียมได้
หากเกิดข้อผิดพลาดหลังชำระ ระบบจะไม่สามารถคืนค่าธรรมเนียมให้คุณได้
บัตรเครดิต | จุดเด่น | เหมาะกับใคร |
บัตร KTC | ผ่อน 0% 3 เดือน, เครดิตเงินคืน | ผู้ที่ต้องการแบ่งจ่าย |
บัตร SCB | คะแนนสะสมเพิ่ม 5 เท่า | คนที่ใช้คะแนนแลกของรางวัลบ่อย |
บัตร UOB | ฟรีค่าธรรมเนียมเมื่อใช้ตามโปร | คนที่ต้องการประหยัดค่าธรรมเนียม |
บัตรกรุงศรี | มีระบบแจ้งเตือนและหลักฐานอัตโนมัติ | ผู้ใช้งานออนไลน์ประจำ |
ชำระภาษีผ่านบัตรเครดิต ดีหรือไม่?
การชำระภาษีผ่านบัตรเครดิตถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สะดวก รวดเร็ว และทันสมัย เหมาะกับผู้ที่ต้องการความคล่องตัวในการชำระเงิน หรือผู้ที่ต้องการใช้สิทธิประโยชน์จากบัตรเครดิตให้คุ้มค่า อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบค่าธรรมเนียมและโปรโมชันให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ เพื่อไม่ให้เสียค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น