หนี้บัตรเครดิต vs หนี้ส่วนบุคคล แบบไหนน่ากลัวกว่ากัน?
หนี้สินบัตรเครดิต หรือ หนี้ส่วนบุคคล อันไหนน่ากลัวกว่ากัน?
เมื่อพูดถึง “หนี้” คำนี้มักทำให้หลายคนรู้สึกไม่สบายใจ แต่หนี้บางประเภทก็ช่วยให้เราผ่านวิกฤติทางการเงินได้ชั่วคราว อย่างไรก็ตาม การเข้าใจความแตกต่างของหนี้แต่ละแบบมีความสำคัญมาก โดยเฉพาะ หนี้บัตรเครดิต และ หนี้ส่วนบุคคล ซึ่งเป็นหนี้ที่หลายคนใช้ในชีวิตประจำวัน บทความนี้จะพาคุณไปเปรียบเทียบแบบชัดเจนว่าหนี้แบบไหน “น่ากลัวกว่า” และควรระวังอย่างไร
ทำความรู้จัก “หนี้บัตรเครดิต” และ “หนี้ส่วนบุคคล”
หนี้บัตรเครดิตคืออะไร?
หนี้บัตรเครดิตเกิดจากการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต โดยธนาคารจะสำรองจ่ายเงินแทนเราไปก่อน แล้วเรียกเก็บเงินในรอบบัญชีถัดไป หากผู้ถือบัตรไม่ชำระเต็มจำนวน จะเกิดดอกเบี้ยขึ้นทันที และกลายเป็นหนี้ที่หมุนเวียนเพิ่มขึ้นทุกเดือน
ลักษณะของหนี้บัตรเครดิต:
-
ดอกเบี้ยเฉลี่ย 16-20% ต่อปี
-
คิดดอกเบี้ยทันทีจากยอดที่ไม่ได้ชำระเต็ม
-
ไม่มีกำหนดระยะเวลาผ่อนชำระที่แน่นอน
-
หากจ่ายขั้นต่ำ จะเกิดดอกเบี้ยทบต้น
หนี้ส่วนบุคคลคืออะไร?
หนี้ส่วนบุคคล คือสินเชื่อที่ขอจากธนาคารหรือสถาบันการเงินในรูปแบบ “เงินก้อน” โดยผู้ขอกู้จะได้รับวงเงินจำนวนหนึ่ง และผ่อนชำระคืนเป็นงวด ๆ ตามจำนวนเดือนที่ตกลงไว้
ลักษณะของหนี้ส่วนบุคคล:
-
ดอกเบี้ยเฉลี่ย 10-25% ต่อปี (ขึ้นอยู่กับเครดิตผู้กู้)
-
กำหนดงวดผ่อนชำระชัดเจน (เช่น 12, 24, 36 งวด)
-
มียอดที่แน่นอน ไม่สามารถหมุนเวียนได้
-
ไม่มีบัตรให้รูดซื้อของเพิ่มเติม
เปรียบเทียบแบบชัด ๆ หนี้ไหน “น่ากลัวกว่า”?
1. ดอกเบี้ยและการคิดดอกเบี้ย
-
บัตรเครดิต: ดอกเบี้ยสูงกว่าหนี้ส่วนบุคคล และคิดแบบรายวันจากยอดคงค้างที่ไม่ได้ชำระเต็มในแต่ละรอบบิล
-
หนี้ส่วนบุคคล: ดอกเบี้ยคงที่หรือคำนวณตามเงินต้นคงเหลือ คิดเป็นรายเดือน ทำให้บริหารจัดการได้ง่ายกว่า
สรุป: หนี้บัตรเครดิตน่ากลัวกว่าในแง่ของดอกเบี้ย โดยเฉพาะถ้าไม่มีวินัยในการชำระเต็มจำนวน
2. ความยืดหยุ่นในการใช้เงิน
-
บัตรเครดิต: ยืดหยุ่นมาก สามารถรูดซื้อของได้เรื่อย ๆ จนกว่าจะเต็มวงเงิน
-
หนี้ส่วนบุคคล: ได้เงินก้อนเดียว และต้องผ่อนคืนจนหมดก่อนจึงจะขอกู้ใหม่ได้
สรุป: ความยืดหยุ่นสูงของบัตรเครดิตทำให้หลายคนเผลอใช้เกินตัวได้ง่าย จึงมีความเสี่ยงสูงถ้าขาดวินัย
3. ผลกระทบต่อเครดิตบูโร
-
บัตรเครดิต: หากชำระขั้นต่ำหรือล่าช้าเป็นประจำ จะส่งผลเสียต่อคะแนนเครดิตบูโร
-
หนี้ส่วนบุคคล: คะแนนเครดิตจะดีขึ้นหากผ่อนตรงเวลา เนื่องจากมีรูปแบบชำระเงินที่ชัดเจนและเป็นระบบ
สรุป: หนี้ส่วนบุคคลมีโอกาสสร้างเครดิตที่ดีมากกว่า ถ้าผ่อนตรงเวลา
4. โอกาสเป็น “หนี้วน”
-
บัตรเครดิต: มีโอกาสเป็นหนี้วนสูง เพราะไม่มีจุดสิ้นสุดที่แน่นอน ผู้ใช้สามารถรูดเพิ่มและจ่ายขั้นต่ำได้เรื่อย ๆ
-
หนี้ส่วนบุคคล: เป็นหนี้แบบมีจุดจบ กำหนดงวดจ่ายชัดเจน ถ้าชำระตามแผนจะไม่มีหนี้หมุนเวียนเกิดขึ้น
สรุป: หนี้บัตรเครดิตน่ากลัวกว่า เพราะอาจกลายเป็นหนี้เรื้อรังได้หากไม่วางแผนดี
5. การอนุมัติและความเข้าถึง
-
บัตรเครดิต: สมัครง่าย โดยเฉพาะถ้ามีรายได้ประจำ บางธนาคารอนุมัติง่ายในไม่กี่วัน
-
หนี้ส่วนบุคคล: อาจต้องใช้เอกสารและมีคุณสมบัติชัดเจน เช่น อายุงาน รายได้ประจำ เป็นต้น
สรุป: บัตรเครดิตเข้าถึงง่ายกว่า แต่ความง่ายนี้เองที่ทำให้คนจำนวนมากเผลอตัวกลายเป็นหนี้โดยไม่รู้ตัว
แล้วหนี้แบบไหน “ควรใช้” มากกว่ากัน?
ใช้บัตรเครดิตอย่างไรให้ปลอดภัย?
หากคุณมีวินัยทางการเงินสูง การใช้บัตรเครดิตอาจช่วยสร้างประวัติเครดิตที่ดี และยังได้รับสิทธิประโยชน์ เช่น สะสมคะแนน, ส่วนลดร้านค้า หรือ cashback แต่ ต้องจ่ายเต็มจำนวนทุกเดือน เพื่อไม่ให้เกิดดอกเบี้ยสะสม
ใช้สินเชื่อส่วนบุคคลเมื่อจำเป็น
หากคุณต้องการเงินก้อน เช่น เพื่อปิดหนี้บัตรเครดิตที่มีดอกเบี้ยสูง หรือต้องใช้เงินเพื่อเหตุฉุกเฉิน สินเชื่อส่วนบุคคลอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะมีดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าและสามารถควบคุมการผ่อนชำระได้ง่ายกว่า
หนี้แบบไหนน่ากลัวกว่ากัน?
คำตอบคือ: “หนี้บัตรเครดิต” มีความน่ากลัวมากกว่า หากไม่มีวินัยในการชำระ เนื่องจากมีอัตราดอกเบี้ยสูงมาก และไม่มีจุดสิ้นสุดที่ชัดเจน ต่างจากหนี้ส่วนบุคคลที่มีการวางแผนผ่อนจ่ายอย่างชัดเจนและสิ้นสุดตามสัญญา
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองหนี้ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย หากใช้อย่างมีความรับผิดชอบและรู้จักควบคุมการใช้จ่าย การมีวินัยทางการเงิน และการวางแผนจ่ายหนี้ให้ครบตรงเวลาคือหัวใจสำคัญที่จะทำให้หนี้ไม่กลายเป็นภาระในชีวิตระยะยาว