ประนอมหนี้ กับ ปรับโครงสร้างหนี้ ต่างกันยังไง

 In บทความ

ประนอมหนี้ กับ ปรับโครงสร้างหนี้ ต่าง กัน อย่างไร

ในยุคที่เศรษฐกิจผันผวนและค่าครองชีพสูงขึ้น การจัดการหนี้กลายเป็นเรื่องสำคัญของใครหลายคน หนึ่งในคำถามที่มักเกิดขึ้นเมื่อเริ่มเข้าสู่กระบวนการแก้ไขปัญหาหนี้คือ “ประนอมหนี้ กับ ปรับโครงสร้างหนี้ ต่างกันอย่างไร?” ทั้งสองวิธีมีจุดประสงค์คล้ายกัน คือ ช่วยให้ผู้กู้สามารถชำระหนี้ได้ต่อเนื่อง และลดภาระทางการเงิน แต่แนวทางปฏิบัติและผลลัพธ์ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ บทความนี้จะช่วยให้เข้าใจข้อแตกต่าง รวมถึงข้อดี ข้อเสียของแต่ละแนวทางอย่างละเอียด

ความหมายของการประนอมหนี้

การประนอมหนี้ (Debt Mediation) คือกระบวนการที่ลูกหนี้และเจ้าหนี้ตกลงกันใหม่เกี่ยวกับเงื่อนไขการชำระหนี้ เช่น ยืดเวลาชำระ ลดค่างวดรายเดือน หรือลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อให้ลูกหนี้สามารถกลับมาชำระหนี้ได้

จุดเด่นของการประนอมหนี้

  • มักใช้ในกรณีที่ลูกหนี้เริ่มผิดนัดชำระ หรืออยู่ในภาวะเสี่ยงผิดนัด
  • ไม่จำเป็นต้องมีการปรับสัญญาเงินกู้ใหม่
  • สามารถเจรจาผ่านหน่วยงานกลาง เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือสำนักงานศาล

ข้อจำกัดของการประนอมหนี้

  • เงื่อนไขอาจไม่เปลี่ยนแปลงมาก เช่น ยืดเวลาชำระแต่ไม่ได้ลดดอกเบี้ย
  • อาจมีผลกระทบต่อเครดิตบูโรหากเจรจาภายหลังจากเกิดหนี้เสีย

ความหมายของการปรับโครงสร้างหนี้

การปรับโครงสร้างหนี้ (Debt Restructuring) เป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของหนี้เดิม เพื่อให้ลูกหนี้สามารถรับภาระได้อย่างยั่งยืน โดยอาจรวมถึงการเปลี่ยนแปลงยอดเงินต้น ดอกเบี้ย ระยะเวลาชำระหนี้ หรือแม้แต่การรวมหนี้สินหลายประเภทเป็นก้อนเดียว

จุดเด่นของการปรับโครงสร้างหนี้

  • เหมาะสำหรับลูกหนี้ที่ยังไม่ผิดนัด แต่เริ่มมีสัญญาณความเสี่ยง
  • สามารถปรับโครงสร้างได้ลึกกว่า เช่น ลดดอกเบี้ย เปลี่ยนสัญญา
  • ช่วยป้องกันไม่ให้ลูกหนี้กลายเป็นหนี้เสีย (NPL)

ข้อจำกัดของการปรับโครงสร้างหนี้

  • ต้องมีการประเมินความสามารถในการชำระของลูกหนี้อย่างละเอียด
  • ใช้เวลาในการอนุมัติและดำเนินการนานกว่าการประนอมหนี้
  • ในบางกรณี อาจต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันเพิ่มเติม

เปรียบเทียบประนอมหนี้ vs ปรับโครงสร้างหนี้

หัวข้อ ประนอมหนี้ ปรับโครงสร้างหนี้
วัตถุประสงค์ บรรเทาภาระชั่วคราว ให้ลูกหนี้กลับมาชำระได้ วางแผนระยะยาวให้หนี้ยั่งยืนและเหมาะกับรายได้
ช่วงเวลาที่เหมาะสม หลังจากเริ่มผิดนัดชำระ ก่อนผิดนัดชำระ
วิธีดำเนินการ เจรจาเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขเดิมเล็กน้อย อาจเปลี่ยนแปลงสัญญาเดิม หรือรวมสัญญาใหม่
ระยะเวลาในการดำเนินการ เร็วกว่า นานกว่า
ผลกระทบต่อเครดิต อาจส่งผลหากเจรจาหลังเกิดหนี้เสีย หากดำเนินการทัน อาจไม่กระทบเครดิต

แนวทางการเลือกใช้วิธีที่เหมาะสม

การเลือกว่าจะใช้วิธีใดขึ้นอยู่กับสถานะทางการเงินของผู้กู้เป็นหลัก หากเริ่มมีปัญหาในการชำระแต่ยังไม่ผิดนัด การปรับโครงสร้างหนี้ มักเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะสามารถวางแผนระยะยาวได้มากกว่า แต่หากสถานการณ์ลุกลามไปถึงขั้นผิดนัดชำระแล้ว การประนอมหนี้ อาจเป็นทางออกเบื้องต้นที่สามารถช่วยได้เร็วขึ้น

สิ่งที่ควรเตรียมก่อนเจรจา

  • ข้อมูลรายได้ รายจ่าย และหนี้สินปัจจุบัน
  • เอกสารทางการเงิน เช่น สลิปเงินเดือน รายการเดินบัญชี
  • เป้าหมายที่ชัดเจนว่าต้องการผ่อนผันระยะสั้น หรือปรับระยะยาว

ประนอมหนี้ กับ ปรับโครงสร้างหนี้ ควรเลือกแนวทางไหนดี?

ไม่ว่าจะเป็นการประนอมหนี้หรือปรับโครงสร้างหนี้ ทั้งสองแนวทางล้วนมีข้อดีและเหมาะกับสถานการณ์ที่แตกต่างกัน ผู้กู้ควรประเมินตนเองอย่างตรงไปตรงมา และหากไม่มั่นใจควรขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ เช่น ธนาคาร สำนักงานบังคับคดี หรือหน่วยงานให้คำปรึกษาหนี้ เพื่อหาทางออกที่ยั่งยืนที่สุด

Recent Posts

Start typing and press Enter to search