ธุรกิจคอนโนยังหนัก ยอดโอนลดวูบต่ำสุดในรอบ 15 ปี
ธุรกิจคอนโดอาการหนัก โครงการเปิดใหม่ต่ำสุดในรอบ 15 ปี
ข้อมูลจากทางฝ่ายด้านที่พักอาศัย ประเทศไทยระบุว่าไตรมาส 2 ของปี 2568 เป็นช่วงที่คอนโดในกรุงเทพฯ เจอกับแรงกดดันหนักที่สุดในรอบหลายๆปี เนื่องจากมีความกังวลหลายๆอย่าง ทำให้ยอดโอนกรรมสิทธิ์ลดลงต่ำสุดในรอบ 6 ปี และมีการเปิดตัวโครงการใหม่เพียงแค่ 2 โครงการเท่านั้นหรือคิดเป็นตัวเลขยูนิตเพียง 405 ยูนิต ต่ำสุดในรอบ 15 ปี
ถึงแม้ตัวเลขจะดูไกลตัว แต่สาเหตุหลักที่ทำให้ธุรกิจคอนโดตกต่ำมาจนถึงตอนนี้ก็คือเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นช่วงต้นปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ซื้อ อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะโครงการที่สร้างเสร็จแล้วและยังขายไม่หมด ผู้บริโภคเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับความปลอดภัยของตัวคอนโด โครงสร้างอาคาร แถมยังมีความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ ที่ทำให้ยอดโอนกรรมสิทธิ์ลดลงเหลือเพียง 12,183 หน่วย ถือว่าเป็นจุดที่ตกต่ำสุดตั้งแต่ปี 2562
โครงการเปิดใหม่น้อยสุดในรอบ 15 ปี
โครงการใหม่เพียง 2 แห่งเท่านั้นที่เข้าสูตลาด มีตัวเลขรวม 405 ยูนิต ตั้งอยู่ชานเมืองตอนเหนือของกรุงเทพฯ ถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในอดึตเช่นในไตรมาส 2 ของปี 2565 ที่มีการเปิดตัวสูงถึง 15,164 ยูนิต ในช่วงเวลาเดียวกัน ถึงแม้ยอดจองคอนโดมิเนียม จะขยับเล็กน้อยเป็น 105 ยูนิต แต่ยังอยู่ในระดับที่ต่ำสุดเป็นอันดับ 2 ในรอบ 5 ปี ตัวเลขนี้แสดงถึงความลังเลของผู้บริโภคในการตัดสินใจซื้อ แถมตอนนี้ยังมีภาระหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น, ค่าครองชีพที่สูงขึ้น แถมเงื่อนไขในการปล่อยสินเชื่อที่ยากและเข้มงวดมากกว่าเดิม โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงๆ หรือ Real Demand ยังไม่กล้าตัดสินใจในสถานการณ์เศรษฐกิจที่ยังไม่มีความแน่นอน
ปัจจุบันราคาที่เสนอขายเฉลี่ยโดยรวมยังอยู่ในระดับที่ทรงตัวทั่วตลาด สะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันที่เน้นความคุ้มค่า มากกว่าการตั้งราคาเพื่อสร้างกำไรสูงสุด ยกตัวอย่างเช่น ย่านใจกลางเมือง ในส่วนของผู้พัฒนาโครงการ ได้มีความพยายามที่จะปรับลดราคา เพื่อจูงใจผู้ซื้อ หลังสต็อกล้นมานาน ยกตัวอย่างเช่น ทำเลชานเมือง ราคาปรับลงต่อเนื่อง เพื่อเน้นระบายหน่วยคงค้าง และ จับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง
แนวโน้มตลาดคอนโด ในช่วงครึ่งปีหลัง
การฟื้นตัวครึ่งปีหลัง ขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัย โดยเฉพาะทิศทางของดอกเบี้ยนโยบาย และ มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล และ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ถ้าหากมีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมสินเชื่อ LTV และลดค่าธรรมเนียมอย่างจริงจังจะช่วยปลุกตลาดได้ในกลุ่มผู้ซื้อที่มีความพร้อม แต่การแข่งขันในด้านราคายังสูง แถมผู้ประกอบการยังต้องปรับตัว เสนอโบนัส และ โปรโมทชั่นต่างๆ พร้อมกับเงื่อนไขในการผ่อนชำระ ตลาดตอนนี้ยังไงก็ยังไม่พร้อม ไม่ใช่แค่ภาวะวิกฤติของคอนโด แต่ยังเป็นช่วงชะลอตัวของตลาดเป็นสัญญาณเตือนให้ทุกฝ่ายจับตาเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด ในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการกลับมา ถ้ารัฐบาลมีนโยบายที่เอื้ออำนวย ภาพรวมคอนโดมิเนียมยังอยู่ในช่วงพักระยะยาว ผู้ประกอบการอาจจะต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์จากสร้างใหม่ เป็นทำให้ขายได้ แต่ต้องรอความชัดเจนของมาตรการรัฐบาลก่อน