รู้ทัน สินเชื่อออนไลน์ปลอม 2568 มาในรูปแบบไหนบ้าง

 In บทความ

รู้ทัน! สินเชื่อออนไลน์ปลอม มาในรูปแบบไหนบ้าง

ในปี 2568 แม้เทคโนโลยีจะช่วยให้คนเข้าถึงบริการทางการเงินได้ง่ายขึ้น แต่ก็เปิดช่องให้กลุ่มมิจฉาชีพใช้ช่องทางออนไลน์ปลอมตัวเป็นผู้ให้สินเชื่อ เพื่อหลอกลวงเหยื่อให้โอนเงินหรือส่งข้อมูลส่วนตัวไปอย่างไม่รู้ตัว บทความนี้จะพาไปรู้ทันกลลวงที่พบบ่อย พร้อมแนะนำวิธีตรวจสอบและป้องกันตัวอย่างเข้าใจง่าย

ประเภทของสินเชื่อออนไลน์ปลอมที่พบในปี 2568

1. แอปปลอมใน Google Play และเว็บไซต์เถื่อน

กลุ่มมิจฉาชีพสร้างแอปปลอมขึ้นมาโดยใช้ชื่อคล้ายกับแอปธนาคารหรือบริษัทไฟแนนซ์ชื่อดัง เมื่อเหยื่อติดตั้งแล้ว จะมีการขอเข้าถึงข้อมูลในเครื่อง เช่น รูปภาพ รายชื่อ และ SMS รวมถึงหลอกให้กรอกข้อมูลบัตรประชาชน และบัญชีธนาคาร

2. โฆษณาใน Facebook, TikTok, LINE OA

มีการยิงโฆษณาเชิญชวนให้กู้เงินได้ง่าย อนุมัติไว โดยแนบลิงก์ปลอมที่พาไปยังเว็บไซต์ปลอมที่ดูน่าเชื่อถือ เช่นใช้ชื่อบริษัทคล้ายของจริง พร้อมรีวิวปลอมเพื่อเสริมความน่าเชื่อถือ

3. การหลอกผ่านแชทส่วนตัว

มิจฉาชีพอาจทักแชทมาทาง Facebook หรือ LINE โดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทสินเชื่อ มีโปรโมชันพิเศษ เช่น ดอกเบี้ยต่ำ วงเงินสูง และใช้คำพูดเร่งรัด เช่น “รีบสมัครก่อนปิดยอดวันนี้” เพื่อกดดันให้ผู้สนใจส่งเอกสารส่วนตัวอย่างเร่งด่วน

4. สินเชื่อหลอกให้โอนค่าธรรมเนียมก่อน

เป็นรูปแบบคลาสสิกที่ยังใช้งานอยู่ในปี 2568 โดยมิจฉาชีพจะขอให้ผู้สมัครโอนเงินล่วงหน้า เช่น ค่าดำเนินการ ค่าประกันวงเงิน หรือค่าธรรมเนียมอนุมัติ แล้วหลังจากนั้นจะตัดการติดต่อ

5. ปลอมเป็นบริษัทสินเชื่อถูกกฎหมาย

บางกรณี มิจฉาชีพสร้างเว็บไซต์ปลอมที่ใช้ชื่อบริษัทที่จดทะเบียนจริง พร้อมแสดงใบอนุญาตปลอมจาก ธปท. หรือ สคบ. ทำให้คนหลงเชื่อว่าเป็นของจริง โดยอาจปลอมโลโก้ เว็บไซต์ และเบอร์โทรติดต่อ

สัญญาณเตือนว่าเป็น “สินเชื่อปลอม”

  • ขอให้โอนเงินล่วงหน้าก่อนการอนุมัติ
  • ไม่มีการตรวจสอบเครดิตบูโรเลยแม้จะขอกู้วงเงินสูง
  • เสนอโปรโมชันเกินจริง เช่น ดอกเบี้ย 0% ตลอดสัญญา
  • ใช้ช่องทางติดต่อส่วนตัว เช่น แชท Facebook หรือ LINE ไม่ใช่เบอร์สำนักงาน
  • ไม่มีเว็บไซต์อย่างเป็นทางการหรือไม่สามารถตรวจสอบได้บนเว็บไซต์ของ ธปท.

วิธีตรวจสอบก่อนสมัครสินเชื่อ

1. ตรวจสอบรายชื่อผู้ให้บริการในเว็บไซต์ ธนาคารแห่งประเทศไทย

ธนาคารแห่งประเทศไทยมีการเผยแพร่รายชื่อผู้ให้บริการทางการเงินที่ได้รับใบอนุญาต หากไม่มีรายชื่อนั้น ให้ระวังว่าอาจเป็นผู้ให้บริการปลอม

2. อย่าโอนเงินล่วงหน้าเด็ดขาด

ผู้ให้บริการสินเชื่อที่ถูกกฎหมายจะไม่ขอให้ผู้สมัครโอนค่าธรรมเนียมหรือเงินประกันล่วงหน้า หากมีการเรียกเก็บเงินก่อน ให้สงสัยไว้ก่อนว่าเป็นการหลอกลวง

3. เช็กเว็บไซต์และแอปพลิเคชันอย่างละเอียด

เว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือควรมี HTTPS, มีข้อมูลติดต่อชัดเจน และไม่ใช้โดเมนแปลก ๆ เช่น .xyz หรือ .top รวมถึงควรโหลดแอปจาก Google Play หรือ App Store เท่านั้น

4. สังเกตพฤติกรรมเร่งรัดให้โอนหรือสมัครด่วน

กลุ่มมิจฉาชีพมักใช้จิตวิทยาเร่งรัดให้ผู้สมัครทำตาม เช่น บอกว่าต้องรีบอนุมัติก่อนหมดสิทธิ์ ใช้ภาษาที่ไม่เป็นทางการ หรือพูดจาคล้ายบอท

หากเผลอโอนเงินไปแล้วต้องทำอย่างไร?

หากตกเป็นเหยื่อของสินเชื่อปลอม ควรดำเนินการดังนี้

  • แจ้งความที่สถานีตำรวจทันที และเก็บหลักฐานทั้งหมด เช่น สลิปการโอน บทสนทนา
  • ติดต่อธนาคารเพื่ออายัดบัญชีปลายทาง
  • แจ้งความผ่าน ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) ที่เว็บไซต์ thaipoliceonline.com
  • เตือนผู้อื่นผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้อื่นตกเป็นเหยื่อรายต่อไป

ตั้งสติ ก่อนสมัครสินเชื่อออนไลน์

แม้โลกออนไลน์จะทำให้เราสมัครสินเชื่อได้ง่ายขึ้น แต่ก็ต้องมีสติและตรวจสอบให้ดีทุกครั้ง เพราะมิจฉาชีพใช้ช่องทางเดิมซ้ำ ๆ ด้วยกลยุทธ์ใหม่ ๆ ที่ดูแนบเนียนมากขึ้น หากพิจารณาอย่างรอบคอบ จะสามารถหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ และควรแบ่งปันข้อมูลนี้ให้คนใกล้ตัวรู้ทันไปพร้อมกัน

Recent Posts

Start typing and press Enter to search