เตรียมประกาศ เคาะขั้นตอนจ่ายเงินเยียวยา เกษตรกรผู้ปลูกอ้อย
รอครม. เคาะ เกี่ยวกับขั้นตอนการจ่ายเงินเยียวยา เงินชดเชยช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกอ้อย ที่เข้าร่วมแนวทางไม่เผาอ้อยเพื่อลดปัญหาฝุ่น PM2.5
ข้อมูลล่าสุดจากทางที่ปรึกษากองบัญชาการป้องกัน และ บรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้ออกมาเปิดเผยถึงความคืบหน้าในการจ่ายเงินชดเชยให้กับพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยที่ปฎิบัติตามแนวทางไม่เผา ได้ออกมาระบุว่ากระทรวงอุตสาหกรรมได้ดำเนินการเตรียมเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และตอนนี้อยู่ระหว่างพิจาณาของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
ในการรณรงค์ให้หยุดเผาอ้อย โดยใช้วิธีการเคาะประตูบ้านนั้นมีความคืบหน้าไปแล้วจำนวน 1,207 ชุมชน ครอบคุลม 23,522 ครัวเรือน ซึ่งคาดว่าการพิจารณาในขั้นตอนต่อไป จะสามารถดำเนินการได้ภายในสัปดาห์หน้านี้
จนถึงตอนนี้สถานการณ์ไฟป่า ทางกรมป้าไม้ไม่ได้มีการรายงานเพิ่มเติม และพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยจำนวนจุดความร้อนลดลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
มาตรการใหม่ล่าสุด ไทยเที่ยวไทย รัฐจ่ายครึ่งนึง
สายเที่ยวต้องไม่พลาดกับโครงการใหม่ล่าสุดจากทางรัฐบาลที่ออกมาเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศไทย กับโครงการ ไทยเที่ยวไทย โลว์ซีซัน รัฐบาลจ่ายให้คนละครึ่ง ค่าที่พัก ค่าอาหาร และ ค่าตั๋วเครื่องบิน มีส่วนลดให้ถึง 50% ใครที่ได้รับสิทธิ์บ้าง แล้วเฟสแรกเปิดให้ลงทะเบียนเมื่อไหร่ สามารถไปเช็คเพิ่มเติมได้ด้านล่างเลย
เปิดมาตรการใหม่ล่าสุด ไทยเที่ยวไทย รัฐจ่ายคนละครึ่ง
อีกหนึ่งมาตรการที่ถือว่าเป็นกระแสมากในช่วงนี้ เป็นมาตรการที่ออกมาเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศไทยของเรา ซึ่งมาตรการนี้ใช้งบกลางจำนวน 3.5 พันล้านบาท ทางด้านรัฐมาตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ออกมาเปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยว เตรียมชงของบกลาง และ รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือ จำเป็นประจำปีงบประมาณ 2568 เพื่อเป็นการจัดทำโครงการเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศไทย ยังรอสรุปชื่อโครงการอย่างเป็นทางการอยู่
ลงทะเบียนมาตรการ ไทยเที่ยวไทยโลว์ซีซัน เปิดให้ลงทะเบียนและใช้สิทธิ์วันไหน?
โครงการไทยเที่ยวไทย โลว์ซีซัน เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ตั้งแต่เดือน พฤษภาคม ไปจนถึงเดือนกันยายน 2568
ใครได้รับสิทธิ์บ้างโครงการ ไทยเที่ยวไทย รัฐจ่าย “คนละครึ่ง”
- ไทยเที่ยวไทย ภาครัฐจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวเพิ่มขึ้่นเป็นสัดส่วน 50%
- นักท่องเที่ยวไทยจ่ายเองอีก 50% หรือเรียกว่าจ่ายคนละครึ่ง
- รัฐบาลไทย เชื่อว่าเมื่อเปิดให้จองสิทธิ์โครงการนี้ จะมีคนเข้ามาใช้สิทธิ์หมดอย่างรวดเร็วแน่นอน
ปัจจุบันโครงการนี้อยู่ระหว่างการนำเสนอโครงการกับทาง กระทรวงการคลัง เพื่อหารือข้อสรุป แต่ที่แน่ๆคือถ้าโครงการนี้ผ่าน สามารถใช้สิทธิ์จ่ายคนละครึ่งกับค่าใช้จ่ายตามลิสด้านล่าง
- ค่าโรงแรมคนละครึ่ง
- ค่าร้านอาหารคนละครึ่ง
ส่วนค่าตั๋วเครื่องบินนั้นยังไม่ได้ข้อสรุป ต้องรอผลการประชุมอีกที นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาแพลตฟอร์มกลางให้เป็นเกตเวย์ดึง OTA หรือบริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ ที่พร้อมให้ความร่วมมือในการจองสินค้าท่องเที่ยว รวมถึงโรงแรมสามารถเข้าร่วมเพื่อรองรับการจองห้องพักโดยตรงได้
เปิดรายละเอียดวิธีใช้สิทธิ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน หากต้องการใช้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ต จะต้องจ่ายยังไง ยกตัวอย่างจากทาง CJ More ที่มีการประกาศแจ้งเปลี่ยนวิธีใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน 2568 ผ่านการรูดบัตร สามารถใช้ซื้อของได้แล้วตั้งแต่วันนี้ เฉพาะสาขาที่เข้าร่วมโครงการเท่านั้น ให้ประชาชนที่ถือบัตรแสดงบัตรประชาชน และทำการกดรหัสคู่บัตร หรือ PIN 6 หลัก และทำการสแกนหน้า สำหรับผู้ถือบัตรท่านไหนตรวจพบว่ามีปัญหาเกี่ยวกับการใช้งานบัตร สามารถเช็ครายละเอียดและขั้นตอนในการแก้ไขได้ด้านล่างเลย
3 ขั้นตอนในการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ร้าน CJ More
- แสดงบัตรประจำตัวประชาชน
- กดรหัสคู่บัตร หรือ PIN 6 หลัก
- สแกนใบหน้า ให้ถอดแว่น ถอดหมวก และ หน้ากากอนามัย
กรณีพบปัญหาในงานใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรมีปัญหา
- จำรหัสไม่ได้
- รหัสถูกล็อก
- ต้องการเปลี่ยนรหัส หรือ PIN
- ไม่สามารถแสดงใบหน้าได้
- ไม่พบการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของเลขบัตรประชาชน
ถ้าหากเจอปัญหาด้านบนให้ทำการติดต่อธนาคารกรุงไทย ทุกสาขา หรือติดต่อที่ Welfare Call Center 02-109-2345 ในวันเวลาทำการ ตั้งแต่วันจันทร์ ถึงวันศุกร์เวลา 08.30 – 17.30 น.
วิธีจ่ายบัตรเครดิต UOB ง่ายๆ ทำได้ด้วยตัวคุณเอง
การชำระค่าบัตรเครดิต UOB เป็นเรื่องที่ต้องทำเป็นประจำทุกเดือนเพื่อป้องกันค่าปรับและดอกเบี้ยที่ไม่จำเป็น หลายคนอาจสงสัยว่าสามารถจ่ายเงินผ่านช่องทางใดได้บ้าง ในบทความนี้เราจะมารีวิววิธีการจ่ายบัตรเครดิต UOB ที่สะดวกและปลอดภัยที่สุด
วิธีการชำระบัตรเครดิต UOB
การชำระค่าบัตรเครดิต UOB สามารถทำได้หลายช่องทาง ซึ่งแต่ละช่องทางมีข้อดีแตกต่างกันไป เรามาดูกันว่าสามารถจ่ายได้ผ่านทางไหนบ้าง
1. จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน UOB TMRW
หนึ่งในวิธีที่สะดวกที่สุดคือการใช้แอปพลิเคชัน UOB TMRW โดยสามารถทำได้ดังนี้:
- ดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน UOB TMRW
- ล็อกอินเข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน
- เลือกเมนู “Bill Payment”
- เลือกบัญชีที่ต้องการชำระเงินและจำนวนเงิน
- กดยืนยันการชำระเงิน
2. จ่ายผ่านเว็บไซต์ UOB Internet Banking
หากไม่สะดวกใช้แอปพลิเคชัน สามารถจ่ายผ่านเว็บไซต์ของ UOB ได้ง่ายๆ ด้วยวิธีดังนี้:
- เข้าไปที่เว็บไซต์ https://www.uob.co.th
- ล็อกอินเข้าสู่ระบบด้วยรหัสผ่าน
- เลือกเมนู “Bill Payment” หรือ “ชำระเงิน”
- กรอกรายละเอียดบัตรเครดิตที่ต้องการชำระ
- ตรวจสอบข้อมูลและกดยืนยัน
3. ชำระผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร UOB
สำหรับผู้ที่สะดวกชำระด้วยเงินสดหรือเช็ค สามารถไปที่สาขาธนาคาร UOB และดำเนินการที่เคาน์เตอร์ โดยต้องแจ้งรายละเอียดดังนี้:
- หมายเลขบัตรเครดิต
- จำนวนเงินที่ต้องการชำระ
- เอกสารยืนยันตัวตน (เช่น บัตรประชาชน หรือสมุดบัญชีธนาคาร)
4. โอนเงินผ่าน Mobile Banking ของธนาคารอื่น
หากใช้บัญชีธนาคารอื่นก็สามารถโอนเงินไปยังบัญชีของ UOB เพื่อชำระบัตรเครดิตได้ โดยใช้รายละเอียดบัญชีของ UOB และระบุหมายเลขบัตรเครดิตในช่องหมายเหตุ
5. ชำระผ่าน ATM
สำหรับคนที่ไม่สะดวกใช้แอปพลิเคชันหรืออินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง สามารถชำระผ่านตู้ ATM ได้โดย:
- ใส่บัตร ATM และเลือก “ชำระบัตรเครดิต”
- เลือกธนาคาร UOB และกรอกหมายเลขบัตรเครดิต
- ระบุจำนวนเงินที่ต้องการชำระ
- กดยืนยันและรับสลิปเป็นหลักฐาน
6. หักบัญชีอัตโนมัติ (Auto Debit)
สำหรับคนที่ไม่อยากลืมจ่ายเงิน สามารถสมัครบริการ Auto Debit ให้ธนาคารหักเงินจากบัญชีโดยอัตโนมัติทุกเดือน ซึ่งช่วยให้ไม่พลาดกำหนดชำระและไม่เสียค่าปรับ
คำแนะนำเพิ่มเติมในการจ่ายบัตรเครดิต UOB
✅ จ่ายเต็มจำนวนดีที่สุด
การจ่ายขั้นต่ำอาจทำให้คุณต้องเสียดอกเบี้ยที่สูง ดังนั้นหากเป็นไปได้ควรจ่ายเต็มจำนวนเพื่อป้องกันดอกเบี้ยสะสม
✅ ชำระก่อนกำหนดเพื่อป้องกันค่าปรับ
หากต้องการเลี่ยงค่าปรับ ควรชำระเงินก่อนวันครบกำหนดอย่างน้อย 2-3 วัน เผื่อเวลาสำหรับการดำเนินการของธนาคาร
✅ ตรวจสอบยอดคงเหลือก่อนชำระ
ควรเช็คยอดคงเหลือและรายละเอียดการใช้จ่ายของบัตรก่อนชำระ เพื่อให้แน่ใจว่าจ่ายยอดที่ถูกต้อง
✅ เก็บหลักฐานการชำระเงิน
ไม่ว่าจะชำระผ่านช่องทางใด ควรเก็บหลักฐานการชำระเงินไว้เพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงในกรณีที่มีปัญหา
การชำระบัตรเครดิต UOB สามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น ผ่านแอปพลิเคชัน UOB TMRW, เว็บไซต์ Internet Banking, เคาน์เตอร์ธนาคาร, Mobile Banking ของธนาคารอื่น, ATM หรือบริการหักบัญชีอัตโนมัติ ควรเลือกช่องทางที่สะดวกและเหมาะสมกับคุณที่สุด
นอกจากนี้ ควร ชำระเงินตรงเวลาและจ่ายเต็มจำนวน เพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับและดอกเบี้ยที่ไม่จำเป็น หากต้องการให้การเงินของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น การจัดการหนี้บัตรเครดิตให้ดีจะช่วยให้คุณบริหารเงินได้ดียิ่งขึ้น
รายละเอียดการสมัครบัตรเครดิต UOB แต่ละประเภท
รีวิว สมัครบัตรเครดิตไม่ผ่านต้องรอนานขนาดไหน พร้อมคำแนะนำให้ผ่านรอบหน้า
หลายคนที่เคยสมัครบัตรเครดิตแล้วไม่ผ่าน อาจสงสัยว่าต้องรอนานแค่ไหนถึงจะสามารถสมัครใหม่ได้ และจะมีวิธีการอย่างไรให้มีโอกาสอนุมัติในครั้งถัดไป ในบทความนี้เราจะพาคุณมาทำความเข้าใจว่าเหตุใดการสมัครบัตรเครดิตของคุณถึงไม่ผ่าน และจะต้องรอเวลากี่เดือนก่อนจะลองสมัครใหม่
ทำไมการสมัครบัตรเครดิตถึงไม่ผ่าน?
การสมัครบัตรเครดิตอาจถูกปฏิเสธด้วยเหตุผลหลายประการ ซึ่งหลักๆ มีดังนี้:
- ประวัติเครดิตไม่ดี – หากเคยมีประวัติการค้างชำระหรือติดเครดิตบูโร โอกาสที่ธนาคารจะอนุมัติบัตรเครดิตจะน้อยลง
- รายได้ไม่ถึงเกณฑ์ – แต่ละธนาคารมีเกณฑ์รายได้ขั้นต่ำที่แตกต่างกัน หากรายได้ของคุณต่ำกว่าที่กำหนดก็อาจถูกปฏิเสธ
- หนี้สินมากเกินไป – หากภาระหนี้สูงเกินไปเมื่อเทียบกับรายได้ ธนาคารอาจมองว่าคุณมีความเสี่ยงทางการเงิน
- ไม่มีประวัติเครดิต – ผู้ที่ไม่มีประวัติสินเชื่อเลย (เช่น คนที่ไม่เคยกู้เงินหรือใช้บัตรเครดิตมาก่อน) อาจถูกมองว่ามีความเสี่ยงสูง
- เอกสารไม่ครบถ้วนหรือข้อมูลผิดพลาด – ข้อมูลที่ให้กับธนาคารไม่ครบถ้วน หรือมีความผิดพลาด อาจทำให้ถูกปฏิเสธได้
สมัครบัตรเครดิตไม่ผ่าน ต้องรอกี่เดือนก่อนสมัครใหม่?
ระยะเวลาที่ต้องรอขึ้นอยู่กับธนาคารและเหตุผลที่ทำให้การสมัครถูกปฏิเสธ โดยทั่วไปแล้ว:
- ขั้นต่ำ 3 เดือน – หากไม่มีปัญหาเครดิตบูโรหรือหนี้สินมากเกินไป การรอประมาณ 3 เดือนอาจเพียงพอ
- 6 เดือนขึ้นไป – หากมีปัญหาหนี้สินหรือคะแนนเครดิตต่ำ อาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือนขึ้นไปเพื่อปรับปรุงสถานะทางการเงิน
- 1 ปีขึ้นไป – หากมีประวัติเครดิตเสียหนัก อาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปีในการแก้ไขข้อมูลก่อนจะลองสมัครใหม่
7 วิธีเพิ่มโอกาสให้สมัครบัตรเครดิตผ่านในรอบถัดไป
หากต้องการสมัครบัตรเครดิตให้ผ่านในการสมัครครั้งหน้า ควรทำตามคำแนะนำดังนี้:
1. ตรวจสอบเครดิตบูโรของตนเอง
สามารถเช็คประวัติเครดิตได้ที่สำนักงานเครดิตแห่งชาติ (NCB) เพื่อตรวจสอบว่ามีรายการผิดปกติหรือไม่ และดำเนินการแก้ไขก่อนสมัครใหม่
2. ลดภาระหนี้สินที่มีอยู่
หากมีหนี้สินมาก ควรพยายามชำระให้ลดลงก่อนสมัครใหม่ โดยเฉพาะหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูง เช่น หนี้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อบุคคล
3. เพิ่มรายได้ให้มากขึ้น
การมีรายได้ที่มั่นคงและมากขึ้นจะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติบัตรเครดิต อาจลองหางานเสริม หรือปรับโครงสร้างรายได้ให้ดูน่าเชื่อถือขึ้น
4. สมัครบัตรเครดิตที่เหมาะกับรายได้ของตนเอง
แต่ละธนาคารมีบัตรเครดิตที่เหมาะกับกลุ่มรายได้ต่างกัน ควรเลือกบัตรที่มีเงื่อนไขตรงกับรายได้ของคุณเพื่อให้มีโอกาสผ่านมากขึ้น
5. สมัครบัตรเครดิตที่ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน
หากสมัครบัตรเครดิตแบบปกติไม่ผ่าน อาจลองสมัครบัตรเครดิตที่ใช้เงินฝากค้ำประกัน ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสได้รับอนุมัติ
6. ไม่สมัครบัตรเครดิตหลายใบพร้อมกัน
การสมัครบัตรเครดิตหลายใบในเวลาเดียวกันอาจส่งผลเสียต่อประวัติเครดิตและลดโอกาสการอนุมัติ
7. ตรวจสอบเอกสารให้ครบถ้วน
ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเอกสารที่ใช้ในการสมัครครบถ้วนและถูกต้อง เพื่อป้องกันการถูกปฏิเสธเนื่องจากข้อมูลผิดพลาด
หากสมัครบัตรเครดิตไม่ผ่าน ควรเว้นช่วงเวลาในการสมัครใหม่อย่างน้อย 3-6 เดือน และใช้เวลานี้ในการปรับปรุงเครดิต เพิ่มรายได้ ลดภาระหนี้ และเลือกบัตรที่เหมาะสมกับตนเอง การเตรียมตัวให้ดีจะช่วยให้คุณมีโอกาสได้รับอนุมัติบัตรเครดิตในครั้งต่อไปได้ง่ายขึ้น หากต้องการตรวจสอบข้อมูลเครดิตหรือหาบัตรเครดิตที่เหมาะกับตนเอง ลองศึกษาเงื่อนไขจากแต่ละธนาคารก่อนสมัครเพื่อเพิ่มโอกาสให้ผ่านได้ง่ายขึ้น!
เปิดรายละเอียด การลงทะเบียนว่างงานออนไลน์
ในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างสามารถทำได้ผ่านอินเทอร์เน็ต การลงทะเบียนว่างงานก็ไม่เป็นข้อยกเว้น บทความนี้จะพาคุณผ่านประสบการณ์การลงทะเบียนว่างงานออนไลน์อย่างละเอียด เพื่อให้คุณสามารถดำเนินการได้อย่างมั่นใจและไม่มีปัญหา
ประโยชน์ของการลงทะเบียนว่างงานออนไลน์
ข้อดีของการลงทะเบียนว่างงานออนไลน์
- สะดวกสบาย: ไม่ต้องเดินทางไปยังสำนักงาน สามารถทำได้ทุกที่ที่มีอินเทอร์เน็ต
- รวดเร็ว: ลดเวลาการรอคิวและการดำเนินการเอกสาร
- ติดตามสถานะได้ง่าย: สามารถตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ได้ตลอดเวลา
ขั้นตอนการลงทะเบียนว่างงานออนไลน์
การลงทะเบียนว่างงานออนไลน์สามารถทำได้ง่าย ๆ ตามขั้นตอนดังนี้:
1. เตรียมเอกสารที่จำเป็น
ก่อนเริ่มการลงทะเบียน ควรเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้:
- บัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- เอกสารการสิ้นสุดการจ้างงานหรือหนังสือรับรองการลาออก
- สมุดบัญชีธนาคารสำหรับรับเงินชดเชย
2. เข้าสู่เว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม
- ไปที่เว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม www.sso.go.th ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลหลักสำหรับการลงทะเบียนว่างงานออนไลน์
3. ลงทะเบียนหรือเข้าสู่ระบบ
หากคุณยังไม่มีบัญชีผู้ใช้:
- คลิกที่ปุ่ม “สมัครสมาชิก”
- กรอกข้อมูลส่วนตัวตามที่ระบบร้องขอ
- ยืนยันการสมัครผ่านอีเมลหรือหมายเลขโทรศัพท์
หากมีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว:
กรอกชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านเพื่อเข้าสู่ระบบ
4. กรอกแบบฟอร์มการลงทะเบียนว่างงาน
หลังจากเข้าสู่ระบบ:
- เลือกเมนู “ลงทะเบียนว่างงาน”
- กรอกข้อมูลที่จำเป็น เช่น ข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลการจ้างงานล่าสุด และสาเหตุของการว่างงาน
- อัปโหลดเอกสารที่เตรียมไว้
5. ยืนยันและส่งข้อมูล
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทั้งหมด:
- หากทุกอย่างถูกต้อง คลิก “ยืนยัน” เพื่อส่งข้อมูล
- ระบบจะแสดงหมายเลขอ้างอิงสำหรับการติดตามสถานะ
การลงทะเบียนว่างงานออนไลน์เป็นวิธีที่สะดวกและรวดเร็วในการรับสิทธิประโยชน์จากประกันสังคม ด้วยขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน คุณสามารถดำเนินการได้ด้วยตนเองที่บ้าน หวังว่าคู่มือนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจและสามารถลงทะเบียนว่างงานออนไลน์ได้อย่างมั่นใจ
สิ่งที่ไม่ควรทำ หากมีเงินโอนเข้าบัญชีแต่ไม่รู้ที่มา
หลายคนยังสงสัยทางธนาคารเลยออกมาแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำ และ สิ่งที่ไม่ควรทำถ้าหากมีเงินโอนเข้าบัญชีโดยที่เราไม่รู้ที่มา หรือ เกิดการโอนเงินผิดเข้าบัญชีธนาคารของเรา
สำหรับความชัดเจนซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้มาจากทางธนาคารเลยเกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำ และ ไม่ควรทำ หากมีเงินน่าสงสัยโอนเข้าบัญชีของเราโดยที่เราไม่รู้แหล่งที่มาของเงินนั้น หรือ เกิดการโอนเงินผิด ถ้าเกิดปัญหานี้ขึ้นมาให้ปฎิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อป้องกันปัญหา และ ลดความเสี่ยงต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้น
สิ่งที่ไม่ควรทำ หากมีการโอนเงินผิดเข้าบัญชีของเรา
- ห้ามถอนเงินออกจากบัญชีโดยเด็ดขาด การถอนเงินอาจจะถูกมองว่ายอมรับเงินที่ไม่ได้มาจากแหล่งที่ถูกต้อง
- ห้ามโอนเงินคืนเองโดยเด็ดขาด หรือ โดยที่เราไม่ได้ปรึกษาธนาคารหรือเจ้าหน้าที่ธนาคาร เพราะอาจจะเข้าข่าวเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดได้
- การปฎิบัติตามขั้นตอนแหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงจากการโอนเงินผิด และ ป้องกันการเกิดปัญหาทางกฎหมายอื่นๆได้
สิ่งที่ควรทำ หากมีการโอนเงินผิดเข้าบัญชีธนาคารของเรา
- ตรวจสอบข้อมูลบัญชี แนะนำให้ตรวจสอบรายละเอียดการโอนที่แสดงในแอปธนาคาร หรือ สมุดบัญชีของคุณเพื่อตรวจสอบชื่อผู้โอน และ ข้อมูลอื่นๆ ว่าถูกโอนมาจากใคร
- ติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคาร ทันทีเพื่อขอล็อกบัญชี และ ขอคำแนะนำในการดำเนินธนาคาค อาจจะสามารถช่วยตรวจสอบการโอนนั้นได้
- หากไม่สามารถติดต่อผู้โอนได้ หรือสงสัยว่าเป็นการโอนผิดจากการฉ้อโกง แนะนำให้รีบแจ้งตำรวจให้ช่วยติดตามและดำเนินการ
แจกเงิน 10,000 บาทเฟส 4 กลุ่มคนทั่วไป อายุ 16-59 ปี
หนึ่งในโครงการที่ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนมากที่สุดเลยก็ว่าได้กับโครงการ กระตุ้นเศรษฐกิจ แจกเงินดิจิทัลผ่านดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงิน 10,000 ตอนนี้เข้ามาถึงเฟสที่ 4 แล้ว สำหรับการแจกเงินกลุ่มคนทั่วไปที่มีอายุ 16-59 ปี ทางรัฐบาลได้ออกมาอัปเดทความเครื่องไหวล่าสุด ว่าทางกระทรวงการคลังได้เปิดเผยถึงรายละเอียดสำหรับกลุ่มคนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน และยังรอเงินหมื่นอยู่ว่าจะมีการเปิดให้มีการลงทะเบียนต่อไป ผา่นทางธนาคารของรัฐ โดยระยะเวลาประมาณ 2 เดือนเตรียมความพร้อมสำหรับระบบในการลงทะเบียน
สำหรับประชาชนในกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน อาจจะมีไม่ถึง 1 ล้านคนซึ่งส่วนมากน่าจะอยู่ในกลุ่มเปราะบางจำนวน 14.5 ล้านบาท ซึ่งได้รับเงิน 10,000 บาท ผ่านโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 1 ไม่นานระบบการลงทะเบียนจะพร้อมแต่ต้องนำเรื่องเข้าสู่คณะกรรมการเพื่อให้เห็นชอบก่อน ทางด้านรัฐมนตรีกระทรวงการคลังได้ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตรวจสอบแยกกลุ่มสมาร์ทโฟนกับไม่มีสมาร์ทโฟน หลังจากนี้จะมีการประกาศเกี่ยวกับขั้นตอนว่าจะมีการดำเนินการอย่างไร ซึ่งจะใช้เวลาอีกไม่เกิน 2 เดือน รวมถึงรายละเอียดต่างๆ โดยยืนยันว่ากลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนจะได้รับเงิน 10,000 บาทอย่างแน่นอน ซึ่งไม่จำเป็นว่าจะต้องได้พร้อมกับกลุ่มเฟส 3
สถานที่ลงทะเบียน
- ธนาคารออมสิน
- ธนาคารกรุงไทย
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธ.ก.ส.
- ธนาคารอาคารสงเคราะห์
- ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
- ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง และ ขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
วันที่เปิดให้ลงทะเบียน เงินดิจิทัลเฟส 4
คาดว่าจะมีการเปิดให้ประชาชนกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน ลงทะเบียนเงินดิจิทัลเฟส 3 ในเดือนมีนาคม 2568 และ จะได้รับเงินพร้อมกับกลุ่มเฟส 3
ช่องทางสอบถามข้อมูล
- ช่องทางหลักในการตรวจสอบสิทธิ และผลการได้รับเงินในโครงการแอปพลิเคชั่นทางรัฐ
- เว็บเพจรวบรวมข้อมูลข่าวสารประชาสัมพันธ์ของโครงการ เว็บไซต์กระทรวงการคลัง mof.go.th แบนเนอร์โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ
- Call Center สำหรับสอบถามข้อมูลโครงการ ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน สายด่วน 1111
บัตรทองใช้สิทธิรับยาฟรีที่ เอ็กซ์ต้า พลัส
สิทธิใหม่ล่าสุดที่ถูกประกาศมาจาก สปสช. ให้ผู้มีสิทธิบัตรทอง สามารถใช้บัตรประชาชนใบเดียว รับยาฟรีได้ที่ร้านยา Xta Plus 7-Eleven ที่มีสัญลักษณ์ ร้านยาคุณภาพของฉัน ทั่วประเทศไทย ซึ่งครอบคุมความเจ็บป่วย 32 อาการ
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งข่าวดี สำหรับผู้ที่ถือบัตรทอง สามารถใช้บัตรประจำตัวประชาชนใบเดียวเข้ารับยารักษาโรคที่ป่วย 16 อาการได้ฟรี ที่เอ็กซ์ต้า พลัส 7-11 ที่มีสัญลักษ์ ร้านยาคุณภาพของฉัน ที่มีสาขามากกว่า 200 สาขาทั่วประเทศไทย
เปิดรายละเอียดสิทธิบัตรทอง
สำหรับสิทธิบัตรทองเป็นสิทธิที่ให้กับกลุ่มผู้สูงอายุในประเทศไทย แรงงานนอกระบบ รวมไปถึงผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ช่วยให้คนกลุ่มนี้ สามารถใช้บริการทางการแพทย์และยาได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ณ ร้านขายยา โดยสามารถทำการตรวจสอบสิทธิได้ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือที่เว็บไซต์ https://www.nhso.go.th/
เปิดเงื่อนไขรับยาฟรี ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัง 7-11 สำหรับผู้ที่มีสิทธิบัตรทอง
- เป็นผู้ที่มีสิทธิบัตรทอง
- มีอาการเจ็บป่วยทั่วไป ครอบคลุม 16 อาการ
- บัตรประชาชนตัวจริง ไม่สามารถใช้สำเนาบัตรประชาชน หรือ ภาพถ่ายได้
32 อาการเจ็บป่วย ที่สามารถใช้สิทธิบัตรทองขอรับยาฟรีที่ เอ็กซ์ต้า พลัส 7-11
- ความผิดปกติต่างๆเกี่ยวกับหู
- ปวดข้อ
- ตกขาวผิดปกติ
- มีบาดแผล
- อาการทางผิวหนัง ผื่น คัน
- ความผิดปกติต่างๆเกี่ยวกับตา
- เจ็บกล้ามเนื้อ
- ปัสสาวะลำบาก
- ท้องเสีย
- ท้องผูก
- ปวดท้อง
- เวียนหัว
- ไอ
- มีไข้
- ปวดหัว
- เจ็บคอ
- ปวดประจำเดือน
- ปวดฟัน
- ท้องผูก ริดสีดวงทวาร
- ปัสสาวะแสบขัด
- ผื่นผิวหนัง
- ติดเชื้อโควิด 19
- เริมที่ปาก
- มีบาดแผลในปาก
- หิด เหา
- อาการชา เหน็บชา
- นอนไม่หลับ
- เมารถ เมาเรือ
- เบื่ออาหารโดยไม่มีโรคร่วม
- อาการแพ้ยา แพ้อาหาร หรือแมลงสัตว์กัดต่อย
- เจ็บป่วยจากการสูบบุหรี่
- เหงือกอัพเสบ มีกลิ่นปาก
ขั้นตอนในการขอรับยาฟรีที่ เอ็กซ์ต้าพลัส
- แสดงบัตรประชาชนที่ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ที่มีสัญลักษ์ ร้านยาคุณภาพของฉัน
- เภสัชกรทำการเช็คสิทธิบัตรทอง
- เภสัชกรให้ยาและคำแนะนำในการใช้ยา เพื่อบรรเทาอการเบื้องต้น พร้อมให้คำแนะนำในการปฎิบัติตัว
- เมื่อครบ 3 วันเภสัชกรจะโทรติดตามอาการผู้ป่วย
ธนาคารออมสินเตือน ผ่อนบ้าน คอนโดน ต้องโอนชื่อเข้าทะเบียนบ้าน
สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจจะผ่อนบ้าน หรือ ผ่อนคอนโดอยู่ตอนนี้ แนะนำให้โอนชื่อเข้าทะเบียนบ้านด้วย ถ้าหากไม่อยากเสียสิทธิประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นค่าภาษีที่ติด และ สิ่งปลูกสร้าง, ค่าภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา, ค่าน้ำ, ค่าไฟ ฯลฯ
ธนาคารออมสินออกมาเตือน สำหรับใครที่กำลังผ่อนบ้าน หรือ ผ่อนคอนโดอยู่ แต่ยังไม่ได้ดำเนินการโอนชื่อเข้าทะเบียนบ้าน จะทำให้เสียสิทธิโปรโยชน์เยอะมาก ยกตัวอย่างเช่น ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา, ค่าน้ำค่าไฟ และ ค่าภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
สิทธิประโยชน์ที่เสีย ถ้าหากซื้อบ้าน และ คอนโด แล้วไม่ทำการบย้ายชื่อเข้าทะเบียนบ้าน
ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
- หากไม่ย้ายชื่อเข้าทะเบียนบ้านจะเสียสิทธิ์ในการได้รับยกเว้นค่าภาษีที่ดิน และ สิ่งปลูกสร้าง ในกรณีที่ดิน และ สิ่งปลูกสร้างมีมูลค่ารวม 50 ล้านบาทแรก
สิทธิประโยชน์ทางภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
- ไม่สามารถใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยได้ วงเงินสูงสุด 100,000 บาทต่อปี เนื่องจากเงื่อนไขกำหนดเอาไว้ว่าต้องเป็นที่อยู่อาศัยหลัก
ค่าน้ำ-ค่าไฟ
- ค่าน้ำจะถูกคิดในเรทราคาของธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งมีอัตราขั้นต่ำ 300 บาทต่อเดือน และหากใช้น้ำเกิน 15 ลบ.ม. ราคาน้ำต่อหน่วยจะถูกคิดในเรทของธุรกิจขนาดใหญ่
- ค่าไฟ หากเป็นที่อยู่อาศัยที่ไม่มีทะเบียนบ้าน หรือ ไม่ได้แสดงว่าเป็นที่อยู่อาศัย จะถูกคิดในเรทของไฟฟ้าชั่วคราว หน่วยละ 6.8025 บาท ซึ่งมีราคาสูงกว่าค่าไฟฟ้าปกติ
สิทธิประโยชน์ในด้านอื่นๆ
- ไม่ได้รับสิทธิรัฐ เช่นค่าเบี้ยยังชีพม ค่าไฟฟ้าฟรี เป็นต้น
- การติดต่อกับหน่วยราชการ บางแห่งอาจจะพิจารณาที่อยู่ในทะเบียนบ้านสำหรับการพิจารณาสิทธิเช่น การลงทะเบียนเรียนกับโรงเรียนในพื้นที่
การไม่ย้ายชื่อเข้าทะเบียนบ้านสำหรับผู้ที่กำลังผ่อนบ้าน ผ่อนคอนโด หรือซื้อบ้านซื้อคอนโดใหม่ อาจจะมีผลกระทบในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านภาษี และ ค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภค รวมไปถึงอาจจะเสียสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีบางรายการ เช่นการลดหย่อยดอกเบี้ยเงินกู้เป็นต้น
พลาดสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง หากไม่โอนชื่อเข้าบ้าน หรือ คอนโด
- ค่าภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เสียสิทธิยกเว้นค่าภาษีที่ดิน และ สิ่งปลูกสร้างในกรณีมีมูลค่ารวม 50 ล้านบาทแรก
- ค่าน้ำ-ค่าไฟฟ้า: ค่าน้ำจะถูกคิดเรทราคาธุรกิจขนาดใหญ่ โดยมีอัตราขั้นต่ำ 300 บาทต่อเดือน และ ค่าไฟฟ้าจะถูกคิดเรทของไฟฟ้าชั่วคราวหน่วยละ 6.8025 บาท
- สิทธิประโยชน์ทางภาษี เงินได้บุคคลธรรมดา ไม่สามารถใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยได้ วงเงินสูงสุด 100,000 บาทต่ปี เนื่องจากเงื่อนไขกำหนดว่าต้องเป็นที่อยู่อาศัยหลัก
- สิทธิประโยชน์ด้านอื่น ไม่ได้รับสิทธิรัฐเช่น ส่วนลดค่าไฟฟ้า และ ค่าเบี้ยยังชีพ รวมไปถึงการติดต่อราชการ