ปรากฎการณ์เงินลงทุนไหลเข้าไต้หวันจนเกิด Money Flood
เกิดปรากฎการณ์ เงินลงทุนไหลเข้าไต้หวันจนเกิด Money Flood โดนักลงทุนเข้าซื้อกองทุนหุ้นแบบ Exchange Traded Fund ETF ที่จดทุเบียนในไต้หวัน เหตุการณ์นี้สามารถดึงดูดเงินลงทุนมากกว่า 1.94 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2025 ตามข้อมูล Bloomberg Intelligence นอกจากนี้เงินลงทุนที่ไหลเข้าไต้หวันยังมีมูลค่าเม็ดเงินที่ไหลเข้าเกาหลีใต้ และ จีนอีกประมาณ 1.73 หมื่นล้านดอลลาร์ รวมกันเป็นจำนวนที่ใกล้เคียงกับปี 2024 แสดงให้เห็นถึงอัตราการเติมโตที่รวดเร็วอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
สาเหตุหลักของการไหลเข้าของเงินลงทุนมาจากพลังของนักลงทุนรายย่อยในประเทศ มีการอธิบายจากทางเจ้าหน้ที่ลงทุนของ Cathay Securities Investment Trust การที่เงินลงทุนไหลเข้าสู่ Taiwan Stock ETFs นั้นมักเพิ่มขึ้นเมื่อตลาดปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนท้องถิ่นชอบซื้อในช่วงราคาที่ตกต่ำ ในขณะเดียวกัน ยังมีผลมาจากนักลงทุนที่หนีจากการลงทุนในสินทรัพย์ดอลลาร์ และ ทันมาลงทุนในหุ้นใต้หวันแทน นักลงทุนรายย่อนในไต้หวันมีประมาณ 2 ล้านคน เข้าร่วมในแผนการลงทุนแบบสมทบเงินคงที่ประจำ ซึ่งทำให้มีเม็ดเงินประมาณ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ไต้หวัน หรือ 519 ล้านดอลลาร์ เข้าสู่ Taiex ETF ทุกเดือน
เหตุการเงนลงทุนไหลออกจากประเทศอื่นในเอเชีย
ไต้หวันกลายเป็นจุดสนใจ ของนักลงทุนแต่มีหลายประเทศในเอเชียกลับเจอกับปัญหาการไหลออกจากเงินลงทุน ETF ตามข้อมูล Bloomberg Intelligence อย่างประเทศไทยของเรา ประสบการไหลออกสุทธิ 100 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่ฮ่องกงมีการไหลออกมากกว่าด้วยตัวเลขสูงถึง 700 ล้านดอลลาร์ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้สะท้อนให้เห็นถึงการหมุนเวียนของเงินลงทุนในภูมิภาคเอเชีย โดยนักลงทุนได้หันไปมองหาโอกาสใหม่ในตลาดที่มีศักยภาพสูงกว่าเช่นไต้หวันที่มีพื้นฐานเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง รวมถึงประเทศไทย ที่ยังเจอกับความผันผวนจากปัจจัยในประเทศ อย่างการเมืองที่ผันผวนจากเรื่องการเมืองล่าสุด ที่ถูกศาลสั่งให้ยุติปฎิบัติหน้าที่ชั่วคราว
มีผลกระทบอะไรบ้าง หากคุณลืมส่งค่างวดสินเชื่อบ้าน
เริ่มแรกเลยเราต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับ สินเชื่อก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งสินเชื่อแบบมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน นั้นหมายถึงสินเชื่อที่ธนาคาร หรือสถาบันการเงินปล่อยกู้ ให้กับลูกค้าที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันนั่นเอง สำหรับหลักทรัพย์ที่นำมาค้ำประกันนั้น อาจจะเป็นรูปแบบอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน, ที่ดิน, คอนโด หรือ สังหาริมทรัพย์อื่นเช่นๆ รถยนต์, บัญชีเงินฝาก ฯลฯ
นอกจากนี้ยังมีสินเชื่อบัตรเครดิต, สินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งสินเชื่อพวกนี้เป็นสินเชื่อที่มีความเสี่ยงต่ำ หากลูกค้าผิดนัดชำระหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ธนาคารหรือสถาบันการเงินสามารถยึดหลักทรัพย์ที่ลูกค้านำมาค้ำประกันเพื่อนำไปขายทอดตลาด และ นำเงินมาใช้หนี้ได้
สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยคืออะไร?
สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หรือ สินเชื่อบ้าน ก็คือเงินกู้ระยะยาว ที่สถาบันการเงิน ได้แก่ธนาคาร ปล่อยให้กู้ให้กับบุคคลทั่วไป เพื่อวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการมีที่อยู่อาศัยตามรายละเอียดด้านล่าง
- ซื้อที่อยู่อาศัย: บ้านเดี่ยว, ทาวน์เฮาส์, ทาวน์โฮม, คอนโดมิเนียม หรือ อาคารพาณิชย์
- ปลูกสร้างที่อยู่อาศัย: สำหรับผู้ที่มีที่ดินเป็นของตัวเอง และ ต้องการสร้างบ้าน
- ต่อเติม หรือ ปรับปรุง ซ่อมแซมที่อยู่อาศัย: สำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงบบ้านเดิมให้ดีขึ้น
- ซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้าง: บางกรณีอาจรวมการกู้เพื่อซื้อที่ดิน และ สร้างบ้านไปพร้อมๆกัน
- รีไฟแนนซ์ (Refinance): กู้เงินจากสถาบันการเงินแห่งใหม่ เพื่อนำไปชำระหนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัยเดิมกับสถาบันการเงิน มักทำเพื่อหาดอกเบี้ยที่ถูกลง
- สินเชื่อ Home for Cash บ้านแลกเงิน เป็นสินเชื่อส่วนบุคคล ที่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน โดยนำบ้านที่ปลอดภาระหนี้ มาเป็นหลักประกันเพื่อขอเงินกู้ไปจ่ายตามวัตถุประสงค์อื่น ที่ไม่ใช่การซื้อหรือสร้างบ้าน
สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย หากเราทำการขอสินเชื่อเพื่อกู้ซื้อบ้าน หรือ คอนโด กับทางธนาคาร ในช่วงเวลาที่เราผ่อนชำระค่างวดอยู่นั้น เรายังไม่ได้เป็นเจ้าของบ้าน หรือ คอนโดอย่างเต็มตัว ถึงแม้ว่าเราจะเป็นผู้อยู่อาศัยแล้วก็ตาม เราจะเป็นเจ้าของได้เต็มตัวก็ต่อเมื่อเราผ่อนชำระค่างวดสุดท้าย ครบตามระยะเวลาในสัญญาเงินกู้ การคิดดอกเบี้ย สำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย จะเป็นการคิดดอกเบี้ย แบบลดต้นลดดอก แม้ค่างวดที่ส่งในแต่ละเดือนจะเป็นยอดเงินที่เท่ากัน แต่ค่างวดที่จ่ายจะจ่ายๆ ลดเงินต้นมากขึ้น เมื่อระยะเวลาผ่านไป เนื่องจากทุกครั้งที่ทำการจ่ายค่างวดเงินต้นของเราจะลดลงนั่นเอง หากเรามีเงินก้อน สามารถนำเงินนั้นมาชำระเงินกู้ได้ ซึ่งจะทำให้หนี้หมดเร็วขึ้น
หากเราขาดส่งค่างวดสินเชื่อบ้าน หรือ คอนโด จะเกิดอะไรขึ้น?
ในสัญญาเงินกู้ทุกฉบับ จะมีกำหนดรายละเอียดว่าจะต้องจ่ายค่างวดในวันที่เท่าไหร่ของเดือน ซึ่งลูกค้าควรจ่ายค่างวดไม่เกินวันที่กำหนด และ ควรจ่ายค่างวดตามกำหนดทุกครั้ง เพื่อให้ค่างวดไปตัดดอกเบี้ยและเงินต้นตามที่กำหนดเอาไว้ จ่ายก่อนได้ และไม่ควรจ่ายช้า หากจ่ายช้าค่างวดจะถูกแบ่งไปจ่ายดอกเบี้ยมากขึ้น และทำให้เงินต้นไม่ลดลง หรือ ลดลงน้อยกว่าเดิม
หากเราขาดส่งค่างวดบ้านเกินกว่า 75 วัน
ในช่วงเศรษฐกิจแย่ขนาดนี้ อาจจะมีหลายๆบ้าน ที่อาจจะผิดชำระหรือขาดส่งค่างวดบ้านเกิน 75 วัน ซึ่งทางธนาคารจะเริ่มคิดดอกเบี้ยในอัตราผิดนัดที่จะสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยปกติเยอะมาก เช่น อัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยอยู่ที่ 6-8% ในขณะที่ดอกเบี้ยผิดนัดชำระ จะอยู่ที่ 15-18% เลยทีเดียว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร การขาดส่งค่างวดบ้าน จึงไม่ใช่เรื่องตลกเลย เนื่องจากคนที่ขาดส่งจะต้องโดยคิดดอกเบี้ยในอัตราที่ผิดชำระ ซึ่งสูงมากๆ
โดยปกติแล้ว การขาดส่งค่างวดตั้งแต่งวดแรก หรือ งวดที่ 1 จะมีเจ้าหน้าที่ธฯาคารติดต่อกลับมา แต่ถ้าหากขาดส่งค่างวดบ้าน 3 งวดติดต่อกัน ทางธนาคารจะถือว่ากลายเป็นหนี้เสีย และจะทำการส่งข้อมูลไปยังเครดิตบูโร ซึ่งจะมีประวัติการเป็นหนี้ที่ไม่ดี ในขณะที่ดอกเบี้ยผิดนัดรวมถึงค่าปรับและค่าทวงหนี้ต่างๆ กรณีจ่ายค่างวดล่าช้า ก็จะถูกคำนวณไปเรื่อยๆ ตลอดเวลาที่เรายังค้างชำระหนี้อยู่ หนี้สินเชื่อจะมีดอกเบี้ยพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นตัวเลขที่น่ากลัวมากๆ
หากสินเชื่อกลายเป็นหนี้ NPL หรือ หนี้เสีย ทางธนาคารมีสิทธิ์ที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายโดยการฟ้องร้องต่อศาล ให้ศาลพิพากษายึดบ้าน หรือ คอนโดลูกหนี้ เพื่อนำไปขายทอดตลาด เพื่อนำเงินที่ได้มาชำระหนี้นั่นเอง
โปรโมชั่นสมัครบัตรเครดิต UOB Mercedes ล่าสุด
บริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศร่วมกับธนาคารยูโอบี ประเทศไย จัดโปรโมชั่นสุดเอ็กคลูซีฟมอบสิทธิเหนือระดับ สมัครตอนนี้รับคะแนนสะสม UOB Reward 20,000 คะแนน เพียงแค่สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ และมียอดใช้จ่าย 20,000 บาทภายใน 30 วัน หลังจากบัตรเครดิตได้รับการอนุมัติ
สิทธิพิเศษสำหรับเจ้าของบัตรเครดิต UOB Mercedes
- รับคะแนนสะสมยูโอบี รีวอร์ด สูงสุด 20 เท่า เมื่อจ่ายครบทุกๆ 25 บาทโดยคะแนนไม่มีวันหมดอายุ
- รับส่วนลด 20% เมื่อใช้คะแนนสะสมเท่ากับยอดใช้จ่ายที่ตัวแทนจำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ
- แบ่งชำระ 0% นานสูงสุด 10 เดือน สำหรับสินค้าและบริการทุกประเภท ที่ตัวแทนจำหน่ายเมอร์เซเดส เบนซ์อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ ตั้งแต่ 30,000 บาทต่อเซลส์สลิป
อัตราค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ย บัตรเครดิต UOB Mercedes
- ค่าธรรมเนียมรายปี ปีแรก ฟรี
- ค่าธรรมเนียมรายปี สำหรับบัตรหลักในปีถัดไป 5,000 บาท + VAT 350 บาท
- ค่าธรรมเนียมรายปี สำหรับบัตรเสริม 2,000 บาท + VAT 140 บาท
- ยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปี เมื่อมียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 300,000 บาทขึ้นไปต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยสำหรับชำระคืนขั้นต่ำ 16% ต่อปี ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
- อัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 8 ของยอดเงินตามใบแจ้งยอดบัญชีในแต่ละเดือน จนถึงสิ้นปี 2568
- ระยะเวลาชำระคืนโดยปลอดดอกเบี้ย หากชำระตามกำหนด สูงสุด 55 วัน นับจากวันสรุปยอดรายการครั้งก่อน
คุณสมบัติผู้สมัคร
- บัตรหลัก 20-60 ปี
- บัตรเสริม 15-80 ปี
รายได้ต่อเดือน
- คนไทย 50,000 บาทขึ้นไป
- ต่างชาติ 100,000 บาทขึ้นไป
อายุงาน
- พนักงานประจำ 4 เดือน ต้องผ่านการทดสอบงาน
- เจ้าของกิจการ 3 ปี
เอกสารประกอบการพิจารณา
- คนไทย ใช้สำเนาบัตรประชาชนด้านหน้าและด้านหลัง, หนังาือรับรองรายได้, สลิปเงินเดือน เดือนล่าสุด, สำเนาบัญชีส่วนตัว
- ต่ายชาติ สำเนาหนังสือเดินทาง และ ใบอนุญาตทำงาน, หนังสือรับรองรายได้, สลิปเงินเดือน เดือนล่าสุด, สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท, สำเนาบัญชีส่วนตัว, สัญญาเช่าที่พักอาศัย, ใบแจ้งหนี้ค่าสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น บิลค่าน้ำ, บิลค่าไฟ หรือ ใบแจ้งหนี้บัตรเครดิต, หนังสือรับรองบริษัท
สมัครบัตรเครดิต UOB Mercedes ได้ที่นี่
ข่าวใหญ่ ไทยอาจโดนภาษีทรัมป์เล่นงานหลังไม่ได้เจรจา
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ ได้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับประเทศที่เสี่ยงโดนภาษีทรัมป์ซึ่งมีอีกประมาณ 100 ประเทศ ที่อาจจะได้รับอัตราภาษีตอบโต้ ถูกปรับลดลงเหลือ 10% โดยคาดหมายว่าจะมีการแถลงข้อตกลงการค้าเป็นชุดๆ ก่อนจะถึงกำหนดหรือเส้นตายในวันที่ 9 กรกฎาคม 2568
ตอนนี้จะเห็นได้ว่าประธานาธิบดีต้องการปฎิบัติกับพวกที่กำลังเจรจาอย่างไร โดยจะเห็นการดำเนินการมากมายในช่วงไม่กี่วันข้างหน้า ข้อมูลจากสำนักข่าวรอยเตอร์ส ได้ออกมาระบุว่า ถ้ามีการปรับลดภาษีตอบโต้เหลือเพียง 10% กับประเทศต่างๆ ประมาณ 100 ชาติ ซึ่งถือว่าน้อยกว่าที่รัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ คาดการณ์เอาไว้เบื้องต้น โดยในบัญชีรีดภาษีตอบโต้นั้นจะมีประเทศต่างๆ โดยประมาณ 123 แห่ง ทั่วโลก ที่ถูกเก็บภาษีเพิ่มเติมอีก 10% ส่วนใหญ่จะเป็นชาติขนาดเล็กเช่นเดียวกับบางดินแดน
ในเดือนเมษายน 2025 ที่ผ่านมาประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ปรับลดมาตรการรีดภาษีให้เกือบทุกประเทศลดลงเหลือเพียง 10% เป็นเวลา 90 วันเพื่อเปิดทางให้สำหรับการเจรจา โดยมีหลายประเทศที่ถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม 10% ในเบื้องต้นยังไม่มีการเจรจาหรือบรรลุข้อตกลงกับทางรัฐบาลทรัมป์ ยกเว้นแต่สหราชอาณาจักร ซึ่งบรรลุข้อตกลงการค้าในเดือนพฤษภาคม 2025 เพื่อคงอัตราภาษีเอาไว้ที่ 10% และได้รับการผ่อนปรนในบางภาคอุตสาหกรรมในนั้นรวมถึงภาคยานยนต์ และ เครื่องยนต์เครื่องบิน นอกจากนี้สำนักข่าวรอยเตอร์สยังรายงานอีกด้วยว่า บรรดาคู่หูการค้าหลักๆที่เวลานี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับสหรัฐอาจจะได้เห็นอัตราภาษีที่สูงขึ้นกว่าเดิม รวมถึง 20% สำหรับสหภาพยุโรป, 26% สำหรับอินเดีย และ 24% สำหรับญี่ปุ่น ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เจรจาข้อตกลงทางการค้ากับเวียดนาม โดยระบุว่าได้ปรับลดเพดานภาษีสินค้านำเข้าจากเวียดนามจำนวนมาก เหลือที่ระดับ 20% จากเดิมที่เคยระบุว่าจะเก็บภาษี 46% ขณะที่สินค้าของสหรัฐจำนวนมากจะได้รับอนุญาตให้นำเข้าสู่เวียดนามโดยไม่ต้องเสียภาษี
วันเข้าพรรษา 11 กรกฎาคม 2568 ใครได้หยุดบ้าง
เปิดรายละเอียดที่หลายๆคนกำลังถามถึง เกี่ยวกับวันที่ 11 กรกฎาคม 2568 ที่จะถึงนี้ ว่าใครได้หยุดบ้าง ธนาคารได้หยุดหรือไม่ แนะนำให้ตรวจสอบก่อนวางแผนหยุดยาวเพื่อเดินทางไปเที่ยว
เดือนกรกฎาคม 2568 ถือว่าเป็นเดือนที่มีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน แบ่งออกเป็น 2 ช่วงด้วยกัน ช่วงต้นเดือน และ ช่วงปลายเดือน สำหรับช่วงต้นเดือนนั้น จะเป็นวันหยุดในช่วงวันที่ 10 กรกฎาคม 2568 และจะมีวันที่ 11 กรกฎาคม 2568 ซึ่งไม่ใช่ทุกคนได้หยุด เนื่องจากวันที่ 11 กรกฎาคม 2568 นั้นเป็นวันหยุดราชการ ส่วนธนาคาร และ ภาคอกชนไม่ได้หยุดด้วย สำหรับวันที่ 10 กรกฎาคม 2568 นั้นเป็นวันอาสาฬหบูชา เป็นวันหยุด สำหรับพนักงานธนาคาร หรือ พนักงานบริษัทเอกชน หากอยากหยุดยาว ต้องลาพักร้อนเพิ่มวันที่ 11 กรกฎาคม 2568 จะทำให้ได้หยุดยาว 4 วันติดต่อกัน
- วันที่ 10 กรกฎาคม 2568 วันอาสาฬหบูชา
- วันที่ 11 กรกฎาคม 2568 (ลาพักร้อน)
- วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 วันเสาร์ (วันหยุดสุดสัปดาห์)
- วันที่ 13 กรกฎาคม 2568 วันอาทิตย์ (วันหยุดสุดสัปดาห์)
นอกจากวันหยุดยาวช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2568 แล้วยังมีช่วงวันหยุดยาวช่วงปลายเดือนอีก ก็คือวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 คือวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งวันนี้เป็นวันหยุดราชการ, บริษัทเอกชน และ ธนาคาร ทำให้ช่วงปลายเดือน สามารถหยุดยาวติดต่อกันได้ถึง 3 วันเลยทีเดียว ใครที่อยากจะเดินทางไปเที่ยว สามารถจองโรงแรม จองตั๋วเครื่องบินเอาไว้ล่วงหน้าได้เลย
- วันที่ 26 กรกฎาคม 2568 (วันหยุดสุดสัปดาห์)
- วันที่ 27 กรกฎาคม 2568 (วันหยุดสุดสัปดาห์)
- วันที่ 28 กรกฎาคม 2568 (วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว)
สั่งปิดระบบ ลงทะเบียนเที่ยวไทยคนละครึ่ง
เปิดเผยข้อมูลจากทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้แจ้งออก ตอนนี้ได้แจ้งปิดให้ลงทะเบียนเที่ยวไทยคนละครึ่งแล้ว ผ่านทางเว็บไซต์ และ แอป Amazing Thailand ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยจะมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและทำการปิดระบบก่อนเที่ยงวันนี้ และ เปิดให้เร็วที่สุด สำหรับประชาชนคนไทย ที่ลงทะเบียนไปแล้วกว่า 1 ล้านคน ไม่ได้รับผลกระทบ โดยสามารถจองโรงแรมและ สามารถเดินทางไปเที่ยวได้ตามปกติ แต่ขอให้มีการยืนยันตัวตดก่อนการจอง และไปแสดงตนที่โรงแรมอีกครั้งเพื่อป้องกันการทุจริต เบื้องต้นเตรียมย้ายไปใช้แอปพลิเคชั่นทางรัฐแทน เพราะว่ามีการยืนยันตัวตนเอาไว้แล้ว
โครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ได้เริ่มเปิดให้ประชาชนสามารถลงทะเบียนได้เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 และ เจอกับปัญหาระบบล่ม ทั้งเว็บไซต์ เที่ยวไทยคนละครึ่ง.com และ แอปพลิเคชั่น Amazing Thailand เนื่องจากมีประชาชนเข้าไปใช้สิทธิเป็นจำนวนมาก และยังเกิดปัญหาไม่ได้รับ OTP จนต้องแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน
ททท. อัดเพิ่ม 7 โครงการ ท่องเที่ยวงบ 2 แสนล้าน
เปิดเผยข้อมูลจากทางด้าน ททท. หรือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้แจ้งเกี่ยวกับการจัดสรรวงเงิน 3,960 ล้านบาทจากทางรัฐบาล เพื่อนำไปจัดทำ 7 โครงการ เพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในช่วง 6 เดือนหลังของปีนี้ คาดว่าจะสามารสร้างมูลค่าผลกระทบทางเศรษฐกิจได้สูงถึง 200,507 ล้านบาท ซึ่งเกิดจากการจ้างงาน 226,102 คน และสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน หรือ Return on investment ได้ถึง 50 เท่า
7 โครงการเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวจาก ททท.
- เที่ยวไทยคนละครึ่ง ใช้งบประมาณ 1,760 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินสนับสนุนค่าโรงแรมที่พัก 1,500 ล้านบาท และ เงินสนับสนุนค่าคูปองดิจิทัล 250 ล้านบาท มีจำนวนสิทธิทั้งหมด 500,000 สิทธิ โดยประชาชน 1 คนจะได้รับสูงสุด 5 สิทธิ ครอบคลุมที่พักทั้งหมด 500,000 สิทธิแบ่งเป็นเมืองหลัก 3 สิทธิ และ เมืองน่าเที่ยวอีก 2 สิทธิ ส่วนคูปอง 500,000 สิทธิ จะมอบคูปอง 500 บาท ต่อ 1 สิทธิ สามารถใช้ในร้านอาหาร กิจกรรมท่องเที่ยว ตามที่โครงการกำหนด และจะได้รับเมื่อเข้าพักเท่านั้น ตามกำหนดระยะเวลาการใช้สิทธิตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ถึง เดือนตุลาคม 2568
- โครงการ ไทยแลนด์ ซัมเมอร์ บลาสต์ ไซน่า แอนด์ โอเวอร์ซีส์ มาร์เก็ต สติมูลัส แพลน (Thailand Summer Blast – China & Overseas Market Stimulus Plan) ใช้งบประมาณ 750 ล้านบาท จะนำไปจัดกิจกรรมส่งเสริม เที่ยวบินแบบเช่าเหมาลำ หรือที่เรียกว่า Charter Flight ในตลาดจีน และ ตลาดต่างประเทศอื่นๆ ด้วยการสนับสนุนเที่ยวบินละ 350,000 บาท ไม่น้อยกว่าจำนวน 1,000 เที่ยวบิน จำนวน 15 เมือง จากเมืองรองของจีน และ ตลาดศักยภาพ เพื่อดึงเที่ยวบินเหล่านี้เข้าสู่กรุงเทพฯ, ภูเก็ต, เชียงใหม่, พัทยา, กระบี่ และ สมุย โครงการนี้ยังมีการจัดโปรโมชั่นร่วมหรือที่เรียกว่า Joint Promotion ระหว่างเที่ยวบินพาณิชย์ของสายการบินต่างชาติ และ ไทย โดยจำนวนสายการบินที่เข้าร่วมกิจกรรมนี้ มีไม่น้อยกว่า 5 ราย และกิจกรรม กระตุ้นกลุ่มประชุมสัมมนาและท่องเที่ยวเป็นรางวัล และ กลุ่มซัมเมอร์แคมป์ต่างๆ ภายใต้มาตรการจูงใจ เพื่อตั้งเป้าดึงจำนวนพันธมิตรเข้ากิจกรรมเจาะกลุ่มประชุมสัมมนาและท่องเที่ยวไม่น้อบกว่า 10 ราย
- การทำการตลาดท่องเที่ยวในไทยผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือ Online Travel Agent ในการเสนอขายสินค้า และ บริการท่องเที่ยวในปี 2568 งบประมาณ 800 ล้านบาท ด้วยการมอบ โค้ดส่วนลด สำหรับสินค้าการท่องเที่ยวไทยผ่าน OTA สำหรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ที่เดินทางมาเที่ยวในไทย โดยโค้ดส่วนลดจะมีอัตราส่วนไม่เกิน 17.5% มีวงเงินไม่เกินโค้ดละ 1,500 บาท จำนวน 533,333 โค้ด สำหรับผลที่คาดว่าจะได้รับคือการสร้างยอดขายโดยตรงจากการดำเนินงาน 7,200 ล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่เดินทางเข้าไทยไม่น้อยกว่า 950,000 คน
- โครงการสร้างภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นประเทศไทย เพื่อการท่องเที่ยวหรือ Trusted Thailand มาพร้อมกับงบประมาณ 300 ล้านบาท สำหรับจัดกิจกรรมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ประเทศไทย ผ่านบุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น นักแสดง, นักกีฬา, อินฟลูเอนเซอร์ หรือผู้ที่มีผลงานโดดเด่นระดับโลก ควบคู่ไปกับการสื่อสารประเทศไทยไปในต่างประเทศผ่านการทำแคมเปญระดับโลก หรือ Global Campaign และนำเสนอประเทศไทยให้มีความน่าสนใจ พร้อมจัดทำใมาตรฐานความปลอดภัย Thailand Safe Travel Stamp โดยตั้งเป้าหมายสร้างการรับรู้ในสื่อออฟไลน์ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านคนต่อครั้ง สร้างการรับรู้ในสื่อออนไลน์ไม่ต่ำกว่า 600 ล้านครั้ง
- งานประชาสัมพันธ์กระตุ้น อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยปี 2568 งบประมาณ 120 ล้านบาท สำหรับตลาดต่างประเทศจะสามารถมสร้างกระแสการเดินทางและสร้างภาพลักษณ์ เน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพที่มีกำลังซื้อสูง เพื่อเสนอสินค้าอัตร้าลักชัวรี จำนวนเงิน 100 ล้านบาท ตั้งเป้าสร้างการรับรู้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านคนต่อครั้ง ส่วนตลาดในประเทศ จะเน้นสร้างกระแสการท่องเที่ยว เมื่องน่าเที่ยว และเที่ยวันธรรมดา จากโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง
- โครงการประชาสัมพันธ์การสร้างกระแสการเดินทาง ของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ ด้วยงบประมาณ 80 ล้านบาท ตั้งเป้าหมายการสร้างการรับรู้ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านคน ต่อครั้งและมีคนเข้าร่วมกิจกรรมไม่ต่ำกว่า 5,000 คน
- โครงการกระตุ้นการกระจายตัวเดินทางท่องเที่ยว เมืองหลัก และ เมืองน่าเที่ยว เชียงใหม่-ลำพูน Night Market ใช้งบประมาณ 150 ล้านบาท นำมาจัดกิจกรรมส่งเสริมการกระจายตัวและเพิ่มความถี่ในการเดินทางจากเมืองหลักสู่เมืองน่าเที่ยว จำนวน 3 พื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่ และ ลำพูน
UOB Lazada บัตรเดียวจบ ครบทุกดีลเด็ดบน Lazada
ในยุคที่ทุกคนหันมาช้อปออนไลน์เป็นหลัก “บัตรเครดิต” กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มความคุ้มค่าให้กับทุกการใช้จ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแพลตฟอร์มชั้นนำอย่าง Lazada ที่เต็มไปด้วยดีลเด็ดและแคมเปญลดราคามากมาย ซึ่งหากคุณเป็นสายช้อปประจำแพลตฟอร์มนี้ บัตรเครดิต UOB Lazada นับเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งด้านสิทธิพิเศษและความสะดวกในการใช้จ่าย
รู้จักบัตรเครดิต UOB Lazada คืออะไร?
บัตรเครดิต UOB Lazada คือบัตรร่วมรายการระหว่าง ธนาคารยูโอบี (UOB) และ Lazada ที่ออกแบบมาเพื่อลูกค้าที่ชื่นชอบการช้อปออนไลน์โดยเฉพาะ โดยมอบสิทธิพิเศษทั้งในด้านส่วนลด คะแนนสะสม การผ่อน 0% และการร่วมแคมเปญพิเศษจาก Lazada ก่อนใคร
สิทธิประโยชน์ที่ทำให้บัตร UOB Lazada โดดเด่น
1. รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 10%
ผู้ถือบัตรสามารถรับเครดิตเงินคืนสูงสุดถึง 10% สำหรับยอดใช้จ่ายบน Lazada ในแต่ละรอบบัญชี เพียงใช้จ่ายขั้นต่ำตามที่กำหนด และลงทะเบียนร่วมรายการผ่าน UOB Application หรือ SMS ตามรายละเอียดโปรโมชั่นในแต่ละเดือน
2. คะแนนสะสม 3X ทุกยอดใช้จ่ายบน Lazada
ทุกยอดใช้จ่ายบน Lazada จะได้รับคะแนนสะสมถึง 3 เท่า (จากปกติ 1 เท่า) ซึ่งสามารถนำไปแลกของรางวัลหรือใช้แลกเป็นส่วนลดในอนาคตได้ เพิ่มความคุ้มค่าให้กับทุกคำสั่งซื้อ
3. ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน
ซื้อของชิ้นใหญ่ได้ง่ายขึ้น ด้วยโปรแกรมผ่อน 0% นานสูงสุดถึง 10 เดือน สำหรับร้านค้าที่ร่วมรายการใน LazMall หรือแคมเปญพิเศษจาก Lazada
4. ส่วนลดพิเศษเฉพาะบัตร
ผู้ถือบัตรจะได้รับสิทธิ์ในการใช้ โค้ดส่วนลดพิเศษ ที่แจกเฉพาะลูกค้า UOB ในแต่ละแคมเปญของ Lazada เช่น Mid-Year Sale, 11.11, 12.12 หรือแคมเปญใหญ่ในช่วงเดือนเกิด
สมัครบัตรเครดิต UOB Lazada ได้ที่นี่
ข้อดีที่เหนือกว่าบัตรเครดิตทั่วไป
- การแจ้งเตือนดีลลับเฉพาะสมาชิกบัตร: รับสิทธิ์ในการเข้าร่วม Flash Sale หรือดีลพิเศษก่อนใคร ผ่านแอป Lazada และ UOB TMRW
- สมัครง่ายผ่านออนไลน์: ไม่ต้องไปสาขา สมัครบัตรได้ภายในไม่กี่นาที และสามารถทราบผลเบื้องต้นได้อย่างรวดเร็ว
- ฟรีค่าธรรมเนียมปีแรก: และยังสามารถรับฟรีค่าธรรมเนียมปีถัดไป หากมียอดใช้จ่ายตามเงื่อนไข
UOB Lazada เหมาะกับใคร?
บัตร UOB Lazada เหมาะกับผู้ที่มีพฤติกรรมการช้อปออนไลน์เป็นประจำ โดยเฉพาะสายที่ชอบส่องดีล ลดราคา Flash Sale และแคมเปญพิเศษต่าง ๆ บน Lazada ซึ่งต้องการความคุ้มค่าเพิ่มเติมจากสิ่งที่แพลตฟอร์มมอบให้อยู่แล้ว
1. นักช้อปออนไลน์สายประจำ
หากคุณคือคนที่สั่งของจาก Lazada แทบทุกเดือนหรือทุกแคมเปญ บัตรใบนี้จะช่วยให้ทุกคำสั่งซื้อมูลค่าเพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม
2. ผู้ที่ต้องการผ่อนชำระ
สินค้าราคาแพงหรือจำเป็น เช่น โทรศัพท์มือถือ, เครื่องใช้ไฟฟ้า, หรือเฟอร์นิเจอร์ สามารถผ่อนแบบดอกเบี้ย 0% ได้ทันที ไม่ต้องกังวลกับดอกเบี้ยสะสม
บัตรเดียวจบ ครบทุกดีล Lazada
บัตรเครดิต UOB Lazada ถือเป็นหนึ่งในบัตรที่ออกแบบมาตอบโจทย์ยุค e-commerce ได้อย่างแท้จริง เพราะนอกจากจะมอบความคุ้มค่าจากการใช้งานจริงแล้ว ยังผสานความร่วมมือกับ Lazada อย่างลึกซึ้งในระดับแคมเปญและฟีเจอร์พิเศษ หากคุณเป็นนักช้อปออนไลน์สาย Lazada ตัวจริง บัตร UOB Lazada ใบเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้ทุกดีลเป็นดีลเด็ด คุ้มค่าทุกการใช้จ่าย
รู้หรือไม่ ผู้ถือบัตรเครดิต UOB Premier สามารถรับเครื่องดื่นฟรี 1 แก้วต่อเดือน
บัตรเครดิตในปัจจุบันไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือทางการเงินสำหรับการใช้จ่ายและสะสมคะแนนเท่านั้น แต่ยังเป็นประตูสู่สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ถือบัตรโดยเฉพาะ หนึ่งในบัตรเครดิตที่โดดเด่นในด้านสิทธิพิเศษสำหรับผู้รักการใช้ชีวิตอย่างมีระดับ คือ บัตรเครดิต UOB Premier ซึ่งมาพร้อมกับแคมเปญ “รับเครื่องดื่มฟรี 1 แก้ว/เดือน” ที่สามารถใช้ได้กับร้านค้าที่ร่วมรายการทั่วประเทศ
รายละเอียดสิทธิพิเศษ: เครื่องดื่มฟรี 1 แก้วต่อเดือน
สิทธิประโยชน์นี้ออกแบบมาเพื่อเสริมความสุขเล็ก ๆ ให้กับการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ถือบัตร UOB Premier โดยไม่จำเป็นต้องใช้ยอดจ่ายจำนวนมากก็สามารถรับสิทธิ์ได้ทุกเดือน ซึ่งมีรายละเอียดที่ควรทราบดังนี้:
1. เงื่อนไขการรับสิทธิ์
- ผู้ถือบัตรเครดิต UOB Premier ที่ยังคงสถานะบัตรใช้งานอยู่และไม่มีประวัติผิดนัดชำระ
- สามารถรับสิทธิ์ได้เดือนละ 1 แก้วเท่านั้น โดยไม่สามารถสะสมสิทธิ์ข้ามเดือนได้
- สิทธิ์นี้ไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดหรือใช้ร่วมกับโปรโมชั่นอื่นในร้านค้าได้
- จำกัดจำนวนสิทธิ์ต่อเดือนตามที่ธนาคารกำหนด โดยสิทธิ์อาจหมดก่อนสิ้นเดือน
2. วิธีใช้สิทธิ์
ผู้ถือบัตรสามารถแสดงบัตรเครดิต UOB Premier พร้อมแจ้งพนักงานว่าต้องการใช้สิทธิ์เครื่องดื่มฟรี ก่อนทำการชำระเงินที่ร้านค้าที่ร่วมรายการ โดยพนักงานจะตรวจสอบสิทธิ์ผ่านระบบของธนาคารแบบเรียลไทม์ และทำการหักสิทธิ์อัตโนมัติหากยังมีสิทธิ์คงเหลืออยู่ในเดือนนั้น
ร้านค้าที่ร่วมรายการ
ปัจจุบัน UOB ได้จับมือกับร้านกาแฟและคาเฟ่ชื่อดังหลากหลายแห่ง เพื่อให้ผู้ถือบัตรสามารถเลือกดื่มด่ำกับเครื่องดื่มโปรดได้อย่างอิสระ ตัวอย่างร้านค้าที่ร่วมรายการได้แก่:
- True Coffee
- Café Amazon
- Pacamara
- Inthanin Coffee
- ร้านคาเฟ่ท้องถิ่นที่ร่วมรายการในแต่ละภูมิภาค
>> สมัครบัตรเครดิต UOB Lazada ได้ที่นี่ <<
เปรียบเทียบความคุ้มค่ากับบัตรประเภทอื่น
UOB Premier กับ UOB Preferred
แม้ทั้งสองบัตรจะมีสิทธิพิเศษคล้ายกันในบางด้าน แต่ UOB Premier จะให้ความคุ้มค่ามากกว่าด้านไลฟ์สไตล์ เช่น การได้เครื่องดื่มฟรีโดยไม่มีเงื่อนไขยอดใช้จ่ายขั้นต่ำ ในขณะที่ UOB Preferred อาจเน้นที่คะแนนสะสมและ Cash Back เป็นหลัก
ความคุ้มค่าของสิทธิ์เครื่องดื่มต่อเดือน
ในมุมมองผู้ใช้งาน หากเครื่องดื่มที่เลือกรับมีมูลค่าเฉลี่ย 70–120 บาทต่อแก้ว การใช้สิทธิ์ครบ 12 เดือนจะเท่ากับได้รับมูลค่าเฉลี่ยประมาณ 900–1,200 บาท/ปี ถือว่าเป็นการคืนกำไรให้ผู้ใช้แบบสม่ำเสมอโดยไม่ต้องมีกิจกรรมเพิ่มเติม
ข้อควรรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ UOB Premier
1. สิทธิพิเศษอื่น ๆ
นอกจากเครื่องดื่มฟรีแล้ว ผู้ถือบัตร UOB Premier ยังสามารถเข้าถึงสิทธิพิเศษอื่น ๆ เช่น:
- คะแนนสะสม UOB Reward Plus ที่สามารถแลกของรางวัลหรือไมล์สายการบินได้
- สิทธิ์เข้า Lounge สนามบินในบางประเทศ
- ส่วนลดร้านอาหาร โรงแรม และบริการความงาม
2. ค่าธรรมเนียมรายปี
บัตรนี้มีค่าธรรมเนียมรายปี ซึ่งอาจขอยกเว้นได้หากมียอดใช้จ่ายตามเงื่อนไขของธนาคารในแต่ละปี โดยปกติแล้วธนาคารจะเสนอการยกเว้นค่าธรรมเนียมหากมียอดใช้สะสมเกิน 150,000 บาท/ปี
สิทธิพิเศษที่ใส่ใจในทุกวันของผู้ถือบัตร
แคมเปญเครื่องดื่มฟรี 1 แก้วต่อเดือนจากบัตรเครดิต UOB Premier เป็นอีกหนึ่งสิทธิพิเศษที่สะท้อนถึงแนวคิดของธนาคารในการส่งเสริมไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในแบบ “Smart Spending” ที่ให้ทั้งความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ รายเดือน และช่วยเพิ่มมูลค่าการถือบัตรอย่างแท้จริง หากกำลังมองหาบัตรเครดิตที่ตอบโจทย์ชีวิตยุคใหม่ การพิจารณาบัตร UOB Premier อาจเป็นทางเลือกที่ไม่ควรมองข้าม
แจ้งเตือนภัย SMS ปลอมระบาด หลอกให้คลิกขอ OTP โครงการคนละครึ่ง
ตำรวจสอบสวนกลาง แจ้งเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อ SMS ปลอมหลอกให้ประชาชนที่สนใจโครงการ เที่ยวไทยคนละครึ่งกดลิงก์เพื่อขอ OTP ยืนยันโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ซึ่งทางโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งได้ออกมาย้ำเตือนว่า “ไม่มีการส่ง SMS แนบลิงก์อ้างหรัส OTP แต่อย่างใด”
วันที่ 3 กรกฎาคม 2568 ได้มีรายงานจากทางเพจตำรวจสอบสวนกลาง ได้โพสต์ข้อความเตือนภัยเรื่องระวัง SMS ปลอมหลอกให้คลิกลิงก์ขอ OTP จากโครงการ เที่ยวไทยคนละครึ่ง โดยระบุตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB เตือนประชาชนให้ระวังมิจฉาชีพที่อาศัยจังหวะการลงทะเบียนโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568 ส่ง SMS หลอกลวงให้กดลิงก์ โดยอ้างว่าจะส่ง OTP ให้เพื่อยืนยันสิทธิโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง
สำหรับระบบการลงทะเบียนเที่ยวไทยคนละครึ่งครั้งนี้ ประชาชนจะต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ เที่ยวไทยคนละครึ่งเท่านั้น หรือผ่านแอป Amazing Thailand เท่านั้น หลังจากนั้นระบบจะส่งรหัส OTP ไปที่อีเมลที่ลงทะเบียนเพื่อให้ท่านนำไปใช้ในการยืนยันสิทธิ ทางโครงการแจ้งย้ำเตือนอีกครั้ง ว่าจะไม่มีการส่ง SMS แนบลิงก์อ้างรหัส OTP แต่อย่างใด หากประชาชนท่านไหนได้รับ SMS แนบลิงก์ดังกล่าว ห้ามคลิกลิงก์โดยเด็ดขาด