สมัครบัตรเครดิต บัตรกดเงินสดอย่างไรให้ผ่านฉลุย?
หลายคนกังวลใจกับการสมัครบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด นึกกลัวไปต่างๆ นานา วิตกลว่าสมัครไปแล้วจะผ่านไหม กังวลว่าการสมัครบัตรไม่ผ่านจะทำให้ประวัติในเครดิตบูโรเสียหรือไม่ รวมถึงคนที่เคยสมัครบัตรไม่ผ่านมาก่อนแล้ว ก็อาจกังวลว่าจะทำให้การสมัครบัตรในครั้งต่อมาไม่ผ่านไปด้วย แต่นั่นอาจเป็นการวิตกกังวลมากเกินไป เพราะแท้ที่จริงแล้ว การสมัครบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดนั้น ไม่ใช่เรื่องยากมากขนาดนั้น หากเรามีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์และรู้เคล็ดลับต่าง ๆ ก็สามารถช่วยให้สมัครบัตรผ่านได้แบบหายห่วง
วิธีที่จะสมัครบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดให้ผ่านนั้น ควรใช้หลายวิธีควบคู่กันไปให้ได้มากที่สุด เพราะยิ่งทำได้มากข้อเท่าไร ยิ่งมีความเป็นไปได้ที่จะสมัครบัตรผ่านได้สูงมากเท่านั้น
1. ศึกษาเงื่อนไขแต่ละบัตรเพื่อเปรียบเทียบกัน
บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดแต่ละใบ มีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน หลายใบเปิดโอกาสให้ผู้มีรายได้ประจำต่อเดือนไม่มาก มีอายุงานยังไม่นาน สามารถสมัครบัตรได้ ดังนั้นก่อนอื่นควรศึกษาเปรียบเทียบเงื่อนไขของบัตรหลาย ๆ ใบ ก่อนตัดสินใจยื่นสมัคร สำหรับบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดที่ขึ้นชื่อว่าสมัครง่าย ได้แก่ ยูเมะพลัส อีออน เฟิร์สชอยส์ หากไม่มั่นใจในคุณสมบัติของตนเอง ก็ลองสมัครจากบัตรที่มีเงื่อนไขง่าย ๆ ก่อน แต่อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติที่จำเป็นต้องมี โดยรวมแล้ว ได้แก่
• มีรายได้ประจำตามที่เงื่อนไขกำหนดไว้
• มีอายุงานตามที่เงื่อนกำหนดไว้
• สามารถติดต่อได้ทั้งมือถือและที่ทำงาน
คุณสมบัติที่นอกเหนือจากนี้ ก็แล้วแต่เงื่อนไขและข้อกำหนดของแต่ละบัตร ซึ่งขอกระซิบสักเล็กน้อยว่า หากสมัครบัตรใบแรกผ่าน และไม่ทำประวัติกับบัตรใบแรกเสียซะก่อน โอกาสที่จะสมัครบัตรใบต่อ ๆ มาได้อย่างผ่านฉลุย ก็มีมากขึ้น
2. มีประวัติในเครดิตบูโร
โดยทั่วไป สถาบันการเงินจะพิจารณาคุณสมบัติของผู้สมัครบัตร จากรายได้ ความมั่นคงในงาน และกำลังในการจ่ายชำระหนี้ รวมถึงประวัติการชำระหนี้ที่ผ่านมาในอดีตด้วย ดังนั้นสำหรับผู้ที่ไม่เคยมีประวัติการชำระหนี้ในอดีตให้ตรวจสอบทางสถาบันการเงินอาจพิจารณาให้การสมัครบัตรครั้งนั้นไม่ผ่านได้ เพราะไม่มั่นใจในวินัยการชำระหนี้ของผู้สมัคร วิธีที่จะป้องกันการสมัครบัตรไม่ผ่านเพราะไม่มีข้อมูลในเครดิตบูโร คือการสร้างข้อมูลให้แสดงในเครดิตบูโรนั่นเอง อาจเริ่มด้วยการสมัครบัตรเสริมจากบัตรหลักของคนในครอบครัว และใช้งานให้มีการเคลื่อนไหวจริง ก่อนจะสมัครบัตรหลักเป็นของตัวเองก็ได้ สำหรับใครที่เคยหรือกำลังมีสินเชื่อบ้านหรือสินเชื่อรถอยู่ และผ่อนชำระตามปกติ นั่นหมายความว่าคุณมีประวัติดีในเครดิตบูโรแล้วเรียบร้อย ไม่จำเป็นต้องสร้างประวัติเพิ่ม
3. แจ้งฝ่ายบุคคลหรือเพื่อนร่วมงานว่าคุณสมัครบัตรไว้
ข้อนี้อาจต้องอาศัยความสัมพันธ์ดี ๆ กับเพื่อนร่วมงานหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลสักหน่อย ใครก็ตามที่คุณคิดว่าเขาจะเป็นคนรับสายเมื่อเจ้าหน้าที่ของสถาบันการเงินโทรมา ควรแจ้งเขาว่าคุณสมัครบัตรเอาไว้ และอาจมีเจ้าหน้าที่จากสถาบันการเงินโทรติดต่อเข้ามา เพื่อที่พวกเขาจะได้ให้ความร่วมมือและตอบข้อซักถามของเจ้าหน้าที่สถาบันการเงินได้อย่างไม่ผิดพลาด เพราะหลายกรณี เจ้าหน้าที่มักจะโทรมาตามเบอร์ที่ทำงานที่คุณให้ไว้ และสอบถามถึงรายละเอียดต่าง ๆ เช่น ขอสายพูดกับคุณ หรือถามถึงตำแหน่งและหน้าที่ของคุณ จำนวนเงินเดือนที่คุณได้รับ รวมถึงอายุงานของคุณด้วย
4. กรอกข้อมูลในใบสมัครตามที่เห็นสมควร
ใบสมัครที่ต้องกรอก อาจต้องการข้อมูลแบบละเอียดยิบย่อยมาก ดังนั้นควรกรอกข้อมูลตามสมควร ได้แก่
• หัวข้อไหนที่ทางสถาบันการเงินสามารถตรวจสอบได้ เช่น รายได้ ก็ควรกรอกข้อมูลให้ตรงและถูกต้อง
• สำหรับข้อมูลใด ๆ ที่ทางสถาบันการเงินไม่สามารถตรวจสอบได้อย่างเป็นรูปธรรม เช่น รายจ่ายเรื่องค่าเช่าบ้าน ค่าเช่าคอนโด อาจเลือกตอบว่าอาศัยอยู่บ้านญาติ หรือลดค่าเช่าลงครึ่งหนึ่งเพราะเช่าอยู่กับเพื่อนก็ได้ เนื่องจากช่องรายจ่ายเหล่านี้ ทางสถาบันการเงินจะนำไปพิจารณาว่าจะให้บัตรผ่านหรือไม่ อนุมัติวงเงินเท่าไรดังนั้นหากกรอกเป็นจำนวนเงินไม่สูง จะทำให้มีโอกาสสมัครบัตรผ่านและได้วงเงินสูงอย่างที่ควรจะเป็น
• ข้อมูลที่สอบถามว่ามีบัตรกี่ใบ หากคุณมีบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดอื่นอยู่ แต่ยังถือบัตรได้ไม่ถึง 1 เดือน ก็สามารถกรอกว่าไม่มีบัตรได้ เพราะระยะเวลายังไม่ถึง 1 เดือน ข้อมูลยังไม่แสดงในเครดิตบูโร สาเหตุที่หลายคนแนะนำให้ตอบเช่นนี้ เนื่องจากจำนวนบัตรที่ถือครองอยู่ก็มีส่วนในการพิจารณาเช่นกัน
5. ยื่นสมัครบัตรพร้อมกันทีละหลายๆ ใบ
สาเหตุของบางคนที่สมัครบัตรเครดิตไม่ผ่าน คือ ทางสถาบันการเงินเห็นข้อมูลเครดิตบูโรของคุณแล้วว่ามีบัตรหลายใบ และพิจารณาว่าขณะนี้คุณมีบัตรเยอะเกินไป จึงไม่อนุมัติบัตรให้ผ่าน เพราะไม่มั่นใจในกำลังการชำระหนี้ของคุณ การสมัครบัตรพร้อมกันทีเดียวหลาย ๆ ใบ จึงเป็นวิธีที่หลายคนเคยทำและได้ผลดี เพราะการยื่นสมัครบัตรพร้อมกันทีเดียวหลายใบ กับสถาบันการเงินหลายแห่ง ข้อมูลจะยังไม่ขึ้นในเครดิตบูโร ให้สถาบันการเงินต่าง ๆ ตรวจสอบได้
อย่างไรก็ตาม วิธีเหล่านี้เป็นเพียงวิธีที่ช่วยให้สมัครบัตรเครดิตและบัตรเงินสดได้ผ่านเท่านั้น แต่หลังจากที่สมัครได้ผ่านแล้ว ก็ควรใช้บัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดอย่างมีวินัย ไม่ทำให้ข้อมูลเครดิตบูโรของตนเองเสียหาย เพราะหากมีประวัติเสีย หลังจากนี้เมื่อจะยื่นขออะไร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อรถ สินเชื่อบ้าน สินเชื่อส่วนบุคคล ก็จะลำบากและมีโอกาสผ่านได้น้อย หรืออาจไม่ผ่านเลยต่อเนื่องอีกเป็นปี